“ทำไมเจ้าถึงได้เหงื่อซกขนาดนั้นล่ะ อากาศก็ไม่ได้ร้อนมากแท้ๆ”
“ก็เพราะคุณพาผมมาแบบนั้นน่ะสิ!”
หลังจากการเดินทางสุดระทึกจบลง ทาคุมิและเวโรนิก้าก็มายืนอยู่หน้าตึกร้างแห่งหนึ่ง ด้านทาคุมินั้นเหงื่อท่วมไปทั้งตัว ซึ่งไม่ได้เป็นเพราะสภาพอากาศ แต่เป็นเพราะการเดินทางแบบด่วนพิเศษของเวโรนิก้าที่แสนจะหวาดเสียว แต่ยอมรับว่ามันทำให้ถึงจุดหมายได้อย่างรวดเร็วจริงๆ
“เจ้าแน่ใจหรอว่าลูน่าอยู่ที่นี่?”
“ครับ จีพีเอสบอกพิกัดเอาไว้ว่าอยู่ที่นี่แน่นอน”
“อืม... ทำไมลูน่าถึงมาอยู่ในสิ่งก่อสร้างรกร้างเช่นนี้ได้นะ”
“ดูจากสภาพห้องพักแล้วผมคิดว่าลูน่าน่าจะถูกลักพาตัวมาที่นี่ครับ”
“ลักพาตัวงั้นรึ? ทำไปเพื่ออะไรกันล่ะ?”
“ผมก็ไม่รู้เหมือนกันครับ ยังไงก็ขอบคุณนะครับที่พาผมมาถึงนี่”
ทาคุมิรีบก้มโค้งให้เวโรนิก้าแล้วพุ่งตรงเข้าไปยังตึกตรงหน้าทันที แต่กลับถูกเวโรนิก้าคว้าแขนเอาไว้
“นี่เจ้ากล้าลืมข้าได้อย่างไรกัน?”
“หมายความว่าอะไรครับ?”
“ข้าจะเข้าไปด้วย”
“ไม่เป็นไรหรอกครับ เรื่องนี้ผมจัดการเองได้”
“เชื่อข้าเถอะ ถ้าหากเป็นการลักพาตัวอย่างที่เจ้าว่าจริงๆ อย่างน้อยมีข้าเข้าไปคุ้มกันเจ้าด้วยก็ยังดีนะ”
สุดท้ายแล้วทาคุมิก็ต้องยอมให้เวโรนิก้าเข้าไปด้วย ภายในตึกที่รกร้างนั้นเงียบสงัด มีเพียงเสียงฝีเท้าของทั้งสองเท่านั้น ทาคุมิไม่กล้าตะโกนเรียกชื่อลูน่า เพราะถ้านี่เป็นการลักพาตัวจริงๆอาจจะทำให้คนร้ายรู้ตัวก็เป็นได้
“ข้าเหมือนจะได้ยินเสียงจากชั้นบน”
เวโรนิก้าพูดออกมาเบาๆ ทาคุมิพยักหน้า เขาเดินขึ้นบันไดที่ดูเหมือนจะถล่มมาได้ทุกเมื่อโดยมีเวโรนิก้าตามขึ้นมาติดๆ ทั้งสองเดินช้าๆอย่างระมัดระวัง เพราะพื้นที่มีรอยแตกเป็นบางจุดนั้นดูอันตราย อีกทั้งยังเพื่อให้เกิดเสียงฝีเท้าน้อยที่สุดด้วย
“ชู่วว์ เสียงมาจากตรงนี้แหละ”
เวโรนิก้าส่งสัญญาณให้เงียบพร้อมเอานิ้วชี้จุ๊ปาก ทาคุมิหยุดเดิน เวโรนิก้าเดินนำหน้าไปเล็กน้อยก่อนที่จะย่อตัวใกล้ๆกับประตูไม้ที่เปิดแง้มไว้นิดหน่อย
“มีใครบางคนอยู่ข้างใน”
เวโรนิก้ากระซิบในขณะที่พยายามมองเข้าไปข้างในผ่านช่องว่างของของประตูที่เปิดแง้มไว้
“ข้าจะไปยืนอยู่อีกฝั่ง พอให้สัญญาณแล้วก็เปิดเข้าไปเลยนะ”
หลังจากที่วางแผนกันเสร็จทั้งสองก็พยักหน้าให้กัน ทาคุมิมองไปทางเวโรนิก้าเพื่อรอสัญญาณ เมื่อได้สัญญาณเขาก็ออกแรงกระแทกประตูเข้าไปข้างในทันที
โครม!!บุคคลปริศนาที่อยู่ภายในสะดุ้งสุดตัวพร้อมหันมา เผยให้เห็นเป็นใบหน้าอันอัปลักษณ์ของชายผู้หนึ่ง หน้าของเขาซูบผอม รูปร่างของเขาผอมแห้ง แถมยังสวมเสื้อกันหนาวคลุมศีรษะดูน่าสงสัย ดูยังไงก็เหมือนพวกพวกสโตรกเกอร์*หรือไม่ก็พวกโจรโรคจิตชัดๆ
“พวกแกเป็นใครกันวะ?”
เสียงแหบพร่าของชายน่าสงสัยตะโกนขึ้นมาอย่างไม่พอใจ
“ลูน่าอยู่ที่ไหน?”
“อ้อ... แกคงเป็นผู้จัดการส่วนตัวของยัยนั่นสินะ”
“แกลักพาตัวลูน่าไปทำไม? เธออยู่ไหน?”
“โว้วๆ ใจเย็นๆก่อน ลูน่าปลอดภัยดี ฉันไม่ทำอะไรเธอหรอก”
“งั้นก็คืนเธอมาซะ”
ชายน่าสงสัยหรือตอนนี้ก็เป็นที่แน่ชัดแล้วว่าเป็นคนร้ายผู้ลักพาตัวลูน่าไม่ได้ถืออาวุธอะไรติดตัวทำให้ทาคุมิสบายใจได้นิดหน่อย ถึงจะไม่แน่ใจนักว่าอาจจะซ่อนอาวุธอะไรเอาไว้หรือเปล่า
“ฉันคืนเธอให้แกตอนนี้ไม่ได้ ช่วยรอไปอีกสักชั่วโมงนึงแล้วกันนะ แล้วลูน่าจะปลอดภัยฉันรับรอง”
“ทำไมฉันต้องทำแบบนั้นด้วย! คืนเธอมาเดี๋ยวนี้”
“งั้นฉันจะบอกเหตุผลแล้วกันนะ ฉันน่ะ... คือแฟนคลับตัวยงของโซระตัน”
“โซระตัน... หรือว่าหมายถึงคุณมาเอดะ?”
“นายหญิงน่ะหรอ?”
เวโรนิก้าพูดขึ้นหลังจากที่ได้ยินชื่อของโซระซึ่งเป็นเทรนเนอร์ของเธอ
“ลูน่าของแกน่ะถึงตอนนี้จะเป็นที่หนึ่ง แต่สำหรับฉันยังไงโซระตันก็เป็นที่หนึ่งในใจฉันเสมอ และฉันจะทำทุกวิถีทางเพื่อให้โซระตันกลับมาเป็นไอดอลอันดับหนึ่งให้ได้”
“แล้วลูน่าเกี่ยวอะไรด้วย!?”
“อีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้าลูน่าของแกจะขึ้นแสดงคอนเสิร์ตไม่ใช่หรือไง?”
“หรือว่า...”
“ใช่แล้ว! ถ้าลูน่าของแกพลาดขึ้นคอนเสิร์ตครั้งนี้รับรองว่าเธอจะต้องเสียชื่อเสียงไปพอสมควร ถึงจะไม่มากนักแต่ความพยายามอันบริสุทธิ์ของฉันจะต้องโซระตันเบียดแย่งที่หนึ่งมาจากลูน่าได้”
“แฟนคลับโรคจิตงั้นรึ?”
“ฉันคือแฟนตัวยงต่างหาก! เพื่อให้โซระตันกลับมาเป็นที่หนึ่งแล้วฉันทำเพื่อเธอได้ทุกอย่าง”
“พูดบ้าอะไรของแกวะ! เหตุผลบ้าบอแค่นี้แกถึงกับต้องลักพาตัวลูน่า แกนี่มัน!!”
ทาคุมิพุ่งตัวเข้าไปหาแฟนคลับโรคจิตโดยที่เวโรนิก้าจะห้ามไว้แต่ก็ไม่ทัน ทว่าเพียงทาคุมิเดินเข้าไปไม่กี่ก้าวก็ถูกกระแทกด้วยแรงปะทะปริศนาเข้าที่บริเวณหน้าอกจนเขาล้มทั้งยืน เจ้าของแรงปะทะปริศนานั้นตีลังกากลางอากาศแล้วลงมายืน ท่ามกลางสีหน้าตกตะลึงของเวโรนิก้าและทาคุมิ
“นะ... นายหญิง?”
หญิงสาวผมยาวสีน้ำตาลอ่อนที่ไม่ว่าเวโรนิก้าหรือทาคุมิก็ต่างคุ้นเคย มาเอดะ โซระ ยืนอยู่ตรงหน้าทั้งสองด้วยสีหน้าเรียบเฉย ไม่ว่าจะเป็นใบหน้าหรือรูปร่าง ก็ต่างเป็นของโซระ อดีตไอดอลสาวชื่อดังอันดับหนึ่งและเป็นเทรนเนอร์ของเวโรนิก้าอีกด้วย
“ไม่สิ... ไม่ใช่”
แต่เมื่อเวโรนิก้าพิจารณาดูดีๆแล้ว แม้รูปร่างภายนอกจะเหมือนกับโซระทุกประการ แต่ด้วยความรู้สึกอะไรบางอย่างทำให้รู้ว่าหญิงสาวปริศนาตรงหน้านี้ไม่ใช่โซระที่คุ้นเคย
“นี่คือโซระตันของฉัน”
“เจ้าหมายความว่าอะไร!?”
“ต้องขอบคุณเทคโนโลยีสมัยนี้จริงๆ ที่สร้าง AG ขึ้นมา แค่เอาสิ่งมีชีวิตพวกนี้มาแต่งหน้าแต่งตัวให้เหมือนโซระตัน ก็ทำให้ฉันได้เสพสุขกับโซระตันที่รักแล้ว หึๆ”
แฟนคลับโรคจิตใช้ทั้งสองมือสัมผัสไปที่หน้าอกของโซระตัวปลอมหรือที่เขาเรียกว่าโซระตัน เธอร้องครางออกมาโดยไม่ขัดขืน เจ้าโรคจิตใช้ลิ้นโลมเลียไปตามต้นคอของเธอดูน่าคลื่นไส้ เวโรนิก้าหน้าแดงก่ำด้วยความโกรธเกรี้ยวที่เห็นภาพนายหญิงของตัวเองถูกล่วงเกินแม้นั่นจะไม่ใช่ตัวจริงก็ตาม
“นี่เจ้า... บังอาจใช้ร่างของนายหญิงมาทำเรื่องบัดสีตามใจชอบ อภัยให้ไม่ได้”
“อะไร อยากจะสู้งั้นหรอ? ขอบอกเลยว่าอย่าดูถูกโซระตันของฉันเชียวนะ”
ทาคุมิที่ถูกเล่นงานจนจุกค่อยๆลุกขึ้นมา สิ่งที่เจ้าโรคจิตนั่นพูดอาจจะถูก แรงกระแทกเมื่อสักครู่นั้นหนักใช้ได้ บ่งบอกว่าโซระตันนั้นมีความสามารถในการต่อสู้ระดับหนึ่ง
“ทาคุมิ ข้าจะให้สิทธิ์การเป็นเจ้าของตัวข้าแก่เจ้า และอัดนายหญิงจอมปลอมนั่นให้เละ”
“เอ๋?”
“ถ้าจะช่วยเหลือลูน่าก็คงมีแต่ทางนี้เท่านั้น อีกอย่างข้าต้องการสั่งสอนพวกมันที่บังอาจนำนายหญิงมาย่ำยีแบบนี้”
“แต่ว่า...”
“ถ้านายหญิงอยู่ที่นี่ก็คงตัดสินใจเช่นนี้เหมือนกัน ให้ข้าได้ช่วยเจ้าเถอะ”
ด้วยสีหน้าที่จริงจังของเวโรนิก้าทำให้ทาคุมิไม่กล้าปฏิเสธ
“แต่ว่า... ให้คนที่เจ้าเพิ่งหักอกมาช่วยเหลือแบบนี้ ต้องมีอะไรตอบแทนสักหน่อยนะ”
ดวงตาสีมรกตของเวโรนิก้าเริ่มเปลี่ยนเป็นฉายแววเจ้าเล่ห์
“เจ้าต้องเป็นของข้าหนึ่งวัน”
“หา?? พูดอะไรของคุณน่ะครับ!”
“ทำไมเจ้าต้องลุกลี้ลุกลนเช่นนั้นด้วย ข้าหมายถึงการที่หนุ่มสาวเที่ยวเตร่กันสองต่อสอง ที่มนุษย์ยุคนี้เขาเรียก เอ่อ... เดทใช่ไหม?”
“อย่างนี้นี่เอง โล่งอก... ไม่ใช่สิ! แล้วทำไมต้องเป็นเดทด้วยล่ะครับ!”
“เจ้าไม่มีทางเลือกแล้วนะ ถ้างั้นก็... ฝากตัวด้วยนะเจ้าคะ นายท่าน♡”
ทาคุมิไม่มีโอกาสได้โต้แย้งหลังจากถูกมัดมือชก แต่เธอก็พูดถูก ถ้าคิดจะช่วยเหลือลูน่าตอนนี้ก็คงมีแต่ร่วมมือกันสถานเดียวเท่านั้น
“ถ้างั้นผมขอเตรียมการ์ด-”
“ไม่จำเป็นต้องใช้หรอกเจ้าค่ะ นายท่านเพียงแค่รับชมเฉยๆก็เพียงพอ”
เวโรนิก้ายิ้มหวาน ทาคุมิพยักหน้าหน่อยๆแล้วสวม AG Vision เขาดูไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่ แต่เขาก็เชื่อในตัวเธอ เพราะเขาเชื่อเธอมาตั้งแต่ที่ถูกพามาที่นี่ด้วยการเดินทางสุดหวาดเสียวแล้ว ครั้งนี้ถ้าจะเชื่อใจเธออีกครั้งจะเป็นอะไรไป
“สรุปอยากสู้จริงๆใช่ไหม ก็ได้ ถือว่าเป็นการฆ่าเวลาที่ดี”
แฟนคลับโรคจิตหยิบ AG Vision ขึ้นมาสวมบ้าง ม่านพลังงานเริ่มตีวงล้อมรอบไว้จนกลายเป็นสนามต่อสู้
“โซระตัน จัดการมั-”
ยังไม่ทันที่เจ้าโรคจิตจะพูดจบ โซระตันก็กระเด็นไปกระแทกม่านพลังงานต่อหน้าต่อหน้าผู้เป็นเจ้าของ ภาพที่ปรากฏนั้นคือเวโรนิก้าซึ่งใช้มือเพียงข้างเดียวของเธอคว้าศีรษะของโซระตันไว้พร้อมกดเธอเข้ากับม่านพลังงาน
“กระจอก”
ก่อนที่เวโรนิก้าจะเหวี่ยงร่างของโซระตันกระแทกเข้ากับพื้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนพื้นปูนแตกกระจุย ร่างของนายหญิงตัวปลอมถูกฝังอยู่ในพื้นที่แตกนั้นและแน่นิ่งไป ม่านพลังงานได้หายไปแล้ว ก็ไม่รู้ว่าค่าพลังชีวิตของโซระตันนั้นหมดไปตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่ทว่าเวโรนิก้าก็ไม่หยุด เธอเล่นงานร่างที่ไร้สตินั้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าราวกับระบายความโกรธแค้นที่มีทั้งหมดออกมา
“อย่านะ! อย่าทำร้ายโซระตัน!!”
เจ้าโรคจิตวิ่งเข้ามาผลักเวโรนิก้าออกไปแล้วกอดร่างของโซระตันเหมือนเด็กที่กำลังจะถูกแย่งของเล่น ใบหน้าของมันเต็มไปด้วยน้ำมูกและน้ำตาพร้อมร้องไห้ฟูมฟายเป็นทารก
“น่าขยะแขยงเป็นบ้า อยากจะอ้วก”
จากนั้นเวโรนิก้าก็หันกลับไปหาทาคุมิที่อึ้งในภาพตรงหน้า พร้อมรอยยิ้มที่ตอนนี้แลดูสยองเพราะเพิ่งกระทำเรื่องสุดโหดเหี้ยมไปหมาดๆ พอตั้งสติได้เขาก็รู้ว่าต่อไปควรจะทำอะไรจึงเดินไปหาเจ้าโรคจิตที่ยังร้องไห้ไม่หยุด
“ลูน่าอยู่-”
“อ๊า!! เข้าใจแล้ว อย่าทำร้ายโซระตันเลยนะ ลูน่าอยู่ในห้องนั้น!”
เหมือนเจ้าโรคจิตจะสติแตกนึกว่าจะมีคนมาทำร้ายโซระตันของตัวเองเลยโวยวายลั่น ทาคุมิถอนหายใจและเริ่มจะรู้สึกสมเพชตงิดๆ
“เจ้าไปช่วยลูน่าเถอะ เดี๋ยวข้าดูตรงนี้ให้เอง”
ทาคุมิพยักหน้าแล้วเดินเข้าไปเปิดประตูที่เจ้าโรคจิตบอกว่าลูน่าอยู่ข้างใน เมื่อเปิดเข้าไปก็พบกับลูน่าที่นั่งกอดเข่าก้มหน้าอยู่ตรงมุมมืดของห้อง พอทาคุมิเห็นเธอที่เงยหน้าขึ้นมาสบตาแล้วก็ทำให้เขายิ้มออก
“ลูน่า!! ปลอดภัยหรือ-”
ลูน่าพุ่งเข้ามากอดทาคุมิแน่นจนเขาเกือบล้มเพราะไม่ทันได้ตั้งตัว เขารู้สึกได้ถึงความเปียกชื้นที่ซึมผ่านเสื้อเชิ้ตหลังจากที่ใบหน้าของลูน่าซบลงที่หน้าอก
“ทาคุมิ ฉันกลัวจังเลย”
ฟังจากเสียงสั่นเครือของลูน่าก็รู้ได้เลยว่าเธอกำลังร้องไห้อยู่ ทาคุมิค่อยๆใช้แขนทั้งสองโอบกอดเธอกลับอย่างอ่อนโยน เมื่อลูน่าผละตัวออกจากทาคุมิแล้ว เขาก็ค่อยๆปาดน้ำตาของลูน่าที่ร้องไห้ราวกับเด็กสาวธรรมดาๆคนหนึ่ง
ไม่สิ สำหรับทาคุมิเธอก็คือเด็กสาวคนหนึ่งเสมออยู่แล้ว
----------------------------------------------------
“ข้าแจ้งตำรวจให้แล้วนะ อีกไม่นานก็คงมา”
เมื่อทาคุมิออกมาจากห้องพร้อมลูน่า เจ้าโรคจิตยังร้องไห้และกอดกับโซระตันไม่มีทีท่าจะหยุด
“ขอบคุณมากนะคะ คุณเวโรนิก้า”
“ไม่เป็นไรหรอก”
เวโรนิก้ากล่าวยิ้มๆ
“เอ้า มัวทำอะไรอยู่ เจ้าต้องไปขึ้นแสดงคอนเสิร์ตมิใช่รึ? รีบไปได้แล้ว เจ้าบ้านี่เดี๋ยวข้าเฝ้าให้เอง แต่มันคงไม่หนีไปไหนหรอกข้าคิดว่านะ”
เมื่อเวโรนิก้าพูดเช่นนั้น ทาคุมิก็พยักหน้าให้กับลูน่าเป็นสัญญาณว่าไปกันได้แล้ว
“อ้อทาคุมิ อย่าลืมสัญญานะเจ้าคะ♡”
เวโรนิก้าขยิบตาให้ ทาคุมิรู้ดีว่าสัญญานั่นคืออะไร เขาหัวเราะแหะๆแล้วรีบพาลูน่าออกจากบริเวณนั้นอย่างรวดเร็ว
“นายไปสัญญาอะไรกับคุณเวโรนิก้าหรอ?”
“อะ... เอ่อ ก็ไม่มีอะไรมากหรอก รีบไปกันเถอะเดี๋ยวไม่ทัน”
ทาคุมิพูดตัดบทแล้วรีบเปลี่ยนประเด็น ลูน่ารู้สึกสงสัยกำลังจะอ้าปากถามต่อ แต่สุดท้ายก็ไม่ใส่ใจแล้วยิ้มให้กับทาคุมิแทนความรู้สึกอะไรหลายๆอย่างของเธอที่มีต่อเขา
“นี่ เหลือเวลาอีกตั้งเยอะก่อนที่จะถึงคอนเสิร์ต เราไปหาอะไรกินกันก่อนไหม?”
“เอางั้นก็ได้”
“จะว่าไป ถูกลักพาตัวนี่ก็ดีเหมือนกันนะ ทำให้เราสองคนได้ไปกินอะไรกันสองคนแบบนี้”
“เธอไม่กลัวแล้วหรอ?”
“จะกลัวทำไม เพราะยังไงนายก็ต้องมาช่วยฉันอยู่แล้ว ใช่ไหม?”
ทาคุมิไม่ตอบคำถามนั้น เพราะลูน่าเองก็รู้อยู่แล้วว่าคำตอบคืออะไร ก่อนที่ทั้งสองจะเดินเคียงข้างกันท่ามกลางสายลมอ่อนๆที่พัดโชยมา
----------------------------------------------------
*สโตรกเกอร์ (Stalker) ในที่นี้จะหมายถึงบุคคลใดก็ตามที่มีพฤติกรรมติดตามเป้าหมายไม่ว่าจะเพศใดโดยที่เป้าหมายไม่รู้ตัว ไม่ว่าจะเป็นกรณีใดก็ตาม เช่น แฟนคลับโรคจิตที่ติดตามศิลปินที่ตนคลั่งไคล้ เป็นต้น