Bloody Wrestling Online
Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.

Bloody Wrestling Online

The Number One Cyber Wrestling Online
 
บ้านPortalLatest imagesสมัครสมาชิก(Register)เข้าสู่ระบบ(Log in)

 

 Shining in the Darkness : EP 14

Go down 
ผู้ตั้งข้อความ
DanielsoN
Xiao Mei's Husband
Xiao Mei's Husband
DanielsoN


จำนวนข้อความ : 2272
Join date : 19/09/2010
Age : 29

Shining in the Darkness : EP 14 Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Shining in the Darkness : EP 14   Shining in the Darkness : EP 14 EmptySat Nov 14, 2015 1:42 pm

“ป้อมปราการทางตอนเหนือ” เป็นป้อมปราการที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อป้องกันเหล่าปีศาจ โดยป้อมนี้ถูกสร้างขึ้นหลังจากสงครามระหว่างจอมมารอเล็กซิมัสและเหล่าผู้กล้า และแน่นอนว่าป้อมปราการนี้ก็ทำหน้าที่ของมันได้ดีมาก ไม่เคยมีอสูรตัวไหนผ่านป้อมปราการแห่งนี้มาได้เลยแม้แต่ตัวเดียว ก็ไม่แปลกใจเท่าไหร่ที่ไม่มีเคยมีอสูรกายตัวใดผ่านด่านอันแสนหฤโหดนี้ได้ เพราะด้วยกำแพงที่สูงใหญ่ มันคงไม่ใช่เรื่องง่ายๆที่จะปีนข้ามกำแพงนี้ และไม่ใช่แค่ความสูงเท่านั้น แต่ความคงทนของมันก็ยังมหาศาล ว่ากันว่าต่อให้เอาสิ่งมีชีวิตที่พละกำลังมากที่สุดมาพยายามทำลายกำแพงนี้ ต้องใช้สิ่งมีชีวิตชนิดนั้นถึง 100 ตัวเพื่อทำลายกำแพงนี้ และที่สำคัญด้วยความเป็นผู้นำจึงทำให้ป้อมปราการนี้อยู่ได้ โดยป้อมนี้ถูกปกครองโดยใคร? เป็นป้อมที่ถูกปกครองโดย ชาลตั้น หนึ่งในผู้กล้าที่โค่นล้มจอมมารอเล็กซิมัส

ชายผมดำที่มีผมหยักซกนั่งอยู่ในห้องทำงานของเขา มันเป็นห้องที่ไม่หรูมาก มันแทบจะไม่มีอะไรเลยนอกจากโต๊ะและตู้หนังสือเพียงแค่ตู้เดียว เช่นเดียวกันกับกระจกที่อยู่ข้างๆโต๊ะของเขา มันเป็นจุดๆเดียวที่แสงสามารถสาดส่องเข้ามาได้ ชายผมดำนั่งอ่านจดหมายที่อยู่บนโต๊ะของเขา แต่เขาอ่านได้ไม่นานนัก ก็มีเสียงฝีเท้าของใครบางคนที่อยู่นอกห้องตรงเข้ามายังห้องที่เขานั่ง ประตูไม้ถูกเปิดออกขึ้น ก่อนจะเห็นเป็นทหารในชุดเกราะสีเงินเป็นผู้เปิดเข้ามา

“ท่านชาลตั้น” สีหน้าของเขานั้นเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก
“มีอะไร?” ชายผมดำที่เห็นสีหน้าของสหายของเขาแล้วก็ถามด้วยความตกใจ
“โดเมนิก....โดเมนิกอยู่หน้าป้อมของพวกเราขอรับ” สหายของผู้กล้าตอบกลับ

“ยกทัพมางั้นหรือ?” ชาลตั้นถามกลับ
“เปล่าขอรับ...ข้าว่าท่านมาดูเองจะดีกว่า”

ชายผมดำลุกจากที่นั่งของเขาก่อนจะเดินตามชายในชุดเกราะสีเงินคนนี้ ทั้งสองเดินมาถึงกำแพงเมืองที่เต็มไปด้วยเหล่าทหารในชุดเกราะสีเงินกำลังถือหน้าไม้และเตรียมจะใช้ศรในมือของเขาเสียบคนที่อยู่ข้างล่างนั่น ชาลตั้นแหวกทหารที่ถือหน้าไม้อยู่คนนึง ก่อนจะมองลงข้างล่าง สิ่งที่เขาเห็นนั้นคือชายผมขาวกับหญิงหูจิ้งจอกยืนชูมืออยู่ มันเป็นสัญลักษณ์ของคนยอมแพ้ ชาลตั้นมองไปรอบๆเพื่อหากองทัพที่ดักซุ่มอยู่ แต่ไม่ว่าจะมองไปทางไหน เขาก็ไม่สามารถหาสิ่งที่เขาต้องการเจอ นั่นก็เป็นไปได้ว่านอกจากชายหญิงคู่นั้นแล้ว ไม่มีใครอยู่ตรงนี้อีกเลย

“เอายังไงขอรับท่านชาลตั้น...ให้ข้ายิงเลยไหม?” ชายที่ยืนอยู่ข้างๆชายผมหยิกถาม
“อย่าพึ่ง” ชาลตั้นปรามไว้

“นั่นท่านชาลตั้นรึเปล่า?” ชายผมขาวที่ยืนอยู่ข้างล่างตะโกนขึ้นมา
“ใช่ นั่นข้าเอง เจ้าต้องการอะไร?” ชาลตั้นตะโกนลงไป
“ข้าต้องการให้ท่านปล่อยตัวโรซารี่และมาร์ค” โดเมนิกพูดไปตรงๆ

คำพูดนี้ก็ทำให้เหล่าทหารที่จ้องมองเขาอยู่หัวเราะไปพร้อมๆกัน แต่ถึงกระนั้นชาลตั้นที่ยืนอยู่บนกำแพงเมืองไม่ได้หัวเราะอะไร หลายคนคิดว่าที่เขามายืนตรงนี้และพูดแบบนี้ ไม่โง่ก็คงก็บ้า แต่ชาลตั้นไม่ได้คิดเช่นนั้นเขาไม่เห็นหรอกว่าดวงตาของโดเมนิกที่อยู่ข้างล่างเป็นเช่นไร แต่บางอย่างมันทำให้เขาเชื่อว่า ถ้าหากเขาเห็นดวงตาของชายคนนี้แล้ว เขาเชื่อดวงตาของโดเมนิกนั้นต้องเต็มไปด้วยความมุ่งและความจริงจังอย่างแน่นอน

“แล้วเจ้ามีเหตุผลอะไรที่ข้าจะไม่ต้องฆ่าเจ้าตั้งแต่ตอนนี้และปล่อยโรซารีและมาร์คล่ะ?” ชายผมดำตั้งคำถามกลับโดเมนิกที่อยู่ข้างล่าง
“ข้ารู้ความลับอะไรบางอย่างของท่าน...และข้าก็บอกสหายข้าไว้แล้วว่าถ้าหากข้าไม่กลับมาหรือส่งข่าวล่ะก็”
“ให้นำความลับนี้เผยแพร่ออกไปทันที” ชายผมตอบกลับ

“แล้วความลับที่ว่าของเจ้าคือเรื่องอะไร? คำพูดแบบนี้ใครก็พูดได้จริงไหม?” ชาลตั้นถามโดเมนิก
“โบนิต้า” โดเมนิกพูดแค่สั้นๆ

คำพูดประโยคนี้นั้นทำให้สีหน้าของชาลตั้นนั้นเปลี่ยนไป สีหน้าของซีดเซียวลงไปอย่างเห็นได้ชัด ดูเหมือนคำว่าโบนิต้านั้นจะไปกระตุ้นอะไรก็ตามแต่ที่อยู่ในใจของชายผมดำคนนี้ ร่างของเขาเริ่มเสียสมดุล เขาคว้าระเบียงหินไว้เพื่อไม่ให้เขาล้มลง เขามองไปยังโดเมนิกที่ยังคงชูมือทั้งสองข้าง เพื่อแสดงให้เห็นถึงเจตจำนงที่ไม่ได้มาสถานที่นี้เพื่อการต่อสู้

“เปิดประตูให้พวกเขาเข้ามา...”

เหล่าทหารต่างมองเขาด้วยสายตาฉงนกับคำสั่งของชาลตั้น ชายผมดำหันไปมองหน้าของทหารพวกนั้นก่อนจะตะโกนสั่งอีกครั้ง

“เปิดประตู!!”
“ปะ ปะ เปิดประตู” ทหารที่ถูกสั่งตะโกนขึ้น

ประตูของกำแพงป้อมปราการนี้เลื่อนขึ้นช้าๆ โดเมนิกและโดโรธีมองหน้ากันก่อนจะพยักหน้าให้กัน

-----

อีกไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น สงครามครั้งใหญ่ก็จะเริ่มขึ้น สงครามระหว่างผู้กล้าและจอมมารอเล็กซิมัส การเตรียมตัวทุกอย่างนั้นเรียบร้อยแล้ว เหลือเพียงแค่เหล่าผู้กล้าลั่นกลองรบและมุ่งตรงไปยังปราสาทของอเล็กซิมัสก็เท่านั้น ชายผมดำที่ผมหยิกศกยืนอยู่ตรงหน้าต่าง เขามองออกไปก่อนจะเห็นปราสาทหลังใหญ่ของอเล็กซิมัสตั้งอยู่ ท้องฟ้านั้นมืดสนิท ไร้ซึ่งดวงดาวและไร้ซึ่งจันทรา มันเป็นค่ำคืนอันแสนจะมืดมิดและเย็นยะเยือก ในขณะที่ดวงตาของเขาจ้องไปยังปราสาทของจอมมารอยู่นั้น เขาก็ได้ยินเสียงฝีเท้าของใครบางคนเดินตรงมายังเขา ชายผมดำหันกลับไปก่อนจะเห็นหญิงผมสีชมพูที่ผมสั้นเพียงประบ่ายืนอยู่ข้างหลัง ชุดของเธอเป็นชุดสีขาว เธอมองชาลตั้นผ่านทางนัยน์ตาสีเขียวของเธอ

“ท่านชาลตั้น ท่านนอนไม่หลับหรือ?” หญิงคนนี้ถาม
“ใช่ ข้านอนไม่หลับ ข้ามีเรื่องให้คิดมากมายเหลือเกิน” ชายผมดำตอบด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำของเขา
“แล้วเจ้าล่ะ? โบนิต้า?” เขาถามกลับด้วยความเป็นห่วง
“ข้าก็เหมือนเจ้านั่นแหละ ข้าเองก็ตื่นเต้นในคืนพรุ่งนี้เหมือนกัน”

เธอเดินมายืนข้างๆ ชาลตั้นก่อนจะมองออกไปยังปราสาทที่ตั้งตระหง่านอยู่

“จะจบสิ้นแล้วซินะ...เรื่องระหว่างของผู้กล้ากับจอมมาร” เธอพูดขึ้นมา
“อืม...พอมาคิดแล้ว มันก็เป็นเส้นทางที่ยาวไกลสำหรับพวกเราเหมือนกัน” ชาลตั้นตอบกลับ

ทั้งสองเงียบลงหลังจากที่ชาลตั้นพูดจบประโยคของเขา ทุกๆอย่างนั้นเงียบไปหมด ไร้ซึ่งเสียงของผู้คน มีเพียงแต่เสียงของลมหายใจของทั้งสองที่สามารถได้ยินอยู่ได้ในขณะนี้

“นี่...ชาลตั้น ข้ามีเรื่องอยากจะบอกเจ้าน่ะ”
“หลังจากที่สงครามของพวกเราจบลง...ข้าว่าข้าจะแต่งงานกับอาร์เบอโร่” หญิงผมสีชมพูพูดขึ้น
“เอ๊ะ....” ชาลตั้นอุทานด้วยสีหน้าตกใจ

ไม่รู้ว่าเพราะคืนไร้จันทร์หรือเพราะเป็นคำพูดของเธอ ที่ทำให้โลกของเขามืดมนขนาดนี้ ปากของเขานั้นสั่นไปหมด น้ำตาของเขาจะเอ่อล้นออกมา แต่เขาก็พยายามจะเก็บความรู้สึกนั้นไว้ ไม่ให้หญิงผมสีชมพูคนนี้เห็นน้ำตาของตัวเขา ชาลตั้นรักผู้หญิงคนนี้ เธอเป็นเหมือนผู้หญิงที่สำคัญที่สุดในชีวิตของเขา และแน่นอนว่าการเสียหญิงที่เขารักให้กับชายอื่น มันเป็นเรื่องที่ทำให้เขารู้สึกเจ็บปวด แต่เขาก็รู้ว่าความรักมันไม่ใช่สิ่งที่เขาจะสามารถมาบังคับกันได้ เขาไม่ใช่คนที่ถูกเลือกก็แค่นั้น เธอมีความสุขกว่าถ้าหากเธอได้อยู่กับคนที่รัก ชาลตั้นอยากจะพูดว่า “ยินดีด้วย” แต่หากทว่าเขาไม่สามารถทำได้ ริมฝีปากของเขาหนักอึ้งไปหมด

“...ฝันดีนะ” โบนีต้าพูดน้ำเสียงอันแผ่วเบาก่อนจะเดินกลับไป

-----

“เรามาถึงปราสาทของอเล็กซิมัสแล้ว!! อีกนิดเดียว” ชายผมสีทองในชุดเกราะสีเงินตะโกนขึ้นมา

ชาลตั้นยืนมองปราสาทหลังใหญ่ของอเล็กซิมัสที่อยู่เบื้องหน้า รอบๆเขานั้นเต็มไปด้วยร่างไร้วิญญาณของสิ่งมีชีวิตหลากหลายสายพันธุ์ไม่ว่าจะเป็นทั้งมนุษย์หรืออสูรกาย ชาลตั้นก้มมองดาบของเขา ดาบที่ใช้คร่าชีวิตศัตรูนับร้อย ดาบของเขานั้นเปื้อนไปด้วยคราบเลือด เขาเงยหน้าขึ้น ก่อนที่เขาจะเห็นหญิงผมสีชมพูที่ชื่อ “โบนีต้า” ที่ยืนอยู่เคียงข้างชายผมสีบลอนด์ในชุดเกราะสีเงินและชุดของเขานั้นก็มีผ้าคลุมสีม่วงด้วย ชายคนนั้นชื่อ “อาร์เบอโร่” สำหรับชายคนนี้เขาเป็นเหมื อนหัวใจและทุกๆอย่างของเหล่าผู้กล้า เขาเป็นชายที่มากไปด้วยฝีมือ เปี่ยมไปด้วยความเป็นผู้นำ ถ้าหากผู้กล้าชนะในศึกนี้ได้ เขาคงเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้เหล่าผู้กล้ากำชัยได้

ชายผมดำมองไปทางขวาของเขา ก่อนจะเห็นหอคอย เขามองไปยังยอดหอคอย ก่อนที่เขาจะตัดสินใจเดินเข้าไปในหอคอยนั่น ไม่รู้อะไรบันดาลใจ ให้เขาเดินเข้าในหอคอยนั้น เขาใช้มือของเขาเปิดประตูไม้ เมื่อเขาเข้ามานั้น เขาก็เจอกับบันไดวน ชาลตั้นก้าวเท้าลงไปบนขั้นบันไดก่อนจะเดินขึ้นไปช้าๆ ในที่สุดเขาก็ถึงยอดของหอคอย ซึ่งบนยอดของหอคอยนั้น เต็มไปด้วยร่างไร้วิญญาณของเหล่าพลธนูฝั่งจอมมาร คงมีใครซักคนมาถึงตรงนี้และจัดการเหล่าพลธนูเรียบร้อยแล้ว ชาลตั้นหยิบหน้าไม้เหล่านั้นขึ้นมาดู มันเป็นหน้าไม้ที่ไม่ค่อยต่างอะไรกับหน้าไม้ทั่วไป มันทำจากไม้และมีวิธีใช้แบบเดียวกัน หน้าไม้ที่เขาหยิบขึ้นมานั้น ยังมีศรติดตั้งไว้อยู่ ดูเหมือนผู้ถือจะตายก่อนที่เขามองออกไปยังหน้าต่างบานหนึ่ง ซึ่งตรงกับห้องของอเล็กซิมัสพอดิพอดี หากมองไปใกล้เขาก็จะเห็นอาร์เบอโร่และโบนีต้ายืนเผชิญหน้ากับอเล็กซิมัสอยู่

ชาลตั้นตั้งหน้าไม้ขึ้น พร้อมกับเล็งไปยังอเล็กซิมัสที่นั่งอยู่ตรงบัลลังค์ของเขา เขาเล็งอย่างดี เป้าหมายของเขาคือถ้าศรดอกนี้เสียบเข้าร่างของอเล็กซิมัสจะเป็นการดับลมหายใจของจอมมารผู้นี้ เขายังคงเล็งอยู่ แม้ว่าชาลตั้นจะเป็นนักดาบที่ยอดเยี่ยม แต่เขาไม่ใช่นักธนูที่ยอดเยี่ยมนัก เขาสามารถยิงโดนเป้าหมายได้ แต่ในขณะเดียวกัน เขาก็สามารถพลาดได้เหมือนกัน

“แบบนี้น่าจะโดนแล้ว..” ชาลตั้นพูดพร้อมกับเล็งไปยังหัวใจของอเล็กซิมัส

แต่หากทว่าในขณะที่เขากำลังเล็งอยู่นั้น เขาก็เหลือบไปเห็นหญิงผมสีชมพูจับมือกับชายผมสีบลอนด์ ความอิจฉา ความโกรธเริ่มเข้าครอบงำของเขา เขาเริ่มเลื่อนหน้าไม้ของเขาจากอเล็กซิมัสไปยังแผ่นหลังของหญิงที่เขาหลงรัก เสียงของเธอนั้นดังกึกก้องในหูของชาลตั้น ประโยคที่เธอพูดกับเขานั้นดังกึกก้องไม่หยุด รอบๆนั้นเขาไม่ได้ยินอะไรเลยนอกจากเสียงของโบนีต้า

“...ฝันดีนะ”

เมื่อเขารู้ตัวอีกที เขาก็เห็นโบนีต้าล้มลง ธนูนั้นเสียบเข้าไปที่หลังของเธอ สีหน้าของชาลตั้นนั้นเต็มไปด้วยความตกตะลึง เขาก้มมองไปยังหน้าไม้ของเขา มันไม่มีลูกธนูติดตั้งอยู่แล้ว นั่นก็แปลว่าลูกธนูดอกนี้ออกมาจากหน้าไม้ของเขาเอง หน้าของอาร์เบอโร่นั้นมองร่างของโบนีต้าที่กำลังล้มลงไปยังพื้นด้วยสีหน้าตกใจ อาร์เบอโร่รีบคว้าร่างของโบนีต้าขึ้นมา เขาหันไปยังเบื้องหลังของเขา ก่อนที่เขาจะเห็นชาลตั้นที่ถือหน้าไม้อยู่ สีหน้าของชาลตั้นนั้นก็ไม่ต่างอะไรจากเขา หน้าไม้ที่อยู่ในมือของเขาหล่นลงไปกับพื้น

“ข้าทำอะไรลงไป”
ขึ้นไปข้างบน Go down
 
Shining in the Darkness : EP 14
ขึ้นไปข้างบน 
หน้า 1 จาก 1
 Similar topics
-
» Shining in the Darkness : EP 16
» Shining in the Darkness : EP 1
» Shining in the Darkness : EP 18
» Shining in the Darkness : EP 2
» Shining in the Darkness : EP 19

Permissions in this forum:คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
Bloody Wrestling Online :: BWO : Special Event :: BWO Novel-
ไปที่: