หลังจากที่รับคำท้า รู้ตัวอีกทีมาคิโนะก็มาอยู่ที่นี่แล้ว
มันเป็นลานกว้างขนาดย่อม โดยรอบเต็มไปด้วยเครื่องเล่นสำหรับเด็กชนิดต่างๆ อย่างเช่น ชิงช้า ม้าหมุน บ่งบอกอย่างชัดเจนว่าที่นี่คือสนามเด็กเล่น
สถานที่ซึ่งเปรียบเสมือนสวนสนุกขนาดย่อมของเด็กๆ
ไม่จำเป็นต้องเสียค่าเข้าเล่น ไม่ว่าใครก็สามารถเข้าออกที่นี่ได้อย่างอิสระ
แต่ด้วยเวลาที่ค่อนข้างเย็นมากแล้ว จึงไม่มีใครเลยอยู่บริเวณนี้เลย เด็กๆคงถูกคุณพ่อคุณแม่ตามกลับบ้านกันหมด มีเพียงมาคิโนะกับริคาโกะที่อยู่ที่นี่ รวมทั้ง AG ของทั้งคู่อย่างรินและมาเรีย
“รู้ใช่ไหมว่าทำไมฉันถึงให้นายถ่อมาถึงที่นี่?”
ริคาโกะพูดขึ้นท่ามกลางบรรยากาศอันเงียบสงบของสนามเด็กเล่นในช่วงเวลานี้ หลังจากที่มาคิโนะและริคาโกะตกลงกันเรื่องการต่อสู้เสร็จ เธอก็พามาคิโนะมาจนถึงสนามเด็กเล่นแห่งนี้ซึ่งกว่าจะเดินมาถึงถือว่าเป็นระยะทางที่ค่อนข้างไกลพอสมควร
“ที่ๆเรามาเล่นด้วยกันบ่อยๆตอนเด็กนี่?”
“อ๊ะ!!”
เมื่อมาคิโนะตอบดังนั้น ริคาโกะก็อึ้งไปชั่วขณะ
ราวกับคาดไม่ถึงกับคำตอบของมาคิโนะ
แต่ถ้าคำตอบของมาคิโนะเป็นอีกแบบ เธอก็คงจะมีปฏิกิริยาประมาณว่า ‘นี่นายไม่รู้ได้ไงเนี่ย’ หรือ ‘นายมันน่าโมโหชะมัด’ อะไรทำนองนี้
“เป็นอะไรไป?”
มาคิโนะถามเมื่อเห็นริคาโกะเงียบไปแบบนั้น คำถามของเขาทำให้ริคาโกะหันหน้าไปอีกทาง พลางใช้นิ้วชี้ม้วนผมสีแดงทับทิมของตน
“กะ... ก็เปล่านี่? แค่แปลกใจที่นายยังจำได้”
“อ้าว ก็ฉันไม่ได้ความจำเสื่อมนี่นา?”
มาคิโนะตอบหน้าซื่อ
“ตอนนั้นเธอก็ชอบให้ฉันแกว่งชิงช้าให้อยู่นั่นแหละ”
“ฉะ... ฉันไม่ได้ชอบซะหน่อย ก็ตอนนั้นฉันอยากเล่นแล้วมีแค่นายที่อยู่ตรงนั้นก็ต้องให้นายแกว่งให้สิ!! ตะ... แต่เรื่องนั้นช่างมันก่อนเถอะน่า มาสู้กันได้แล้ว”
ริคาโกะพูดตัดบท พลางหยิบแว่นตารูปร่างประหลาดขึ้นมา มันมีรูปร่างเหมือนกับแว่นตาที่มาคิโนะเห็นในโทรทัศน์ช่วงโปรโมทการประลอง AG Battle ไม่มีผิด
นั่นคงเป็นอุปกรณ์สำคัญที่จำเป็นต้องใช้ในการประลองแน่ๆ
“ใส่ AG Vision ได้แล้ว”
ริคาโกะกล่าวพร้อมสวมใส่แว่นตาทรงประหลาดนั้น มาคิโนะยืนมองเธอ มาเรียก้าวขึ้นมายืนอยู่ตรงหน้าริคาโกะแล้ว ดูเหมือนทั้งริคาโกะและมาเรียพร้อมที่จะสู้เป็นที่เรียบร้อย
แต่มาคิโนะก็ยังคงยืนนิ่ง รวมทั้งรินเองก็เช่นกัน
“เฮ้อ นายคงไม่รู้จัก AG Vision สินะ”
แม้มาคิโนะจะไม่ได้พูดอะไร แต่เหมือนริคาโกะจะรู้ดี
“AG Vision ก็คือแว่นตาพิเศษที่สร้างภาพโฮโลแกรมสำหรับเป็นสนามประลองของ AG ยังไงล่ะ คนที่ไม่ได้ใส่ AG Vision ก็จะมองไม่เห็นการต่อสู้ ดังนั้นผู้ที่จะร่วมชมการต่อสู้ก็ต้องสวมแว่นตานี้ด้วย”
ริคาโกะอธิบายยาวเหยียด
“เข้าใจแล้วนะ เอาล่ะ ใส่ AG Vision ได้แล้ว”
แม้ริคาโกะจะอธิบายขนาดนั้น แต่มาคิโนะก็ยังยืนนิ่งอยู่ สีหน้าของเขาไม่ได้แสดงออกว่าเขากำลังคิดอะไรหรือรู้สึกอะไรอยู่ ทำให้ริคาโกะเริ่มมีท่าทีหัวเสีย พลางคิดว่าเพราะเธออธิบายไม่เข้าใจ หรือเพราะอะไรกันแน่
“นี่หรือว่านายไม่มี AG Vision หรอเนี่ย? ทุกคนที่เป็นเจ้าของ AG ต้องมีกันหมดทุกคนนะ ถามจริงเถอะนายไปเอา AG มาจากไหนกันแน่? ไปขโมยมาหรือไง?”
“เรื่องนั้นไม่สำคัญหรอก”
“จะไม่สำคัญได้ยังไงกันล่ะ? การขโมย AG ก็มีความผิดทางกฎหมายเหมือนกันนะ”
ดูเหมือนการสนทนาระหว่างเพื่อนสมัยเด็กจะไม่ค่อยราบรื่นนัก เมื่อเป็นเช่นนั้นรินซึ่งเงียบมาตลอดหลังจากที่มาอยู่ที่นี่จึงพูดออกมาบ้าง
“อย่าว่ามาสเตอร์เลยนะคะ มาสเตอร์ไม่ได้ขโมยฉันมาจากที่ไหนหรอก”
“แล้วเธอรู้ได้ยังไง?”
ริคาโกะถามกลับทันควัน รินมีท่าทีอ้ำอึ้ง
“ฉะ... ฉันเองก็ไม่รู้ หน่วยความจำของฉันเสียหายเลยถูกฟอร์แมตใหม่ ฉันรู้สึกตัวอีกทีมาสเตอร์ก็ตั้งชื่อให้ฉัน จากนั้นมาสเตอร์ก็ละเลงแยมขาวไปทั่วใบหน้าของฉัน...”
“จะยิงมุกก็ช่วยดูสถานการณ์หน่อยสิฟะ!!”
ดูเหมือนสถานการณ์ตึงเครียดจะไม่เป็นผลต่อการยิงมุกสัปดนของรินเลยซักนิด
“ตะ... แต่ฉันเชื่อว่ามาสเตอร์ไม่ได้ขโมยฉันมาจากไหนแน่ๆค่ะ มาสเตอร์อุตส่าห์เอาผ้ามาปิดรอยชำรุดที่ตาให้ฉันด้วย เพราะมาสเตอร์ไม่อยากให้แยมขาวเข้าไปเปื้อนแผงวงจรข้างใน...”
“นี่ถ้าฉันตบเธอสักป้าบคงไม่ผิดกฎหมายสินะ?”
“อะไรนะคะ? มาสเตอร์อยากจะเอาดุ้xฟาดหน้าฉันสักป้าบสองป้าบ ป่าเถื่อนจัง”
“นั่นเธอจงใจฟังผิดใช่ไหมฟะ!!”
ริคาโกะที่ทนฟังการยิงมุกตบมุกของทั้งคู่เริ่มหน้าแดงฉ่า ไม่รู้เพราะหงุดหงิดหรือเขินอายกับคำพูดลามกของรินกันแน่
“ชะ... ช่างมันแล้วกัน!!! เอ้านี่!!”
ริคาโกะโยนแว่นตาที่เรียกว่า AG Vision อีกอันให้มาคิโนะ เขาคว้ามันไว้
“พะ... พอดีฉันมีสองอัน ละ... แล้วก็นายเอาไปใช้เลยก็ได้นะ”
เมื่อริคาโกะพูดดังนั้น มาคิโนะก็พยักหน้า
“ยังไงก็ตามฉันไม่อยากให้เธอเข้าใจผิด ฉันไม่ได้ขโมยรินมาจากไหน ที่จริงแล้วฉัน...”
“ช่างมันเถอะน่า!! ฉันเชื่อแล้วว่านายไม่ได้ขโมยมาจากไหน กะ... ก็ฉันเป็นเพื่อนของนาย ยังไงฉันก็ต้องเชื่อนายอยู่แล้ว... ยังไงก็... ฉะ... ฉันขอโทษนะ”
ริคาโกะกล่าวขอโทษ คงจากเรื่องที่เธอกล่าวหามาคิโนะว่ารินถูกขโมยมา
นั่นสินะ ถ้าไม่ให้เชื่อคำพูดของเพื่อนแล้วจะไปเชื่อคำพูดของใครกันล่ะ?
“อืม ขอบใจนะ”
มาคิโนะกล่าวขอบคุณ รอยยิ้มเล็กๆปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเด็กหนุ่มหน้าตาย นั่นคงเป็นภาพที่หาชมได้ยาก ริคาโกะที่เป็นเพื่อนกับเขามาตั้งแต่เด็กก็ยังเห็นรอยยิ้มนั้นนับครั้งได้
เมื่อทุกอย่างคงคลี่คลายหมดแล้ว ถึงเวลาที่จะต้องเริ่มต่อสู้กันจริงๆสักที
“เอาล่ะ มาเริ่มกันได้แล้ว”
ริคาโกะกล่าว มาคิโนะจึงสวม AG Vision ที่ได้มาเมื่อสักครู่ รินที่ยืนอยู่ข้างๆเขาก็ก้าวขึ้นมาข้างหน้า
“หลังจากที่สวม AG Vision แล้วก็ให้นายกดปุ่มที่อยู่บนกรอบแว่นตา”
มาคิโนะทำตามที่ริคาโกะบอก ทางด้านริคาโกะเองก็ทำแบบเดียวกัน
เมื่อเขากดปุ่ม ก็ปรากฏม่านพลังงานสีฟ้าครอบคลุมพื้นที่บริเวณนั้น รินและมาเรียต่างอยู่ภายในม่านพลังงานดังกล่าว ส่วนตัวมาคิโนะและริคาโกะนั้นอยู่ด้านนอก จากนั้นบนศีรษะของทั้งรินและมาเรียก็ปรากฏตัวเลข 100 ขึ้นมา
นั่นมันเหมือนภาพที่มาคิโนะเห็นในโทรทัศน์ไม่มีผิด
“AG Vision จะค้นหาคู่ต่อสู้ที่อยู่ภายในรัศมีที่กำหนด สามารถเข้าร่วมการต่อสู้ได้สูงสุด 4 คน โดยจะต้องยืนตามตำแหน่งที่กำหนด เช่น ถ้าหากต้องการจะต่อสู้กัน 3 คน ทั้ง 3 คนก็ต้องยืนเป็นรูปสามเหลี่ยม นอกจากนี้สามารถต่อสู้แบบทีมละ 2 คน หรือต่อสู้แบบ 2 รุม 1 หรือ 3 รุม 1 ได้ โดยผู้ที่จะอยู่ทีมเดียวกันก็ต้องยืนอยู่ฝั่งเดียวกัน ส่วนตัวเลขบนหัวของ AG คือ HP หรือพลังชีวิตของ AG โดยจะเท่ากันที่ 100 ถ้าหากค่านี้หมด AG ของคนๆนั้นจะเป็นฝ่ายแพ้ทันที อีกอย่างถ้ารู้สึกว่าสู้ไม่ไหว นายก็สามารถยอมแพ้ได้โดยการกดปุ่มที่อยู่บน AG Vision 2 ครั้ง”
ริคาโกะอธิบาย
“ม่านพลังงานที่นายเห็นก็เหมือนกับกำแพงนั่นแหละ แล้วก็ไม่ต้องสนใจหรอกนะว่าสิ่งของที่อยู่ในสนามประลองจะพังเสียหาย เพราะทั้งหมดเป็นภาพโฮโลแกรม ถ้าจบการต่อสู้ทุกอย่างจะกลับสู่สภาพเดิม และอย่างที่บอก ไม่มีใครมองเห็นพวกเรานอกจากผู้ที่สวม AG Vision เหมือนกับพวกเรา เพราะฉะนั้นวางใจได้”
ริคาโกะอธิบายเพิ่มเติม
“นั่นเป็นพื้นฐานที่นายควรรู้น่ะนะ จำเอาไว้ด้วยล่ะ”
มาคิโนะพยักหน้า ดูเขาจะเข้าใจง่ายกว่าที่คิด หรือไม่ก็แค่ทำเป็นเข้าใจแบบขอไปที เพราะคำอธิบายยืดยาวแบบนั้นคงเป็นไปได้ยากถ้าจะให้จดจำทุกรายละเอียดจากการฟังเพียงครั้งเดียว
“พร้อมแล้วนะ... เริ่มต่อสู้ได้!!”
Rin w/ Sakuragi Makino vs Maria w/ Masamune RikakoRin 100 - 100 Maria“บอกไว้เลยนะ ว่าฉันไม่ออมมือให้แน่นอน”
เมื่อริคาโกะพูดจบ มาเรียก็ยกแขนทั้งสองขึ้นตั้งการ์ดทันที รินเองก็เช่นกัน
นี่สินะการต่อสู้ครั้งแรกของมาคิโนะและริน
เมื่อการต่อสู้เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ มาเรียยืนตั้งการ์ดและเดินวนไปรอบๆม่านพลังงานสีฟ้า ส่วนรินใช้สายตาที่เหลือเพียงข้างขวาจดจ้องไปที่มาเรียอย่างไม่ละสายตา
ยังไม่มีใครเข้าไปโจมตีก่อน
ทางด้านริคาโกะยืนมองการต่อสู้นั้นอย่างใจเย็น มาคิโนะที่เรียกได้ว่าไม่เคยมีประสบการณ์ในการประลองระหว่าง AG มาก่อนเลยก็ได้แต่ยืนอยู่นิ่งๆเพราะเขาไม่รู้ว่าควรจะทำอะไร เขาจำเป็นต้องสั่งการรินหรือเปล่า? หรือสิ่งที่เขาต้องทำก็แค่ยืนอยู่นิ่งๆและเฝ้ามองดูรินต่อสู้ตามความสามารถที่เธอมีอยู่
เขาไม่รู้อะไรเลย
“มัวยืนนิ่งอยู่ทำไมล่ะมาคิโนะ? สั่งให้รินเข้ามาโจมตีสิ”
หลังจากที่ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเป็นระยะเวลาพอสมควร ริคาโกะก็พูดขึ้น
จะว่าไปนั่นก็ฟังเหมือนคำท้าทายอย่างหนึ่ง
“ถ้าเธอพูดอย่างนั้นล่ะก็... ริน!! เข้าไปโจมตี!!”
“ค่ะ!! มาสเตอร์”
เมื่อสิ้นสุดคำสั่งของมาคิโนะ รินก็พุ่งตัวเข้าไปจู่โจมมาเรีย
มาเรียไม่มีทีท่าว่าจะหลบเลยแม้แต่น้อย เธอยังคงยืนตั้งการ์ดอยู่ท่าเดิมแบบนั้น
ราวกับมั่นใจเป็นอย่างมากว่ารินไม่น่าจะทำอันตรายเธอได้ง่ายๆ
และมันก็เป็นเช่นนั้น
รินออกหมัดขวาไปยังบริเวณใบหน้าของมาเรีย มาเรียคว้าแขนขวาของรินเอาไว้แล้วเหวี่ยงลงพื้นอย่างรวดเร็ว
เร็วเสียจนมองแทบไม่ทัน
ตึง!!!แผ่นหลังของรินกระแทกพื้นอย่างรุนแรง เศษฝุ่นฟุ้งกระจายไปทั่วบริเวณ ริคาโกะยิ้มให้กับการสวนกลับอันสมบูรณ์แบบของมาเรีย
ริคาโกะเหลือบมองมาคิโนะที่มองดูการต่อสู้ด้วยสีหน้าเรียบเฉย ก่อนที่เธอจะชี้นิ้วไปข้างหน้าราวกับแม่ทัพแห่งสงคราม
“เสร็จฉันล่ะ!! มาเรีย!! ใช้ Butler Cross!!”
“ขอรับคุณหนู”
มาเรียรับคำสั่ง จากนั้นเธอก็จัดการคว้าแขนของรินแล้วสอดเข้าที่กลางระหว่างขาของตน ก่อนที่มาเรียจะทิ้งตัวลงไปนอนราบกับพื้น ทำให้แขนของรินถูกล็อคอยู่กลางระหว่างขาของมาเรียในลักษณะคล้ายกับไม้กางเขน
“เป็นยังไงล่ะ!! นั่นเป็นกระบวนท่าสไตล์พ่อบ้านที่ฉันเป็นคนคิดค้นขึ้นมาเอง!! อย่าดูถูก AG รุ่นพ่อบ้านสาวของฉันเชียวนะ!!”
ริคาโกะกล่าวอย่างภาคภูมิ ในขณะที่มาเรียจับแขนของรินล็อคแน่น แม้รินจะไม่ได้ร้องด้วยความเจ็บปวด แต่การจับล็อคในท่าลักษณะนั้นถ้าเป็นมนุษย์ทั่วไปคงเจ็บพอดู โชคร้ายสุดก็อาจจะถึงขั้นกระดูกหัก
ระหว่างนั้นมาคิโนะเห็นตัวเลขเหนือศีรษะของรินลดลงทีละนิด
“คิดค้นขึ้นเองงั้นหรอ? ดูยังไงนั่นมันก็ท่าจูจิกาตาเมะ*ที่ใช้ในวงการยูโดกับมวยปล้ำชัดๆ”
“งะ... เงียบไปเถอะน่า!! นี่นายไม่คิดจะทำอะไรกับรินที่ HP ลดลงเรื่อยๆเลยหรือไง?”
คำพูดของริคาโกะทำให้มาคิโนะหันไปมองตัวเลขเหนือศีรษะของรินอีกครั้ง
Rin 92 - 100 MariaHP ของรินถูกลดไป 8 หน่วย
“ริน!! แก้ท่าล็อคไหวไหม?”
“พยายามอยู่ค่ะ!!”
รินพยายามที่จะหาทางหลุดจากท่า Butler Cross ของมาเรีย ค่า HP ของเธอยังคงลดลงอย่างต่อเนื่อง ถ้าไม่รีบทำอะไรซักอย่างล่ะก็ HP ของรินคงจะลดลงไปเรื่อยๆ แน่นอนว่าคงไม่มีใครอยากที่จะแพ้ในการต่อสู้ทั้งๆที่เพิ่งจะโดนไปแค่ท่านี้ท่าเดียวแน่ๆ
รินพยายามใช้แขนข้างที่ว่างอยู่ทุบไปที่ขาของมาเรียซึ่งเกี่ยวแขนเธอไว้อย่างแน่นหนา แต่มันก็ไม่เป็นผล มาเรียไม่มีท่าทีว่าจะปล่อยเลยซักนิด
“นี่แค่เบสิกเองนะ นายจะแพ้ง่ายๆแบบนี้หรอ?”
ริคาโกะยืนกอดอกมองมาเรียที่กำลังล็อคแขนของรินอย่างพึงพอใจ ค่า HP ของรินลดลงไปเรื่อยๆ โดยที่รินยังไม่สามารถทำอะไรฝ่ายตรงข้ามได้เลย
เป็นอย่างที่ริคาโกะพูดไว้ก่อนที่การต่อสู้จะเริ่มขึ้น เธอไม่ออมมือให้จริงๆ
แม้สถานการณ์จะดูเสียเปรียบอย่างสุดๆ แต่มาคิโนะก็ยังไม่แสดงอารมณ์ผ่านทางสีหน้าเหมือนเช่นเคย บางทีเขาอาจจะกำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่
ไม่ว่ายังไงมาคิโนะก็ยังคงเป็นคนที่คาดเดาอารมณ์ได้ยากเสมอ
“HP ลดช้าน่ารำคาญจริงๆเลยนะ งั้นเจอนี่หน่อยเป็นไง”
ริคาโกะพูดพร้อมคว้าแผ่นกระดาษแข็งบางๆขึ้นมาหนึ่งใบจากกระเป๋าใบเล็กที่เอว มันมีลักษณะคล้ายกับพวกไพ่หรือการ์ดเกม บนนั้นมีข้อความอะไรบางอย่างและมีบาร์โค้ดติดอยู่
“ฉันขอใช้การ์ด ATK Boost!!”
“การ์ดงั้นหรือ?”
ริคาโกะคว้าการ์ดใบนั้นขึ้นมาแล้วหันด้านที่มีบาร์โค้ดจ่อเข้าที่ AG Vision ของเธอ ก่อนที่จะมีเสียงสัญญาณดังขึ้น
ทันใดนั้นร่างของมาเรียก็มีแสงวาบขึ้นมาชั่วขณะก่อนที่จะหายไป
และ HP ของรินก็กลับลดลงมากขึ้นกว่าปกติ
“โทษทีนะ ฉันลืมอธิบายเรื่องการ์ดไป การต่อสู้ระหว่าง AG น่ะมีการใช้การ์ดเพื่อช่วยในการต่อสู้ได้ด้วย โดยสามารถเอาเข้าไปใช้ได้สูงสุด 5 ใบ ส่วนการ์ด ATK Boost ที่ฉันใช้น่ะ จะทำให้พลังโจมตีของ AG เพิ่มขึ้นในระดับสุดยอดชั่วคราวยังไงล่ะ โดยต้องแลกกับค่าพลังในส่วนอื่นลดลงในระดับต่ำสุด แต่สำหรับ AG ของนายที่โต้ตอบอะไรฉันไม่ได้แล้ว เรื่องนั้นไม่ใช่ปัญหาสำหรับฉันซักนิด”
ริคาโกะกล่าวด้วยน้ำเสียงดูถูกดูแคลนนิดๆ แบบคนที่ถือไพ่เหนือกว่า
ใช่ เธอเหนือกว่าจริงๆ
Rin 65 - 100 Mariaค่า HP ของรินลดลงจนเหลือเกือบครึ่งในชั่วพริบตาอย่างน่าใจหาย จนถึงตอนนี้ รินก็ยังไม่สามารถลด HP ของมาเรียได้เลยแม้แต่หน่วยเดียว
ไม่ว่าจะมองยังไงก็แทบจะรู้อยู่แล้วว่าผู้ชนะเป็นใคร
แต่สงครามยังไม่จบ ก็อย่าเพิ่งนับศพทหาร
“นายน่าจะเข้าใจได้แล้วนะ ว่านายน่ะยังไม่พร้อมที่จะเข้าร่วม AG Battle เลยแม้แต่นิด!! หรือแม้แต่ตัวฉันเอง ฉันเองก็ยอมรับว่ายังไม่มีความสามารถมากพอที่จะเข้าร่วมการประลองนั้นได้ การต่อสู้นี้แสดงให้นายเห็นแล้วว่าขนาดตัวฉันเองนายยังสู้ไม่ได้ แล้วใน AG Battle น่ะมีคนที่เก่งกาจกว่าฉันมากมายอีกตั้งเยอะ นายจะไปรอดได้ยังไง?”
“นั่นสินะ...”
“เอ๋??”
ริคาโกะส่งเสียงร้องขึ้นมาด้วยความสงสัย เมื่อมาคิโนะกลับเออออตามเธอ
“แต่ก็ไม่รู้สินะ ว่าทำไมฉันถึงมีความเชื่อมั่นในตัวรินว่าจะต้องชนะ”
“ความเชื่อมั่นงั้นหรือ??”
เมื่อริคาโกะหันกลับไปมองการต่อสู้อีกครั้ง เธอถึงกับอุทานออกมาอย่างลืมตัวเมื่อเห็นกับภาพตรงหน้า
“บะ... บ้าน่า!!!”
เมื่อรินทำในสิ่งที่ริคาโกะคาดไม่ถึง...
----------------------------------------------------
*จูจิกาตาเมะ (Juji-Gatame) คือท่าจับล็อคแขนชนิดหนึ่ง โดยเป็นการจับแขนของคู่ต่อสู้ล็อคไว้ที่กลางระหว่างขาในลักษณะคล้ายกับไม้กางเขน จึงมีชื่อเรียกอีกอย่างว่า Cross Armbar เป็นท่าที่ใช้ทั้งในวงการยูโดและมวยปล้ำอาชีพ นักมวยปล้ำที่มีชื่อเสียงจากการใช้ท่าดังกล่าวก็อย่างเช่น อัลเบอร์โต้ เดล ริโอ้ แห่งสมาคม WWE