Bloody Wrestling Online
Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.

Bloody Wrestling Online

The Number One Cyber Wrestling Online
 
บ้านPortalLatest imagesสมัครสมาชิก(Register)เข้าสู่ระบบ(Log in)

 

 Bell of Rebellion : Episode 17

Go down 
ผู้ตั้งข้อความ
DanielsoN
Xiao Mei's Husband
Xiao Mei's Husband
DanielsoN


จำนวนข้อความ : 2272
Join date : 19/09/2010
Age : 29

Bell of Rebellion : Episode 17 Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Bell of Rebellion : Episode 17   Bell of Rebellion : Episode 17 EmptyWed Mar 04, 2015 5:11 pm

ชายหนุ่มผมขาวลืมตาตื่นขึ้นมา เขาหันออกไปยังด้านหน้าต่างก่อนจะเห็นแสงที่ส่องผ่านผ้าม่านที่ถูกแขวนอยู่ แอร่อนลุกขึ้นมานั่งบนเตียงก่อนจะเดินตรงไปยังหน้าต่าง เขาเอื้อมมือของเขาก่อนจะเปิดผ้าม่าน เมื่อผ้าม่านถูกเลื่อนออกไป เขาก็สามารถเห็นทิวทัศน์ของราชวังได้โดยรอบ เขาเห็นเหล่าทหารที่ยังคงฝึกอย่างขยันขันแข็งเหมือนเดิม โดยผู้นำการฝึกก็ไม่ใช่ใครอื่นแต่ยังคงเป็นเดนนิสอย่างเดิม เขายังคงมองเหล่าทหารของเขาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเข้มงวด เขาเหลือบไปมองทหารคนหนึ่งที่ออกแรงแกว่งดาบด้วยความเหลาะแหละ ชายในชุดเกราะสีขาวชี้ไปยังชายคนนั้นพร้อมกับตะคอกด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความน่าเกรงขาม เสียงของเดนนิสทำให้ทหารคนนั้นรีบแกว่งดาบตามคนอื่นๆ แอร่อนหันออกจากหน้าต่างก่อนจะเดินตรงไปยังประตูห้อง ใกล้ๆกับประตูห้องนั้นมีเสื้อคลุมสีแดงของเขาอยู่ด้วย เขาหยิบมาก่อนจะใส่ มองไปที่ประตูมีกระดาษแผ่นหนึ่งติดอยู่ บนกระดาษนั้นมีตารางมากมาย ดูเหมือนมันจะเป็นปฏิทิน เกือบทุกช่องนั้นเต็มไปด้วยรอยกา

“นี่ก็ปีนึงแล้วซินะ” แอร่อนพูดขึ้นพลางมองไปที่ปฏิทิน

ภาพสงครามที่เกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้วไหลเข้ามาในหัวเขา ภาพที่เขาใช้ดาบของเขาแทงทะลุร่างของพ่อตัวเองยังคงอยู่ในหัวของเขา แม้มันจะเป็นการแก้แค้นที่เขาโหยหามาตลอด แต่เมื่อเขาทำสำเร็จ เขาก็ไม่ได้รู้สึกถึงความยินดีอะไร แอร่อนเอื้อมมือไปก่อนจะเปิดประตู เมื่อเขาเดินออกไปนั้น เขาก็ยืนอยู่ในโถงที่เขาคุ้มเคย แม้นี่จะผ่านไปปีนึงแล้ว แต่ทุกอย่างๆก็ยังเหมือนเดิม ของทุกชิ้นก็ยังคงถูกจัดวางไว้ยังที่เดิม และรวมถึงไดแอนที่ยังคงซุ่มซ่ามเหมือนเดิม หลังจากที่เธอล้มลงไปกับพื้น แอร่อนแค่มองก่อนจะเดินต่อไป เขาเดินลงไปข้างล่าง เมื่อเขาลงไปนั้นเขาก็ได้ยินเสียงขององค์ราชินีฟลอร่า เสียงของเธอนั้นกึงก้องไปทั่วห้องราชบัลลังค์ แอร่อนชะโงกหัวออกมาดูต้นเสียง เขาเห็นฟลอร่าที่นั่งอยู่บนบัลลังค์ เคียงข้างมีดรากูลที่ยืนอยู่ใต้ผ้าคลุมและสตรีผมผมสีดำยาวสลวย ดวงตาของนั้นคมดุจเหยี่ยวและเธอมีนัยน์ตาสีน้ำตาล หูของนางนั้นแหลมออกมาเป็นการบ่งบอกถึงชาติพันธุ์ของเธอ เธอสวมชุดสีเขียวพร้อมกับแนบดาบไว้ข้างเอว ข้างหน้าของเธอนั้นมีมนุษย์หนึ่งคนกับเอลฟ์อีกคนยืนอยู่

“แต่ท่านองค์ราชินีขอรับ เจ้ามนุษย์พวกนี้ มาใช้เส้นทางการค้าของพวกเรา ข้าต้องการให้ท่านสั่งให้พวกมนุษย์ใช้เส้นทางการค้าอื่น” เอลฟ์พูดขึ้น
“ข้าเข้าใจเจ้า แต่ตอนนี้ทั้งเอลฟ์และมนุษย์นั้นก็ต่างอยู่ใต้การปกครองของข้า ดังนั้นข้าให้ฝั่งใดฝั่งหนึ่งเสียเปรียบไม่ได้หรอก” องค์ราชินีตอบกลับ

เอลฟ์ได้ยินดังนั้นก็พูดอะไรไม่ออก เขาหันไปมองมนุษย์ที่ยืนอยู่ข้างๆเขา เอลฟ์คนนี้กัดริมฝีปากของตัวเองเป็นสัญลักษณ์บ่งบอกถึงความไม่พอใจ เขาก้มโค้งให้กับองค์ราชินีก่อนจะเดินออกไป เช่นเดียวกันกับมนุษย์ที่อยู่ในท้องพระโรงของราชวังเอลิซาเบ็ธ เขาโค้งให้กับองค์ราชินีก่อนจะเดินออกไป เมื่อแขกผู้มาเยือนทั้งสองเดินออกจากห้องไป แอร่อนก็เดินตรงไปหาองค์ราชินี แอร่อนก้มโค้งให้ หญิงผมสีทรายที่มีบุผาติดอยู่บนเส้นผมเห็นแล้วก็ยิ้มให้

“เกิดอะไรขึ้นหรือองค์ราชินี?” แอร่อนเอ่ยปากถามด้วยความสงสัย
“ก็ไม่มีอะไรหรอก แค่มนุษย์กับเอลฟ์แย่งที่ทำการค้าขายกันน่ะ” ฟลอร่าตอบด้วยน้ำเสียงอันนุ่มนวล
“องค์ราชินีสุดยอดมากเลยค่ะ ข้าว่าคำตอบขอองค์ราชินียอดเยี่ยมจริงๆ” หญิงผมสีดำที่ยืนข้างๆกล่าวชื่นชม
“ขอบใจเจ้ามากที่ชมข้า” องค์ราชินีหันไปยิ้มให้

หญิงผมดำคนนี้ชื่อ “ซินเทีย” เธอเป็นชาวเอลฟ์ที่พึ่งได้รับการเลื่อนขั้นอย่างรวดเร็ว หลังจากที่อาณาจักรของเหล่ามนุษย์ถูกปกครองโดยเอลิซาเบ็ธได้ประมาณสี่เดือน เหล่ามนุษย์ก็พยายามจะก่อกบฏและพยายามจะยึดแผ่นดินคืน แต่เพราะความกล้าและฝีมือของเธอจึงทำให้การก่อปฏิวัติกลายเป็นเพียงการกบฏเท่านั้น และด้วยเหตุนี้เธอจึงถูกเลื่อนขั้นมาเป็นแม่ทัพในแผ่นดินเอลิซาเบ็ธเรียกได้ว่าอยู่ในระดับเดียวกันกับเดนนิสและอัลเลนเลยก็ว่าได้

“ท่านฟลอร่าขอรับ คำตอบที่ท่านตอบเมื่อครู่นี้เป็นคำตอบที่ดีจริงๆ” เสียงของใครบางคนดังขึ้น

ทุกคนในห้องต่างมองไปยังต้นเสียง เสียงของรองเท้าของชายคนนี้ที่เหยียบพื้นกระเบื้องดังขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเขาเดินมาใกล้ๆ ทุกคนก็เห็นชายผมดำที่บนใบหน้าเขาเต็มไปด้วยปานสีดำ เขายังคงสวมชุดสีดำตัวเดิมของเขา ในมือของเขานั้นเต็มไปด้วยแผนที่ต่างๆ แอร่อนเห็นชายคนนี้ก็ก้มโค้งให้เขา ชื่อของเขาคือ “เชน” เขาเป็นชายที่สั่งสอนแอร่อนมาอย่างดี ซึ่งหลังจากที่อาณาจักรเอลิซาเบ็ธ เชนก็มาเป็นหนึ่งในขุนนางแห่งอาณาจักรนี้ เชนเดินไปก่อนจะก้มโค้งให้องค์ราชินีที่นั่งอยู่บัลลังค์หินของเธอ

“เจ้ามีธุระอันใดกับข้างั้นหรือเชน?” ฟลอร่าเอ่ยปากถาม
“ข้าอยากจะเสนอให้เราเริ่มทำการค้ากับพวกยักษ์” ชายผมดำแจงจุดประสงค์ของเขา
“เหตุอันใดเจ้าถึงอยากทำการค้ากับเหล่ายักษ์งั้นหรือ?” ฟลอร่าถามด้วยความสงสัย
“ช่วงเดือนก่อน ข้าไปอาศัยอยู่ในนครของเหล่ายักษ์ และข้าก็พบว่าที่นั่นไม่ค่อยมีสินค้าประเภทการเกษตร”
“และต่อให้มีราคาของสินค้านั้นก็จะมากมายมหาศาล ดังนั้นข้าก็เลยคิดว่าเราน่าจะเอาสินค้าเกษตรของเราไปขาย”
“เพื่อเป็นการกระชับสัมพันธ์ไมตรีและเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจของเรา” เชนอธิบายเหตุผลให้ฟัง

ฟลอร่าฟังแล้วก็พยักหน้าก่อนจะพูด

“เจ้าเริ่มดำเนินการเลยก็แล้วกัน” ฟลอร่าอนุญาตให้ขุนนางชาวมนุษย์คนนื้ทำในสิ่งที่ตนได้กล่าวไว้
“ขอบพระคุณท่านมาก” เชนก้มโค้งให้อีกครั้งก่อนจะเดินออกไป

ทุกคนจับจ้องชายคนนี้เป็นสายตาเดียวกันก่อนที่ชายคนนี้จะเดินออกจากราชวังไป เมื่อเชนออกไป ก็มีแขกคนอื่นเดินเข้ามาแทน เมื่อแอร่อนเห็นคนเดินเข้ามา เขาก็โค้งให้กับองค์ราชินีก่อนจะเดินออกไป แอร่อนก้าวเท้าออกจากปราสาท เมื่อเขาออกจากปราสาท เขาก็เห็นคนมากมายต่อแถวยาวออกไปจนถึงหน้าปราสาท ตั้งแต่ที่แผ่นดินของเหล่ามนุษย์และเหล่าเอลฟ์รวมกัน องค์ราชินีก็มีแขกมาเยือนเกือบทุกวัน มากหน้าหลายตา และในขณะเดียวกันการซ้อมของเหล่าทหารก็เลิกพอดี แอร่อนเดินตรงไปหาเดนนิสที่ยืนมองเหล่าทหารของเขากำลังเดินแยกย้ายออกไป แอร่อนยกมือทักทาย เช่นเดียวกันกับเดนนิสที่ยกมือทักทาย

“การซ้อมวันนี้เป็นเช่นไรบ้าง?” แอร่อนเอ่ยปากถาม
“ก็เหมือนเดิม มีคนอู้บ้างอะไรบ้าง และเหมือนเดิมข้าก็ต้องคอยตะโกนเตือนพวกเขา” ชายผมสีทรายตอบ
“บางทีข้าว่าเจ้าก็เข้มงวดไปนะ”
“แม้ว่านี่จะไม่ใช่ยามสงคราม แต่ถึงกระนั้น เราก็ประมาทไม่ได้” เดนนิสอธิบายถึงความเข้มงวดของตัวเอง
“งั้นหรือ...จะว่าไปตั้งแต่ที่สงครามนั้นสงบลง ข้าไม่ค่อยได้เห็นหน้าอัลเลนเสียเท่าไหร่เลย” แอร่อนเปลี่ยนประเด็น
“อ่อ ใช่หลังจากที่สงครามจบลง อัลเลนก็หมกตัวอยู่ในห้องสมุดซะส่วนใหญ่น่ะ เห็นว่ากำลังหาเวทย์มนต์ที่เปลี่ยนตัวเองกลับมาเป็นผู้ชายเหมือนเดิมอยู่” ชายในชุดเกราะสีขาวเล่าให้ฟัง

แอร่อนได้ยินก็จับคางของตัวเอง ว่าแล้วชายผมสีขาวก็เกิดความสงสัยขึ้นมา เขาไม่รีรอให้เวลาผ่าน เขารีบเอ่ยปากถามเดนนิสเกี่ยวกับคำถามที่เกิดขึ้นในหัวของในทันใด

“จะว่าไปเดนนิส เจ้าเคยเห็นอัลเลนตอนที่อัลเลนเป็นผู้ชายหรือเปล่า?”
“ไม่เคย ข้าเจออัลเลนครั้งแรก อัลเลนเป็นผู้หญิงแล้ว” เดนนิสตอบกลับพลางนึกถึงอดีตของตัวเอง

พูดจบแอร่อนก็เอ่ยลาแอร่อนก่อนจะเดินออกจากปราสาทไป เมื่อเขาออกจากปราสาทมาเขาก็เจอทิวทัศน์ที่เขาคุ้นเคย บนพื้นถนนที่เต็มไปด้วยกรีบดอกไม้หลายๆสี เสียงของล้อเกวียนที่หมุนไปตามพื้น เหล่าเอลฟ์ที่ต่างทำกิจกรรมของตัวเอง สายลมอ่อนๆที่พัดผ่านใบหน้าของแอร่อน สายแดดอุ่นๆที่ส่องลงยังพื้นดิน มันเป็นวินาทีที่สงบและเป็นวินาทีที่เปี่ยมไปด้วยสุขสำหรับแผ่นดินเอลิซาเบ็ธ แม้ดินแดนแห่งนี้ยังเป็นของเหล่าเอลฟ์ แต่ก็มีสิ่งมีชีวิตเผ่าอื่นๆมาเยี่ยมเยียน ไม่ว่าจะมาด้วยเหตุผลการค้า มาด้วยเหตุผล ท่องเที่ยวหรือแม้แต่ด้วยเหตุผลที่ต้องการจะมาพบองค์ราชินีก็ตาม แอร่อนเดินยังสวนสาธารณะเขาเดินผ่านรูปปั้นของโรเซ็ตต้า หน้ารูปปั้นนั้นเต็มไปด้วยเหล่าศิลปินจากต่างแดนที่นั่งชมความงามของรูปปั้นหินอ่อน บ้างก็ถือกระดานและดินสอเพื่อวาดภาพของเธอลงไปในแผ่นกระดาษสีขาว

แอร่อนเดินขึ้นบันไดก่อนจะขึ้นมายังสวนสาธารณะ เขานั่งลงบนม้านั่งไม้ มันเป็นม้านั่งที่เขานั่งกับองค์ราชินีเมื่อหลายปีก่อน เขาหลับตาลงไป เขานึกถึงเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นบนแผ่นดินนี้ แม้มันจะเป็นระยะเวลาแค่หนึ่งปี แต่เพราะเหตุใดก็ไม่รู้ เขารู้สึกว่ามันเป็นเรื่องที่ยาวนานเหลือเกิน การต่อสู้ต่างๆที่เกิดขึ้น ความเจ็บปวดที่เขาได้รับ เรื่องทั้งหมดนี้ล้วนแต่เป็นอดีตไปทั้งนั้น แอร่อนเอาหลังพิงก่อนจะแหงนหน้าพร้อมกับลืมตามองท้องฟ้าสีคราม เขาเห็นเหล่าวิหคที่โบยบินไปกับสายลม ชายหนุ่มในชุดสีแดงเอื้อมมือไปยังไปเหล่าปักษาพวกนั้น

“มัน....กำลัง...จะ...เริ่ม...ขึ้น...แล้ว” เสียงชายที่เขาคุ้นหูกระซิบหูของเขา

แอร่อนสะดุ้งมาด้วยความตกใจก่อนจะกวาดสายตาไปทั่วๆ เขาไม่เห็นใครที่อยู่ใกล้เขาเลย เขารู้จักเสียงนั้นดี มันเป็นเสียงของ “นูล” ศัตรูของเขา หลังจากที่สงครามที่ดินแดนฮามินจบลง เขาก็ไม่ได้เห็นหน้าของเขาอีกเลย แอร่อนเกือบลืมเรื่องของชายคนนี้ไปแล้วเสียสนิท แต่เสียงเมื่อครู่นี้ใช่เสียงของนูลจริงๆหรือ? แอร่อนตั้งคำถามกับตัวเอง บางทีเขาอาจจะคิดมากไปเองก็ได้ แอร่อนบอกกับตัวเองเช่นนั้น

=====

ณ ห้องอาหารของราชวัง มันเป็นอีกวันที่ยาวนานขององค์ราชินีฟลอร่า เธอยังคงนั่งหัวโต๊ะอยู่เช่นเดิม ข้างๆเธอนั้นมีไดแอนยืนอยู่ด้วย บนโต๊ะนั้นเต็มไปด้วยอาหารมากมาย มีผู้คนหลายคนนั่งอยู่บนโต๊ะนี้ อัลเลนก็อยู่ในนี้ด้วย เขาสวมแว่นตา และนั่งอ่านหนังสือไปด้วย โดยในมือขวาของถือช้อนและตักมันเข้าปากโดยไม่ได้มองจานเลยแม้แต่นิดเดียว นี่คงเป็นเวลาเดียวที่ทุกคนสามารถเห็นอัลเลนได้นอกจากในห้องสมุด เช่นเดียวกันกับบอนนี่ที่พยายามจะป้อนข้าวให้กับเดนนิส ถึงแม้เดนนิสจะไม่ค่อยเล่นด้วยก็ตาม จะว่าไปความสัมพันธ์ของคู่นี้ก็ไม่ได้คืบหน้าไปเสียเท่าไหร่ แต่ต่างไปจากเดิมที่ว่าเดนนิสดูเหมือนจะเปิดใจให้บอนนี่หน่อยแล้วก็ตาม

“นี่โต๊ะอาหารนะคะ ช่วยโปรดรักษามารยาทหน่อย” เสียงของผู้หญิงผมดำดังขึ้นมา

เธอคือซินเทีย เธอพูดในขณะที่ใช้ผ้าเช็ดปาก เช็ดริมฝีปากของตัวเอง บอนนี่ได้ยินก็แสยะยิ้มให้ก่อนจะไม่หยุด เธอยังคงทำในสิ่งที่ตัวเองต้องการ ซินเทียเห็นดังนั้นก็พูดซ้ำประโยคเดิม แต่ผลก็ยังเป็นเช่นเดิม องค์รักษ์ของฟลอร่าเริ่มโมโหก่อนจะทุบโต๊ะ เสียงทุบโต๊ะนั้นทำให้ทุกคนหยุดการกระทำทุกอย่าง ไม่เว้นแม้แต่ดรากูลที่ยืนกินมะเขือเทศอยู่ที่มุมห้องของตัวเอง ทุกสายตาจับจ้องมาที่ซินเทียและบอนนี่ที่นั่งเฉียงกัน

“ท่านฟลอร่าคะ เพราะเหตุใดท่านจึงให้โจรสลัดชั้นต่ำมานั่งร่วมโต๊ะอาหารกับพวกเราด้วย” หญิงผมสีดำตั้งคำถามพลางต่อว่าบอนนี่
“เหตุใดข้าจะนั่งไม่ได้ล่ะ ข้าเองก็เป็นพันธมิตรกับเอลิซาเบ็ธนะ อีกอย่างข้าเองก็อยากจะอยู่กับคนที่ข้ารักด้วย” บอนนี่พูดพลางโอบไหล่ของเดนนิสที่นั่งข้างๆเธอ
“ข้าไม่ได้ถามเจ้า!! หุบปากไป!!” ซินเธียหันมาตะคอกใส่บอนนี่
“แหม่ๆ มีน้ำโหเสียด้วย” บอนนี่เยาะเย้ย

เดนนิสลุกขึ้นมาก่อนจะคว้ามือของบอนนี่และเดินออกจากห้องไป เมื่อเดนนิสและสตรีผมสีน้ำตาลเดินออกไป ซินเธียก็หันไปทางฟลอร่าที่นั่งอยู่หัวโต๊ะ

“ท่านฟลอร่าคะ ถ้าหากเดนนิสแต่งงานกับบอนนี่ ข้าว่ามันจะเป็นเรื่องที่เสื่อมเสียกับราชวงศ์มากนะคะ”
“ข้าว่าท่านรีบปลดเดนนิสออกจากตำแหน่งราชวงศ์หรือไม่ก็ยกเลิกพันธมิตรกับพวกโจรสลัดจะดีกว่า”

ฟลอร่าไม่ตอบ ดูเหมือนเธอจะไม่ได้สนใจในสิ่งที่ซินเธียพูดเลยแม้แต่น้อย เมื่อซินเธียเห็นปฏิกิริยาขององค์ราชินีแล้ว เธอก็ก้มโค้งเพื่อเป็นการกล่าวขอโทษก่อนจะนั่งลงไปบนเก้าอี้ ช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมา ทุกคนได้เห็นอีกมุมของฟลอร่าบ่อยขึ้น แม้เธอจะเป็นคนที่ใจดีขนาดไหนก็ตาม แต่ก็ไม่ใช่ว่าเธอจะสามารถยอมรับได้ทุกอย่าง เช่นเมื่อครู่นี้เป็นต้น การแสดงของเธอนั้นจะไม่ใช่การตะโกนด่าทอหรือการต่อว่า หากทว่าถ้าเธอไม่พูดและทำทีท่าเหมือนไม่สนใจ นั่นแหละคือการแสดงออกว่าเธอไม่พอใจ เมื่อซินเธียนั่งลง ทุกอย่างก็กลับมาเป็นปกติ มีเพียงแต่เสียงมีดกับจานที่กระทบกันอยู่เป็นระยะๆ

=====

แอร่อนเดินกลับมายังห้องนอนของตัวเอง มันก็เป็นอีกวันหนึ่งของเขา เขาถอดเอาเสื้อโค้ดของเขาออกก่อนจะแขวนไว้กับกำแพง เขาเดินตรงยังเตียงของเขา แอร่อนนั่งลงไปบนเตียง เขายังคงรู้สึกเป็นกังวลกับเสียงที่เขาได้ยิน แอร่อนทิ้งตัวลงไปบนเตียงก่อนจะเอาผ้าห่มคลุมร่างของเขา ชายผมขาวหลับตาลงและได้แต่ภาวนาให้เสียงที่เขาได้ยินเป็นเพียงแค่หูแว่วไปเท่านั้น หากทว่าสิ่งที่เขาภาวนานั้นมันก็ไม่ได้เกิดขึ้น เมื่อเขาได้ยินเสียงกระดิ่งพร้อมกับเสียงตะโกน

“มีศัตรูบุกมา”
ขึ้นไปข้างบน Go down
 
Bell of Rebellion : Episode 17
ขึ้นไปข้างบน 
หน้า 1 จาก 1
 Similar topics
-
» Bell of Rebellion : Episode 13
» Bell of Rebellion : Episode 14
» Bell of Rebellion : Episode 6
» Bell of Rebellion : Episode 15
» Bell of Rebellion : Episode 16

Permissions in this forum:คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
Bloody Wrestling Online :: BWO : Special Event :: BWO Novel-
ไปที่: