Battery World : Chapter 1 : Class War
ในโรงเรียน Battery World ของผมที่กำลังเรียนอยู่นั้น นอกจากจะฝึกให้เราใช้ โรโบ กันแล้ว ยังมีจัดอันดับนักเรียนตามคะแนนสอบภาคทฤษฎีและปฏิบัติเกี่ยวกับโรโบ โดยนักเรียนที่ได้คะแนนสองอย่างรวมกันแล้วสูงสุดติด 50 ท็อปแรก จะได้อยู่ในห้อง S ซึ่งเป็นห้องที่เรียกว่าคือแนวหน้าของโรงเรียนนี้กันเลยทีเดียว จากนั้นก็จะไล่รันลงมาเรื่อยๆ เป็น A B C D E F และห้อง F คือห้องที่คะแนนรวมต่ำที่สุดของสายชั้น จึงไม่แปลกที่จะถูกนับเป็นพวกไอ้โง่ของโรงเรียน ก็ไม่แปลกจริงๆนั่นแหละนะ แต่ว่า….
มันก็มีบางคนที่ถึงแม้จะสามารถเข้าห้อง S ได้ แต่ปฏิเสธไม่ใช่เหรอครับ ?
“จัดการมันเลยยยย!!!”
“เฮ!!!!”
“อย่าให้มันเข้าห้องของเราได้!!!”
ในขณะที่นอกห้องมีเสียงที่เอะอะโวยวายดังขึ้นอย่างไม่เกรงใจครูบาอาจารย์.. ผมกำลังนั่งรออยู่ในห้อง 1-F ของผม.. เดี๋ยวสิ ก่อนที่จะเริ่มเรื่อง ขอแนะนำตัวของผมก่อน ผมชื่อ ไอชิตาว่า คาซายะ ม.ปลายปี 1 ห้อง F ใช่ครับ ห้อง F ฟังกันไม่ผิดหรอกครับ ที่จริงผมก็สามารถเข้าห้องอื่นที่เหมาะกว่านี้ก็ได้นะครับ แต่ผมว่าห้อง F มันน่าจะมีอะไรน่าสนุกกว่าเยอะ จริงมั้ยล่ะ ? ห้อง S มันต้องแบกรับอะไรไว้สูง เหมือนเป็นห้องที่เก่งที่สุด ฉะนั้นจะทำพลาดอะไรก็แทบไม่ได้เลย ไม่มีอิสระเท่าไหร่ พอมาเทียบกับห้อง F ซิ จะทำอะไรก็ได้ ยังไงก็โดนมองว่าเป็นไอ้โง่อยู่แล้ว ไม่ต้องไปแบกรับศักดิ์ศรีอะไรมากมาย
แต่ในสภาพที่ข้างนอกห้องวุ่นวายแบบที่ได้ยินกันนี้ คงจะสงสัยบ้างสินะครับ ว่ามันเกิดอะไรขึ้น ? ผมจะอธิบายให้ได้ฟังกันเอง ก่อนอื่น ต้องเท้าความก่อนว่า ในเทอมแรกของพวกเรานั้น ได้เรียนเกี่ยวกับเรื่องโรโบทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ และหลังจากที่จบเทอม 1 ไปเราก็ทำการสอบระหว่างเทอม จึงเป็นที่มาของการรันห้อง ถูกมั้ยครับ ? นอกจากเราจะมีโรโบแล้ว เพื่อเป็นการกระตุ้นแรงใจของนักเรียนให้ทะเยอทะยานตั้งใจเรียนมากขึ้น แต่ล่ะห้องจะสามารถทำ Class War กับห้องหนึ่งได้ กฎพื้นฐานก็ไม่มีอะไรมาก อาณาเขตคือทั่วทั้งโรงเรียน แต่มีเพียงอย่างเดียวที่จะสามารถชี้ผู้ชนะได้ก็คือ กำจัดโรโบของตัวแทนห้อง หรืออีกนัยหนึ่งก็คือหัวหน้าห้องนั่นแหละครับ แต่ฐานของแต่ล่ะห้องก็คือห้องเรียนประจำของตนเอง แน่นอนครับ เราไม่สู้กันโดยที่เดิมพันแค่ศักดิ์ศรีอย่างเดียว ถ้าเราชนะก็จะได้รับ Status Point มาเพิ่มให้กับโรโบของเราด้วย
“หัวหน้าห้อง!! เจ้าพวกห้อง D มันจะบุกเข้ามาที่ห้องของเราได้แล้ว!!”
ชิบหายละ..มัวแต่อธิบายเพลิน นักเรียนห้อง D มันจะบุกเข้ามาที่ห้องของผมแล้ว.. ตอนนี้ผมอยู่กับหัวหน้าห้องอยู่ 2 คนในห้อง ง่ายๆก็คือจะเป็นบอดี้การ์ดให้นั่นแหละ แต่สถานการณ์แบบนี้ ไม่น่าไหวละนา.. ผมลุกขึ้นแล้วหันไปมองแท่นชาร์จที่ยาวตั้งแต่หน้าห้องจรดหลังห้อง พร้อมกับจ้องไปที่กล่องสี่เหลี่ยมสีแดงที่มีลวดลายเส้นสีดำสลักอยู่ นั่นคือโรโบของผมที่เก็บอยู่ในนั้น ในอีกไม่กี่วินาทีหลังจากที่ผมมองไปที่กล่องโรโบของผม ผมก็เห็นไฟสีเขียวกะพริบขึ้นมาจากกล่องโรโบ เอาล่ะ.. ชาร์จเสร็จแล้วสินะ.. ถ้าอย่างนั้นล่ะก็..
“ชั้นไปละนะ คุณหัวหน้าห้อง ริวเซย์” ผมพูดออกไปหาหัวหน้าห้องของห้อง 1-F ที่นั่งสบายใจเฉิบพิงเก้าอี้อยู่หลังห้อง เขามีผ้าคาดหัวสีแดง พร้อมกับผมสีเหลืองอ่อนๆ จมูกที่คม และดวงตาที่ผ่อนคลาย
“เอาแค่ถ่วงเวลารอให้เจ้า นานาชิ มันมาถึงห้องของเราก็พอแล้ว” ริวเซย์ตอบผมด้วยเสียงที่เรียบง่าย โดยไม่ตึงเครียดอะไร
“ให้ตายสิ นานาชิ..ดันมาตื่นสายในวันนี้อีก ไม่งั้นแผนของเราก็น่าจะไปด้วยดีแล้ว..” ผมบ่นออกไป
“เอาเถอะน่า หยวนๆให้มันหน่อยละกัน ใครๆก็ตื่นสายได้ไม่ใช่รึไง ?”
“แกน่ะ เตรียมตัวไว้หน่อยก็ดีนะ ถ้าเกิดมีคนสองคนหลุดเข้ามา จะได้ตื่นตัว” ผมเตือนริวเซย์ให้ระวังตัวหน่อย เพราะผมอาจจะพลาดก็ได้
“ชั้นเชื่อใจในตัวแกนะ คาซายะ คงไม่ปล่อยให้เจ้าพวกห้อง D หลุดมาง่ายๆหรอกใช่มั้ย ?” ริวเซย์ยังคงนั่งผิวปากสบายใจเฉิบอยู่
“หึ..” ผมหัวเราะในลำคอนิดนึง ก่อนที่จะหยิบกล่องโรโบของผมแล้วเดินออกไปห่างจากริวเซย์.. แล้วเดินต่อไป ผมยืนหยุดอยู่ที่หน้าประตูห้องของผม.. ถ้าผมเปิดออกไป เชื่อได้เลยว่าผมจะเจอนักเรียนห้อง F สู้กับนักเรียนห้อง D ในสถานการณ์ที่เราเสียเปรียบแน่นอน ผมสูดหายใจเข้าลึกๆ.. ก่อนที่จะหายใจออกมา.. แล้วเปิดประตูออกไป!!
“ไอชิตาว่า คาซายะ ห้อง 1-F ขอท้าสู้!!!” ทันทีที่ผมเปิดประตูออกไป ผมก็พบว่าเพื่อนห้อง F ของผมคนสุดท้ายที่ยืนหยัดสู้อยู่ ก็ได้แพ้ไปเรียบร้อยแล้ว.. เหลือแค่ผมคนเดียวเป็นปราการด่านสุดท้ายแล้วินะ.. ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจาก ประกาศคำท้าสู้ทันที.. จากนั้น.. ผมก็หยิบกล่องโรโบของผมออกมา แล้วประกาศคำปลดล็อค!!
“Unlock!!! จงออกมา Novatrooper!!” สิ้นเสียงคำปลดล็อคของผม กล่องสี่เหลี่ยมขนาดเล็กที่อยู่ในมือของผมก็ถูกเปิดออก มีแสงสว่างที่ออกมาจากกล่อง หลังจากที่แสงนั้นหายไป โรโบของผมก็ยืนอยู่ระหว่างผมกับนักเรียนห้อง D ซึ่งมันมีลักษณะเหมือนสตรอมทรูปเปอร์จากเรื่องสตาร์ วอร์.. น่าจะเคยดูกันบ้างแหละนะผมว่า แต่เกราะของมันเป็นสีแดง มาคู่กับปืนเลเซอร์คู่ใจ ไม่ต้องไปสนใจโรโบของอีกฝ่ายหรอก หลังจากที่ผมปลดล็อคโรโบของผมเสร็จ สเตตัสของทั้งสองฝ่ายก็ขึ้นมา
Novatrooper - HP : 500/500 STR : 160 DEF : 30 SPD : 150 ITL : 30 BP : 800/800
D’s Robo - HP : 140/500 STR : 100 DEF : 100 SPD : 100 ITL : 100 BP : 0/500
สเตตัสของมันอะไรจะบาลานซ์ขนาดนั้นวะ.. เอาเถอะ นั่นคงไม่ใช่ปัญหาเท่าไหร่ เพราะค่า HP กับ BP ของมันก็เหลือไม่มากแล้วด้วย BP นี่เหลือ 0 เลยด้วยซ้ำไป เลิกดื้นด้านที่จะสู้ต่อดีกว่านา แล้วกลับห้องของแกไปซะ!!
“จัดการมันเลย Novatrooper!!!”
“เยส มาสเตอร์!!” เสียงที่เหมือนหุ่นยนต์ขานรับผม ไม่ต้องงงครับว่าเสียงใคร เสียงจากโรโบของผมเอง โรโบมันคือสิ่งมีชีวิตครับ มันก็สามารถพูดได้เหมือนกับมนุษย์ของเรา แต่ไม่ค่อยชอบเลยแฮะ เรียกผมว่ามาสเตอร์เนี่ย.. โรโบของผมพุ่งเข้าไปหาอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว แหงแหละ โรโบของผมเน้นความเร็วกับพละกำลังนี่นา มีดีก็ตรงนี้แหละ พุ่งเข้าไปหาแล้วต่อยใส่โรโบอีกฝ่าย! เหมือนอีกฝ่ายยังคงตกใจกับความเร็วของผมอยู่ ไม่ทันตั้งตัว ทำให้ค่า HP ของอีกฝ่ายนั้นลดลงเหลือแค่ 20 ไม่รอช้า ผมควบคุมให้โรโบผมกระโดดออกมา แล้วใช้ปืนเลเซอร์ยิงทันที! อีกฝ่ายก็มีความเร็วอยู่พอสมควร แต่ก็ไม่สามารถหลบพ้นการโจมตีของโรโบผมได้ ทำให้ HP เหลือ 0 ทันที
“เรียบร้อย!!” ผมตะโกนขึ้นมา ก่อนที่จะมองไปรอบๆ ก่อนที่จะท้านักเรียนห้อง D คนต่อไป แน่นอนครับ สู้กันมาขนาดนี้แล้ว HP คงเหลือกันไม่มากเท่าไหร่หรอก เหลือกันคนล่ะนิดคนล่ะหน่อยเท่านั้น เลยใช้ความเร็วของโรโบผมเป็นหลัก สอยไปเรื่อยๆ ทีล่ะคนๆ ถึงแม้จะได้รับการโจมตีไปบ้าง ก็เฉี่ยวๆ แนวโจมตีของห้อง D ก็ค่อยๆลดลงไปเรื่อยๆแล้ว แต่ว่า.. คนหลังๆที่ผมกำลังสู้อยู่นั้น ทำไมสเตตัสถึงได้แทบไม่มีการเปลี่ยนแปลงเลยวะ!! ห้อง F ของผมก็ไม่น่าจะทำอะไรไม่ได้เลย.. คงคิดออกได้อย่างเดียวว่า ทางนู้นส่งกำลังเสริมมาอีก ให้ตายสิ คงต้องถ่วงเวลาจริงๆนั่นแหละ
Novatrooper - HP : 310/500 STR : 160 DEF : 30 SPD : 150 ITL : 30 BP : 800/800
D’s Robo #1 - HP : 670/800 STR : 60 DEF : 100 SPD : 100 ITL : 60 BP : 700/1000
D’s Robo # 2 - HP : 1100/1200 STR : 10 DEF : 250 SPD : 10 ITL : 10 BP : 1000/1000
D’s Robo # 3 - HP : 940/1000 STR : 120 DEF : 80 SPD : 70 ITL : 30 BP : 500/1000
ตอนนี้ผมกำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่เรียกได้ว่า เสียเปรียบสุดๆ 3 รุม 1 แถม อยู่ในสภาพที่เกือบจะเต็มร้อยกันทั้งหมด แถมดันมีตัวกันชนอีกตัวนึงต่างหาก งานเข้าจริงๆแล้วล่ะ คงต้องรอ นานาชิ สถานเดียวแล้วสินะ.. ผมสั่งให้โนว่าเคลื่อนไหวด้วยความรวดเร็ว เน้นหลบแทนที่จะเน้นการโจมตี ค่อยหาจังหวะสอยเอา 2 ตัวยกเว้นตัวกันชน ก็พยายามจับจ้องการเคลื่อนไหวของผมให้ทัน ตอนนี้โรโบทุกตัวไม่มีการเคลื่อนที่ยกเว้นโนว่า ที่กำลังทำให้อีกฝ่ายสับสนอยู่ ทันใดนั้นผมก็เห็นช่องว่างที่ #3!! โนว่ารีบพุ่งเข้าไปโจมตีทันที!! ไม่รอเสียโอกาสทอง แต่เหมือนอีกฝ่ายจะรู้แกวผม ในขณะที่โนว่าพุ่งเข้าไปอยู่ #1 ก็กระโดดถีบโนว่าจากข้างหลัง ทำให้ โนว่า กระเด็นลงไปที่พื้น แย่ละ ผมเช็คดูค่า HP ของโรโบของผม เหลือ 110.. แต่ โนว่า กำลังจะโดนซ้ำอีกรอบ โนว่ารีบกระโดดออกมาทันที! แต่ผมก็ให้โนว่ายิงใส่ตอบโต้ด้วยเช่นกัน ปรากฏ HP ของ #1 ลดไป 100 ก็ยังดีล่ะวะ.. แต่กระนั้น #3 ก็ขว้างมีดมาหาโนว่าในขณะที่อยู่กลางอากาศ ผมพยายามจะให้หลบออก แต่ผลสรุปคือรอดจากการโดนจุดสำคัญได้.. ตอนนี้ HP ของโรโบผมก็เหลือแค่ 10.. ไม่มีทางเลือกแล้ว ต้องใช้เจ้านั่นแล้วสินะ!!
“Nova…” ผมยังไม่ทันได้พูดชื่อท่าจบ ก็มีเสียงนึงที่ขัดจังหวะผมก่อน เอ.. รู้สึกเสียงนี้จะคุ้นหูผมแปลกๆ
“นานาชิ ห้อง 1-F ขอท้าสู้!!!” ใช่แล้วครับ เสียงที่คุ้นหูผมนี้ คือเสียงของนานาชิ คนที่ผมบอกว่าตื่นสายในวันแบบนี้ยังไงล่ะครับ เขาวิ่งมาพร้อมกับ ริวเซย์ ก่อนที่จะมาหยุดยืนอยู่ที่ข้างๆผม
“Unlock!! โรโบของชั้น! Jevalin!!” นานาชิประกาศคำปลดล็อค แล้วโรโบของเขาก็ออกมายืนปรากฏตัวอยู่หน้าผมทันที เป็นผู้หญิงพร้อมชุดเกราะสีดำมาคู่กับปืนกล 2 กระบอกที่ถืออยู่ทั้งสองข้าง ถึงจะเป็นหุ่นยนต์แต่ก็สวยไม่เบาเลยแฮะ..
“แกมาสายนะ นานาชิ” ผมทักทายเพื่อนห้อง F ที่ยืนอยู่ข้างๆผม
“มาช้าก็ยังดีกว่าไม่มาละกัน” นานาชิตอบ
หลังจากที่เสร็จการทักทายของพวกเราแล้ว สเตตัสที่ยังคงเต็มร้อยของ Jevalin ก็ขึ้นมาทันที
X2VGA – Jevalin HP : 700/700 STR : 100 DEF : 80 SPD : 100 ITL : 70 BP : 800/800
“ชั้นฝากความหวังไว้ที่แกนะเว้ย! นานาชิ!” ริวเซย์ที่ยืนอยู่ข้างหลังพวกผมคอยให้กำลังใจอยู่ เพื่อเป็นการดีที่สุด ไม่ควรให้หัวหน้าห้องสู้ เดี๋ยวงานอาจจะเข้าขึ้นมาก็เป็นได้
“ไม่ต้องห่วงหรอกน่า! เจวาลิน! กราดใส่เลย!!” สิ้นเสียงของนานาชิ เขาก็เริ่มควบคุมโรโบทันที
“รับทราบค่ะ”
โรโบที่ชื่อเจวาลิน เปิดฉากด้วยการกราดปืนกลทั้งสองกระบอกของเธอใส่โรโบทั้งสามทันที!! อีกฝ่ายพยายามหลบ ยกเว้น #2 ที่เป็นตัวกันชน ใช้พลังป้องกันเข้าสู้ ผมรีบให้ โนว่า ของผมยิงใส่ #1 แบบไม่รอช้า! อีกฝ่ายที่มัวแต่หลบการโจมตีของเจวาลิน เลยโดนการโจมตีจากผมเข้าไปแทนเต็มๆ!! HP ของ #1 เหลืออีก 300 เอาล่ะ! ผมควบคุมให้ โนว่า พุ่งเข้าไปหา #1 แล้วจัดการต่อยท้อง!! ก่อนที่จะจับโยนให้ไปอยู่ในวิถีของ เจวาลิน! นานาชิ เหมือนจะรู้ว่าผมคิดอะไรอยู่ เลยให้เจวาลินหันปืนใส่ #1 ก่อนที่จะยิงทันที จน HP ของ #1 เป็น 0
“เรียบร้อย เสร็จไปหนี่ง!” ผมพูดออกมาด้วยความดีใจ มีคนคอยช่วยก็ดีอย่างนี้แหละ
“อย่าเพิ่งดีใจไป คาซายะ! ยังเหลืออีกสองตัว!!” นานาชิเตือนสติผมไม่ให้ดีใจเกินเหตุ ก่อนที่จะจับจ้องมุ่งไปที่การต่อสู้ต่อ
โนว่า ใช้ปืนยิงไปที่ #3 แต่ก็สามารถหลบได้ เจวาลิน ก็กราดปืนกลต่อไม่เลิก แน่นอนว่ากราดไปอย่างงั้น ต้องโดนบ้าง HP ของ #3 ลดไปบางส่วน #3 กำลังเคลื่อนที่หลบการกราดปืนกล ผมให้โนว่าพุ่งเข้าไปหา #3 แล้วปล่อยหมัดใส่! #3 มัวแต่โฟกัสกับปืนกล เลยโดนหมัดของโนว่าเต็มๆ ก่อนที่โนว่าจะถีบให้กระเด็นไปหา เจวาลิน พอดี เจวาลิน ตอบโต้ด้วยการเตะใส่ #3! โดนไป 3 ต่อทำให้ HP ของ #3 เหลือแค่ 240 เท่านั้น #3 กำลังลุกขึ้นมา แต่โนว่า ก็เล็งไปที่หัวของ #3 ก่อนที่จะยิง! Headshot! และโดน เจวาลิน กระทืบซ้ำอีกที เอวัง ด้วยเหตุฉะนี้ ทำให้ เหลือตัวกันชน #2 เพียงแค่ตัวเดียว ดูจาก HP ที่เหลือหลังจากการโดนกราดปืนกลโดยไม่ขยับ.. 990/1200..
“ไม่ไหวนา ค่า DEF มันเยอะเกินไป!!” ผมสบถออกมา ทำไงได้ล่ะวะ ก็ตีแทบจะไม่เข้าเลยนี่หว่า
“ทั้งๆที่ โดนกราดไปเยอะขนาดนั้นแท้ๆ..” นานาชิ ก็คงอึ้งอยู่เหมือนกัน..
“ถ้าเป็นแบบนี้ล่ะก็.. ชั้นจัดการเอง!!” ริวเซย์ ที่อยู่ข้างหลังผมกับนานาชิ ที่จดจ้องการต่อสู้เมื่อกี๊มาตลอด เดี๋ยวสิ.. แกจะใช้ไม้ตายของแกเรอะ!!!
“เดี๋ยวสิ ริวเซย์! จะรีบใช้ทำไม ชั้นจัดการเองได้น่า!” ผมยังไม่อยากให้ริวเซย์ใช้ไม้ตายที่ว่า เพราะผมก็ยังไม่ได้ใช้ท่าพิเศษของโนว่าเลย..
“เอาน่า อย่างน้อย มันก็ยังอยู่ไปจนกว่าจะจบ Class War นะ แถม โนว่าของแกน่ะ HP เหลือแค่ 10 แล้วไม่ใช่รึไง ? ถ้าขาดแกไป มันก็ยากอยู่เหมือนกันนะเว้ย” ริวเซย์ ยังไงก็จะจัดการด้วยตัวของมันเอง ก็จริงอยู่ที่ HP เราเหลือแค่ 10 แล้ว.. ถ้าพลาดนิดเดียว ยังไงก็ไม่รอด..
“ตามใจแกละกัน…” ผมขี้เกียจเถียงกับมันละ ใช้ๆไปเถอะ ยังไงมันก็ไม่ได้น่าเกลียดอะไรมาก
“งั้นก็.. อิเอคิชิ ริวเซย์ หัวหน้าห้อง 1-F ขอท้าสู้!!”
“Unlock!! เอาล่ะ ดูกันให้ดี นี่ล่ะคือ โรโบของชั้น!!” สิ้นเสียงคำปลดล็อคของริวเซย์ แมวก็กระโดดออกมาจากกล่อง นี่มัน.. หุ่นยนต์แมวนี่หว่า!! สงสัยคงจะเป็นญาติกับโดเรม่อน (?) นี่ตูคิดอะไรของตูเนี่ย..
“นี่แหละ!! เทพแมวน้อยมหาจักรพรรดิกลั่นกรองยองไยใสสะอาดขจัดความกลัวรัวความกล้าบ้าบิ่นหินแม็กม่าฆ่าไม่ตายยายด่าอากงไม่ถงไม่ถามสุขภาพซ้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกคำ!!!!!”
“….”
ทุกคนในบริเวณนั้น (ซึ่งเหลือแค่ 4 คน) ถึงกับติดสตันท์ 10 วิกันเลยทีเดียวกับการแนะนำชื่อของไอ้หัวหน้าห้องจอมเพี้ยนแบบนี้.. ท่ามกลางบรรยากาศที่เงียบสงบ ซึ่งเราอยู่ตรงทางเดินของอาคาร ทำให้ความรู้สึกวังเวงอย่างมาก
“เป็นอะไรไปล่ะ อึ้งล่ะสิท่า นี่แหละคือเทพแมวน้อย!!...”
“พอๆๆ!! เลิกพูดพร่ำทำเพลงแล้วจัดการให้มันเสร็จๆได้แล้วน่า!” ผมขัดการแนะนำตัวโรโบของมันอีกครั้ง ไม่งั้น เสียเวลาเปล่าๆ รีบๆจัดการให้มันเสร็จได้แล้วเฟ้ย!!
“หึ ได้เลย แมวน้อย ดูดสเตตัสมันมาซะ!!!” ใช่แล้วครับ ดูดสเตตัสของอีกฝ่าย นั่นแหละคือความสามารถของ แมวน้อย โรโบของ ริวเซย์ ทำให้สเตตัสของ #2 กลายเป็น 0 ทั้งหมด และค่าก็ถูกมาเพิ่มให้กับ แมวน้อย ทันที
“จัดการมันเลยลูกพ่อ!! กรงเล็บพญามหาจักรวุธขุดระเบิดเพลิงพระกาฬห่านเป็ดน้ำยำมาม่า!!!” ท่าห่าเหวอะไรก็ไม่รู้ของริวเซย์ ก่อนที่แมวน้อยจะพุ่งเข้าไปข่วนใส่ #2.. ทีเดียว HP เหลือ 0 ครับ ไม่ต้องงงครับ เพราะมันเพิ่มพลังโจมตีของ แมวน้อยเป็น 2 เท่าด้วยเช่นกัน ไม่แปลกที่จะฆ่าทีเดียวตาย แต่ความสามารถนี้ถ้าเก็บไว้ใช้กับ หัวหน้าห้อง 1-D น่าจะดีกว่านะ..
“ทีนี้ก็เรียบร้อย ไปกำจัดหัวหน้าห้อง 1-D กันดีกว่า!!” ริวเซย์ประกาศชัยชนะ
“จริงๆเล้ย เก็บไว้ใช้ตอนหัวหน้าห้อง 1-D หน่อยน่าจะดีกว่าด้วยซ้ำ”
“เอาน่า รีบๆไปกันดีกว่า แนวหน้าของเราป่านนี้ เหลือกี่คนยังไม่รู้เลยเนี่ย” นานาชิดูเหมือนจะไม่ซีเรียสอะไรมาก ก่อนที่พวกเราทั้งสามคนจะวิ่งไปที่สุดทางของอาคารเรียน เนื่องจากห้อง D อยู่ทางสุดอาคารตรงข้ามกับห้อง F ที่อยู่สุดอาคารอีกฝั่งหนึ่ง พวกผมที่กำลังวิ่งไปก็สังเกตเห็นนักเรียนหลายคนทั้งห้อง F และห้อง D ต่างนอนไม่ก็นั่งอยู่บนพื้น เพราะโรโบแพ้ไปแล้ว.. ผมสังเกตไปที่หน้าห้อง D ปรากฏว่า.. นักเรียนห้อง F เหลืออยู่แค่ 3 คน นักเรียนหญิงผมยาวสีฟ้านั่นคือ ยูมิ อิโตเอะ นักเรียนชายผมสั้นสีน้ำเงิน คือ โคโตบุกิ เฮย์จิ ส่วนนักเรียนชายผมสั้นสีทอง คือ เอ็นโด้ อิบูกิ ก็นะ.. จริงๆแล้ว นอกจาก 6 คนที่รวมพวกเราแล้ว ห้อง F คนอื่นๆ ก็เป็นพวกที่โหลยโท่ยเกือบจะหมดนั่นแหละ เหมือน ยูมิ จะเห็นพวกผมที่กำลังวิ่งมาแล้ว เธอโบกมือให้พวกผมก่อนที่จะทักทายพวกเรา
“มากันครบแล้วสินะคะ.. เฮย์จิคุง อิบูกิคุง พวกเขามากันแล้วนะ” เธอหันไปบอก เฮย์จิ กับ อิบูกิ ที่ยืนต่อสู้อยู่กับแนวป้องกันสุดท้ายของห้อง D ก่อนที่จะไปถึงตัวหัวหน้าห้อง D และบอดี้การ์ดได้
“เจ้าพวกบ้านี่ รีบๆมาให้เร็วกว่านี้ไม่ได้รึไงฟระ!?” อิบูกิตวาดใส่พวกผมทันที จะตวาดใส่พวกตูทำไมฟะ..
“มาช้าก็ยังดีกว่าไม่มา เนอะ นานาชิ” ขอยืมคำพูดแกมาใช้หน่อยล่ะ นานาชิไม่พูดตอบผม แต่ยิ้มตอบพร้อมส่งสายตาเป็นคำตอบแทน
“มาก็ดีอยู่หรอก แต่เล่นเอาพวกเราไปชนกับห้อง D ตั้งหลายคน ก็แย่เหมือนกันนะเฟ้ย แล้วคนอื่นๆที่มาเป็นแนวโจมตีนี่ แทบจะช่วยอะไรกันไม่ได้เลยจริงๆ” เฮย์จิพูดออกมาอย่างตรงๆ
“แล้วตอนนี้แนวป้องกันห้อง D เหลืออยู่กี่คนล่ะ ?” นานาชิถาม
“ก็เท่าที่เห็นอยู่ เหลือแค่ 2-3 คนก็จะหมดแล้ว ดีนะ ที่มียูมิคอยช่วยฮีลให้ ไม่งั้นน่าจะแพ้กันไปแล้วล่ะ” อิบูกิตอบ
“งั้นชั้นช่วยจัดการพวกที่เหลือด้วยอีกคน” นานาชิเดินเข้าไประหว่างอิบูกิและยูมิ พร้อมกับ เจวาลิน โรโบของนานาชิ ผมก็อยากจะช่วยอยู่หรอกนะ แต่มั่นใจเลยว่า ยูมิคงใช้ BP ไปกับการฮีล เฮย์จิกับอิบูกิ หมดแล้วล่ะ แล้วถ้าผมบุ่มบ่ามเข้าไป ก็อาจจะพลาดโดนก็เป็นได้..
หลังจากนั้นอีกไม่นานเท่าไหร่ แนวป้องกันห้อง D คนสุดท้ายก็ถูกนานาชิจัดการลงได้ หลังจากนั้น พวกเราทั้ง 6 คนก็เปิดประตูเข้าไปในห้อง D แน่นอนครับ หัวหน้าห้องยืนอยู่พร้อมกับบอดี้การ์ดเพียง 2 คน ตกอยู่ในสถานการณ์ 5 ต่อ 3 (ไม่นับ ริวเซย์ เพื่อความปลอดภัย) ผลสรุปก็คือ..
Class War ระหว่าง ห้อง 1-F Vs ห้อง 1-D
ห้อง 1-F เป็นฝ่ายชนะไป
--------------
“เหนื่อยเอาเรื่องเลยแฮะวันนี้” อิบูกิบิดขี้เกียจ หลังจากที่เราเลิกคาบสุดท้ายไปแล้ว แต่ก็ยังคงนั่งคุยอยู่ในห้องกันอยู่
“นั่นสินะ ขอบใจพวกแกมากที่เป็นแนวหน้าให้ในวันนี้ ท่าทางจะลำบากเหมือนกันนี่” ริวเซย์ขอบคุณ ยูมิ อิบูกิ และเฮย์จิ ที่ใน Class War ไปเป็นแนวหน้า
“ไม่เป็นไรหรอก ยังไงมันก็มีค่าตอบแทนอยู่แล้ว เนอะ” เฮย์จิพูดขึ้น
ใช่ครับ เพราะผลจากการที่เราเอาชนะห้อง D ได้ ตามระดับที่ต่างกันของห้อง ถ้าต่างกัน 1 ห้องจะได้ 3 SP และในเมื่อเราสู้กับห้อง D ชนะได้ ทำให้เราได้รับ 6 SP มาโดยปริยาย
“6 Status Point สินะ จะเพิ่มอะไรดีหว่าคราวนี้..” ผมพูดขึ้นพร้อมกับคิดไปด้วยว่าควรจะอัพสเตตัสอันไหนเพิ่มดี
“เอ.. ชั้นว่า ชั้นไปประกาศชัยชนะอย่างเป็นทางการหน่อยดีกว่า” ริวเซย์ยิ้ม แล้วลุกขึ้นจากที่เก้าอี้ของตนเอง ก่อนที่จะเดินไปที่หน้าห้อง คนที่ยังไม่กลับบ้านก็ยังพอมีอยู่ แต่ไม่เต็มห้องหรอก ซักประมาณ 30 กว่าคนได้มั้งนะ เท่าที่ผมสังเกตเห็น
ตึง!!!
เสียงทุบโต๊ะจากริวเซย์ทำลายเสียงที่คุยกันของเพื่อนในห้อง F เหมือนกันได้ ก่อนที่จะกระแอมเบาๆ แล้วพูด
“ทุกคน!! ขอบคุณมากสำหรับสิ่งที่ได้ทำในวันนี้! ส่งผลทำให้พวกเราคว้าชัยชนะมาในวันนี้ได้!!”
“หวังว่าเราจะทำได้ดีต่อไปเรื่อยๆ! แน่นอนว่าเป้าหมายของเราก็คือ ห้อง S แน่นอน!!”
“ไปแสดงให้เห็นกันว่า ตัวอักษรมันก็เป็นแค่เพียงตัวอักษร วัดระดับกันไม่ได้หรอก!!”
“เฮ!!!!!” เสียงเฮตอบรับความมุ่งมันของริวเซย์ดังขึ้นกระหึ่มห้อง มันเป็นการประกาศชัยชนะครั้งแรกของพวกเรา.. แต่ว่า…
“อย่าเพิ่งได้ใจกันไปนะคะ พวกห้อง F ทั้งหลาย พวกนายก็แค่เอาชนะได้แค่ห้องเดียวเท่านั้นแหละ” เสียงปริศนาดังขึ้น.. ทุกคนในห้อง F ต่างหาเจ้าของเสียง และที่มาของเสียงก็อยู่ที่หน้าห้องนั่นเอง.. มีบุคคล 3 คนเดินเข้ามาในห้อง F แต่เจ้าของเสียงน่าจะเป็นนักเรียนหญิงผมสีน้ำตาล หน้าตา..หน้าตาคุ้นๆนะผมว่า
“ไม่ดีนะครับ อาไซซัง ไปดูถูกเขานี่ก็ไม่ดีนะครับ เขาก็เพิ่งชนะกันมาทั้งที ควรจะแสดงความยินดีให้น่าจะดีกว่านะครับ” ข้างๆของคนที่ถูกเรียกว่า อาไซ เป็นผู้ชายผมสีขาวมีรอยเพ้นท์ใต้ตาสีม่วง หน้าตาที่ดูหล่อเหลา ดูเป็นมิตร (รึเปล่า)
“ก็มันเรื่องจริงนิ ทาคุมิคุง ไม่เห็นต้องไปแก้ต่างให้พวกมันเลย” อาไซซัง.. ทาคุมิคุง.. ผมว่าผมคุ้นๆชื่อนี้มากเลยนะ
“…” ส่วนผู้หญิงอีกคนหนึ่งที่ยืนเงียบๆอยู่ข้างสองคนนั้น ผมสีน้ำตาลเช่นเดียวกันกับอาไซซังที่ว่า.. พร้อมกับดวงตาที่เป็นประกายของเธอ
“เป็นอะไรไปคะ ? อิซานามิจัง..” อิซานามิ…
“แล้วทำไมเราถึงมาคุยกันหน้าห้อง F ล่ะ อาไซซังครับ บอกเหตุผลที่เรามาที่นี่เลยดีกว่ามั้ย” ทาคุมิถามอาไซ
“หึ.. เจ้าพวกห้อง F ทั้งหลาย! ในวันพรุ่งนี้ หลังจากคาบ Homeroom เราจะมี Class War กัน!! ระหว่างห้อง F และห้อง S!!!” 3 คนนี้มาจากห้อง S นี่เอง.. เห้ยยยยยย!!!
“หา!!!”
“วอท!?”
“เอ๋!!!”
“อะไรฟระ!!”
“ดาฟรัคคคคคคคคคคค!!!!”
เสียงสบถต่างๆดันขึ้นมาในห้องทันที หลังจากที่ได้ยินประโยคที่ว่ากัน ในที่สุด.. ผมก็จำได้แล้วว่า 3 คนนี้เป็นใคร
คนแรก ฮิซากิ อาไซ ลูกสาวอาจารย์หัวหน้าฝ่ายปกครอง และประธานนักเรียนของโรงเรียน Battery World
คนที่สอง นากาจิม่า ทาคุมิ ลูกชายของนักดนตรี
คนสุดท้าย อิโตะ อิซานามิ ทายาทศาลเจ้า หรือง่ายๆเธอเป็นมิโกะนั่นเอง
3 คนนี้หลังจากที่ผ่านการสอบระหว่างเทอมไป ก็ได้อยู่ห้อง S กัน.. แต่ที่น่ากลัวกว่านั้นคือ พวกเขาทั้ง 3 คนถูกเรียกว่า..
“3 แนวหน้าของห้อง S”
-------------
สำหรับคนที่อยู่ห้อง F ทั้งหมด
เอาไป 6 Status Point ครับ
ไปอีดิตเพิ่มในมู้สมัครเบยยยย