ห้องของคาเรนนั้นเต็มไปด้วยสิ่งของมากมายกระจัดกระจายอยู่ที่พื้น ตั้งแต่เสื้อผ้าจนไปถึงชุดชั้นในของเธอ อูเอดะนั่งยองๆก่อนจะก้มมองไปยังจุดต่างๆ คาเรนเองก็ยังคงค้นหาเด๊คของเธอต่อไป ดูเหมือนเธอจะไม่สนใจเลยว่าชุดชั้นในของเธอนั้นกระจัดกระจายไปทั่วห้อง ไม่แน่ใจว่าเพราะคาเรนเชื่อใจในตัวอูเอดะหรือเพราะเธอสนใจในตัวเด๊คมากกว่าเรื่องพวกนี้ อูเอดะดึงลิ้นชักออกมา เขาใช้มือของเขาควานหาเด๊คและหวังว่าคาเรนจะแค่ลืมอยู่ในลิ้นชัก แต่หากทว่าดูเหมือนมันจะไม่อยู่ในลิ้นชัก อูเอดะถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะเดินอีกจุดนึงเพื่อหาของที่หายไป หากทว่าในขณะที่เขาเดินอยู่นั้น เขาก็รู้สึกว่าเท้าของเขาเหยียบอะไรบางอย่าง อูเอดะหยุดก่อนจะก้มลงไปมอง เขาเห็นกระดาษแผ่นเล็กๆตกอยู่ อูเอดะก้มลงไปก่อนจะหยิบพร้อมกับคลี่กระดาษออก
”ถ้าอยากเด๊คคืน มาเจอกับชั้นที่เมอร์ไลอ้อน ในช่วงเวลา 4 ทุ่ม”
“เฮ้ คาเรน ชั้นว่าเธอน่าจะอยากอ่านนี่”
คาเรนได้ยินก่อนจะหยุดมือของเธอก่อนจะเดินกลับมายังตรงที่อูเอดะยืนอยู่ ชายผมแดงยื่นกระดาษแผ่นนี้ให้ คาเรนกวาดสายตาอ่านข้อความบนกระดาษแผ่นนั้นก่อนจะคว้าแขนของอูเอดะ พร้อมกับวิ่งออกจากห้องไป
“เราไม่มีเวลาแล้ว รีบไปกันเถอะ”
“ดะ...เดี๋ยวก่อนซิ!!” อูเอดะพูดขึ้นในขณะที่คาเรนลากแขนของชายผมแดง
=====
ชายหญิงคู่นี้นั่งรถไฟใต้ดินที่กำลังมุ่งตรงไปยังแลนมาร์คประจำสิงค์โปร เสียงรถไฟใต้ดินที่วิ่งบนลางนั้นดังกึกก้องไปทั่วขบวน อาจจะเพราะเริ่มดึกแล้วคนจึงน้อย รถขบวนที่ทั้งสองนั่งไม่มีใครอื่นเลยนอกจากตัวพวกเขาเอง ในขณะที่รถไฟกำลังเคลื่อนที่อยู่นั้น อูเอดะก็ได้ยินเสียงของคาเรนบ่นอุบอิบอยู่ตลอดทาง “ต้องเป็นตอนนั้นแน่ๆ ต้องเป็นตอนนั้นแน่ๆ” อูเอดะมองหน้าของเธอพร้อมกับทำหน้าสงสัยว่าหญิงผมม่วงนั้นกำลังหมายถึงอะไร
“ต้องเป็นตอนนั้นแน่ๆเลยอูเอดะ” คาเรนหันมาพูดกับอูเอดะ
“ตอนนั้น?” อูเอดะทวนคำพูดของเธอ
“ใช่ ตอนที่เด็กผู้หญิงคนนั้นชนชั้นที่สถานี ตอนนั้นเธอขโมยเด๊คของชั้นไปแน่ๆ” คาเรนให้คำตอบกับชายผมแดง
อูเอดะกอดอกก่อนจะคิดตาม จะว่าไปสิ่งที่เธอพูดก็ดูมีเหตุผล อูเอดะพยักหน้าตอบกลับไปก่อนจะเอาหลังพิงกับเบาะสีน้ำเงิน รถไฟหยุดลงเมื่อถึงสถานี คาเรนรีบลุกขึ้นจากเบาะของเธอก่อนจะวิ่งออกไป อูเอดะเองก็ต้องรีบวิ่งไล่เธอเพื่อให้ตามเธอทัน ทั้งคู่ออกมานอกสถานี ท้องฟ้านั้นมืดสนิท แต่แม้มันจะมืดนั้นแต่ด้วยแสงไฟจากอาคารและเสาไฟนั้นทำให้ ทางที่ทั้งสองยืนอยู่เป็นทางยาว ตลอดข้างทางนั้นมีน้ำพุอยู่ตลอด และสิ่งที่รออยู่สุดเส้นทางนั้นก็ถือสิงโตตัวใหญ่ที่สูงเสียดฟ้า จะเรียกว่าสิงโตก็ไม่ถูกเพราะมันเป็นสิงโตผสมกับนางเงือก
“อยู่ไหนนะ...” คาเรนพูดพร้อมกับกวาดสายตาไปรอบๆ
ทั้งคู่ยังคงก้าวเท้าขึ้นไปข้างหน้า โดยมุ่งไปยังสถานที่เลื่องชื่อของที่นี่ ทั้งคู่ก้าวเท้าช้าๆ มีเพียงแต่เสียงฝีเท้าและเสียงน้ำพุที่ดังขึ้นเป็นระยะๆ สายลมอันหนาวเหน็บแตะผิวหนังของทั้งสอง ว่าแล้วทั้งคู่ก็หยุดลงเมื่ออยู่หน้าชายร่างสูงผมน้ำตาลกับหญิงผมน้ำตาลในชุดสีชมพู ทั้งคู่รู้เลยว่าเป็นคนที่อยู่ตรงหน้านั้นเป็นคนที่เขียนข้อความบนกระดาษแผ่นนั้น เพราะชุดสีชมพูของเด็กผู้หญิงที่ผูกหางม้าสีน้ำตาลนั่นแหละ อูเอดะกับคาเรนมองไปยังใบหน้าของชายร่างสูงก่อนจะพูดขึ้นมาพร้อมๆกัน
“อาการิ!?”
“ไง” อาการิทักด้วยรอยยิ้ม
“นายมาทำอะไรที่นี่?” อูเอดะเอ่ยปากถาม
“พอดีมาทดลองอะไรเกี่ยวกับบลิตซ์ครีกนิดๆหน่อยน่ะ” ชายผมน้ำตาลพูด
อูเอดะกับคาเรนทำหน้าสงสัย
“แต่ก่อนอื่น...ชั้นขอคืนเด๊คให้คาเรนก่อน” อาการิพูด
ชายผมน้ำตาลหันไปมองหญิงผมสีน้ำตาลที่อยู่ข้างๆ ก่อนจะพยักหน้าให้เธอ หญิงผมน้ำตาลเดินนำหน้าไปก่อนจะยื่นเด๊คให้ คาเรนมองก่อนจะรับไว้ เมื่อเธอรับเด๊คของเธอ หญิงผมม่วงก็หงายก่อนจะไล่ดูการ์ดทุกใบ ดูเหมือนการ์ดทุกใบของเธอนั้นยังคงอยู่ดี เธอหายใจด้วยความโล่งอก
“แล้ว นายขโมยเด๊คชั้นไปทำไม?” คาเรนเอ่ยปากถาม
“เพราะนี่ไงล่ะ” อาการิหยิบอะไรออกมาจากกระเป๋าที่วางบนพื้น
มันเป็นแว่นตาที่มีเลนส์สีฟ้า ในขณะเดียวกันอีกมือของเขาถือปลอกแขน อูเอดะกับคาเรนมองไปที่แว่นตาและปลอกแขนพร้อมกับทำหน้าฉงน สีหน้าของทั้งสองนั้นตั้งคำถามกับวัตถุชนิดนี้ว่ามันคืออะไร อาการิผู้ถือวัตถุประหลาดชนิดนี้แล้ว มองไปของที่เขาถือก่อนจะเริ่มอธิบาย
“ถ้าสวมแว่นตาตัวนี้จะทำให้เห็นสนามแข่งบลิตซ์ครีกน่ะ ไม่ว่าจะเป็นรายละเอียดของ Minion หรือ General ของเราหรืออีกฝ่าย”
“พอดีงานแข่งที่คุณโคตะจัดขึ้นมาจะใช้แว่นพวกนี้ดู เพราะว่าคุณโคตะอยากให้พื้นหลังในการดูเอลดูมีสีสันมากกว่านี้”
“แบบนี้แหละ” อาการิแกว่งไปรอบๆจุดที่เขายืนอยู่
ชายผมแดงกับหญิงผมม่วงมองไปรอบๆเช่นเดียวกัน ถ้าหากดูจากบรรยากาศแล้ว มันก็คงเป็นบรรยากาศที่งดงามไม่น้อยที่จะได้ชมการแข่งขันในบรรยากาศแบบนี้
“แล้วปลอกแขนนั่นล่ะ?” อูเอดะชี้นิ้วถามต่อ
“อ่อ นี่น่ะนะ?” อาการิมองในสิ่งที่อูเอดะกำลังชี้อยู่
ชายร่างสูงหยิบกองการ์ดของตัวเองออกมาก่อนจะวางลงเสียบเข้าไปในปลอกแขน เมื่อเขาเสียบเข้าไปในปลอกแขนนั้นก็ทำให้วัตถุแบนราบพุ่งออกมาจากปลอกแขน อาการิหยิบการ์ดใบนึงออกมาจากกอง ก่อนจะวางลงไปบนแผ่นนั้น มันทำให้ภาพของการ์ดนั้นปรากฏขึ้นมาตรงหน้า เมื่อภาพของการ์ดใบนั้นปรากฏขึ้น ดวงตาของคาเรนและอูเอดะนั้นต่างเต็มไปด้วยประกายราวกับว่าเด็กเห็นของเล่นอะไรอย่างนั้น อาการิหยิบการ์ดที่วางอยู่บนแผ่นออกก่อนจะเก็บเข้ากอง เมื่อการ์ดนั้นถูกยกขึ้น ภาพที่ฉายอยู่ก็หายไป
“นายเป็นคนทำมันขึ้นมาเองหรอ?” คาเรนเอ่ยปากถาม
“เปล่า เป็นบริษัทในสิงค์โปรนี่แหละ” ชายร่างสูงให้คำตอบ
“เอาจริงๆชั้นก็ไม่รู้ว่ามันใช้ได้ดีรึยัง ก็เลยอยากจะเอามาทดลองน่ะนะ” อาการิแจ้งเจตจำนง
“แล้วทำไมไม่เทสที่บริษัทล่ะ?” ชายผมแดงตั้งคำถามด้วยความสงสัย
“พอดีที่บริษัทไม่มีใครเล่น และชั้นก็อยากจะเก็บเจ้านี่ไว้เป็นความลับ” ชายผมน้ำตาลพูดต่อ
“แล้วทำไมไม่ลองเทสเจ้านี่กับเธอคนนั้นน่ะ” ชายผมแดงชี้ไปยังในหญิงในชุดชมพู
อาการิหันไปยังหญิงผมน้ำตาลร่างเล็ก ที่สวมชุดสีชมพู
“ชั้นลืมแนะนำตัวน้องสาวของชั้นไปเลย นี่ฮิบิกิน้องสาวของชั้น” อาการิแนะนำตัวหญิงที่ยืนอยู่ข้างๆ
“เท็ตซึยะ ฮิบิกิค่ะ ยินดีที่รู้จักค่ะ” หญิงในชุดสีชมพูก้มโค้งให้เมื่อทั้งอูเอดะกับคาเรนเห็นเธอโค้งจึงโค้งกลับ
“พอดีฮิบิกิไม่ได้เล่นบลิตซ์ครีกน่ะ ชั้นก็เลยเล่นกับเธอไม่ได้” ชายร่างสูงพูดต่อ
“สรุปแล้วคือนายหาคนทดลองด้วยไม่ได้ก็เลยอยากจะมาทดลองกับพวกชั้น...ถ้าแบบนั้นเขียนดีๆก็ได้นี่” คาเรนตั้งคำถามต่อ
“อ่อ ชั้นอยากทำอะไรให้มันดูน่าตื่นเต้นน่ะ” อาการิหัวเราะเบาๆ
อูเอดะกับคาเรนหันมามองหน้ากัน ก่อนที่อูเอดะจะก้าวเท้าขึ้นไปข้างหน้าพร้อมกับพูดกับอาการิที่ยืนอยู่ตรงข้ามกับตนเอง
“สรุปคือนายอยากจะได้คนเล่นด้วยใช่ไหม ได้เลย งั้นชั้นจะเป็นคู่มือให้นายเอง!!” อูเอดะพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
“ไม่อะ ไม่เอา” อาการิปฏิเสธอย่างรวดเร็ว
อูเอดะได้ยินประโยคนี้แทบจะล้ม แต่เขาก็ยังทรงตัวไว้ได้ อูเอดะแหงนหน้ามองหน้าของอาการิผู้ซึ่งปฏิเสธตนไปเมื่อครู่นี้
“ถ้าชั้นเลือกได้ชั้นอยากจะเล่นกับผู้หญิงมากกว่า”
ทุกคนที่อยู่แถวนั้นพอได้ยินประโยคนี้แล้ว ก็ล้วนแต่ทำหน้าขยะแขยง คาเรนฟังแล้วก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะเดินแซงหน้าของอูเอดะไป เธอรับปลอกแขนอันนั้น พร้อมกับแว่นตา เธอสวมมัน ก่อนจะหยิบกองการ์ดของตัวเองและเสียบไว้ในที่ของมัน แท่นที่แบนราบนั้นปรากฏขึ้นมา ทั้งอาการิและคาเรนต่างหยิบ General ของตัวเองก่อนจะวางลงไป ทางของคาเรนนั้นเป็นหญิงผมดำที่ผมของเธอนั้นยาวสลวยถึงพื้น เธอนั่งอยู่บนเก้าอี้สีขาวของเธอ ใบหน้าของเธอนั้นเต็มไปด้วยความสงบและเต็มไปด้วยความอ่อนโยน เธอมองยังคู่ต่อสู้ของเธอที่เป็นชายในชุดรัดรูปสีเหลือง เขาสวมหน้ากากสีเหลืองตัดสลับกับดำ ดวงตาของมันนั้นเต็มไปด้วยความโหดร้าย
“ถ้างั้นแล้วก็...Let’s Battle” อาการิพูดก่อนเป็นฝ่ายจั่วการ์ดก่อน
=====
General ของคาเรน
ชื่อการ์ด : Amanda, The Queen of Hair (ราชินีแห่งเส้นผม อแมนด้า)
เผ่า : จอมเวท
ATK : 2
DEF : 8
HP : 25
เอ็ฟเฟ็ค : หากการ์ดที่มีคำว่า Barber อยู่ในชื่อตีการ์ดใบนี้ จะลด HP ของการ์ดใบนี้ลง 1 หน่วย แล้วการ์ดที่ตีพลังโจมตี-ป้องกันจะเพิ่มขึ้นสองเท่า แน่นอนว่าสามารถใช้การ์ดฝ่ายตัวเองตีการ์ดใบนี้ได้เป็นกรณีพิเศษ แต่พลังโจมตี-ป้องกัน 2 เท่านั้นจะใช้ได้ครั้งเดียว โดยพลังโจมตี 2 เท่าจะหายไปเมื่อตีคู่ต่อสู้ และพลังป้องกัน 2 เท่าจะหายไปเมื่อถูกตี
General ของอาการิ
ชื่อการ์ด : " Blaze " The Abyss Fire
ATK : 9
DEF : 2
HP : 20
=====
“เข้าเทริน์ของชั้น ดรอว์” คาเรนตะโกนก่อนจะจั่วการ์ดตัวเองขึ้นมา
คาเรนมองการ์ดของตัวเองผ่านเลนส์สีฟ้าก่อนจะหยิบการ์ดใบนึงออกมาวางไว้ลงบนแผ่นพลาสติก
“ขออัญเชิญ ช่างตัดผมแห่งความโกลาหล โจแอน”
ชื่อการ์ด : Joan, The Barber of Chaos (ช่างตัดผมแห่งความโกลาหล โจแอน)
ATK : 8
DEF : 6
HP : 15
เอ็ฟเฟ็ค : สังเวยการ์ดที่มีชื่อว่า Barber 1 ใบจากบนมือหรือบนสนามเพื่อให้การ์ดใบนี้สามารถตี/โดนตีด้วยเอ็ฟเฟ็คของราชินีเส้นผม (พลังโจมตี-ป้องกันเพิ่ม 2 เท่า) ได้อีก 1 ครั้ง และถ้าสังเวยอีกก็ตีเพิ่มได้อีก
หญิงผมดำยาวที่มีนัยน์ตาสีแดงปรากฏตัวขึ้นมาในสนาม ดวงตาของเธอนั้นแหลมคม ในมือของเธอถือกรรไกรอยู่ด้วย อูเอดะเห็นการ์ดใบนี้มันก็ทำให้เขานึกหวนถึงวินาทีที่เขาโดนหญิงคนนี้ใช้กรรไกรไล่เสียบร่างของการ์ดตัวเอง
“จบเทริน์” คาเรนพูด
“เข้าเทริน์ของชั้น ดรอว์” อาการิหยิบการ์ดขึ้นมา
“ขออัญเชิญ ลูซิเฟล่า!!”
ชื่อการ์ด: The Devil Chain " Lucifela "
ATK : 7
DEF : 5
HP : 10
หญิงผมดำในชุดวาบหวิวปรากฏตัวขึ้นมา เพราะด้วยชุดอันแสนจะวาบหวิวจึงทำให้เห็นหน้าท้องของเธอ ซึ่งบนหน้าท้องของเด็กผู้หญิงคนนี้ก็มีรอยแผลที่ถูกเย็บไว้แล้ว เธอมัดผมทรงทวินเทล หญิงคนนี้มีผ้าคลุมสีดำห่อร่างของเธออยู่ ในมือของเธอถือดาบคาตานะที่ยาวแตะกับพื้นคอนกรีตสีขาว ดวงตาของเธอเปิดขึ้นช้าๆ เมื่อดวงตาของเธอถูกเปิดขึ้น เปลวเพลิงสีฟ้าที่อยู่บนตาซ้ายก็ลุกขึ้นมา
“เอ็ฟเฟ็คของลูซิเฟล่าทำงาน!!” ชายผมน้ำตาลประกาศขึ้น
โซ่จากพื้นพุ่งขึ้นมาก่อนจะล็อคแขนของโจแอน ไม่ใช่แค่แขนแต่ขาทั้งสองข้างของโจแอนถูกโซ่พันไว้ ก่อนที่เธอจะถูกตรึงไว้บนอากาศ ใบหน้าของคาเรนนั้นเต็มไปด้วยความตกใจ เธอมองไปยังโซ่ว่ามาจากใคร ก่อนที่เธอจะพบว่าโซ่นั้นมาจากหญิงที่ชื่อว่าลูซิเฟล่า
“เอ็ฟเฟ็คของลูซิเฟล่าบอกว่าถ้าหากเธอสามารถเลือกผูกมิเนี่ยนตัวนึงไว้ได้ และมิเนี่ยนที่ถูกผูกนั้นจะไม่สามารถโจมตีและใช้เอ็ฟเฟ็คได้”
อูเอดะได้ยินแบบนี้รีบหันไปมองหน้าคาเรนสีหน้าของเธอไม่ดีเท่าไหร่นัก เพราะว่าโจแอนถือเป็นไพ่กำลังหลักของเธอ
“จบเทริน์” อาการิประกาศ
คาเรนจั่วการ์ดของเธอขึ้นมาแต่ไม่ทันที่เธอจะได้ทำอะไร อาการิก็พูดขึ้นมาก่อน
“ไหนๆก็ไหนๆแล้วมาทำอะไรให้สนุกขึ้นไหม?”
คาเรนทำสีหน้างงๆกับสิ่งที่ชายคนนี้พูด แต่ถึงกระนั้นเธอก็รอฟังว่าเขาจะพูดอะไรต่อ
“เอางี้ไหม ถ้าเธอแพ้.......” เขาหยุดจังหวะแปปนึง
“เธอต้องไปออกเดทกับชั้น”