Bloody Wrestling Online
Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.

Bloody Wrestling Online

The Number One Cyber Wrestling Online
 
บ้านPortalLatest imagesสมัครสมาชิก(Register)เข้าสู่ระบบ(Log in)

 

 Illusion : EP 4

Go down 
ผู้ตั้งข้อความ
DanielsoN
Xiao Mei's Husband
Xiao Mei's Husband
DanielsoN


จำนวนข้อความ : 2272
Join date : 19/09/2010
Age : 29

Illusion : EP 4 Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Illusion : EP 4   Illusion : EP 4 EmptyMon Jan 04, 2016 12:25 pm

“ทนายงั้นหรือ...น่าสนใจดีนี่ ทำไมถึงเลือกเรื่องทนายล่ะ?” ชายผมสีขาวท้าวคางก่อนจะถามเจเรมี่ที่นั่งอยู่อีกด้าน
“ปกติแล้วซีรีย์ที่เกี่ยวกับทนาย มักจะทำว่าทนายสามารถเปลี่ยนให้คนผิดเป็นคนไม่ผิดได้”
“ผมเลยอยากจะทำทนายที่เป็นทนายที่สู้เพื่อความยุติธรรมแล้วไม่ใช่เพื่อเงินดูบ้าง” เจเรมี่อธิบาย

“แล้วแบบนี้สังคมจะได้อะไรล่ะ?” จูเลียตตั้งคำถามต่อบ้าง
“สังคมจะรู้สึกว่าความยุติธรรมเป็นสิ่งที่ดูเท่ ทำให้คนดูเริ่มทำตัวดีขึ้น”
“และอาจจะเป็นการกระตุ้นให้มีคนเรียนทนายหรืออัยการเพิ่มขึ้น” ชายผมน้ำตาลตอบ

“ฟังดูดีนะ...ฟังดูดีกว่าสิ่งที่เรื่องของหุ่นสีขาวที่เตะฟุตบอลได้ซะอีก” เจ้าของบริษัทหัวเราะ
“ถ้างั้นเอาตามนี้ละกัน” โรเบริต์พูดกับเจเรมี่

“แล้วเรื่องนักแสดงได้คิดอะไรไว้บ้างรึเปล่า?” หญิงผมสีทรายถามต่อ
“ผมคิดว่าผมอยากจะใช้คุณเบียทริตซ์ แต่ไม่ใช่ในฐานะนักแสดงนำน่ะครับ”
“ทำไมล่ะ” ผู้เป็นพี่สาวถาม

“ในเรื่องจะโฟกัสไปที่ทนายกับอัยการหน้าใหม่ ผมอยากจะใช้นักแสดงหน้าใหม่ เพื่อให้คนดูรู้สึกว่าสองคนนี้เป็นนักกฏหมายที่พึ่งเข้ามาในวงการ”
“ถ้าผมเลือกใช้คุณเบียทริตซ์ในบทนี้ ผมว่าบางทีมันยังคงมีอิมเมจอะไรซักอย่างของเธอติดอยู่”
“และอาจจะทำให้คนดูไม่อินกับตัวละครขนาดนั้น”

“จะว่าไปคุณเจเรมี่มีความรู้เรื่องกฎหมายรึเปล่า? ถ้าจะเขียนบทแบบนี้ต้องใช้ความรู้ด้านนี้มากไม่ใช่หรอ?” โรเบริต์ถามบ้าง
“ที่นี่มีฝ่ายวิจัย*ใช่ไหมครับ? ถ้างั้นผมขอไปคุยด้วยหน่อยได้ไหม?” เจเรมี่ถาม
“ถ้างั้นก็ตามชั้นมา” จูเลียตพูดกับเจเรมี่พร้อมกับลุกขึ้น

เช่นเดียวกันกับชายผมน้ำตาล เขาลุกออกจากที่นั่งของเขาก่อนจะเดินตามหญิงผมสีบลอนด์ไป เนื่องจากด้วยความเล็กของบริษัทจึงทำให้ทั้งสองมาถึงฝ่ายวิจัยอย่างรวดเร็ว หน้าประตูไม้นั้นมีคำว่า “ฝ่ายวิจัยอยู่” เจเรมี่เอื้อมมือไปก่อนจะเคาะประตู ก่อนที่เขาจะเปิดประตู มันเป็นห้องเล็กๆ ที่มีโต๊ะอยู่สามตัว บนโต๊ะแต่ละตัวนั้นมีคอมพิวเตอร์สีดำวางอยู่ และหลังคอมพิวเตอร์นั้นมีคนนั่งอยู่สามคน คนแรกนั้นเป็นหญิงผมสีขาว ผมของเธอนั้นยาวถึงกลางแผ่นหลังของเธอ เธอใส่ที่คาดหัวสีแดงที่ดูเด่นเป็นสง่า ข้างๆของเธอนั้นเป็นหญิงผมสีน้ำตาล ทรงผมของเธอมักจะถูกเรียกว่าทวินเทล ใบหน้าของเธอนั้นดูไม่ค่อยเป็นมิตรต่างกับหญิงผมขาวที่ดูเป็นหญิงที่มีความอบอุ่น และคนสุดท้ายนั้นเป็นชายผมสีดำ ผมของเขานั้นสั้น ทั้งสามมองมายังทางประตูก่อนจะเห็นเจเรมี่ยืนชะโงกหน้าเข้ามาอยู่

“เอ่อ ที่นี่ฝ่ายวิจัยรึเปล่า?” เจเรมี่เอ่ยปากถาม
“ใช่ค่ะ แล้วคุณคือ?” หญิงผมขาวตอบพร้อมกับถามกลับ
“เจเรมี่ ควินน์ครับ เป็นพนักงานใหม่ของที่นี่ครับ” ชายผมน้ำตาลพูด

คำพูดประโยคนี้ทำให้ทั้งสามที่อยู่ตรงดิ่งมาหาเจเรมี่อย่างรวดเร็ว ทั้งสามนั้นพูดอะไรบางอย่าง แต่ด้วยทั้งสามพูดพร้อมกันทำให้เจเรมี่ไม่สามารถตีความได้ว่าแต่ละคนกำลังพูดอะไร

“เอ่อ ช่วยพูดทีละคนได้ไหมครับ? ผมฟังไม่ออก” ชายผมน้ำตาลพูดตรงๆ

ทั้งสามมองหน้ากันก่อนจะจัดคิวกันพูด

“ชั้นซานซ่า สตรอง เป็นหัวหน้าฝ่ายวิจัย ยินดีที่รู้จักค่ะ” หญิงผมสีน้ำตาลพูดด้วยน้ำเสียงทะนงตัว
“ดิชั้นแอนนา โจนส์ ยินดีที่รู้จักเช่นเดียวกัน” คราวนี้เป็นหญิงผมขาวแนะนำตัว
“ส่วนผมแบรดดี้ ฮอเวริด์ เป็นเกียรติที่ได้ทำงานร่วมกันครับ” ชายผมดำแนะนำตัว
“เป็นเกียรติที่ได้ทำงานร่วมกันครับ” เจเรมี่จับมือกับทั้งสามคน

“แล้วคุณเจเรมี่มีอะไรรึเปล่าถึงมาที่ฝ่ายวิจัยของพวกเรา?” ชายที่แบรดดี้ตั้งคำถาม

“อ่อ พอดีผมจะทำซีรีย์เกี่ยวกับกฎหมาย และผมไม่มีความรู้เกี่ยวกับกฎหมายเลย พอจะช่วยผมตรงนี้ได้ไหมครับ?” เจเรมี่พูด
“โอเคค่ะ แล้วต้องการข้อมูลเกี่ยวกับอะไรบ้างคะ?” หญิงผมขาวนามแอนนาเอ่ยปากถามขึ้นมา
“พวกกฎหมายอาญาอะไรพวกนี้น่ะ พอจะหาให้ได้รึเปล่า?” เจเรมี่ถาม

“ไม่มีปัญหา แล้วต้องการข้อมูลพวกนี้เมื่อไหร่?” หญิงผมน้ำตามถามบ้าง
“ถ้าเป็นไปได้ก็ขอในก่อนเดือนหน้าละกัน เพราะผมอยากจะเริ่มเขียนบทในช่วงนั้น”

ทั้งสามพยักหน้าเป็นการตอบรับ

“ถ้างั้นก็รบกวนด้วยละกัน” เจเรมี่พูดก่อนจะกล่าวบอกลาคนในห้อง

=====

เขากลับมายังคอนโดของเขา เขานั่งอยู่บนโซฟาของเขา ในหัวของเขาตอนนี้นั้นเต็มไปด้วยพล็อตเรื่องที่เขาเขียน ในหัวของเขานั้นเต็มไปด้วยเสียงของตัวละครที่เขาสร้างขึ้นมา จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง? ปัญหาของเรื่องคืออะไร? แล้วจะแก้ปัญหายังไง? คำถามพวกนี้ล้วนแต่มีคำตอบอยู่ในหัวของเขาหมดแล้ว รถไฟแห่งความคิดของเขายังคงวิ่งต่อไปเรื่อยๆ ข้างหน้าของเจเรมี่นั้นมีกระดาษโน้ตเล็กๆวางอยู่ ในกระดาษโน้ตนั้นมีชื่อตัวละครและคำอธิบายของตัวละคร ไม่ได้มีเพียงแต่ชื่อของตัวละคร แต่มันยังมีเหตุการณ์สำคัญๆของเรื่องเขียนไว้ด้วย เขาดูพร้อมมากที่จะเขียนซีรีย์ที่เขาเป็นผู้มีอำนาจทำทุกอย่าง ต่างกับที่ก่อนๆที่เขาเป็นเหมือนหุ่นเชิด

“พักก่อนก็แล้วกัน” เจเรมี่ลุกขึ้นจากที่ของเขาก่อนจะเดินออกไปยังระเบียง

เขายืนมองทิวทัศน์ของเมือง เสียงของแตรรถดังขึ้นเป็นระยะๆ เขาเอามือวางไว้บนระเบียง

“อย่าพูดเช่นนั้นซิ...ท่านต้องไม่เป็นไร ท่านต้องไม่เป็นไร” เสียงของผู้หญิงคนนึงดังขึ้นมา

มันดึงความสนใจของเจเรมี่ไปตามเสียงนั้น เขาเห็นหญิงผมดำที่ดวงตาของเธอนั้นเต็มไปด้วยความเศร้าหมอง ในมือของเธอนั้นถือปึกกระดาษอะไรบางอย่างอยู่ คนทั่วไปเห็นแบบนี้แล้วอาจจะสงสัยว่าเด็กผู้หญิงคนนี้กำลังทำอะไร แต่เจเรมี่ไม่ใช่คนทั่วไปแบบนั้น เขารู้จักบทพูดประโยคนี้ดี มันเป็นประโยคจากนวนิยายเรื่อง “เซ็นโกคุ” มันเป็นนวนิยายที่เหล่านักสื่อสารมวลชนเกือบทุกคนต้องรู้จัก มันเป็นเรื่องที่มักจะถูกมาหยิบใช้ในแบบเรียนอยู่บ่อยครั้ง พูดถึงแล้วมันก็ทำให้เจเรมี่นึกถึงช่วงที่เขาอยู่ High School เพราะรุ่นของเขานั้นก็เล่นละครเวทีเรื่องนี้เหมือนกัน มันไม่ได้ออกมาแย่เท่าไหร่ แต่ถ้าเป็นไปได้เจเรมี่ก็ไม่อยากนึกถึงมัน

“แมรี่ แมรี่ แมรี่” เธอตะโกนเรียกชื่อหญิงคนนึง

ดวงตาของเขาเธอนั้นเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง น้ำตานั้นหยดลงมาจากดวงตาของเธอ เจเรมี่เห็นการแสดงของเธอแล้วมันก็ทำให้เขารู้สึกทึ่งกับตัวเธอ เธอสามารถสร้างทำให้คนดูรู้สึกว่าหญิงที่ชื่อแมรี่นั้นเป็นหญิงที่สำคัญกับชีวิตของเธอมาก การแสดงระดับนี้ของเธอมันทำให้เจเรมี่อดไม่ได้ที่จะปรบมือ เมื่อหญิงผมดำคนนี้ได้ยินเสียงปรบมือก็หยุดก่อนจะหันมายังเสียงปรบมือ มันทำให้เธอสะดุ้งไม่น้อยเหมือนกันที่เธอเห็นใครบางเห็นการแสดงของเธอ

“เดซีย์ใช่ไหม? เมื่อกี้เป็นการแสดงที่ยอดเยี่ยมจริงๆ” เจเรมี่กล่าวชื่นชม
“คุณมาอยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?” เดซีย์ที่ใบหน้าแดงก่ำถาม
“ตั้งแต่ที่คุณเริ่มพูดว่า ท่านต้องไม่เป็นไร ท่านต้องไม่เป็นไร นั่นแหละ” เจเรมี่ตอบไปด้วยความสัจจริง

“แล้วซ้อมบทเซ็นโกคุไปทำไมหรอครับ?” เจเรมี่ถามต่อ
“เล่นละครเวทีที่โรงเรียนของชั้นน่ะ” เดซีย์ตอบกลับ

“เล่นเป็นยาโนะหรอ?” ชายผมน้ำตาลถาม

ยาโนะคือตัวละครนำชายของเซ็นโกคุ ตามที่อธิบายไว้ในนิยายนั้นยาโนะเป็นชายที่มีใบหน้าสวยงามมาก สวยกว่าผู้หญิงหลายๆคนในแผ่นดินญี่ปุ่นอีกก็ว่าได้ แต่ด้วยคำอธิบายแบบนี้ จึงทำให้ผู้ชายน้อยคนนักที่จะสามารถเล่นเป็นยาโนะได้ ส่วนใหญ่นั้นคนที่ได้รับบทชายหน้าหวานนี้มักจะเป็นผู้หญิงจริงๆเสียมากกว่า

“ใช่ ในชมรมการแสดงของชั้นไม่มีผู้ชายคนไหนหน้าหวานได้เหมือนยาโนะ ชั้นก็เลยต้องรับบทนี้แทน”
“ให้ตายซิ ชั้นไม่เข้าใจจริงๆว่าทำไมคนเขียนต้องให้ผู้ชายหน้าหวานด้วย” เธอบ่นอุบอิบ

มันทำให้เจเรมี่หัวเราะออกมากับคำพูดของเธอ

“แล้วคุณออกมาทำอะไรที่ระเบียงล่ะ?” เดซีย์ถามกลับ
“พักจากการเขียนบทน่ะ” เจเรมี่ตอบคำถามของหญิงผมดำ

เธอทำหน้าไม่ค่อยสนใจอะไรเท่าไหร่ ดูเหมือนที่เธอถามมะกี้จะเป็นเพียงการถามตามมารยาทเท่านั้น

“จะว่าไปผมเขียนซีรีย์เรื่องใหม่อยู่ และผมก็อยากจะได้นักแสดงหน้าใหม่”
“และเมื่อครู่นี้ผมเห็นความสามารถของคุณแล้ว ผมก็อยากให้คุณลองมาออดิชั้นกับพวกเราดู” เจเรมี่พูดกับเดซีย์
“ไม่ล่ะ ชั้นไม่มีทางแสดงละครประเภทที่เน้นแต่ความรุนแรงและเรื่องเพศหรอก” เดซีย์ปฏิเสธทันควัน

“เรื่องนี้จะไม่เน้นแบบนั้นน่ะครับ ผมย้ายไปทำงานที่อื่นแล้ว และตอนนี้ผมก็มีสิทธิเขียนบทแนวอื่นแล้ว”
“บอกตรงๆว่าผมก็ไม่อยากเขียนบทแบบนั้นเหมือนกัน นอกจากมันจะไม่ทำให้สังคมได้อะไรแล้ว มันยังเป็นบทละครที่มีคุณค่าต่ำด้วย” ชายผมน้ำตาลพูดความในใจออกมา

“แล้วจะออดิชั้นวันไหนล่ะ?” เดซีย์ถาม
“เสาร์หน้าครับ ที่ตึก WNBT ครับ” เพื่อนบ้านของเดซีย์ตอบ
“ถ้างั้นชั้นจะเก็บไปคิดก็แล้วกัน” หญิงผมดำตอบพลางเลื่อนประตูกระจกกลับเข้าไปในห้อง
“หวังว่าจะได้เจอคุณที่นั่นนะ” เจเรมี่ตะโกนไล่หลังไป

เธอไม่ตอบกลับ สิ่งเดียวที่เขาได้ยินคือเสียงประตูกระจกที่ปิดลงไป เจเรมี่หันหลังกลับเข้าไปในอาคารเช่นเดียวกัน ก่อนที่จะลงมือทำงานของเขาต่อ

=====

บนเวทีนั้นเต็มไปด้วยผู้คนมากมายที่กำลังต่อสู้กัน เป็นการต่อสู้กันระหว่างเหล่าทหารที่เป็นชาวยุโรปกับทหารที่ใส่ชุดเกราะของซามูไร มันเต็มไปด้วยความวุ่นวายและความชุลมุน แต่หากทว่าท่ามกลางชุลมุนนั้น ก็มีชายหน้าหวานที่แบกร่างของหญิงผมสีทรายอยู่ ร่างของหญิงผมสีทรายนั้นถูกกระสุนเจาะเข้าไปที่ร่างของเธอ น้ำตานั้นไหลออกจากดวงตาของชายหนุ่มสีดำ

“ขอโทษทีนะยาโนะ ดูเหมือนข้าจะไม่ได้อยู่กับเจ้าแล้วล่ะ” หญิงผมสีทรายที่เลือดไหลออกมาจากปากแผลของเธอพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง
“อย่าพูดเช่นนั้นซิ...ท่านต้องไม่เป็นไร ท่านต้องไม่เป็นไร” ชายที่ถูกเรียกว่ายาโนะพูดพร้อมกับน้ำตาที่หยดลงบนใบหน้าของหญิงผมสีทราย
“อย่าร้องไห้ซิยาโนะ...ใบหน้าของเจ้าจะงดงามกว่านะถ้าเจ้ายิ้ม” หญิงผมสีทรายพูดแซวยาโนะพร้อมกับใช้มือของเธอจับใบหน้าของยาโนะ

ดวงตาของเธอปิดลง มือของเธอที่จับใบหน้าของยาโนะนั้นตกลงไปอยู่ข้างกายเธอ ยาโนะเขย่าร่างของเธอพร้อมกับตะโกนเรียกชื่อของเธอ ชายผมดำตะโกนเรียกชื่อของเธอสุดเสียงหวังว่าเธอจะตื่นขึ้น ยาโนะกอดร่างของเธอ เขารู้ว่าไม่ว่าเขาจะทำยังไง ไม่ว่าเขาจะตะโกนสุดเสียงขนาดไหนก็ตาม หญิงคนนี้ก็ไม่มีวันเดินทางหลังจากโลกแห่งความตายกลับมาได้ เธอได้จากเขาไปโดยไม่มีวันหวนกลับมา

ผ้าม่านสีแดงปิดฉากลงพร้อมกับเสียงปรบมือที่ดังกึกก้องไปทั่วโรงยิม เหล่านักแสดงที่เล่นเป็นตัวละครต่างๆเดินออกหลังผ้าม่านก่อนจะก้มโค้งให้พร้อมๆกัน เดซีย์ที่รับบทเป็นยาโนะยิ้มกับเสียงปรบมือของเหล่าผู้ชม หากทว่าเมื่อเธอมองเข้าไปในกลุ่มผู้ชมนั้นเธอก็เห็นชายผมหยิกที่สวมแว่นอยู่ด้วย เขายิ้มให้กับเธอและเขาก็รู้ดีว่าเธอเห็นเขาอยู่

=====

“ด้วยความเชื่อในยุติธรรม เราจะไม่มีวันยอมแพ้ มันต้องมีอะไรซักอย่างที่เราทำได้”
“คิดซิ คิดซิ คิด...เดี๋ยวนะเมื่อกี้พยานพูดอะไรบางอย่าง บางอย่างที่มันดูไม่เข้ากับสิ่งที่พยานคนอื่นๆพูด”
“ขอค้านครับ!!”

เด็กหนุ่มผมน้ำตาลในชุดสีขาวพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงมุ่งมั่น ดวงตาของเขานั้นลุกโฉนไปด้วยเปลวเพลิง คณะกรรมการสามคนมองมาที่เด็กหนุ่มคนนี้ คณะกรรมการในการออดิชั้นในวันนี้ประกอบไปด้วยเจเรมี่ผู้ซึ่งไปคนเขียนบท จูเลียตผู้กำกับและเบียทริตซ์ซึ่งเป็นหนึ่งในนักแสดงในซีรีย์เรื่องใหม่นี้

“คุณเจมส์ โบนาโร่ใช่ไหม? ชั้นจำได้ว่าคุณเคยแสดงเรื่องโรงพักคนโสดอยู่ คุณแสดงได้ดีมากนะ ชั้นบอกตรงๆ” จูเลียตกล่าวชื่นชม
“ชั้นได้ยินมาว่าปกติแล้วคุณจะเล่นเฉพาะบทที่คุณอยากเล่น ถ้างั้นแปลว่าคุณชอบบทที่คุณเจเรมี่เขียนึเปล่า?” ผู้กำกับเอ่ยปากถาม
“ครับ ผมอยากเล่นบททนายมานานแล้วครับ” ชายที่ถูกถามตอบกลับ
“งั้นหรอ? ยังไงก็ขอบคุณที่มาออดิชั้นกับพวกเรา ถ้าหากคุณผ่านล่ะก็ เราจะติดต่อคุณไปอีกที” จูเลียตเอ่ย

ชายผมน้ำตาลเดินออกจากห้องออดิชั้นไป มันเป็นวันที่ยาวพอสมควร พวกเขาเริ่มตั้งแต่ 10 โมง ตอนนี้นั้นก็เกือบจะหกโมงเย็นแล้ว มีคนมากมายสนใจจะมาสมัครเล่นเป็นตัวละครในซีรีย์นี้ ถึงส่วนใหญ่จะไม่ใช่ดาราดังเท่าไหร่ก็เถอะ ทั้งสามบิดฝาขวดน้ำที่อยู่ข้างหน้าก่อนจะกระดกดื่มๆพร้อมกันเป็นจังหวะเดียวกัน เมื่อทั้งสามดื่มน้ำเสร็จก็วางขวดน้ำลงไว้ยังที่เดิมที่ตัวเองหยิบมา

“ให้ตายซิ...ปกติ ชั้นเคยเป็นแต่คนไปออดิชั้น ไม่เคยคิดเลยว่าเป็นกรรมการจะเหนื่อยขนาดนี้” เบียทริตซ์ถอนหายใจด้วยความเหนื่อยล้า
“เหลืออีกคนเดียวเท่านั้นแหละครับ มาพยายามด้วยกันนะครับ” เจเรมี่หันไปพูดกับน้องสาวของผู้กำกับ

มันทำให้เธอยิ้ม คนต่อไปนั้นคนสุดท้ายแล้ว เขายังไม่เห็นเพื่อนบ้านของเขาเลยแม้แต่น้อย หรือเธอจะไม่มา? เจเรมี่อยากให้เธอลองมาออดิชั้นดู เขาเชื่อว่าเธอสามารถผ่านได้สบายๆอยู่แล้ว เดซีย์เป็นคนที่มีพรสวรรค์มากที่สุดคนนึงตั้งแต่ที่เขาเคยเจอมา ชายผมน้ำตาลนี้ได้เพียงแต่หวังว่าเธอจะไม่เอาพรสรรค์อันมีค่าของเธอไปทิ้ง ประตูนั้นเปิดขึ้นมา มันทำให้ความกังวลที่อยู่ใจของเจเรมี่นั้นหายไปหมด คนที่เดินเข้ามานั้นเป็นหญิงผมดำ ผมของเธอนั้นยาวสลวย เธอมองเหล่าคณะกรรมการด้วยสายตาที่เย็นยะเยือกของเธอ เจเรมี่ยิ้มให้ก่อนจะพูดกับเธอ

“ชื่ออะไรครับ?”
“เดซีย์ เคฮิลล์”

=====
ฝ่ายวิจัย = คือฝ่ายที่หาข้อมูลต่างๆ อย่างเช่นผมทำหนังที่มีฉากผ่าตัด ผมก็ต้องขอให้ฝ่ายวิจัยไปหาข้อมูลมาว่าการผ่าตัดจริงๆทำยังไง
ขึ้นไปข้างบน Go down
 
Illusion : EP 4
ขึ้นไปข้างบน 
หน้า 1 จาก 1
 Similar topics
-
» Illusion : EP 2
» Illusion : EP 3
» Illusion : EP 5
» Illusion : EP 6
» Illusion : EP 7

Permissions in this forum:คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
Bloody Wrestling Online :: BWO : Special Event :: BWO Novel-
ไปที่: