ตอนที่ 5
สิ้นเสียงบทพากย์ของประธานนักเรียนผมสีบลอนด์กึ่งออกเหลืองๆนามว่าคริสเตียน ทุกคนต่างเหมือนตกอยู่ในภวังค์ ไม่มีใครส่งเสียงใดๆออกมา สายตาของทุกคนจับจ้องไปที่บุคคลคนเดียวที่กำลังชันเข่าพยุงตัวเองให้ลุกขึ้นมา เสียงลมหายใจหอบสามารถได้ยินจากตัวมิโมโตะได้ ในขณะที่ทุกคนกำลังตกอยู่ในภวังค์จนกระทั่งสาวนามมิไรคนเดิม ตัดสินใจที่จะปรบมือ จนทำให้คนอื่นต้องปรบมือตามอย่างช่วยไม่ได้ เสียงในโดมเต็มไปด้วยเสียงปรบมือ พร้อมไปกับเสียงตะโกนสรรเสริญชื่นชม
“ไอ้เด็กใหม่นี่ไม่ใช่เล่นๆเลยว่ะ!!”
“เจ๋งงงง!! แม่งตบเกรียนไอ้แพททริคซะงิดเลยว่ะ!! ฉันหมั่นไส้มันมานานแล้ว!!”
“เหยดดดดด!!”
และเสียงสรรเสริญอีกมากมาย เหมือนทุกคนต่างหมั่นไส้กับตัวแพททริคมามากพอแล้ว มีเพียงส่วนของกลุ่มเพื่อนของแพททริคเท่านั้นที่ทำหน้าหงุดหงิดจิตหงุดเงี้ยว มิโมโตะที่ยืนอยู่นั้นก็ได้แต่ทำหน้านิ่งเหมือนเดิม ก่อนที่เขาจะหันไปหาแพททริคที่นอนกุมหลังอยู่
“อันดับที่ 100 ของคุณน่ะ.. ผมขอรับไปแล้วกัน”
สิ้นคำพูด มิโมโตะได้ก้าวลงจากเวทีก่อนที่จะเดินไปหาตัวมิไรที่ยังคงยืนอยู่บริเวณเดิมที่เขาได้บอกมิไรไว้ให้รออยู่ที่เดิม มิไรยืนรอพร้อมกับรอยยิ้มก่อนที่จะปรบมือเล็กๆน้อยๆ
“ว้าว.. เธอนี่ฝีมือไม่ใช่เล่นๆเลยนะเนี่ย”
“ขอบใจนะ”
“นี่เธอจะมาแย่งอันดับ 10 จากฉันไหมเนี่ย ไม่เอานะ ไม่เอาน้า”
“ไม่หรอก ที่สำคัญในตอนนี้คือ เจ้านั่นมันไม่มีทางยอมฉันง่ายๆแน่นอน”
“ก็รู้ดีนี่หว่า!!!”
เสียงที่ฟังดูแล้วเคียดแค้นและไม่ยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้น มิโมโตะหันหลังไปเขาก็ได้เจอกับแพททริคที่ร่างกายทั้งหมดแปรสภาพกลายเป็นเหล็กทั้งหมดแล้ว ก่อนที่จะใช้แรงเฮือกสุดท้ายที่ตัวแพททริคมีพุ่งชาร์จเข้ามา แต่ทว่ามิโมโตะย่อตัวลงก่อนที่จะจับตัวแพททริคแบกขึ้นแล้วโยนทุ่มลงไป คนอื่นๆในละแวกนั้นแทบจะหลบกันไม่ทัน ส่วนชายหัวร้อนอย่างแพททริคก็ได้นอนกุมหลังอีกหนึ่งครั้ง
“ไม่ยอมรับความพ่ายแพ้งั้นหรือครับ ? ใช้ไม่ได้เลยนะครับ คุณแพททริค”
“หนอยแหนะ แก…”
“เอ้าๆ พอได้แล้ว หัดมีน้ำใจนักกีฬากันบ้างหน่อย”
เสียงชายหนุ่มนี้ก็ไม่ใช่ของใครอื่น นอกจากท่านประธานคริสเตียนที่เดินเข้ามาในบริเวณที่เกิดเหตุ ก่อนที่จะก้มลงมองดูแพททริคที่นอนกุมหลังอยู่
“ฉันไม่ยอมหรอกเว้ย!! แม่งก็แค่ฟลุ๊คเท่านั้นแหละ!! อย่าได้ใจไปหน่อยเลย!!”
“นี่คุณยังไม่ยอมรับความพ่ายแพ้อีกเหรอ.. อย่าให้ผมต้องใช้พลังจัดการกับคุณนะครับ”
คริสเตียนพูดขึ้นด้วยรอยยิ้มที่ดูๆแล้วเต็มไปด้วยรังสีอาฆาต ก่อนที่จะแบมือขึ้นมา ลูกบอลสายฟ้าเล็กๆส่องเป็นประกายควบคู่ไปกับเสียงช็อตเล็กๆน้อยๆ
“แกคิดว่าฉันจะสู้แกไม่ได้จริงๆเรอะ!? มาสิ! ไอ้คุณประธานนักเรียน!!”
แพททริคยันตัวลุกขึ้นมา ก่อนที่จะพุ่งเข้าไปหาตัวของคริสเตียน แต่เจอคริสเตียนจับดึงแขนของเขามาก่อนที่จะใช้มือขวาของเขาจับไปที่สะเอวของแพททริคก่อนที่จะเกิดการช็อตเกิดขึ้น ร่างกายของแพททริคสั่นสะท้างไปทั้งตัว ก่อนที่จะหมดสติแล้วล้มลงไป
“อิล เอาเจ้านี้ไปเก็บหน่อยสิ”
ชายที่ถูกเรียกว่า อิล ได้เดินเข้ามาหลังจากที่ยืนอยู่ที่แถวหลังเป็นระยะเวลาพอสมควร เขาเป็นชายที่มีผมตรงสีดำยาว ดวงตาโตสีเลือดหมู หน้าตามาดนิ่งทุกอย่างของเขาดูนิ่งสงบเหมือนดั่งหินผา แน่นอนว่าอยู่ในชุดยูนิฟอร์มเหมือนทุกๆคน เขาสบตากับมิโมโตะ ก่อนที่จะก้มลงไปแบกตัวแพททริคแล้วหันหลัง เดินแบกตัวของแพททริคกลับไป
“โทษทีนะ ที่เกิดความวุ่นวายแบบนี้ ต้องขอโทษด้วย”
“ไม่เป็นไรหรอก อย่างน้อยมาแค่วันแรกฉันก็ได้อันดับ 100 ไปนอนกอดเล่นแล้ว แถมดูเหมือนคนจะพอใจที่เขาโดนอัดเละซะขนาดนั้นด้วย”
“ก็คงไม่แปลกหรอก ด้วยนิสัยของแพททริคแล้ว จะหาใครชอบมันยากอยู่แล้ว นอกเสียจากแก๊งอันธพาลของพวกมันนั่นแหละ”
หลังคริสเตียนพูดจบ สายตาของเขาก็เหล่ไปทางกลุ่มแก๊งอันธพาลที่ว่า มิโมโตะกับมิไรได้หันตามไป ในวงนั้นมีอยู่ด้วยกัน 3 คน ล้วนแล้วแต่หน้าตาไม่เป็นมิตรทั้งนั้น และดูเหมือนว่าสมาชิกในกลุ่มดังกล่าวนั้นจะรู้สึกตัว ทั้งหมดเลยมองหน้ากันเอง ก่อนที่จะตัดสินใจเดินออกไปจากโดมปาร์ตี้แห่งนี้
“กลุ่มนั้นสินะ..”
“อืม กลุ่มนั้นแหละ เป็นกลุ่มอันธพาลที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในโรงเรียน เนื่องจากว่าพวกมันเคยก่อคดีอะไรหลายๆอย่างจนมีประวัติไว้อยู่ในบันทึกของโรงเรียนเป็นที่เรียบร้อย”
“อย่างนี้นี่เอง.. แล้วไงต่อล่ะทีนี้ ฉันจะกลายเป็นอันดับที่ 100 แทนแพททริคงั้นเหรอ ?”
“ก็อย่างที่นายว่ามานั่นแหละ พูดตรงๆฉันก็เพิ่งเคยเห็นนักเรียนใหม่เข้ามาแล้วโผล่มาอันดับที่ 100 ได้ภายในเวลาวันเดียว ไม่ธรรมดาเลยนะ”
“เอ่อ.. จะชมกันมากเกินไปแล้วมั้งครับ”
“ไม่หรอก! อย่างเธอนะมิโมโตะ คงใช้เวลาอีกแค่ไม่กี่เดือนก็คงไต่มาถึงอันดับที่ 50 แล้วล่ะ เชื่อฉันสิ!!”
มิไรที่ยืนฟังอยู่นมนาน ได้เอามือกอดอกขึ้นก่อนพร้อมยืดอกเหมือนกับพยายามจะบอกว่าให้เชื่อในคำพูดของตัวเธอว่าอีกไม่นานเกินรอ มิโมโตะจะขึ้นมาอยู่ที่อันดับ 50 ในไม่ช้า
“และถ้าถึงวันนั้น.. ฉันจะท้านายสู้เอง!!”
มิไรพูดขึ้นก่อนที่จะขยิบตาพร้อมฉีกยิ้ม ใบหน้าของเธอนั้นเปรียบเสมือนเด็กสาวไร้เดียงสาที่จะอยู่ในอ้อมกอดของพ่อแม่ สองนิ้วที่เธอชูขึ้นมาแสดงร่วมกับใบหน้าดังกล่าวนั้น ไม่ว่าใครจะมาเห็นก็คงอดยิ้มไม่ได้ แถมมือที่เท้าสะเอวนั่นอีกต่างหาก
“อืม ฉันเองก็อยากจะรู้เหมือนกันว่า ผู้ใช่ท่อน้ำ ฝีมือจะเจ๋งอย่างที่เขาว่าหรือเปล่า”
มิโมโตะก็ไม่สามารถฝืนรอยยิ้มที่ผุดขึ้นมาบนใบหน้าของเขาได้ เช่นเดียวกับคริสเตียนที่มองอยู่เหมือนกัน
“ฮี่ๆ.. ถ้างั้นล่ะก็ไปสนุกกับงานปาร์ตี้กันต่อเถอะ!!”
-------------
“มิโมโตะครับ ยินดีที่ได้รู้จักครับ”
สถานที่ที่มิโมโตะกำลังยืนอยู่นั้นเป็นแท่นสีฟ้าขนาดใหญ่พอสมควร เหนือตัวของเขามีทีวีจอแบนที่กำลังโชว์ตัวอักษรเป็นภาษาอังกฤษว่า “Mimoto” ข้างๆตัวของเขาคือโต๊ะทำงานที่มีชายในเสื้อเชิ้ตสีขาวพร้อมกับกางเกงขายาวสีดำกำลังนั่งยิ้มอย่างเริงร่าอยู่บนเก้าอี้ ส่วนด้านหน้าของมิโมโตะก็คืออัฒจันทร์เรียงรายกันไป ที่เต็มไปด้วยนักเรียนในชุดยูนิฟอร์มของนิวโฮป นั่งกันอยู่เนืองแน่น
ถ้าจะให้อธิบายให้ถูกก็คือ สถานที่นี้คือห้องเรียนที่บรรจุคนได้ถึง 300 นิดๆด้วยกัน แต่ล่ะคนจะมีแผ่นสีดำรองอยู่บนโต๊ะ เพื่อไว้ใช้สำหรับในการจดเสียส่วนใหญ่ เบาะรองนั่งก็เป็นเบาะอันนุ่มนิ่มสีน้ำเงินเพื่อให้เข้ากับสีของโต๊ะที่เป็นสีฟ้าอ่อน ส่วนตัวเพดานก็มีสีเช่นเดียวกับโต๊ะยาวดังกล่าว เสียงฮืฮฮา ซุบซิบ ก็ดังขึ้นอีกครั้งหลังจากกการแนะนำตัวของมิโมโตะ ที่เปรียบเสมือนเป็นนักเรียนหน้าใหม่ แถมยังประกอบกับเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นในงานปาร์ตี้เมื่อวานนั่นอีก ทำให้ชื่อของเขาก็แทบจะผ่านหูทุกๆคนในเกาะนี้มาแล้ว
“เอ้า เงียบๆกันหน่อย!! คุณมิโมโตะ เชิญไปนั่งที่ของคุณได้เลยครับ”
“ครับ ขอบคุณครับ”
ชายในเสื้อเชิ้ตสีขาวที่เมื่อสักครู่นี้ยังนั่งยิ้มอย่างสบายใจเฉิบ ได้ลุกขึ้นมาก่อนที่จะเงื้อมือเชิญให้มิโมโตะกลับไปนั่งในที่นั่งของเขา ซึ่งก็คือชั้นล่างสุดของอัฒจันทร์หรือพูดอีกนัยหนึ่งก็คือหน้าสุด ใกล้ชิดกับแท่นเวทีมากที่สุด
ชายในเสื้อเชิ้ตสีขาวเดินมาที่บริเวณตรงกลางของแท่น ก่อนที่จะจัดแจงเสื้อผ้าหน้าผมเล็กๆน้อยๆ สีผมของเขาเป็นสีดำ ทรงผมแสกกลางก่อนที่จะมีผมเลยยาวมาถึงตรงประมาณประบ่า เขาหยิบสิ่งของในกระเป๋ากางเกงขวาของเขาออกมาก็คือรีโมทคอนโทรลเล็กๆ ก่อนที่เขาจะเริ่มพูดออกมา
“ยังไงก็คงมีนักเรียนที่ยังไม่เคยเห็นหน้าฉันอยู่เหมือนกัน ก็คงจะขอแนะนำตัวให้ได้รู้จักก่อน”
“ฉันชื่อไลท์ โอเรกิ เป็นอาจารย์ของนิวโฮป อคาเดมี่”
“นี่เราก็เพิ่งเปิดภาคเรียนของปีนี้ไปได้แค่ 1 สัปดาห์เองเท่านั้น น่าจะยังมีคนที่ยังไม่รู้อะไรเกี่ยวกับแรงค์กิง ซิสเต็มนี่แน่นอน”
“ดังนั้นฉันจะอธิบายให้ฟัง ส่วนคนที่รู้แล้วก็ถือว่าเป็นการทบทวนละกัน”
อาจารย์ไลท์ได้ยกมือขวาที่ถือรีโมทขนาดเล็กอยู่ กดโดยเล็งไปยังทีวีด้านหลัง ภาพที่ปรากฏจากตอนแรกเป็นชื่อตัวอักษรภาษาอังกฤษของมิโมโตะ ก็เปลี่ยนเป็นคำว่า Ranking System ทันที
“แรงค์กิง ซิสเต็มอันนี้อย่าเอาไปจำสลับกับอันดับของปาร์ตี้เสียล่ะ.. มันคนล่ะอันกันนะ”
“อันดับปาร์ตี้นั้นจะมีผลในตอนท้ายสุดของแรงค์กิง ซิสเต็ม”
“แรงค์กิง ซิสเต็ม เป็นระบบที่ใช้สำหรับการจบการศึกษาจากนิวโฮป อคาเดมี่ ในช่วงท้ายสุดแล้วนักเรียนที่อยู่ในแรงค์กิง 1-10 เท่านั้นที่มีโอกาสในการจบการศึกษา”
เสียงฮือฮาดังขึ้นอีกครั้ง แน่นอนว่าเสียงฮืฮฮาส่วนใหญ่นั้นจะต้องมาจากนักเรียนปีหนึ่ง ที่เพิ่งเข้ามาในโรงเรียนนี้ได้ไม่นานนัก รวมถึงตัวมิโมโตะเองด้วย
“ในแต่ล่ะวันของการเรียน เราจะทำสิ่งที่เรียกว่า การเก็บแรงค์กิง พอยท์ หรือเรียกอีกอย่างก็คือ แรงค์กิง เควส จะแตกต่างกันไปในแต่ล่ะวันหรือจะเหมือนกันก็ได้ แล้วแต่การตัดสินใจของอาจารย์”
“ซึ่งในตอนนี้ผ่านมาหนึ่งสัปดาห์แล้ว ถ้าอยากจะดูแรงค์กิงของตนเองว่าอยู่ตรงไหน ก็ให้หยิบ พีดีเอ ที่ทางโรงเรียนแจกให้ ของแต่ล่ะคนขึ้นมาดูเอา”
แน่นอนว่าทุกๆคนที่ได้ยินเสียงนี้จะต้องปฏิบัติเหมือนกัน นั่นก็คือนำมือล้วงเข้าไปในกระเป๋า ก่อนที่จะหยิบสิ่งที่เรียกว่า พีดีเอ ออกมา แล้วกดเข้าไปในส่วนของ แรงค์กิง ซิสเต็ม”
“ถ้าสนใจจะดูอันดับปาร์ตี้ก็ได้นะ อยู่ข้างๆแรงค์กิงนั่นแหละ”
มิโมโตะเองก็นำพีดีเอขึ้นมาดูเช่นเดียวกับคนอื่นๆ เขากดเข้าไปในส่วนของอันดับปาร์ตี้ มีคำอธิบายเล็กๆน้อยๆ ก่อนที่เขาจะเลื่อนลองไล่หาชื่อของเขาดู อันดับปาร์ตี้นั้นมีการอัพเดทเรียบร้อยแล้ว ชื่อของเขาไปปรากฏอยู่ในอันดับที่ 100 ส่วนชื่อของแพททริค อยู่ในอันดับบ๊วยหรือก็คืออันดับที่ 300
หลังจากนั้นเขาก็เปลี่ยนเข้าไปในส่วนของแรงค์กิง ซิสเต็ม มีคำอธิบายเกี่ยวกับตัวของแรงค์กิง ซิสเต็มนี้พอสังเขป ก่อนที่จะเข้าสู้แรงค์กิงของแต่ล่ะคน ณ ปัจจุบันคนที่ครองแรงค์กิงอันดับ 1 เป็นคนที่ทุกๆคนย่อมรู้จัก คริสเตียน เบนซ์ ประธานนักเรียนคนปัจจุบัน แน่นอนว่าอันดับท้ายสุดก็คงไม่ใช่ใครอื่นนอกเสียจากตัวมิโมโตะเอง ที่คะแนนแรงค์กิงเป็น 0
“เอาล่ะ.. เช็คแรงค์กิงของตัวเองแล้วใช่ไหม เรามาเข้าเรื่อง แรงค์กิง เควสของวันนี้ดีกว่า”
“แรงค์กิง เควสในวันนี้ ได้แก่…”
“เกมชิงธง หรือที่เราเรียกกันว่า แคปเจอร์ เดอะ แฟล็ก นั่นเอง!!”
ก่อนที่ภาพบนหน้าจอทีวีจะเปลี่ยนไปเป็นคำว่า Capture the Flag อีกครั้ง