Bloody Wrestling Online
Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.

Bloody Wrestling Online

The Number One Cyber Wrestling Online
 
บ้านPortalLatest imagesสมัครสมาชิก(Register)เข้าสู่ระบบ(Log in)

 

 Bell of Rebellion : Episode 11

Go down 
ผู้ตั้งข้อความ
DanielsoN
Xiao Mei's Husband
Xiao Mei's Husband
DanielsoN


จำนวนข้อความ : 2272
Join date : 19/09/2010
Age : 29

Bell of Rebellion : Episode 11 Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Bell of Rebellion : Episode 11   Bell of Rebellion : Episode 11 EmptyThu Feb 12, 2015 5:51 pm

“อาจารย์...ท่านมาทำอะไรที่นี่?” แอร่อนเอ่ยปากถามด้วยสีหน้าตกใจ
“พ่อของเจ้าเผอิญย้ายข้ามาเป็นเจ้าเมืองนี้พอดี ข้าไม่อยากจะเชื่อเลยนะว่าไม่กี่วันหลังจากที่ข้ามาประจำการที่นี่ ข้าจะได้เจอกับเจ้า” ชายที่ถูกเรียกว่าอาจารย์พูดพร้อมกับรอยยิ้ม

แอร่อนได้ยินก็ไม่ได้พูดอะไรพร้อมกับกุมดาบแน่น ชายคนนี้มีนามว่าเดม่อน เชน เป็นอาจารย์ของแอร่อนตั้งแต่ลูกชายแห่งตระกูลดาร์คครอว์จำความได้ ชายคนนี้สอนเขาทุกๆอย่างไม่ว่าจะเป็นเพลงดาบ การวางกลยุทธ์ รวมถึงประวัติศาสตร์และภูมิประเทศของแผ่นดินวอโรเนีย เรียกได้ว่าทุกๆอย่างที่แอร่อนรู้จนถึงทุกวันนี้ส่วนใหญ่ล้วนมาจากชายผมดำคนนี้ทั้งนั้น ทั้งสองจ้องหน้ากันท่ามกลางเสียงโอดครวญของทหารชาวเอลฟ์ที่นอนกระจัดกระจายบนพื้น แอร่อนวิ่งไปพร้อมกับยกดาบจะฟันไปยังร่างของชายที่เป็นผู้สอนตัวเอง หากทว่าเขาหลบดาบของแอร่อน ก่อนที่เขาจะหยิบมีดออกมาและพุ่งไปแทงแอร่อน ชายผมขาวโยกหลบได้ทัน มีดนั้นปักโดนกำแพง แอร่อนรีบพยายามจะใช้ดาบเสียงร่างของเชน หากทว่าเชนยื่นมือไปทางแอร่อนก่อนจะร่ายคาถาอะไรบาง ชายผมขาวต้องรีบก้มหลบ ถ้าหากโดนคาถาของชายคนนี้นั้น คงจะไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆ

“เจ้ายังไวอยู่นี่...ในฐานะที่ข้าเป็นผู้สอนเจ้า ข้าล่ะเป็นปลื้มเสียจริง” เชนพูดพลางดึงมีดออกมาจากกำแพง

ตามปกติลูกศิษย์ควรจะดีใจเมื่อได้รับคำชมจากอาจารย์แต่ดูเหมือนกรณีนี้จะไม่เป็นเช่นนั้น เพราะตอนนี้ทั้งคู่ยืนอยู่ตรงข้ามกับในฐานะศัตรู แอร่อนเอื้อมมือก่อนจะคว้าเอาแจกันที่วางอยู่บนโต๊ะ ก่อนที่แอร่อนจะขว้างไปยังเชน ชายผมดำคนนี้ก้มหลบ แจกันนั้นกระแทกกับกำแพงก่อนจะแตกเป็นเสี่ยงๆ อาจารย์ของแอร่อนเหลือบมองแจกันชั่วครู่ก่อนจะหันกลับมาแอร่อนตรงมาก่อนจะกระโดดเตรียมจะสับร่างของตน เชนยื่นมือไปยังดาบของแอร่อนก่อนจะท่องคาถาอะไรบางอย่าง ดาบที่แอร่อนถือนั้นถูกอะไรบางอย่างกัดกิน แม้ดาบของแอร่อนนั้นจะสัมผัสมือของเชน แต่มันก็ไม่ได้สร้างบาดแผลเลยแม้แต่น้อย เชนง้างเท้าก่อนจะเตะเข้ากลางหน้าท้องของแอร่อน ร่างของชายผมขาวลอยไปก่อนจะกระแทกเข้ากับตู้หนังสือเต็มๆ แรงกระแทกนั้นทำให้หนังสือที่อยู่ในตู้ตกกระทบเข้ากับศีรษะของตน

“เจ้าอย่าลืมเสียซิแอร่อนว่าพิษของข้านั้นสามารถกัดกินโลหะได้ด้วย”
“จำได้ว่าข้าเองก็เคยใช้วิธีนี้กับเจ้าไปแล้วนะ” เชนสอนแอร่อน

แอร่อนลุกขึ้นมาช้าๆก่อนจะมองไปที่ดาบตัวเอง โชคยังดีที่แค่ส่วนที่ไม่คมนั้นเป็นเพียงแค่ส่วนเล็กน้อยเท่านั้น แต่ถึงกระนั้นถ้าหากเขาสามารถทำให้ส่วนเล็กกลายเป็นเล็กที่ไร้ความแหลมคมได้ ทำไมเขาจะไม่สามารถทำให้ทั้งดาบของแอร่อนกลายเป็นเพียงแค่เศษเหล็กได้ล่ะ แอร่อนลองใช้ดาบแทงเข้าไปยังร่างของอาจารย์ตัวเอง หากทว่าเขาโยกหลบไปทางขวา เขายื่นมือไปเตรียมจะให้พิษของตนกัดกินเหล็กของตัวเอง แอร่อนรีบปล่อยดาบของตัวเอง ดาบของเขานั้นตกลงไปบนพื้นอย่างช้าๆ คาถาของเชนนั้นพลาดไม่โดนอะไรเลยนอกจากกำแพง เมื่อพิษสัมผัสกับกำแพงก็สร้างรูโหว่ขึ้นมาเล็กน้อย แอร่อนรีบตรงไปก่อนจะกำหมัดและชกไปยังใบหน้าของเชน แรงกระแทกนั้นทำให้เชนถอยไปสองสามก้าว แอร่อนใช้หมัดข้างเดิมชกเข้าไปยังหน้าท้องของเชน ชายผมดำนั้นทรุดลงไปกับพื้น ชายผมขาวจัดการใช้ขาของตัวเอง เตะเข้าไปที่ใบหน้าของเชนอีกที เชนนอนคว่ำกับพื้น แอร่อนมองก่อนจะถอยไปสองสามก้าวและหยิบดาบของเขาขึ้นมา

“พัฒนาขึ้นเยอะเลยนี่...คงเป็นครั้งแรกละมั้งที่เจ้าสามารถสัมผัสตัวข้าได้” ชายในชุดสีทมิฬพูดพลางดันตัวเองขึ้นมากับพื้น

เมื่อเขาลุกขึ้นมาก็ปรากฏเป็นรอยช้ำบนหน้า เขาบ้วนเลือดที่อยู่ในปากทิ้งลงกับพื้น ชายคนนี้เริ่มท่องคาถาอะไรบางอย่าง มือของเขาเริ่มมีออร่าสีม่วงปกคลุม ชายคนนี้คำรามก่อนจะตรงมาพร้อมกับกำปั้นทั้งสอง แอร่อนยกดาบขึ้นเตรียมจะฟันเข้าไปที่หมัดของเชน หากทว่าเมื่อหมัดนั้นสัมผัสเข้ากับดาบของแอร่อน ดาบของเขานั้นก็หักออกเป็นสองท่อน ใบหน้าของชายผมขาวนั้นเต็มไปด้วยความตกใจ เชนใช้มืออีกข้างชกเข้าไปที่กลางหน้าท้องของแอร่อน แรงกระแทกนั้นทำให้แอร่อนทรุดลงไปกับพื้น หากทว่ามันไม่ใช่แค่นั้น เพราะแอร่อนรู้สึกถึงความแสบร้อนไปทั่วร่างกาย มันเป็นความรู้สึกที่ต่างจากการถูกชกธรรมดา ชายผมขาวสำลักออกมาเป็นเลือด เขาแหงนหน้ามองคนที่ชกตนด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสัยและความเครียดแค้น

“เจ้าก็น่าจะรู้แล้วนี่ว่าพิษของข้านั้นสามารถตัดเหล็กได้ แต่ไฉนเจ้ายังบุกแบบไม่ระมัดระวังอีก” เชนสอน

แอร่อนพยายามจะพูดแต่ด้วยความเจ็บปวดที่ปกคลุมไปทั่วร่ายกายเขา แอร่อนใช้ดาบของเขาพยุงร่างอันหนักอึ้งขึ้นมา แต่ลุกขึ้นได้ไม่นานเท่าไหร่ อาจารย์ของเขาก็ใช้กำปั้นต่อยเข้าไปที่หน้าท้องของแอร่อนอีกครั้ง ร่างของชายผมขาวลอยไปกระแทกเข้ากับกำแพง แอร่อนร้องด้วยความทรมานร่างของเขานั้นร้อนระอุไปหมด เสียงฝีเท้าของอาจารย์ตัวเองที่ดังขึ้นเรื่อยๆ ดูเหมือนเขากำลังเดินมาเตรียมจะปิดชีพลูกศิษย์ของตนเอง

=====

บอนนี่กับเดนนิสนำทัพโจรสลัดตรงไปยังหน้าปราสาท เมื่อพวกเขามาถึงนั้นเขาเห็นเหล่าซากศพมากมายที่นอนอยู่บนพื้น พวกเขาเห็นแดริลที่บนตัวนั้นเต็มไปด้วยรอยเลือดของศัตรู ไม่ทันที่เดนนิสและบอนนี่จะขยับเท้า เหล่าโจรสลัดผู้กระหายการต่อสู้ก็วิ่งตรงเข้าไปยังสมรภูมิ บอนนี่กับเดนนิสมองหน้ากันก่อนจะวิ่งตามไป ชายผมสีทรายใช้ดาบของเขาแกว่งเข้าไปยังศัตรู เขาเหลือบมองไปรอบๆก่อนจะมองไปยังบอนนี่ที่ใช้ดาบ “เรเปียร์” ของเธอ กับปืนพกผสมๆกัน บอนนี่หันกลับมามองเดนนิสเช่นเดียวกันก่อนจะเธอยกปืนก่อนจะเล็งไปยังเดนนิส เธอลั่นไกออกไป เดนนิสรีบก้มหลบ กระสุนนั้นโดนไปก่อนจะเจาะเข้าร่างของทหารที่อยู่ข้างหลังของเดนนิส ชายผมสีทรายหันกลับไปหาราชินีโจรสลัดก่อนจะเห็นเธอเป่าควันที่ลอยออกมาจากปากกระบอกปืนของเธอ อัศวินในชุดเกราะสีขาวรีบวิ่งไปก่อนจะคว้าร่างของบอนนี่ ก่อนที่เดนนิสจะรีบใช้ดาบฟันเข้าไปยังร่างของทหารที่เข้าใกล้บอนนี่ ราชินีโจรสลัดที่โอบร่างของเดนนิสอยู่นั้นหันไปมองทหารที่ล้มลงไปกับพื้น บอนนี่เลียริมฝีปากของตัวเองก่อนจะยื่นหน้าเข้าไปหายังเดนนิสที่กำลังอ้ำอึ้งกับสิ่งที่บอนนี่ทำ

“ที่นี่คือสมรภูมินะ ข้าแนะนำว่าพวกเจ้าไปหาห้องเถิด” เสียงของใครบางคนดังขึ้นมา

เดนนิสที่ได้สติรีบพลักร่างของบอนนี่ออกก่อนจะหันไปตามเสียง เขาเห็นดรากูลที่นั่งอยู่ต้นไม้พูดจบเขาก็หายไป เมื่อเขาโผล่มาอีกที เขาก็ปรากฏอยู่หน้าของเด๊ด ชายนัยน์ตาแดงก่ำง้างหมัดก่อนจะชกไปยังหน้ากากของเด๊ด แต่เงาทมิฬใช้มือของตัวเองจับไว้ก่อนจะจัดการจับดรากูลทุ่มลงไปยังต้นไม้ ร่างของดรากูลลอยตรงไปยังต้นไม้ หาทกว่าไม่ทันที่ร่างของมือสังหารคนนี้จะสัมผัสกับต้นไม้ ร่างของเขาก็หายไปก่อน เด๊ดกวาดสายตารอบๆ ก่อนจะเห็นดรากูลลอยอยู่กลางอากาศพร้อมกับเขวี้ยงเข็มของตัวเอง เข็มนั้นลอยมาก่อนจะกระแทกเข้ากับหน้ากากของเด๊ด หากทว่าเมื่อเข็มนั้นกระแทก มันไม่ได้สร้างรอยร้าวให้กับเด๊ดเลยแม้แต่น้อย

“น่าเหลือเชื่อนะที่จะมีอะไรสามารถทนทานเข็มของข้าได้” ดรากูลพูดด้วยน้ำเสียงชื่นชม
“หน้ากากของเจ้าทำจากอะไรหรือ? กะโหลกของยักษ์หรือเพชรล่ะ?” ชายนัยน์ตาสีแดงตั้งคำถามต่อ

ผู้ถูกถามไม่ได้ตอบแต่แค่หยิบเอามีดออกมาก่อนจะปาไปยังดรากูล หากทว่าดรากูลรับไว้ได้ก่อนจะหักมีดของเด๊ด

“ข้าเองก็อยากจะไปถอดหน้ากากของเจ้าและดูด้วยตัวเองนะว่าหน้ากากของเจ้าทำจากอะไร”
“แต่ดูเหมือนข้าจะทำไม่ได้แล้วล่ะ” ดรากูลพูดด้วยน้ำเสียงเซ็งนิดๆ

เด๊ดมองไปรอบๆ เขาเห็นทหารฝ่ายมนุษย์ที่ล้มตายไปทั่ว ดูเหมือนศึกนี้จะตัดสินแล้วว่าใครชนะ เด๊ดมองหน้าของดรากูลที่ยืนอยู่เฉยๆ ชายในชุดสีดำเองก็ไม่ได้ขยับ แต่ร่างของเขาเริ่มหายไปในความมืดอย่างช้าๆ เมื่อร่างของเด๊ดหายไป เหล่าทหารแห่งอาณาจักรเอลิซาเบ็ธและโจรสลัดที่อยู่ใต้คำบัญชาของบอนนี่ต่างมุ่งตรงเข้าไปยังปราสาท ส่วนดรากูลนั้นก็ได้แต่ยืนมองก่อนจะหายไปช้าๆ ไม่มีใครรู้เลยว่าเขาหายไปไหน คงมีเพียงแต่เขาและฟลอร่าเท่านั้นที่รู้

=====

กลับมาที่แอร่อนที่กำลังตะเกียดตะกายพยายามจะลุกขึ้นมาอีกครั้ง แต่ทุกครั้งที่แอร่อนจะลุกขึ้นมาเขาก็ถูกเท้าของเชนกดลงไปไม่ให้เขาลุกขึ้นมา ดาบของแอร่อนนั้นก็หักไปสองส่วน ไม่ว่าจะใช้ส่วนไหนแทงอาจารย์ของตัวเอง มันก็ไม่มีทางจะสร้างบาดแผลหรือสร้างความเจ็บปวดได้ แอร่อนนั้นไอเป็นเลือด บนพื้นนั้นเต็มไปด้วยคราบเลือดของแอร่อน เชนก้มมองลูกศิษย์ของตัวเองที่พยายามจะลุกขึ้นสู้ เชนหยิบมีดออกมาจากแขนเสื้อของตัวเองก่อนจะจ่อไปที่คอของชายผมขาวที่ร่างกายของเขานอนอยู่บนพื้น

“เจ้าเป็นลูกศิษย์ที่ดีนะแอร่อน...แต่ข้าคงต้องจบชีวิตของเจ้าตรงนี้แล้วล่ะ” เชนพูดจบก็ง้างมือขึ้น

หากทว่าเขาก็หยุดเมื่อเขาเห็นรอยยิ้มของแอร่อน มันทำให้เชนประหลาดใจไม่น้อย ปกติยามคนใกล้ตายมักจะอาลัยหรือกลัว แต่นี่คือครั้งแรกที่เขาเห็นคนยิ้ม มันทำให้เชนลดมือลงก่อนจะมองแอร่อน

“เจ้ายิ้มอะไรของเจ้า?” เชนเอ่ยปากถาม
“อาจารย์ลองเงี่ยหูฟังดูซิ...” แอร่อนพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนแรง

เชนทำตามที่ลูกศิษย์ของตัวเองพูด เขาได้ยินเสียงคนจำนวนมากที่วิ่งตรงมายังจุดที่เขาอยู่

“ต่อให้อาจารย์เก่งขนาดไหน อาจารย์ก็คงสู้กับคนทั้งกองทัพไม่ได้หรอก”
“โฮ่....เจ้าจะให้ข้ายอมแพ้งั้นหรือ? เจ้ายอมรับได้หรือกับชัยชนะที่ไม่สวยงามน่ะ?” เชนเอ่ยปากถาม
“อาจารย์สอนข้าเองว่าอย่าไปสนว่าชัยชนะนั้นได้มาอย่างไร ต่อให้มันเป็นชัยชนะที่ไร้ซึ่งศักดิ์ศรี ชนะก็คือชนะ” ชายผมขาวพูด

เชนฟังแล้วก็ได้แต่หัวเราะ แต่ในมือของเขาก็ยังถือมีดอยู่ เสียงของเหล่ากองทัพเอลิซาเบ็ธเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ คิดว่าอีกไม่นาน ก็คงมาถึงยังจุดที่เชนอยู่ ชายผมดำนั้นยังไม่ได้ลงมือทำอะไร ดูเหมือนเขายังคงคิดอยู่ว่าเขาควรจะทำอะไรดี ในขณะที่เขาคิดอยู่นั้นเขาก็ได้ยินเสียงของแอร่อนเรียกตนเอง เขาก้มลงไปก่อนจะมองไปที่ลูกศิษย์ของตัวเองที่สภาพไม่ค่อยดีเท่าไหร่

“ข้ามีอะไรจะเสนอท่านนะ...ทำไมท่านไม่ปล่อยข้า แล้วกองทัพของพวกเราจะแค่จับตัวท่านไว้”
“แต่ถ้าหากท่านฆ่าข้า ข้าว่าทหารของอาณาจักรเอลิซาเบ็ธคงไม่ปล่อยท่านแน่ๆ” แอร่อนยื่นข้อเสนอ

เชนหัวเราะอีกครั้ง เขาปล่อยมีดลง เสียงมีดตกกับพื้นดังขึ้น ก่อนที่เขาจะยกเท้าออกจากศีรษะของแอร่อน ชายผมขาวพยุงขึ้นมาก่อนจะนั่งหลังพิงกับกำแพง เขารู้สึกได้เลยว่าร่างกายของเขาหนักอึ้งไปหมด ไม่นานนักเดนนิสและบอนนี่ก็วิ่งเข้ามาในห้องพร้อมกับทหารจำนวนมาก เชนได้แต่ยกมือขึ้นเป็นสัญญาณว่าเขายอมแพ้ เดนนิสหันไปมองแอร่อนที่อ่อนแรง เขาขยับปากเป็นคำว่า “จับเขา” เดนนิสพยักหน้าก่อนจะสั่งให้ทหารจับเขาไว้ แอร่อนนั่งมองด้วยสายตาที่เริ่มเลอะเรือนก่อนที่ภาพทุกอย่างจะดำสนิท

“แอร่อน!!” เดนนิสตะโกนเรียกชื่อของแอร่อนก่อนที่ทุกอย่างจะเงียบลงไป

=====

ณ ขณะเดียวกันที่ปราสาทของเมืองใจกลางแห่งแดนมนุษย์ กษัตริย์ของเหล่ามวลมนุษย์ที่นามว่าแกเร็ธยืนอยู่ที่เดิม เขามองท้องฟ้าที่มืดสนิท พร้อมกับมองแสงไฟจากตัวบ้านเรือนที่สว่างไสว ในขณะที่เขากำลังยืนอยู่นั้น ก็ได้มีแขกคนหนึ่งเข้ามาในห้อง มันเป็นชายผิวสีเทาที่ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยแตกร้าว ดวงตาทั้งสองที่เป็นสีฟ้า หูทั้งสองที่แหลมออกมาเป็นเครื่องบ่นบอกว่าเขาเป็นชนเผ่าอะไร แกเร็ธรู้ดีว่าเขาเป็นใครเพราะเขาคนนี้คือพันธมิตรของเหล่ามนุษย์และคนที่มีส่วนให้ชายชราคนนี้ชนะการกบฏของลูกชายของตัวเอง

“เมืองท่าของท่านถูกแอร่อนยึดไปแล้ว ท่านแกเร็ธ” นูลพูดขึ้น
“งั้นหรือ...แล้วเชนล่ะ? ถูกฆ่าไหม?” ชายชราถามถึงสภาพของลูกน้องตนเอง
“ถูกพวกเอลิซาเบ็ธจับไปได้ ดูเหมือนลูกชายของท่านจะไว้ชีวิตเขา” หัวหน้าของเหล่าดาร์คเอลฟ์รายงาน
“งั้นหรือ...” แกเร็ธจับคางของตัวเองพลางคิด

นูลยังคงยืนอยู่ข้างหลัง ราวกับว่าเขากำลังรอคอยให้ชายชราคนนี้พูดอะไรซักอย่าง

“นูล...ข้าคงต้องขอยืมพลังของเจ้าอีกครั้ง”
“เพราะข้าเชื่อว่าอีกไม่นานลูกชายของข้าคงจะบุกมาหาข้าแน่นอน” แกเร็ธพูดพลางหันมามองหน้าของนูล
“ด้วยความยินดี” นูลโค้งให้ก่อนจะหายไปในความมืด

แกเร็ธหันกลับไปมองบรรยากาศภายนอกเมืองอีกครั้ง เขาแสยะยิ้ม และดูเหมือนเขาจะตั้งหน้าตั้งตารอที่จะเผชิญหน้ากับลูกชายของเขาที่มีนามว่า “แอร่อน”
ขึ้นไปข้างบน Go down
 
Bell of Rebellion : Episode 11
ขึ้นไปข้างบน 
หน้า 1 จาก 1
 Similar topics
-
» Bell of Rebellion : Episode 4
» Bell of Rebellion : Episode 5
» Bell of Rebellion : Episode 7
» Bell of Rebellion : Episode 8
» Bell of Rebellion : Episode 9

Permissions in this forum:คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
Bloody Wrestling Online :: BWO : Special Event :: BWO Novel-
ไปที่: