Bloody Wrestling Online
Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.

Bloody Wrestling Online

The Number One Cyber Wrestling Online
 
บ้านPortalLatest imagesสมัครสมาชิก(Register)เข้าสู่ระบบ(Log in)

 

 MoBA : ตอนที่ 4

Go down 
ผู้ตั้งข้อความ
ForbiddenOne
Co - Owner
Co - Owner
ForbiddenOne


จำนวนข้อความ : 1010
Join date : 29/08/2010
Age : 26

MoBA : ตอนที่ 4 Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: MoBA : ตอนที่ 4   MoBA : ตอนที่ 4 EmptyTue Oct 07, 2014 12:09 pm

ตอนที่ 4

เวลา 6 โมง 10 นาที หรือ 18.10 น.

“งานปาร์ตี้” ประจำสัปดาห์ได้เริ่มต้นขึ้นมาเป็นเวลา 10 นาทีแล้ว แน่นอนว่านักเรียนเกือบทุกๆคนในเกาะนี้ ต่างพร้อมใจกันเข้ามาร่วมกันในงานดังกล่าว ยกเว้นสำหรับ อีริคผู้แสนเฉื่อยชาคนนั้น นี่เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นของงานนี้เท่านั้น จึงยังไม่มีใครอยากจะทำตัวเด่นเป็นคนแรกที่ท้าสู้เสียเท่าไหร่นัก บรรยากาศของงานยังคงเป็นเหมือนงานสังสรรค์ทั่วไปไม่มีผิดเพี้ยน เสียงเจื้อยแจ้วพูดคุยดังไปพร้อมกับเพลงที่ทางงานได้เปิดประกอบไป

มิโมโตะก้าวเท้าเข้ามาในโดมที่ใช้เป็นสถานที่จัดงานนี้ เมื่อเขาเดินไปถึง สิ่งที่เขาพบก็คือพื้นที่วงกลมขนาดใหญ่ที่มีโต๊ะอาหารการกินเรียงรายกันเป็นแถบๆ มีครบทุกรสชาติ ครบทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นทั้งอาหารจานเดียว สลัด หรือแม้กระทั่งเครื่องดื่มชนิดต่างๆ ตั้งให้ได้เลือกสรรอยู่ที่โซนบนของโดม ส่วนโซนล่างจะเป็นโซนเล่นเกมกระชับสายสัมพันธ์อย่างเช่น เกมมาเฟีย บอร์ดเกม หรือปาร์ตี้เกมต่างๆ ที่เหมาะสำหรับการมาเล่นในงานจำพวกนี้

คนมากมายส่วนใหญ่ต่างสวมชุดยูนิฟอร์มของโรงเรียน แน่นอนว่ามิโมโตะเราก็ใส่ชุดยูนิฟอร์มเช่นเดียวกัน จะมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้น ที่ทำตัวแปลกไปจากผู้อื่น หรือก็คือไม่ได้ใส่ชุดยูนิฟอร์มมานั่นเอง


“มิโมโตะ!~”

เสียงเรียกที่คุ้นหูดังขึ้น มิโมโตะหันไปด้านขวา ก็เจอกับหญิงสาวผมสีทะเลตัวเล็ก อยู่ในชุดเครื่องแบบเช่นเดียวกัน คนนั้นก็คือมิไรนั่นเอง

“เป็นยังไงบ้าง รูมเมทของนายน่ะ”
“อืม.. เป็นคนที่เฉื่อยชาสุดๆไปเลยล่ะ”
“เห็นมั้ยล่ะ ฉันบอกนายแล้ว.. แล้ววันนี้คิดว่าจะสู้กับใครไหมจ๊ะ ?”
“หึ”

เสียงหัวเราะในลำคอของมิโมโตะดังขึ้นมา ถึงแม้จะไม่ได้ดังมาก แต่คนที่อยู่ข้างๆอย่างมิโรก็คงได้ยินแน่นอน จากนั้นรอยยิ้มที่มุมปากของมิโมโตะก็ผุดขึ้นมา

“ไม่รู้สินะ ฉันก็คงต้องดูเชิงไปก่อน ฉันยังไม่รู้จักเลยว่าใครเป็นใคร ใครอยู่อันดับที่เท่าไหร่ ขืนไปท้าชนมั่วเอา เดี๋ยวจะเป็นผลเสียต่อตัวฉันอีก”
“นั่นสิน้า”
“พูดถึงเรื่องอันดับ.. เธอล่ะ อยู่อันดับที่เท่าไหร่ ?”
“หุหุ.. ลองทายดูสิ คิดว่าคนอย่างฉันจะอยู่อันดับที่เท่าไหร่กันน้อ”

ว่าแล้ว สายตาของมิโมโตะก็ตรวจตรามองไปทั่วร่างกายของมิไร ตั้งแต่หัวยันจรดเท้า และสายตาของเขาก็ได้ไปสบกับสิ่งที่เขาไม่ได้ให้ความสนใจมาก่อนเลย สิ่งนั้นก็คือ.. ท่อน้ำ.. ทำเอาหน้าของมิโมโตะเริ่มแหยๆไปทันที

“เดี๋ยวนะ! ทำสายตาแบบนั้นก่อนที่จะจ้องมาที่ตัวฉันแบบนี้มันหมายความว่ายังไงกัน!?”

มิไรที่โดนจดจ้องอยู่เนิ่นนาน แน่นอนว่าเป็นผู้ชายที่มาจ้องเธอ สำหรับหญิงวัยแรกแย้มอย่างเธอ ถ้าถามว่าจะไม่เขินอาย ก็คงเป็นไปไม่ได้ แต่การที่โดนทำหน้ากับสายตาแบบนั้นใส่หลังจากโดนมองเสร็จ แล้วมันดูน่าโมโหชอบกล

“อ๋อ เปล่าหรอก แค่เพิ่งสังเกตว่าตอนเธอฝึกเองก็ใช้ท่อน้ำ แถมตอนนี้เธอก็เอาท่อน้ำมาคาดเอวเอาไว้อีก.. เลยคิดว่ามันแปลกๆน่ะ”
“เห.. ช่างสังเกตไม่เบาเลยนี่ แล้วคิดว่าทำไมฉันถึงยิดติดกับท่อน้ำจังเลยล่ะ ?”
“อืม.. บอกตรงๆเลยว่าไม่รู้ แต่ถ้าให้เดา.. เพราะมันเบา ใช้งานง่าย แถมว่องไวอีกต่างหาก… มั้ง”
“นี่นายกำลังจะบอกว่าฉันเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆถือของหนักไม่ได้เรอะ!?”
“เอ่อคือ..”
“ที่สำคัญเลยนะ ถ้างั้นทำไมฉันถึงไม่ใช้มีดสั้นล่ะ มันมีประสิทธิภาพมากกว่าไอ้ท่อน้ำนี่เยอะ”
“คงเป็นเพราะเธอไม่อยากทำอันตรายคนอื่นมากจนเกินไปล่ะมั้ง”
“นี่นายเห็นฉันเป็นคนยังไงเนี่ย…”

มิไรเอามือเท้าสะเอวทั้งสองข้าง ก่อนที่จะทำหน้าบูดหน้าเบ้ใส่มิโมโตะ มิโมโตะก็ได้แต่เกาหัวแกร่กๆไม่รู้จะทำยังไงดี ในระหว่างนั้นเอง พวกเขาทั้งสองคนก็ไม่ได้สังเกตเลยว่ามีนักเรียนจำนวนกลุ่มหนึ่งได้มองมายังที่พวกเขาอยู่

“นั่นใครน่ะ ? ทำไมฉันถึงไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน”
“หรือว่าจะเป็นอีริคผู้แสนเฉื่อยชาคนนั้น ? เขามาร่วมงานแล้วเหรอ!?”
“จะบ้าเหรอ ฉันเคยเห็นไอ้อีริคนั่นมาก่อน ไอ้คนนี้ฉันเดาว่าน่าจะเป็นนักเรียนมาใหม่”
“แถมคุยสนิทชิดเชื้อกับคุณมิไรขนาดนั้น.. แม่งไม่เจียมตัวเลยนะเนี่ย”
“คุณมิไรเป็นถึงนักเรียนอันดับ 10 แห่งนิวโฮป อคาเดมี่เลยนะ.. ทำไมถึงไปคุยกับไอ้คนไม่รู้หัวนอนปลายเท้าแบบนั้นได้”

เสียงซุบซิบนินทาติฉินเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ จนคนที่โดนนินทาเริ่มรู้สึกตัวและได้ยินเข้าแล้ว

“นี่เธอคืออันดับที่ 10 เลยเหรอ..?”
“แหะๆ.. ก็อย่างที่พวกนั้นพูดมาแหละจ้า ที่ฉันใช้ท่อน้ำก็เพราะไม่ใช่อะไรหรอก ฉันโดนสั่งห้ามไม่ให้ใช้อาวุธอื่นนอกจากท่อน้ำน่ะสิ”

ทีนี้ทุกอย่างมันก็ลงตัว สิ่งที่มิโมโตะได้ยินมาทั้งหมดก็ประติประต่อได้แล้วว่าทำไมมิไรถึงใช้ท่อน้ำเป็นอาวุธแถมยังอยู่อันดับที่ 10 อีก คนอื่นๆต่างให้การยกย่องมิไรว่าเป็นผู้มีฝีมือระดับสูงในเกาะแห่งนี้ เธอสามารถใช้อาวุธอื่นๆได้อย่างมีประสิทธิภาพจนเกินไป จนต้องมีคำสั่งจากเบื้องบนให้ห้ามให้มิไรใช้อาวุธอื่น นอกจากท่อน้ำเท่านั้น ฟังดูโหดร้าย แต่คนอย่างมิไรย่อมสามารถนำท่อน้ำมาใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพเช่นเดียวกัน

“เรื่องนั้นไว้ค่อยคุยกันทีหลัง แต่ฉันว่าเราควรจะแยกกันเถอะ ก่อนที่จะมีเสียงนินทาอะไรมากกว่านี้..”
“เดี๋ยวก่อนสิ!!..”
“เห้ย ไอ้หน้าจืดนั่นน่ะ ฉันมีเรื่องจะคุยกับแก”


ทั้งสองคนหันหลังกลับไป ก็ได้เจอกับชายหนุ่มผมสีบลอนด์ หน้าตาดูคมคาย ปากของเขาใส่เหล็กดัดฟัน สวมชุดยูนิฟอร์มโรงเรียนเช่นเดียวกัน กำลังจ้องมาด้วยสายตาที่ดูแล้วค่อนข้างที่จะไม่สบอารมณ์อยู่พอสมควร ซึ่งดูจากภายหน้าก็รู้แล้วว่าหมอนี่กำลังหงุดหงิด

“กำลังพูดถึงผมเหรอครับ ?”
“แกนั่นแหละ.. กล้าดียังไงถึงทำตัวสนิทสนมกับคุณมิไรแบบนี้ ห๊ะ!!??”

ชายผมบลอนด์ขึ้นเสียงใส่ แต่มิโมโตะก็ยังคงทำหน้านิ่งอยู่เช่นเคย แต่มิไรนั้นได้ถอยไปอยู่ข้างหลังตัวของมิโมโตะเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

“ผมไม่ได้ทำตัวสนิทสนมนะครับ แค่มันเป็นการพูดคุยตามประสาคนเป็นเพื่อนกันไม่ใช่เหรอครับ ?”
“เพื่อนเหรอ.. ขนาดฉันยังไม่ใช่เพื่อนคุณมิไร แล้วแกล่ะ! กล้าดียังไงถึงมาเป็นเพื่อนคุณมิไร!! ไอ้เด็กใหม่!!”
“นั่นก็เพราะว่าคุณมิไรไม่อยากคุยกับคุณต่างหาก ดูซิ คุณทำคุณมิไรกลัวหมดแล้ว”

มิโมโตะหันหน้าไปมองมิไรที่ยืนแอบอยู่ข้างแผ่นหลังลูกผู้ชายของมิโมโตะ ก่อนที่จะยิ้มให้เล็กน้อย เหมือนเป็นการสื่อว่า ”ไม่ต้องกังวล เดี๋ยวฉันจัดการเอง” มิไรก็ได้แต่ดึงเสื้อของมิโมโตะตอบกลับไป

“ไม่จริง!! ชั้นไม่เชื่อ!! เพราะแกต่างหาก ที่ไปเป่าหูคุณมิไรไม่ให้มาคุยกับชั้น!!”
“ผมจะไปรู้ได้ไงว่าคุณคือใคร นี่เป็นครั้งแรกที่เราเจอกันนะครับ ทำตัวให้สมกับคนที่เพิ่งรู้จักกันหน่อยจะได้ไหมครับ ?”
“ไม่สน! ฉันขอท้าดวลกับแก!!! ถ้าฉันชนะ แกต้องห้ามคุยกับคุณมิไรอีกตลอดกาล!!”

ชายอารมณ์ร้อนคนนี้ได้ชี้มายังตัวมิโมโตะด้วยนี้วชี้และนิ้วกลางไขว้กัน เป็นสัญญาณแล้วว่าการท้าดวลได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว และแน่นอนว่ามิโมโตะคงไม่สามารถปฏิเสธคำท้าดวลนี้ได้

“ผมไม่สามารถปฏิเสธได้ใช่ไหมครับ ?”
“แหงดิวะ!! ใครที่โดนท้าจะไม่สามารถปฏิเสธได้อยู่แล้ว!!! หรือว่าแกกลัวงั้นเหรอ ?”
“เปล่าหรอกครับ ผมกลัวหน้าหล่อๆของคุณจะเสียโฉมเอา แต่ไม่เป็นไรครับ ฐานะของคุณก็น่าจะดีอยู่ รักษาได้ไม่ยาก”
“หนอย ปากดีนักนะแกเนี่ย ทำให้ได้อย่างที่แกพูดละกัน!!”
“งั้นผมขอทราบอันดับของคุณด้วยครับ เผื่อผมจะได้ไปอยู่อันดับที่มากกว่า 300 เสีย”
“แล้วแกจะตกใจ.. ฉันชื่อ แพททริค ซานตอส เฮอเนนเดส มาจากแม็กซิโก ฉันครองอันดับที่ 100!!”
“งั้นก็ขึ้นไปบนเวทีกลมกันได้แล้วมั้งครับ ทุกคนคงอยากรอดูอยู่”

มิโมโตะหันหลังกลับไปกล่าวคำพูดกับมิไรสั้นๆ

“รออยู่ตรงนี้แหละ เดี๋ยวฉันกลับมานะ”

สิ้นคำพูด ก่อนที่มิโมโตะจะหันหลังกลับแล้วเดินที่เวทีกลมที่ตั้งสง่าอยู่กึ่งกลางของพื้นที่งาน มิโมโตะก้าวเท้าขึ้นไปบนเวที ก่อนที่แพททริคจะก้าวท้าวตามขึ้นมา ทั้งสองจ้องหน้ากันอย่างไม่ละสายตาซึ่งกันและกัน จนกระทั่ง..

“เอาล่ะครับ ดูเหมือนเราจะได้คู่ท้าดวลคู่แรกแล้วครับ!!”

เสียงของชายหนุ่มดังขึ้น แน่นอนว่าทุกคนที่ได้ยินเสียงนี้จะรู้ทันทีเลยว่าใครคือเจ้าของเสียงนี้ ทุกคนต่างหันไปทางเดียวกันรวมถึงสองนักสู้ที่ยืนอยู่บนเวที เป็นชายที่มิโมโตะเคยเจอมาก่อนแล้ว และแน่นอนว่าทุกคนต้องรู้จักเขา ผมสีบลอนด์กึ่งเหลืองๆ รอยแผลเป็นบริเวณตา ใบหน้าอันเคร่งขรึม ปลอกแขนประธานนักเรียน เขาก็คือ คริสเตียน เบนซ์ นั่นเอง เขากำลังเดินมาจากโซนเล่นเกมที่เขาทำหน้าที่อยู่ตรงนั้นก่อนหน้านี้พร้อมกับไมโครโฟนไร้สาย ที่เชื่อมต่อไปทุกๆลำโพงทั่วทั้งโดม

“ผมคริสเตียน เบนซ์ จะทำหน้าที่เป็นพิธีกรและเป็นคนพากย์ไปในตัว”
“การดวลต่อไปนี้จะเป็นการดวลกันระหว่าง! แพททริค ซานตอส เฮอเนนเดส จากอันดับที่ 100!! เจอกับนักเรียนหน้าใหม่อย่าง มิโมโตะ จากอันดับที่ 300!!”
“ถ้ามิโมโตะชนะเขาจะได้สลับอันดับกับแพททริค!! แต่ถ้าแพททริคชนะ! มิโมโตะจะไม่สามารถมีบทสนทนากับคุณมิไรได้อีก!!”
“เฮ!!!”

แล้วก็มีเสียงเชียร์จากนักเรียนหรือผู้ชมรอบๆเวที เหมือนถูกใจที่มีการดวลเกิดขึ้นแล้ว พร้อมกับเงื่อนไขต่างๆที่ทำให้ชายหนุ่มทั้งหลายยินดีมากขึ้นไปอีก

“ผมจะย้ำอีกรอบหนึ่งเรื่องกฎการดวล! ใครที่เข่าตกถึงพื้นเวทีทั้งสองข้าง หรือ! ใครที่หล่นจากเวทีนี้ไปถือว่าเป็นผู้แพ้ทั้งคู่!!”
“พอผมให้สัญญาณ นั่นแหละพวกคุณทั้งสองจึงจะสามารถเริ่มการดวลนี้ได้!!”
“พวกคุณพร้อมกันใช่มั้ยครับ ?”

คริสเตียนหันไปหาแพททริคเพื่อยืนยันความพร้อม

“พร้อมที่จะเตะตูดไอ้หน้าใหม่นานแล้วเว้ย!!!”

คริสเตียนหันกลับมาทางมิโมโตะ แต่มิโมโตะแค่พยักหน้าเป็นสัญญาณเท่านั้น ไม่ได้กล่าวคำพูดอะไรออกมา

“โอเคครับ เห็นสายฟ้าเลข 3 ที่ลอยอยู่บนมือผมนี้ไหมครับ ? มันจะค่อยๆเปลี่ยนถอยหลังไปเรื่อยๆ เป็นเลข 2 เลข 1 แล้วก็ 0… เมื่อไหร่ที่ถึง 0 เมื่อนั้นแหละครับ ที่คุณจะสามารถเริ่มการดวลนี้ได้”

เสียงที่เคยอื้ออึงไปทั่วโดมนี้ หลังจากสิ้นคำพูดของคริสเตียน ก็เหมือนมีอะไรมาดลใจทำให้พวกเขานั้นเงียบลง เพื่อเป็นการทำให้ทั้งสองคนที่อยู่บนเวทีนั้นมีสมาธิในการสังเกตเต็มที่ คริสเตียนพอเห็นดังนี้ เหมือนเป็นสัญญาณว่าได้เวลาเริ่มการนับถอยหลังแล้ว ตัวเลขสายฟ้าที่ลอยอยู่บนมือของคริสเตียนค่อยๆลดลงทีล่ะหนึ่ง จากสามก็เปลี่ยนเป็นสอง จากสองก็เปลี่ยนเป็นหนึ่ง หัวใจของทุกคนต่างเต้นแรง เต็มไปด้วยความตื่นเต้นที่จะได้เห็นการดวลครั้งแรกของวันนี้แล้ว ทุกคนแทบจะหยุดหายใจพร้อมๆกัน

จากหนึ่ง.. เปลี่ยนเป็นศูนย์!

“การดวลหนึ่งต่อหนึ่ง เริ่มได้!!!”

เสียงของคริสเตียนให้สัญญาณ แต่แน่นอนว่าตอนที่เขาพูด มันจะต้องดีเลย์กว่าการที่สังเกตเห็นตัวเลขด้วยตาอยู่แล้ว แพททริคยื่นมือขวาออกไปพร้อมกับมีลมดูดบางสิ่งบางอย่างออกจากฝ่ามือของเขา สิ่งที่เขาเล็งไปก็คือโครงเหล็กของโดมนี้ เขาดูดสิ่งที่เรียกว่าสสารของเหล็กมา จนกระทั่งมันเข้ามาอยู่ในตัวของเขา จนทำให้มือขวาของแพททริคเปลี่ยนไปเป็นแขนเหล็กเป็นที่เรียบร้อย

“ดูให้ดีซะ นี่คือพลังของฉัน!! พลังดูดสสาร!!”

ว่าแล้ว ตัวแพททริคก็พุ่งเข้าไปหามิโมโตะหวังว่าจะฟาดคอด้วยแขนเหล็ก แต่มิโมโตะไหวตัวทัน ย่อตัวก้มหลบแขนเหล็กของแพททริคได้ ก่อนที่จะบิดตัว เตะเข้าไปที่ท้องของแพททริค จนทำให้ตัวรูปหล่อแบดบอยอย่างแพททริคเซถอยหลังไปนิดๆ มิโมโตะเงื้อขาขึ้นข้างบนแล้วพยายามจะเตะกดลงไปที่ท้ายทอย แต่แพททริคสวนกลับไปด้วยแขนเหล็ก ทำให้มิโมโตะเจ็บตรงส้นเท้าเสียเอง ก่อนที่แพททริคจะปัดทิ้ง ทั้งคู่กลับมายืนจ้องหน้ากันเหมือนเดิม

“ไม่เลวเลยนี่!! สำหรับไอ้หน้าใหม่อย่างแกที่ยังยืนอยู่ได้!! เมื่อกี๊นี้ฉันแค่ต่อให้ก่อน แต่จากนี้ไปจะเป็นของจริง!!”

แพททริคพูดขึ้น หลังจากนั้นแขนซ้ายของเขาก็กลายเป็นเหล็ก ขาซ้ายก็เริ่มแปรสภาพเป็นเหล็ก ขาขวาของเขาก็กลายเป็นเหล็กเป็นที่เรียบร้อย ตอนนี้เรียกได้ว่าอาวุธทางร่างกายในมนุษย์ของเขา ได้เปลี่ยนจากกระดูกกล้ามเนื้อธรรมดาๆ เป็นเหล็กเสียแล้ว แน่นอนว่าความเสียหายที่สร้างได้มันต่างกันเยอะ

แพททริคชาร์จเข้าไปอีกครั้ง คราวนี้ชาร์จเข้าไปหวังแทงเข่าก่อน แต่มิโมโตะมีปฏิกิริยาตอบโต้ที่เร็วในระดับหนึ่ง เขากระโดด ก่อนที่จะเหยียบเข่าขวาของแพททริคที่กำลังจะแทงมา เป็นแรงเหวี่ยง ทำให้มิโมโตะกระโดดข้ามตัวของแพททริคไปได้ แพททริคหันกลับมามองด้วยความประหลาดใจ ก่อนที่มิโมโตะจะยื่นมือขวาออกมา แล้วมีคลื่นบางอย่างเข้ามากระทบที่แขนขวาของแพททริค

มิโมโตะกลับลงมายืนได้อย่างสวยงาม ย่อเข่าลงเพื่อลดแรงกระแทกย้อน แพททริคหันตัวกลับมาก็ต้องพบกับความประหลาดใจอีกครั้ง

“ทำไมแขนขวาของฉันถึงกลับมาเป็นแขนปกติไปได้!! นี่แกทำอะไรกับแขนของฉัน!!”

แพททริคโวยวาย แน่นอนว่าสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้านี้สร้างความประหลาดใจให้แก่ทุกๆคนทื่รับชมอยู่ แม้กระทั่งตัวคริสเตียน หรือตัวมิไรที่ยืนดูด้วยความเป็นห่วง ก็อดที่จะประหลาดใจกับสิ่งทีเกิดขึ้นตรงหน้านี้ เสียงฮือฮาเริ่มดังขึ้นอีกครั้ง หลังจากที่เพ่งสมาธิดูกันอยู่นาน

“แล้วคิดว่ามีแต่คุณที่เอาจริงได้งั้นเหรอ.. ผมก็เอาจริงของผมได้เหมือนกัน”
“ตอนแรกกะว่าจะไม่ใช้แล้วนะ.. แต่แบบนี้มันก็เกินไปหน่อย”
“อย่าบอกนะว่า พลังของแกคือการลบล้างพลังของคนอื่นได้น่ะ!! บ้าไปแล้ว!!”
“จะพูดอย่างนั้นมันก็ได้อยู่หรอก.. แต่อย่าลืมสิว่านี่เรากำลังทำอะไรกันอยู่!!”

มิโมโตะพุ่งเข้าไปหาตัวแพททริคอีกที ซึ่งเป็นช่วงที่แพททริคกำลังเผอเรอ ก่อนที่ในระหว่างการพุ่งนั้นมิโมโตะได้กางมือสองมือก่อนที่จะเล็งคลื่นไปที่ส่วนขาของแพททริค จนทำให้ขาของแพททริคนั้นกลับมาเป็นขามนุษย์ปกติทั่วไปอีกครั้ง มิโมโตะถึงระยะประชิดกับตัวของแพททริคแล้ว ก็ใช้มือซ้ายจับไปที่แขนเหล็กข้างซ้ายของแพททริค ก่อนที่มันจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมอีกครั้ง ส่วนมือขวาเขาก็กำแล้วต่อยไปที่ท้องของแพททริค แต่ทว่าเป็นมิโมโตะที่ต้องสะบัดมือด้วยความเจ็บปวดเสียงอย่างนั้น

“ท้องของฉันมันกลายเป็นเหล็กตั้งนานแล้วเว้ย!! ไอ้โง่!!”

แล้วแพททริคก็ใช้ศอกตีไปลงบนหลังของมิโมโตะ จนมิโมโตะทรุด แต่ยังไม่มีเข่าข้างใดตกถึงพื้น แพททริคเปลี่ยนขาขวาของเขาเป็นเหล็กอีกครั้ง ก่อนที่จะเตะไปทีท้องของมิโมโตะ จนมิโมโตะกระเด็นเซออกมาจนอยู่ติดขอบของเวทีแล้ว

“แก!! ไปตายซะ!!”

แพททริคเปลี่ยนทั้งตัวของเขาให้กลายเป็นเหล็กทั้งหมด ก่อนที่จะทำการชาร์จครั้งสุดท้าย เข้าไปหามิโมโตะที่ยืนจุกอยู่ขอบเวที มิโมโตะยังคงกุมท้องอยู่ ในขณะที่แพททริคก็ชาร์จเข้ามาจะถึงแล้ว เป็นสิ่งที่แพททริคได้คำนวณเอาไว้แล้ว เพราะว่าการโดนเท้าเหล็กเตะใส่ที่ท้องมันเจ็บและจุกไม่ใช่เล่นๆ ยังไงก็ไม่มีทางที่จะหายเจ็บได้ทันท่วงทีหรอก

แพททริคใช้ไหล่ซ้ายเข้ากระแทกส่วนแขนขวาก็ชาร์จไปที่ท้องบริเวณเดิม แต่มิโมโตะกลับสามารถใช้แขนขวาล็อคคอของแพททริคเอาไว้ได้ ส่วนแขนซ้ายเขาสามารถจับเอาแขนขวาวางไว้บนตัวของเขาได้ ก่อนที่จะทำการยกแบกขึ้นไป ก่อนที่จะทิ้งไปข้างหลัง ซึ่งเป็นบริเวณนอกเวทีเรียบร้อยแล้ว ทำให้ตัวของแพททริคลงไปนอนแผ่อยู่บนพื้น ส่วนมิโมโตะยังคงมีขาอยู่บนเวทีบ้าง

“โอ้ววววว!! ผมรู้จักท่านี้ครับ! เป็นศิลปะประเภทมวยปล้ำ เขาเรียกกันว่าท่า Suplex นะครับ!!!”

เสียงของคริสเตียนดังขึ้นด้วยความตื่นเต้น แน่นอนว่าพร้อมกับเสียงฮือฮาอีกครั้งของผู้ชม

“และด้วยท่า Suplex นี้ทำให้ผู้ชนะในการดวลหนึ่งต่อหนึ่งครั้งนี้ได้แก่…!!”

“คุณมิโมโตะนั่นเองครับ!!!”
ขึ้นไปข้างบน Go down
 
MoBA : ตอนที่ 4
ขึ้นไปข้างบน 
หน้า 1 จาก 1
 Similar topics
-
» MoBA : ตอนที่ 1
» MoBA : ตอนที่ 2
» MoBA : ตอนที่ 3
» MoBA : ตอนที่ 5
» MoBA : ตอนที่ 6

Permissions in this forum:คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
Bloody Wrestling Online :: BWO : Special Event :: BWO Novel-
ไปที่: