Bloody Wrestling Online
Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.

Bloody Wrestling Online

The Number One Cyber Wrestling Online
 
บ้านPortalLatest imagesสมัครสมาชิก(Register)เข้าสู่ระบบ(Log in)

 

 Tomorrow'll be better : Episode 1

Go down 
ผู้ตั้งข้อความ
DanielsoN
Xiao Mei's Husband
Xiao Mei's Husband
DanielsoN


จำนวนข้อความ : 2272
Join date : 19/09/2010
Age : 29

Tomorrow'll be better : Episode 1 Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Tomorrow'll be better : Episode 1   Tomorrow'll be better : Episode 1 EmptyTue Jun 09, 2015 5:05 pm

“ในปี 2103...ได้เกิดสงครามโลกครั้งที่สามขึ้น จากเหตุเพราะศาสนาที่ต่างกัน สงครามนี้ทำคนตายมากมายและมีผู้คนบาดเจ็บอีกมาก”
“แต่หลังจากนั้นอีกสามปี จอร์ดอน แม็คอาเธอร์หรือองค์จักรพรรดิองค์ปัจจุบัน เคียงข้างกับอังเดร โควาดิส สามารถหยุดสงครามนี้ได้ และเปลี่ยนการปกครองเป็นสภาโลก”
“สภาโลกคืออะไรครับ?” ชายหนุ่มคนนึงยกมือขึ้นมาถามชายร่างท้วมผู้สวมแว่นตาที่ยืนอยู่หน้ากระดาน
“ถามได้ดี สภาโลกคือสภาที่ว่ากันด้วยเรื่องทุกอย่างบนโลก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเศรษฐกิจของประเทศไหนหรือปัญหาในประเทศไหนก็จะคุยกันในสภานี้เท่าไหร่”

ในขณะที่ชายร่างท้วมผู้มีใบหน้าคงแก่เรียนกำลังอธิบาย ชายหนุ่มผมดำที่นั่งอยู่แถวๆกลางห้องก็กำลังนั่งเหม่ออยู่ แม้เบื้องหน้าของเขาจะมีสมุดที่เปิดกางวางอยู่บนโต๊ะเล็คเชอร์อยู่ แต่บนหน้ากระดาษนั้นไม่มีอะไรนอกจากความว่างเปล่า เขาก้มมองนาฬิกาข้อมือของเขาอยู่เป็นระยะๆและรอคอยให้ถึงเวลาที่เขาจะเป็นอิสระเสียที แต่ยามทุกข์นั้นเวลาย่อมเดินช้าเสมอแต่ถึงจะช้าเพียงใดอย่างน้อยๆเวลามันก็ยังเดิน จนในที่สุดมันก็ถึงเวลาที่เขารอคอย เวลาที่ทุกคนจะได้เป็นอิสระเสียที เสียงออดก็ดังขึ้น อาจารย์ที่กำลังพูดต้องหยุดลงเพราะเสียงออดที่ดังกึกก้องไปทั่วห้องเรียน

“ถ้างั้นวันนี้ไว้แค่นี้ก่อนก็แล้วกัน” อาจารย์ร่างท้วมปิดหนังสือเล่มหนาของเขาก่อนจะเดินออกไป

ก็ไม่แปลกเสียเท่าไหร่ที่หนังสือเล่มนี้จะเป็นหนังสือเล่มหนา เพราะนี่ก็ผ่านไปหลายปีแล้ว และมีเรื่องเกิดขึ้นมากมาย คิดแล้วก็น่าสงสารนะที่ต้องมานั่งเรียนประวัติศาสตร์เยอะขนาดนี้ ชายหนุ่มผมดำคนนี้ลุกขึ้นมาจากที่นั่งของเขาก่อนจะเดินลงข้างล่าง ผู้คนกำลังเดินลงจากบันไดช้าๆ ในขณะที่ชายที่ทำหน้าเบื่อโลกกำลังลงจากบันไดนั้น เขาก็ได้ยินเสียงของใครบางคนตะโกนเรียกชื่อเขา ตะโกนคำว่า “อดัม” มันเป็นเสียงทุ้มต่ำ มันทำให้ชายคนนี้หันมาแม้ว่ามันจะยืนขวางคนอยู่ก็ตาม เมื่อเขาหยุด เจ้าของเสียงก็เดินมาใกล้ๆกับเขา เจ้าของเสียงนั้นเป็นชายร่างโย่ง ชายคนนี้ค่อนข้างสูงกว่าชายที่ถูกเรียกว่าอดัมไม่น้อย ชายหนุ่มผมดำหรืออดัมแหงนหน้ามองชายร่างสูงคนนี้

“ไง...สนุกไหมคาบเมื่อกี้ไหม อดัม?” ชายร่างสูงเอ่ยปากถาม
“ไม่เลย...น่าเบื่อเป็นบ้า ชั้นไม่เข้าใจจริงๆว่าเราจะเรียนประวัติศาสตร์อะไรเยอะแยะ”
“มันก็แค่เรื่องในอดีต รู้ไปก็ไม่ได้อะไร” อดัมบ่นด้วยน้ำเสียงเซ็งแซ่
“แต่ว่าประวัติศาสตร์เราเรียนเพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดซ้ำสองนี่ ชั้นว่าจำเป็นต้องเรียนนะ” เพื่อนของอดัมพูด
“ตอนนั้นค่อยไปเสริช์กูเกิ้ลอ่านก็ได้” ชายผมดำตอบอย่างรวดเร็ว

คำพูดนี้ทำให้ชายร่างโย่งเงียบและไม่ได้พูดต่อ ทั้งคู่เดินลงมาข้างล่างก่อนจะเดินออกจากห้องเรียนห้องนี้ เมื่อทั้งคู่ออกมาก็เห็นคนจำนวนมากเดินสวนกันไปมา ดูเหมือนคลาสอื่นๆก็เลิกเหมือนกัน ท่ามกลางความวุ่นวายนั้นชายร่างโย่งกับชายผมดำก็เหลือบไปเห็นชายผมขาวคนนึง ผมของเขาสั้น ดวงตาของเขาเป็นสีแดง ใบหน้าของเขาเรียกได้ว่าดูอ่อนโยนและดูหล่อเหลา รอบๆเขานั้นเต็มไปด้วยผู้หญิงสองถึงสามคน แม้ว่าแต่ละคนจะเดินไปในทิศทางที่ต่างกัน แต่เมื่อชายผมขาวคนนี้เดินผ่านมา ทุกสายตาก็จับจ้องไปที่เขา

“ชั้นล่ะอิจฉาเจ้าอาเดี่ยนจริงๆ หล่อก็หล่อ แถมยังเป็นลูกของตระกูลโควาดิสอีกต่างหาก” ชายร่างโย่งพูด
“เอาน่า แจ็ค อย่างน้อยๆหมอนั่นมันก็ไม่ได้หยิ่งเหมือนกับพวกชนชั้นสูงคนอื่นๆ” อดัมพูดเข้าข้างชายผมขาวอันเป็นที่รักของสตรีเพศ
“ก็จริง” ชายร่างโย่งที่ถูกเรียกว่าแจ็คตอบพร้อมกับมองชายผมขาวเดินจากไป

=====

ท่ามกลางอวกาศอันกว้างใหญ่ ใหญ่เกินกว่าที่จะสามารถใช้อะไรวัดได้ว่ากว้างขนาดไหน แม้ว่าตอนนี้เทคโนโลยีจะพัฒนามาไกลแต่ถ้าเรื่องอวกาศก็ยังมีหลายอย่างที่ไม่สามารถให้คำตอบได้ ถึงกระนั้นการเดินทางระหว่างดวงดาวก็ไม่ใช่อะไรที่เป็นไปไม่ได้อีกต่อไป ตอนนี้โลกเรามีการค้าขายกับดวงดาวอื่นๆมีการแลกเปลี่ยน มีเกี่ยวกับการทูตขึ้นมา และก็มีการเกิดการปล้มสะดมขึ้น ไม่ต่างอะไรกับตอนที่มนุษย์ค้นพบเส้นทางการเดินเรือนั่นแหละ เช่นเดียวกันกับยานอวกาศลำนึงที่เคลื่อนที่ไปช้าๆในอวกาศอันกว้างใหญ่ มันเป็นเรือของกลุ่มโจรสลัด “ไดม่อน” กลุ่มโจรสลัดอวกาศที่เลื่องชื่อมากที่สุดในจักรวาล ไม่ว่าจะไปที่ดาวดวงไหนก็ตามหากพูดชื่อว่า “ไดม่อน” สิ่งแรกที่ทุกคนคิดจะไม่ใช่เพชรแต่จะเป็นกลุ่มโจรสลัดกลุ่มนี้

“เกรกอรี่” เสียงของชายคนนึงดังขึ้นมา

ชายผิวสีเข้มที่บนศีรษะนั้นไม่อะไรนอกจากความว่างเปล่าเงยหน้าขึ้นมา ก่อนที่เขาจะเห็นชายร่างโตยืนอยู่ บนตัวของเขานั้นเต็มไปด้วยบาดแผลมากมาย ไม่รู้ว่าแผลไหนมาจากอะไรบ้าง แต่ดูเหมือนเขาจะผ่านสงครามและความเจ็บปวดมาไม่น้อย ในมือของชายผิวสีคนนี้ถือปืนอยู่กระบอกนึง บนเตียงที่เกรกอรี่นั่งอยู่มีปืนอีกกระบอกวางอยู่ ในมือของเขาถือผ้าสีขาว ดูเหมือนเขาจะทำความสะอาดปืนของเขาอยู่ แต่เพราะชายคนนี้เอ่ยปากเรียกเขาก็จึงทำให้เขาต้องหยุดการกระทำของเขา

“มีอะไรเรอะ บิล?” ชายผิวสีหมึกที่ชื่อเกรกอรี่เอ่ยปากถาม
“รู้ยังว่าค่าหัวของแกเพิ่มขึ้นอีกแล้ว? สงสัยจะเป็นเพราะสิ่งที่แกทำไว้บนดาวอังคาร”
“งั้นเรอะ...” ชายที่ถูกเรียกว่าเกรกอรี่ตอบสั้นๆก่อนจะก้มกลับไปเช็ดปืน
“ไม่สนใจเลยหรอ? ปกติสำหรับโจรสลัดอวกาศอย่างเรา การได้ขึ้นค่าหัวนี่ถือว่าเป็นเกียรติมากเลยนะ”

คำพูดของบิลนั้นทำให้ชายผิวดำที่ชื่อว่าเกรกอรี่หยุดการกระทำของเขาอีกครั้งก่อนจะเงยหน้ามามองอีกรอบ

“เอาจริงๆชั้นไม่ชอบหรอกเวลาที่ค่าหัวชั้นขึ้น เพราะนั่นก็แปลว่าคนหมายหัวชั้นมากขึ้น”
“และโอกาสที่ชั้นจะตายก็มากขึ้น” ลูกเรือโจรสลัดอวกาศคนนี้ให้คำตอบ
“ต่อให้นายเก่งขนาดนี้ นายยังกลัวอีกเรอะ?” หัวหน้ากลุ่มไดม่อนเอ่ยปากถามด้วยความประหลาดใจ
“กลัวซิ...ชั้นไม่เชื่อหรอกว่าทุกคนจะเป็นอมตะ ต่อให้ชั้นเก่งขนาดไหน แต่ถ้าศัตรูมากเกินไป ชั้นก็ไม่รอดอยู่ดี” เกรกอรี่ตอบ
“ชั้นยังอยากเสพสุขกับเงินที่ได้อีกเยอะ” ชายผิวดำพูดก่อนจะเช็ดปืนต่อ

ชายร่างยักษ์คนนี้ได้ยินก็ไม่ได้พูดอะไร นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ทั้งสองคนมีความเห็นไม่ตรงกัน แต่ถึงกระนั้นความเห็นที่ต่างกันนั้นก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคของชายทั้งสองคน ท่ามกลางความเงียบนั้นยานลำนี้ก็ยังคงเคลื่อนช้าๆไปยังอวกาศที่กว้างใหญ่และเต็มไปด้วยปริศนาที่ยังไม่สามารถหาคำตอบได้ สิ่งเดียวที่ทั้งคู่ได้ยินคือเสียงเครื่องยนต์ของยานลำนี้ เอาจริงๆยานลำนี้ก็เป็นยานที่ทั้งคู่ปล้นมาด้วยกัน ตอนที่ทั้งสองออกมาจากโลกมนุษย์นั้นพวกเขาออกมาด้วยยานเก่าๆธรรมดา แต่ด้วยระยะทางและอะไรหลายๆอย่างจึงทำให้เหล่าคณะลูกเรือโจรสลัดอวกาศคิดว่าต้องเปลี่ยนยาน และก็ตัดสินใจปล้ำยานลำนี้กันมา แต่เดิมยานลำนี้เป็นยานของชาวดาวอังคาร และเพราะเหตุนี้ค่าหัวของชายที่ชื่อเกรกอรี่จึงเพิ่มขึ้น

“แล้วต่อไปเราจะไปไหน?” ลูกเรือหันไปถามกัปตันเรือ
“ดาวพฤหัสน่ะ” บิลพูดพลางมองออกไปยังหน้าต่าง
“ดาวพฤหัส? ไปทำอะไร” ชายผิวดำที่มีรอยสักเต็มแขนถามด้วยสีหน้าสงสัย
“เตะตูดพวกเอเลี่ยนไง” บิลตอบแบบติดตลกก่อนจะเดินออกจากห้องไป

เกรกอรี่รู้ว่าคำตอบมะกี้ไม่ใช่เรื่องจริง แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไรก่อนจะหยิบปืนอีกกระบอกมาเช็ดต่อ เขาเห็นใบหน้าของเขาบนปืนสีเงินของเขา ชายคนนี้ก็นึกสงสัยว่าทำไมกันนะเขาต้องเกิดเป็นแค่ “ไอ้มืด” ที่อาศัยอยู่สลัมด้วย ทำไมเขาไม่เกิดเป็นลูกของตระกูลโควาดิสหรือเกิดมาเป็นลูกจักรพรรดิ หรือถ้าหากขอมากไป ก็ขอแค่เป็นตระกูลที่มีกินก็พอแล้ว มีข้าวกินทุกมื้อ อยู่บนเตียงอุ่นๆเวลาหนาว อยู่ใต้หลังคายามฟ้าฝนไม่เป็นใจ เขานึกแล้วก็ถอนหายใจก่อนจะหันมองไปยังอวกาศอันกว้างใหญ่อีกครั้ง

=====

ชายหนุ่มผมขาวที่มีดวงตาสีแดงก่ำกำลังมุ่งตรงมายังบ้านของเขา บ้านของเขานั้นเป็นบ้านที่ใหญ่ เรียกได้ว่าใหญ่จนเด่นสะดุดตา ในมือของเขานั้นถือกล่องมากมาย มันเป็นของขวัญที่เขาได้จากสาวๆในโรงเรียนของเขา ด้วยใบหน้าที่เรียกได้ว่าหล่อและชื่อเสียงตระกูลที่ยิ่งใหญ่ มันไม่แปลกเลยว่าทำไมเขาเป็นเหมือนแม่เหล็กดึงดูดผู้หญิง เขาเดินมาถึงหน้าประตูที่มียามร่างใหญ่สองคนยืนอยู่ เมื่อเขาเห็นลูกชายตระกูลโควาดิส เดินมาเขาก็โค้งให้ก่อนจะตรวจดูกล่องของขวัญพวกนั้นอย่างละเอียดส่วนใหญ่มันจะเป็นพวกเสื้อผ้าหรือไม่ก็พวกผ้าเช็ดหน้า ยามเฝ้าประตูสองคนเปิดประตูให้กับอาเดี่ยนได้เดินเข้าไปช้าๆ เขาเดินมาถึงประตูบ้านก่อนจะวางกล่องทั้งหมดลงและเปิดประตูไม้อย่างฃ้าๆ

เมื่อประตูถูกเปิดออกเขาก็ได้ยินเสียงฝีเท้าของอะไรบางอย่างวิ่งตรงมาหาเขาอย่างรวดเร็ว มันคือเสียงของ “บอกไซต์” ลูกหมาพุดเดิ้ลของเขา อาเดี่ยนยองตัวลงไปก่อนจะกอดมันในขณะที่มันกำลังเลียหน้าของชายผมขาวคนนี้อยู่ เจ้าของสุนัขตัวนี้ปล่อยมันก่อนจะหันไปหยิบกล่องเข้ามาวางไว้ในบ้าน เมื่อเขาเข้ามาบ้านนั้น เขาก็หันไปเห็นชายผมขาวอีกคนซึ่งเสยผมขึ้นไป ทำให้สามารถเห็นหน้าผากที่เนียนเรียบ รอบๆคางของเขาเต็มไปด้วยเครา ชายคนนี้นั่งอยู่บนโซฟาหนังสีดำ โดยตรงข้ามกันนั้นมีโทรทัศท์ที่เปิดอยู่ แต่ถึงกระนั้นเขาไม่ได้มองจอเลยแม้แต่น้อยเพราะในมือของเขาถือหนังสืออยู่ด้วย มันเป็นหนังสือประวัติศาสตร์ เกือบทุกครั้งที่อาเดี่ยนเห็นหน้าชายคนนี้เขาต้องถือหนังสือประวัติศาสตร์ซักเล่มตลอด ไม่เล่มใดก็เล่มนึง

“อ้าว กลับมาแล้วเรอะ อาเดี่ยน?” ชายที่ทอดตัวอยู่บนโซฟาหันมา
“กลับมาละครับพี่อาเธอร์” อาเดี่ยนหันไปพูดกับพี่ชายของตัวเอง
“แล้ววันนี้อะไรล่ะ? เสื้อผ้า? ผ้าเช็ดหน้า หรือขนม?” ผู้เป็นพี่เอ่ยปากแซว
“ทุกอย่างเว้นขนม” ผู้เป็นน้องตอบด้วยน้ำเสียงเซ็งแซ่
“ถ้าสมมุติว่าผมไม่ใช่ตระกูลโควาดิส พวกผู้หญิงพวกนั้นจะตามตื้อผมทุกวันรึเปล่านะ?” อาเดี่ยนตั้งคำถามขึ้นมาพลางถอดรองเท้าของตัวเองวางไว้บนชั้น
“อาจจะไม่และอาจจะใช่...อย่างน้อยๆแกก็หล่อ” ผู้เป็นพี่นามอาเธอร์ตอบติดตลก

อาเดี่ยนเงียบเมื่อได้ยินคำตอบ เขาเดินตรงไปยังบันไดเพื่อจะขึ้นไปยังชั้นสอง นอกจากเสียงฝีเท้าของแล้ว ก็ยังมีเสียงฝีเท้าของเจ้าบอกไซต์ที่เดินตามเขามาติดๆ เขาก้าวเท้าเตรียมจะขึ้นชั้นสอง หากทว่าเขาก็หยุดราวกับเขาพึ่งนึกอะไรออก อาเดี่ยนก้าวเท้าลงมาจากบันไดก่อนจะกลับไปหาพี่ชายของเขาที่ยังนั่งอยู่บนโซฟาหนังราคาแพง

“จะว่าไป? พี่อเลซิสล่ะ?”
“อ่อ นั่นน่ะหรอ? อเลซิสไปงานต้อนรับพวกชาวดวงจันทร์น่ะ พ่อไม่ค่อยว่างก็เลยส่งอเลซิสไปแทน”
“พวกชาวดวงจันทร์? มาทำไมละนั่น?” ลูกคนสุดท้องทำหน้าสงสัย
“ไม่รู้เหมือนกัน ชั้นก็ไม่ได้มีโอกาสถามพ่อของเราเหมือนกัน” อาเธอร์ตอบพลางพลิกหน้ากระดาษไปหน้าต่อไป
“ผมสงสัยตั้งนานแล้วว่าทำไมพี่อเลซิสต้องไปแทนพ่อด้วยล่ะ? พี่อเลซิสไม่ใช่พี่โตสุดนี่ ถ้าปกติแล้วมันควรจะเป็นพี่อาเธอร์ไม่ใช่หรอ”

อาเธอร์ปิดหนังสือก่อนจะหันมามองอาเดี่ยนที่ตั้งคำถามข้อนี้ขึ้นมา

“ผู้ชอบสิ่งสวยงามเสมอ และอเลซิสก็เป็นสิ่งสวยงาม”

ขณะเดียวกันที่โรงแรมหรูแห่งหนึ่ง ณ ห้องโถงที่ตกแต่งอย่างอลังการ โคมไฟแชนดาเลียร์ที่ถูกแขวนไว้บนเพดาน ผนังที่ถูกทาด้วยวอลเปเปอร์สีขาว ที่มองแล้วก็ดูมีระดับ ท่ามกลางเสียงเพลงที่บรรเลงด้วยวงออเครสต้า เหล่าบริกรที่เดินไปมาพร้อมกับถาดเครื่องดื่มและอาหารในมือ ผู้คนที่แต่งตัวดูหรูหรายืนคุยกันและหัวเราะให้กับมุขตลกที่ไม่ค่อยจะตลกเท่าไหร่ หญิงสาวผมสีขาวยาวสลวยแต่เส้นผมของเธอนั้นไม่ได้เรียบเสียทีเดียวเพราะเธอถักเปียด้วยเช่นกัน เธออยู่ในชุดเดรสสีแดง รอบๆเธอนั้นมีแต่ผู้ชายที่ยืนล้อมเธอ ด้วยความงามของเธอ ก็คงไม่แปลกใจเท่าไหร่ที่เธอจะดึงดูดเพศตรงข้ามให้อยู่รายล้อมเธอ เธอจิบไวน์พร้อมกับฝืนยิ้มด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความเสแสร้ง

“ดิชั้นขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะคะ...เดี๋ยวดิชั้นกลับมา” หญิงสาวที่ชื่ออเลซิสบอกกับเหล่าบุรุษที่ยืนรายล้อมเธอ

พวกเขาตอบคนละอย่างกันแต่ดูเหมือนเขาจะรับฟังเธอ อเลซิสเดินแยกออกไปก่อนจะตรงเข้าไปในห้องน้ำหญิง เธอวางแก้วไวน์ของเธอไว้บนซิงค์ที่ทำจากหินอ่อน เธอถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะเงยหน้ามองตัวเองในกระจก ในกระจกนั้นเธอเห็นหญิงงามที่มีเส้นผมสีเดียวกันกับน้ำนม ดวงตาสีฟ้าอ่อน พร้อมกับรูปร่างที่งดงามราวกับนางแบบ อเลซิสยื่นมืออันบอบบางของเธอไปแตะบนกระจกอันแสนจะเย็นเฉียบ

“ความงาม”

หญิงทุกคนล้วนแต่ปรารถนาสิ่งนี้ทั้งนั้น เช่นเดียวกันกับอเลซิสในวัยเยาว์ หากทว่าเมื่อเธอโตขึ้น ความคิดของเธอก็เริ่มเปลี่ยนไปช้าๆ เธอเกลียดงานสังคมแบบนี้ที่สุด เธอเกลียดรอยยิ้มเสแสร้ง เธอเกลียดเสียงหัวเราะจอมปลอม ทุกคนที่หัวเราะให้กับคำพูดของเธอนั้นต่างล้วนไม่ได้รู้สึกตลกไปกับคำพูดของเธอ แต่ปรารถนา “อย่างอื่น” จากเธอ บางทีเธอก็สงสัยนะว่าทำไมเธอถึงจะเกิดเป็นผู้ชายแบบพี่ชายของอาเธอร์หรือน้องชายของเธออาเดี่ยนไม่ได้ ทำไมเธอจะต้องเกิดเป็นลูกผู้หญิงคนเดียวของตระกูลโควาดิส

ในขณะที่เธอกำลังคิดถึงสิ่งที่มันเป็นไปไม่ได้ เธอก็ได้ยินเสียงฝีเท้าของใครบางคนก้าวเข้ามา เธอหันไปตามเสียงฝีเท้าก่อนจะเห็นผู้ชายผมสีทอง เดินเข้ามา ใบหน้าของเขาเรียกได้ว่ารูปงาม นัยต์ตาของเขาเป็นสีฟ้า เขาสวมชุดสูทสีขาว แน่นอนว่าชายคนนี้มีใบหน้าที่ชวนให้ใครหลายคนหลงไหล ใบหน้าของเขาแดงก่ำดูเหมือนเขายังเมามายไปกับฤทธิ์ของแอลกอฮอลล์ อเลซิสเห็นแล้วก็ก้มโค้งให้ เธอรู้ว่าชายคนนี้เป็นใคร ชายคนนี้คือมอร์มอนลูกชายขององค์จักรพรรดิของดวงจันทร์

“สวัสดีค่ะ เจ้าชายมอร์มอน...อย่าหาว่าข้าเสียมารยาทแต่นี่ห้องน้ำสตรี ท่านเข้าห้องน้ำผิดหรือเปล่า?”
“นี่ซินะอเลซิส โควาดิช หญิงที่ว่ากันว่างามที่สุดบนโลก” ดูเหมือนชายคนนี้จะไม่ได้ฟังที่หญิงคนนี้พูดเลย
“ขอบคุณมาก คำชมของท่านทำให้ข้ารู้สึกเป็นเกียรติมาก...ถ้างั้นข้-“

ไม่ทันที่อเลซิสจะพูดจบเขาก็คว้าแขนอันบอบบางของอเลซิสก่อนจะดันเธอติดเข้ากับกำแพง ในวินาทีนั้นอเลซิสพยายามจะร้อง แต่ชายคนนี้ก็เอามือปิดปากของเธอไว้ เจ้าชายจากดวงจันทร์ใช้มืออีกข้างถกกระโปรงของเธอขึ้นก่อนจะล้วงเข้าไปในจุดสงวน อเลซิสพยายามจะดิ้น ในขณะเดียวกันเจ้าชายแห่งดวงจันทร์ก็ใช้ลิ้นของเขาสัมผัสไปทั่วลำคอของอเลซิส ในขณะที่สติของเธอเริ่มเลือนรางนั้น เธอก็คว้าเอาแจกันที่อยู่แถวๆนั้นฟาดเข้าไปที่หัวของชายคนนี้ แรงกระแทกนั้นทำให้เขาเซออกมา เลือดนั้นไหลผ่านหน้าผากของเขาก่อนจะหยดลงพื้น เข่าของพับลงไปก่อนจะลงนอนกับพื้นคอนกรีตสีขาวที่เย็นเฉียบ ดวงตาของอเลซิสเบิกโพลนด้วยความตกใจ เลือดนั้นไหลนองไปทั่วพื้น ร่างของชายคนนี้ไม่ขยับ ใช่...”เขาตายแล้ว”
ขึ้นไปข้างบน Go down
 
Tomorrow'll be better : Episode 1
ขึ้นไปข้างบน 
หน้า 1 จาก 1
 Similar topics
-
» TGF : Episode 1
» TGF : Episode 2
» TGF : Episode 3
» TGF : Episode 4
» TGF : Episode 5

Permissions in this forum:คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
Bloody Wrestling Online :: BWO : Special Event :: BWO Novel-
ไปที่: