ชื่อของ ชิโร่ คาซามิ ทำให้มาคิโนะไม่สามารถข่มตาหลับลงได้
หลังจบการประลองอันสุดสะเทือนใจในตอนนั้นทำให้ริคาโกะสติหลุดลอยจนมาเรียต้องเป็นผู้ดูแลเธออย่างใกล้ชิด แม้มาเรียจะกล่าวไว้ว่าเธอจะไม่เป็นไร แต่เขาก็อดห่วงไม่ได้อยู่ดี
มาคิโนะเหลือบมองรินที่นอนหลับสนิทอยู่บนเตียงของเขา หลังจากที่ทานข้าวเย็นเรียบร้อยเธอก็อาบน้ำและเข้านอนทันที เธอจำเป็นต้องฟื้นฟูสภาพร่างกายหลังถูกเล่นงานอย่างหนัก
ภาพการจู่โจมอันรวดเร็วและร้ายกาจนั้นยังคงติดตามาคิโนะ ที่แม้กระทั่งริคาโกะยังต้องเสียท่าอย่างหมดรูป
แล้วแบบนี้อย่างเขาจะเอาอะไรไปสู้ได้
มาคิโนะพลางคิดว่าที่เด็กหนุ่มนาม ชิโร่ คาซามิ พูดมาอาจจะถูก แม้มันจะเป็นคำพูดที่ทะนงตนจนน่าเกลียดก็ตาม
บางทีเขาและริคาโกะไม่ควรจะเข้าร่วมการประลองที่โรงเรียนพรุ่งนี้
แต่ถ้าหากเขาตัดสินใจเช่นนั้น เป้าหมายที่จะเข้าร่วม AG Battle ก็คงไม่ต่างอะไรกับความฝันลมๆแล้งๆเท่านั้น
ความสับสนนั้นทำให้เขานอนกระสับกระส่ายอยู่เกือบทั้งคืน เขาเองก็ไม่รู้ตัวว่าเผลอหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่ที่แน่ๆแสงแดดยามเช้าที่ลอดผ่านหน้าต่างกระทบกับใบหน้าของเขาบ่งบอกถึงยามเช้าของวันใหม่ มันทำให้เขารู้สึก
หนุบ“หนุบ?”
สิ่งที่มาคิโนะคิดในใจเผลอหลุดออกมาเป็นคำพูดอย่างไม่รู้ตัว เมื่อเขารู้สึกถึงความนุ่มนิ่มที่ฝ่ามือข้างขวา
ความรู้สึกนั้นทำให้เขาใช้สายตาเหลือบมองไปยังสิ่งที่ตนกำลังสัมผัส
ภาพที่ปรากฏตรงหน้าคือเด็กสาวนอนตะแคงในสภาพเปลือยเปล่าที่ร่างกายท่อนล่างถูกคลุมด้วยผ้าห่ม เธอหลับตาพริ้ม ใบหน้าแดงระเรื่อเล็กน้อย ลูกแตงโมขนาดย่อมสองลูกปรากฏเต็มสองตา หนึ่งในสองลูกนั้นถูกฝ่ามือของมาคิโนะประทับอยู่
“เหวอ!!”
มาคิโนะรีบชักมือของตนออกและร้องเสียงหลงความตกใจ ส่งผลให้เด็กสาวค่อยๆลืมตาขึ้นมา เธอผลักตัวขึ้นในท่านั่งพร้อมอ้าปากหาวและบิดขี้เกียจ ก่อนที่เธอจะดึงผ้าห่มออกจากตัวแล้วยืนขึ้น เผยให้เห็นเรือนร่างอันไร้ซึ่งเสื้อผ้าอาภรณ์โดยสิ้นเชิง
ความคิดเพียงชั่ววูบนั้น ในใจของมาคิโนะอดทึ่งไม่ได้ว่า สิ่งที่เรียกว่า AG นั้นเหมือนมนุษย์แทบทุกกระเบียดนิ้ว ทั้งโคนจุกสีชมพูอ่อนที่ตั้งชัน ส่วนโค้งเว้าตามร่างกายและบั้นท้ายอันกลมกลึง หรือแม้กระทั่งพุ่มบางๆบริเวณเนินสามเหลี่ยมระหว่างโคนขา
“ฮ้าววว... อ๊ะ อรุณสวัสดิ์ค่ะ มาสเตอร์”
“อรุณสวัสดิ์งั้นหรอ? เธอทำบ้าอะไรของเธอนี่ริน!!”
“ตื่นนอนไงคะ”
“อันนั้นฉันรู้!! แต่หมายถึง ทำไมเธอมาอยู่บนที่นอนฉันล่ะ? แถมยังสภาพนั้นด้วย”
รินก้มมองร่างที่เปลือยเปล่าของตนเองด้วยท่าทีง่วงซึม ปกติถ้าหญิงสาวสักคนรู้ตัวว่ากำลังอยู่ในสภาพเอ็กซ์แตกต่อหน้าชายหนุ่มแบบนี้คงต้องมีกรี๊ดกร๊าดหรือพยายามปกปิดจุดสงวนของตนเองบ้าง แต่สำหรับรินนั้นไม่ใช่ เธอกลับยิ้มหวานให้กับมาคิโนะแบบไม่รู้สึกรู้สาอะไรทั้งสิ้น
“ก็ฉันเคยบอกแล้วนี่คะว่าฉันแก้ผ้าเวลานอน”
“ตอนนั้นเธอบอกว่าล้อเล่นไม่ใช่หรือไง?”
มาคิโนะเหลือบมองนาฬิกาที่ตั้งอยู่บนโต๊ะหัวเตียง ก็พบว่านี่ไม่ใช้เวลามาต่อล้อต่อเถียงหรือตบมุกเพราะใกล้จะถึงเวลาที่จะต้องไปโรงเรียนแล้ว
“ให้ตายสิ แต่เรื่องนั้นช่างมันก่อนเถอะ รีบๆใส่เสื้อผ้าและเตรียมตัวซะ เราจะไปกันแล้ว”
มาคิโนะพูดพร้อมคว้าชุดนักเรียนมาสวมแบบลวกๆ แล้ววิ่งพรวดออกจากห้อง ในขณะที่รินเองก็คว้าเสื้อผ้าของตนมาสวมใส่ตามคำสั่งของมาคิโนะและออกจากห้องตามไปเช่นกัน
----------------------------------------------------
หลังจากที่มาคิโนะเตรียมตัวและเตรียมของที่จำเป็นแล้ว เขาก็ก้าวออกจากบ้านพร้อมกับริน
มาคิโนะและรินเดินไปตามทางโดยมีเป้าหมายเดียวกันคือโรงเรียน ระหว่างนั้นเขาก็พบกับเด็กสาวผมสีแดงทับทิมที่เขาคุ้นเคยเป็นอย่างดี เธอเดินหันหลังให้กับเขาพร้อมกับเด็กสาวอีกคนในชุดสูทสีดำ
“อะ... ริคาโกะ”
มาคิโนะเรียกชื่อเพื่อนสมัยเด็กของเขาที่เดินเคียงคู่กับมาเรีย เมื่อเธอได้ยินก็หันมาทางมาคิโนะ
“อรุณสวัสดิ์ มาคิโนะ”
ริคาโกะกล่าวทักทายพร้อมยิ้มให้เขาอย่างร่าเริง ดูเหมือนเธอจะต้องไม่เป็นไรจริงๆอย่างที่มาเรียบอกไว้เมื่อวาน
“เอ่อ... ไม่เป็นไรแล้วหรอ?”
แม้สิ่งที่แสดงออกมาทางสีหน้าของริคาโกะจะบ่งบอกอย่างชัดเจนว่าอะไรเป็นอะไร แต่เขาก็อดถามไม่ได้
“อื้ม ไม่เป็นไรแล้วล่ะ สิ่งที่ต้องทำในตอนนี้คือมุ่งมั่นที่จะเอาชนะการประลองนี้ให้ได้ไม่ใช่หรอ? มานั่งจิตตกก็ไม่ได้ช่วยอะไรขึ้นมานี่นา”
คำพูดของริคาโกะทำให้มาคิโนะรู้สึกละอายใจเล็กน้อยที่เคยคิดจะล้มเลิกในการเข้าร่วมการประลอง นอกจากนี้ยังเป็นคำพูดที่ทำให้เขาเริ่มรู้สึกมีกำลังใจขึ้นมา ถ้าหากริคาโกะมุ่งมั่นที่จะเอาชนะ เขาเองก็จะมุ่งมั่นที่จะเอาชนะการประลองครั้งนี้เช่นกัน
“เธอนี่เข้มแข็งจังนะ”
“มะ... ไม่ถึงขนาดนั้นหรอก”
ริคาโกะตอบพร้อมเบือนหน้าไปอีกทางแล้วเดินต่อ เช่นเดียวกับมาคิโนะที่เดินไปพร้อมๆกับเธอ
ทั้งคู่มีจุดหมายเดียวกันคือที่โรงเรียนมินาโนะ สถานที่ซึ่งในวันนี้จะกลายเป็นสนามประลอง AG ของเขาและเธอ
----------------------------------------------------
ไม่นานนักทั้งคู่ก็มาถึงโรงเรียนพร้อมกับ AG ของตน
หน้าประตูโรงเรียนมีแผ่นป้ายที่ระบุไว้ว่า ‘มินาโนะ กักคุเอ็น AG Battle ครั้งที่ 1’ วางอยู่
ภายในโรงเรียนเต็มไปด้วยนักเรียนทั้งชายหญิงเดินไปมาเหมือนเช่นปกติ แต่วันนี้อาจดูแปลกไปหน่อยที่นักเรียนบางคนเดินเคียงคู่อยู่กับเด็กสาวที่ไม่ได้สวมชุดเครื่องแบบโรงเรียนอยู่ด้วย
แน่นอนว่าเด็กสาวเหล่านั่นก็คือ AG ไม่ผิดแน่
เมื่อมาคิโนะและริคาโกะเดินเข้าไปในรั้วโรงเรียนอีกหน่อยก็พบกับเต็นท์ผ้าใบตั้งอยู่พร้อมโต๊ะวางเรียงราย แต่ละโต๊ะมีเด็กนักเรียนนั่งประจำที่และมีแผ่นกระดาษติดอยู่ บนนั้นระบุข้อความไว้ว่า ‘จุดลงทะเบียน’
“ต้องไปลงทะเบียนที่นั่นก่อนสินะ ไปกันเถอะ”
ริคาโกะกล่าวกับมาคิโนะและเดินนำหน้าพร้อมกับมาเรียไปก่อน เธอเข้าไปพูดคุยอะไรบางอย่างกับเด็กนักเรียนที่นั่งประจำโต๊ะ ก่อนที่เด็กนักเรียนคนดังกล่าวจะยื่นกระดาษให้ริคาโกะพร้อมปากกา เธอเขียนอะไรบางอย่างลงไปบนนั้นก่อนที่จะยื่นคืน จากนั้นจึงเดินกลับมาหามาคิโนะพร้อมกับมาเรียอีกครั้ง
“ดูเหมือนคนเข้าร่วมการประลองจะน้อยกว่าที่คิดนะ เมื่อกี้ฉันเห็นมีคนลงชื่ออยู่ไม่กี่คนเอง สงสัยคงเพราะเป็นการประลองครั้งแรกของที่นี่ล่ะมั้ง”
ริคาโกะกล่าว
“เอ้า ยืนรออะไรอยู่ ไปลงทะเบียนได้แล้ว”
ริคาโกะผลักมาคิโนะจนถลาไปข้างหน้า เขาเหล่มองริคาโกะนิดๆประมาณว่า ‘จะผลักทำไม?’ ก่อนที่เขาจะเดินเข้าไปยังจุดลงทะเบียนพร้อมกับริน
“อะ... เอ่อ ผมมาลงทะเบียนเข้าร่วมการประลองน่ะครับ”
“ค่ะ เชิญกรอกชื่อ นามสกุล ชั้นปี และชื่อของ AG ลงบนกระดาษแผ่นนี้นะคะ”
เด็กนักเรียนที่นั่งประจำโต๊ะยื่นกระดาษแผ่นหนึ่งพร้อมปากกาให้เขา บนกระดาษเป็นตารางที่ให้กรอกรายละเอียดต่างๆตามที่เธอบอก
เขาลองกวาดสายตาดู เป็นอย่างที่ริคาโกะบอกไว้ คนที่มาลงทะเบียนค่อนข้างน้อย เท่าที่เขาลองนับด้วยสายตาคร่าวๆน่าจะมีไม่ถึง 10 คนถ้าไม่นับตัวเขาที่กำลังจะลงทะเบียนตอนนี้ เขาเขียนรายละเอียดลงไปบนแผ่นกระดาษ เหนือชื่อของเขาก็คือชื่อของริคาโกะที่เพิ่งลงทะเบียนไปเมื่อสักครู่
เมื่อเขากรอกรายละเอียดครบแล้ว เขาก็ยื่นแผ่นกระดาษคืนให้เด็กนักเรียนที่นั่งประจำโต๊ะ เธอยิ้มให้ มาคิโนะโค้งตัวขอบคุณตามมารยาทแล้วเดินกลับไปหาริคาโกะพร้อมริน เขาพยักหน้าให้เธอประมาณว่าเสร็จเรียบร้อยแล้ว
“เอาล่ะ ทีนี้ก็เหลือแต่รอเวลาสินะ”
ริคาโกะพูดอย่างกระตือรือร้น พลันเหลือบไปเห็นเด็กหนุ่มผู้ซึ่งมีผมไฮไลท์สีดำสลับทอง ผู้ที่สร้างความตื่นตะลึงให้กับมาคิโนะและริคาโกะในการประลองเมื่อวานนี้ เขาก็คือ ชิโร่ คาซามินั่นเอง
คาซามิเดินไปยังจุดลงทะเบียนพร้อมกับนาโอกิ AG ของเขา เขากรอกรายละเอียดลงบนกระดาษจนเสร็จจากนั้นจึงยื่นคืน ก่อนที่เขาจะเดินจากไป ระหว่างนั้นดูเหมือนเขาจะรู้ว่ามาคิโนะและริคาโกะจ้องมองอยู่ เขาจึงเหล่มองพร้อมยักคิ้วและยิ้มมุมปากให้ทั้งสองแบบกวนประสาท ทำเอาริคาโกะอยากจะไปตบให้หน้าหันสักครั้งแต่คาซามิก็เดินหายไปแล้ว
“ประกาศ พิธีเปิดงาน ‘มินาโนะ กักคุเอ็น AG Battle ครั้งที่ 1’ กำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว ขอให้ผู้ที่เกี่ยวข้อง ผู้เข้าร่วมการประลองและผู้ที่สนใจเข้าร่วมชมการประลอง มารวมตัวที่หอประชุมด้วยค่ะ ขอบคุณค่ะ”
เสียงประกาศตามสายที่ดังไปทั่วโรงเรียนทำให้นักเรียนบางส่วนเริ่มเดินไปยังหอประชุมตามที่ประกาศไว้ แน่นอนว่ามาคิโนะและริคาโกะจำเป็นต้องไปที่นั่น
----------------------------------------------------
ภายในหอประชุมมีนักเรียนเยอะกว่าที่คิดไว้ แม้ว่าผู้เข้าร่วมการประลองจะน้อย แต่ดูท่าว่าผู้ที่สนใจการประลองครั้งนี้จะเยอะพอสมควร
มาคิโนะและริคาโกะเดินไปนั่งที่เก้าอี้ว่าง โดยที่ AG ของทั้งสองรออยู่ข้างนอกหอประชุม หลังจากที่ทั้งสองและนักเรียนคนอื่นๆภายในห้องนั่งรออยู่สักพัก พิธีเปิดงานก็เริ่มขึ้น อาจารย์ซึ่งเป็นพิธีกรในงานก็กล่าวไปตามสคริปท์ที่เตรียมไว้ จนกระทั่งเริ่มมาถึงช่วงสุดท้ายของพิธีแล้ว
“ลำดับถัดไป ขอเชิญคุณโฮโจ ซุมิเระ ประธานสภานักเรียนโรงเรียนมินาโนะ ขึ้นมากล่าวความรู้สึกต่องาน ‘มินาโนะ กักคุเอ็น AG Battle ครั้งที่ 1’ ด้วยค่ะ”
หลังจากที่พิธีกรในงานกล่าวจบ เสียงปรบมือก็ดังกึกก้องไปทั่วหอประชุม
พร้อมกับการปรากฏตัวบนเวทีของ ‘ประธานสภานักเรียน’ ซึ่งเป็นเด็กสาวร่างเล็กผมทรงทวินเทลสีดำ เธอสวมปลอกแขนสีแดงซึ่งบ่งบอกถึงตำแหน่งของเธอ เธอเดินด้วยท่าทีสงบนิ่งไปยืนประจำที่แท่นโพเดียมกลางเวที ดวงตาสีแดงสดของเธอจ้องมองไปยังผู้คนที่อยู่ในห้องประชุม ก่อนที่เธอจะขยับไมโครโฟนให้พอดีกับส่วนสูงและกล่าวขึ้นผ่านอุปกรณ์นั้นจนเสียงดังกังวานไปทั่วห้อง
“ดิฉัน โฮโจ ซุมิเระ นักเรียนมัธยมปลายปี 3 ห้อง A และประธานสภานักเรียนโรงเรียนมินาโนะ”
แม้เธอจะบอกว่าเรียนมัธยมปลายปี 3 ก็ตาม แต่ทั้งรูปร่าง หน้าตา ส่วนสูง และน้ำเสียงที่แหลมเล็กนั้นดูขัดกับชั้นปีที่เธอเรียนอยู่เป็นอย่างมาก หากคนที่ไม่รู้จักเธอล่ะก็คงจะคิดว่าเธอเป็นเด็กมัธยมต้นไม่ก็เด็กประถมเป็นแน่
“ดิฉันเองก็เป็นหนึ่งในผู้ที่ผลักดันให้มีการประลองนี้ขึ้นมา เนื่องจากดิฉันเล็งเห็นว่าการประลองระหว่าง AG นั้นเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อยๆ...”
หลังจากที่ประธานซุมิเระกล่าวจนจบ เธอก็โค้งคำนับพร้อมกับเสียงปรบมือดังกึกก้องอีกครั้ง เมื่อเธอเดินหายไปที่หลังเวที พิธีกรประจำงานก็กล่าวเปิดงานอย่างเป็นทางการ การประลองเริ่มขึ้นแล้ว เหล่านักเรียนต่างทยอยออกจากหอประชุมรวมทั้งมาคิโนะกับริคาโกะด้วย แน่นอนว่าทั้งสองเป็นผู้เข้าร่วมการประลอง เขาและเธอต้องไปดูตารางการแข่งขันที่ดูเหมือนว่าจะทำการจับคู่เรียบร้อยแล้ว
“เอ๋? ฉันอยู่คนละสายกับนายแฮะ”
ริคาโกะกล่าวขึ้นเมื่อดูตารางการแข่งขันที่ติดอยู่บนกระดานไวท์บอร์ดสีขาว สรุปแล้วผู้เข้าร่วมการประลองมีทั้งหมด 16 คน จึงต้องแบ่งออกเป็นสองสาย สายละ 8 คน
“แย่จัง ที่ไม่ได้เจอกันในรอบแรกๆ... เอ๊ะ?”
“มีอะไรหรอ?”
“ฉันอยู่สายเดียวกับไอ้ลูกหมาอวดดีนั่นน่ะสิ”
‘ไอ้ลูกหมาอวดดี’ ที่ริคาโกะพูดถึงก็คือคาซามินั่นเอง เขาอยู่สายเดียวกับริคาโกะ ซึ่งแม้จะไม่ได้เจอกันในรอบแรก แต่คงเดาได้ไม่ยากว่าคาซามิจะต้องผ่านเข้ารอบมาได้อย่างสบายๆ ซึ่งหากไม่มีอะไรผิดพลาดล่ะก็ ริคาโกะเองก็น่าจะทะลุเข้าสู่รอบ 4 คนสุดท้ายได้เช่นกันและจะได้เจอกับคาซามิ
“เห็นแบบนี้แล้วชักทำให้ฉันมีไฟขึ้นมาซะแล้วสิ”
ริคาโกะพูดพลางหักนิ้วของตนเองอย่างเอาเรื่อง
“ใจเย็นๆหน่อยก็ได้”
“ไม่มีทางหรอก คนที่มันดูถูกคนอื่นแบบนั้น ฉันไม่มีวันให้อภัยเด็ดขาด”
ริคาโกะพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง แววตาที่แลคล้ายสุนัขจิ้งจอกของเธอดูดุดันราวกับกำลังออกล่าเหยื่อทำให้มาคิโนะไม่พูดอะไรต่อ
“อืม... ของฉันประลองที่โรงยิม ส่วนของนาย... เอ่อ... ที่สนามฟุตบอลสินะ?”
ริคาโกะกวาดสายตาอ่านกระดาษที่ติดอยู่บนกระดานไวท์บอร์ดอีกแผ่นซึ่งอยู่ข้างๆตารางการแข่งขัน กระดาษแผ่นนั้นบ่งบอกถึงสถานที่สำหรับประลองของแต่ละคู่
“เราคงต้องแยกกันแล้วล่ะ ฉันอยากดูการประลองของนายจริงๆแต่คงไม่ได้แล้ว”
ริคาโกะพูดด้วยน้ำเสียงผิดหวังนิดๆ จากนั้นเสียงตามสายก็ประกาศให้ผู้เข้าร่วมการประลองเตรียมพร้อมที่สถานที่ประลองของแต่ละคน ริคาโกะจึงโบกมือลามาคิโนะและเดินไปที่โรงยิมพร้อมกับมาเรีย ส่วนมาคิโนะก็เดินไปที่สนามฟุตบอลพร้อมกับริน
สนามฟุตบอลนั้นเต็มไปด้วยเหล่านักเรียนรอคอยที่จะรับชมการประลองระหว่าง AG อย่างเนืองแน่น กลางสนามถูกตีเส้นไว้อย่างเรียบร้อย บริเวณนั้นมีนักเรียนชายและเด็กสาวที่อบอุ่นร่างกายอยู่ข้างๆ นั่นคงเป็นคู่ต่อสู้คนแรกของมาคิโนะ
ใกล้ๆกันนั้นมีเต็นท์ตั้งไว้พร้อมโต๊ะตัวหนึ่ง มีนักเรียนนั่งประจำโต๊ะเหมือนกับจุดลงทะเบียน แต่กระดาษที่ติดไว้ระบุว่า ‘จุดรายงานตัว’ แทน
ข้างๆยังมีโต๊ะอีกหนึ่งตัวซึ่งมีนักเรียนต่อคิวเป็นแถวยาว กระดาษที่ติดไว้ระบุว่า ‘จุดแจก AG Vision’ เพราะอย่างที่ริคาโกะเคยอธิบายไว้ ผู้ที่จะมองเห็นการประลองก็จะต้องใส่ AG Vision ด้วย แม้จะมีจุดสำหรับแจกแต่ก็มีผู้ชมจำนวนไม่น้อยที่มี AG Vision เป็นของตัวเองเช่นกัน
มาคิโนะเดินไปยังจุดรายงานตัว นักเรียนที่ประจำโต๊ะให้เขาเขียนชื่อบนกระดาษที่เตรียมไว้ เมื่อเขาเขียนชื่อเสร็จ นักเรียนคนดังกล่าวก็ทำสัญญาณกับนักเรียนอีกคนที่ดูเหมือนจะเป็นกรรมการของการประลองนี้
“เตรียมตัวให้พร้อมนะคะ การประลองจะเริ่มในอีก 5 นาที”
นักเรียนประจำโต๊ะกล่าว มาคิโนะพยักหน้า เขาและรินเดินไปที่กลางสนามฟุตบอล คู่ต่อสู้ของมาคิโนะเหลือบมองเขาเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร
“เอาล่ะครับ!! การประลองในแมตช์แรกของประวัติศาสตร์ AG Battle ครั้งแรกแห่งโรงเรียนมินาโนะกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว!! นั่นคือแมตช์ระหว่าง...”
เต็นท์ฝั่งตรงข้ามของจุดรายงานตัวเป็นโต๊ะของผู้บรรยายในการประลองดังกล่าว เขาพูดลิ้นระรัวอย่างเมามันส์ทั้งๆที่การประลองยังไม่ได้เริ่มด้วยซ้ำ
“ทั้งสองฝั่งพร้อมแล้วใช่ไหมคะ?”
นักเรียนที่ทำหน้าที่เป็นกรรมการพูดขึ้นพลางมองหน้ามาคิโนะและคู่ต่อสู้ของเขา ทั้งสองพยักหน้าเป็นสัญญาณว่าพร้อมแล้ว
“ประจำที่และสวม AG Vision ได้เลยค่ะ”
มาคิโนะสวม AG Vision คู่ต่อสู้ของเขาก็ทำแบบเดียวกัน รินและ AG ของฝ่ายตรงข้ามก้าวเข้าไปเผชิญหน้ากัน มาคิโนะกดปุ่มบน AG Vision พร้อมกันกับคู่ต่อสู้ ทำให้เกิดม่านพลังงานสีฟ้าเข้าครอบคลุมโดยรอบ
ถ้าไม่นับการประลองทั้งสองครั้งที่สนามเด็กเล่น นี่คงเป็นการประลองอย่างเป็นทางการจริงๆของมาคิโนะครั้งแรก และมันกำลังจะเริ่มขึ้น
ผู้ชมโดยรอบสวมใส่ AG Vision เพื่อรอรับชมการประลองเป็นที่เรียบร้อย เหลือเพียงการให้สัญญาณของกรรมการผู้ควบคุมการประลองเท่านั้น
“เริ่มได้!!”
เมื่อสิ้นเสียงสัญญาณของกรรมการผู้ควบคุมการประลอง AG ทั้งสองก็พุ่งเข้าไปปะทะกันทันที
----------------------------------------------------
หมัดเสยอัปเปอร์คัทของรินพุ่งตรงเข้าที่คางของ AG คู่ต่อสู้อย่างแม่นยำ ส่งผลให้ HP ของ AG คู่ต่อสู้หมดลงพร้อมทั้งร่างของคู่ต่อสู้ที่กระเด็นไปตามแรงหมัดและล้มลงไปกองกับพื้น ผู้ที่เป็นเจ้าของยืนมองความพ่ายแพ้อย่างหมดหวัง ก่อนที่ม่านพลังงานสีฟ้าจะค่อยๆหายไป
“และนี่คือผู้ชนะของการประลองครั้งนี้!! ริน!!”
เมื่อสิ้นเสียงประกาศผู้ชนะของกรรมการผู้ควบคุมการประลอง เสียงปรบมือของผู้ชมก็ดังขึ้นเกรียวกราว
ถ้าเทียบกับแมตช์แรกๆแล้วเสียงปรบมือครั้งนี้ดังยิ่งกว่าครั้งไหนๆ ดูท่ามาคิโนะกับรินจะกลายเป็นขวัญใจมหาชนไปซะแล้ว หลังจากโชว์ผลงานได้ดีในการเอาชนะคู่ต่อสู้ได้สามครั้งติดต่อกัน
แน่นอนว่าตอนนี้เขาสามารถทะลุไปถึงรอบชิงชนะเลิศได้อย่างน่าเหลือเชื่อ แต่บางทีอาจจะเป็นเพราะโชคดีที่คู่ต่อสู้ที่เขาเจอนั้นยังอยู่ในระดับธรรมดาทำให้สามารถเอาชนะได้อย่างง่ายดาย
“คุณซากุรางิเตรียมเจอกับผู้ชนะในอีกสายนะคะ ตอนนี้พักผ่อนก่อนได้เลยค่ะ”
กรรมการกล่าวกับมาคิโนะ เขาพยักหน้า ผู้ชมเริ่มทยอยออกจากสนามฟุตบอล เต็นท์ที่ตั้งไว้ในตอนแรกเริ่มถูกพับเก็บ ดูท่าสนามฟุตบอลแห่งนี้จะไม่ได้ใช้เป็นสถานที่ประลองอีกแล้ว
เมื่อเป็นเช่นนั้นมาคิโนะจึงมุ่งหน้าไปที่โรงยิมพร้อมกับรินทันที สิ่งที่เขานึกถึงเป็นอันดับแรกคือริคาโกะ
เมื่อเขาเข้าไปในโรงยิม ก็พบกับผู้ชมที่อัดแน่นอยู่ที่นั่นราวกับปลากระป๋องไม่แพ้ที่สนามฟุตบอล และดูจะมากกว่าที่สนามฟุตบอลอีกด้วย คงเพราะผู้ชมที่สนามฟุตบอลก็เริ่มเข้ามาสมทบที่นี่ด้วยเช่นกัน
ท่าทางตอนนี้จะอยู่ในระหว่างพักกันอยู่ เพราะบนสนามประลองนั้นว่างเปล่า มีเพียงเสียงคุยกันดังเซ็งแซ่ของผู้ที่มาร่วมชมเท่านั้นในตอนนี้
“มาคิโนะ!!”
ริคาโกะเดินแหวกฝูงชนเข้าไปหามาคิโนะพร้อมกับมาเรีย
“เป็นไงบ้าง? แพ้รอบไหน?”
“เธอนี่ปากเสียจริงๆเลยนะ ฉันถึงรอบชิงชนะเลิศแล้ว”
“เอ๋!! จริงหรอ?”
ริคาโกะทำตาโต
“คู่ต่อสู้ที่นายเจอคงจะมีแต่พวกระดับล่างๆสินะ นายถึงเอาชนะได้ง่ายๆแบบนี้”
“จะคิดยังไงก็แล้วแต่เลยละกัน ว่าแต่แล้วเธอล่ะ?”
เมื่อมาคิโนะถามถึงเธอบ้าง สีหน้าของเธอก็เปลี่ยนไปทันที
“ฉันถึงรอบ 4 คนสุดท้ายแล้ว และกำลังจะเจอกับไอ้ลูกหมานั่น นายคอยดูการประลองครั้งนี้ให้ดีๆเลยนะ ฉันจะแก้แค้นไอ้คนที่มันดูถูกฉันกับนายให้ได้”
ริคาโกะกำหมัดแน่น ท่าทางเธอจะไม่มีวันยอมให้อภัยคาซามิแน่นอนจนกว่าเธอจะสามารถเอาชนะเขาได้
“คุณชิโร่ คาซามิ และคุณมาซามุเนะ ริคาโกะ การประลองจะเริ่มขึ้นในอีก 5 นาที กรุณาเตรียมความพร้อมด้วยค่ะ”
เสียงประกาศนั้นทำให้ริคาโกะจะต้องเข้าไปในสนามประลองเพื่อเตรียมตัวแล้ว เธอมองหน้ามาคิโนะที่พยักหน้าให้เธอ แม้สีหน้าของมาคิโนะจะไม่แสดงอะไรออกมา แต่ริคาโกะก็เชื่อเป็นอย่างยิ่งว่าเขากำลังให้กำลังใจเธออยู่แน่นอน
“มาคิโนะ ฉันสัญญานะ ว่าจะเข้ารอบชิงไปเจอกับนายให้ได้ ฉันไปล่ะนะ”
ริคาโกะพูดด้วยรอยยิ้มที่มั่นใจอย่างเต็มเปี่ยม และมุ่งหน้าสู่สนามประลองพร้อมมาเรีย มาคิโนะสวม AG Vision อีกครั้งเพื่อเตรียมพร้อมที่จะรับชมการต่อสู้ของริคาโกะที่กำลังจะเริ่มขึ้นในไม่ช้า
“เอาล่ะครับ!! การต่อสู้รอบ 4 คนสุดท้ายระหว่างคุณชิโร่ คาซามิ และคุณมาซามุเนะ ริคาโกะกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว!! ใครกันที่จะได้เข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ!!”
เสียงผู้บรรยายกล่าวอย่างออกรสในขณะที่ริคาโกะเดินไปยืนประจำที่ คาซามิและนาโอกิประจำที่อยู่ก่อนแล้ว ริคาโกะมองเขาด้วยสายตาที่ไร้ซึ่งความเป็นมิตรและค่อยๆสวม AG Vision อย่างช้าๆ
เมื่อคาซามิเห็นว่าคู่ต่อสู้ของเขาเตรียมพร้อม เขาเองก็สวม AG Vision เช่นกัน นาโอกิก้าวขึ้นมาเผชิญหน้ากับมาเรียและยืดเส้นยืดสายพอเป็นพิธี
“นึกว่าเธอจะถอดใจตั้งแต่เมื่อวานแล้วซะอีกนะ ขอชื่นชมจากใจจริง”
คาซามิพูดในเชิงยั่วยุพร้อมเสยผมเบาๆ แต่ริคาโกะก็ไม่ได้ตอบอะไรและกดปุ่มบน AG Vision ราวกับว่าเธอไม่มีอารมณ์มาต่อล้อต่อเถียงอะไรกับเขาทั้งสิ้น ที่เธอมาที่นี่ก็เพื่อแก้แค้นเท่านั้น เมื่อคาซามิเห็นว่ายั่วยุไม่ขึ้น เขาก็กดปุ่มบน AG Vision เช่นกันเพื่อให้ม่านพลังงานสีฟ้าครอบคลุมโดยรอบจนกลายเป็นสนามประลองอย่างสมบูรณ์
เมื่อกรรมการผู้ควบคุมการประลองเห็นว่าทั้งสองฝ่ายพร้อมแล้วก็ให้สัญญาณทันที
“เริ่มได้!!”
Naoki w/ Shiro Kasami vs Maria w/ Masamune Rikako