หลังจากที่ ”สิงห์สำอาง” เชลซี เก็บสามแต้มเต็มได้สำหรับในนัดถล่มโบลตันไปสวยหรู 4-0 ทำให้อะไรๆ ก็ดูเหมือนจะเข้ารูปเข้ารอยแล้ว หลังจากเริ่มชนะติดๆ กันได้ หลังจากทำสถิติแย่ไม่ชนะใครติดต่อกัน 7 นัด จนทำคะแนนตามจ่าฟูงแมนเชสเตอร์ ยูไรเต็ดไกลถึงสิบแต้ม โดยเล่นเท่ากัน หล่นไปอยู่อันดับที่ 4 นำหน้าที่ห้าอย่าง “ไก่เดือยทอง” อยู่ 3 แต้ม
เมื่อมองภาพรวม ดูท่าทางโอกาสการป้องกันแชมป์ของเชลซีนั้นหริบหรี่พอๆ กับงมเข็ม เพราะนั้นหมายถึงในอีก 13 นัดที่เหลือต้องให้ทีมกลุ่มนำไม่ว่าจะเป็นแมนยู อาเซนอล หรือ แมนเชสเตอร์ซิตี้ จำเป็นต้องแพ้กันอย่างน้อบทีมละ 3-4 นัด และเชลซีห้ามสะดุดอีก ซึ่งถือว่าเป็นไปได้ยากโดยเฉพาะทีมโครตรเคี่ยวอยาก แมนยูฯ ที่ตายยากเหลือเกิน ล่าสุดแม้จะโดนนำไปก่อน 2-0 แต่กลับพลิกมาชนะ แบล็ค พูล ไปได้ 3-2 ซะงั้น ตื่นมาอ่านผลยังแทบไม่เชื่อสายตา = w =’’
แต่อย่างน้อย หกแต้มเต็มในสองนัดหลังสุดกับแบล็คเบิร์น และ โบลตัน ก็เป็นสัญญาณที่ดี ที่เชลซีจะกลับมาเร่งเครื่องอีกครั้ง ถึงแม้จะยาก แต่โอกาสลุ้นแชมป์ก็ยังไม่ถือว่าเป็นศูนย์ โดยเฉพาะในเกมกับโบลตันที่ยำใหญ่ไปถึง 4-0 เรียกว่าแฟนๆ ของเชลซีคงมีความสุขไม่น้อย หลังจากเห็นทีมกลับมาเล่นดีอีกครั้ง โดยเฉพาะ รามิเรส กองกลางดาวรุ่งชาวบลาซิลที่มีค่าตัวค้ำคอว์ อยู่ถึง 22 ล้านยูโร ที่ยิงประตูได้สักที หลังจากต้องลงเล่นเป็นตัวจริงติดกันมาหลายนัด แต่ฟอร์มยังเข้าตาแฟนๆ เท่าที่ควร ประตูนี้คงจะสร้างความมั่นใจให้เจ้าตัวได้ไม่น้อย
อีกสองคนที่ยิงประตูได้ในเกมนี้ก็คือ ดิดิเย่ ดร็อกบาร์ กองหน้าที่อันตรายที่สุดของเชลซี ที่ปืนฝืดไปหลายนัด นัดนี้ครับมายิงประตูสวยๆ ได้อีกครั้ง จน คาล็อตโต้ ออกปากชม และอีกคนคือ ฟรอล็อง มาลูด้า ปีกทีมชาติฝรั่งเศสที่เล่นดีสุดๆ ในช่วงครึ่งฤดูกาลแรก ประตูนี้อาจจะเป็นชนวนเรียกฟอร์มสุดยอดของทั้งสองคนก็เป็นได้ อันเชล็อตติ เองก็ออกมากระตุ้นลูกทีมอีกแรง เพื่อเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจให้ลูกทีม โดยชมถึงสมาถิและความมุ่งมั่นที่จะคว้าชัยในนัดนี้ และก็ยังยอมรับว่าการจะไล่ให้ทันแมน ยูฯ นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็จะพยายามสร้างปฏิหารเพื่อแฟนๆ
ถึงจะฟอร์มดีมาในพักหลังๆ แต่พลพรรคนักเตะ สิงห์บลู ยังจะผ่อนเครื่องไม่ได้ นัดต่อไปต้องออกไปพบ เอฟเวอร์ตัน ที่กูดิสัน พาร์ค ซึ่งไม่ใช่สนามที่จะเก็บแต้มออกมาได้ง่ายๆ และ ในอีกสามสัปดาห์ข้างหน้า ก็ยังต้องเปิดบ้านรับการมาเยือนของลิเวอร์พูล ที่นาทีนี้ก็ประมาทไม่ได้แล้ว และเกมที่สำคัญทีสุดที่รออยู่คงหนีไม่พ้น เกมนัดแรกของเดือนมีนาคมที่ต้อง เปิดบ้านรับแมนยูฯ แต่กว่าจะถึงตอนนั้นหากเชลซีออกทะเลอีกรอบมันอาจไม่ใช่เกมสำคัญอะไรแล้วก้ได้ เพราะฉะนั้นทั้งคาล็อตโต้และลูกทีมคงต้องทำการเตรียมตัวให้ดี อย่างยิ่ง EPL เป็นลีกที่ทุกทีมมีสิทธพลาดท่าทำแต้มหล่นหายได้ทุกเมื่อ และหากสะดุดอีกที คราวนี้แหละ โอกาสลุ้นแชมป์คงจะยากพอๆ กับให้อาเบะกลับเพศซะอีก =w=