Bloody Wrestling Online
Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.

Bloody Wrestling Online

The Number One Cyber Wrestling Online
 
บ้านPortalLatest imagesสมัครสมาชิก(Register)เข้าสู่ระบบ(Log in)

 

 Checkmate : Turn 1

Go down 
ผู้ตั้งข้อความ
ฟ้ามืด
Superstar Grade B
Superstar Grade B
ฟ้ามืด


จำนวนข้อความ : 504
Join date : 30/04/2013
Age : 31
ที่อยู่ : μ's

Checkmate : Turn 1 Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Checkmate : Turn 1   Checkmate : Turn 1 EmptySat Jul 16, 2016 1:00 am

เช้าวันหนึ่งในฤดูใบไม้ผลิ

วันแรกของคันซากิ อาสึนะ ในฐานะนักเรียนของโรงเรียนมิไรเคียว

โรงเรียนที่เปิดหลักสูตรสอนเกม Checkmate แบบเฉพาะทางซึ่งมีชื่อเสียงที่สุดในประเทศญี่ปุ่น

โดยเกม Checkmate นั้น คือเกม VR ที่ขึ้นชื่อว่าได้รับความนิยมและสมจริงที่สุดในโลก สมจริงขนาดมีข่าวลือว่าตัวเกมถูกนำไปดัดแปลงเป็นโปรแกรมซ้อมรบแบบเสมือนจริงของกองทัพต่างๆทั่วโลก แต่ข่าวลือนั้นก็ยังไม่ได้รับการยืนยันแต่อย่างใด

อาสึนะเดินผ่านรั้วโรงเรียนเข้าไปพร้อมๆกับนักเรียนคนอื่นๆบางส่วน ที่ต่างดูตื่นเต้นเมื่อได้เข้าเรียนที่นี่ ซึ่งต่างจากเขาโดยสิ้นเชิง

เนื่องจากตัวเขานั้นไม่ได้มีความชื่นชอบในเกม Checkmate เลยแม้น้อย เขาถูกพ่อแม่บังคับให้มาเรียนที่นี่ เพราะทั้งพี่ชายคนกลางของเขา อากิโตะ และพี่สาวคนโตของเขา อากาเนะ ก็ต่างเป็นผู้เล่นเกม Checkmate ที่ผ่านหลักสูตรจากโรงเรียนนี้มาแล้ว

ซึ่งทุกคนที่ผ่านหลักสูตรนี้จะได้รับสิทธิพิเศษในการเลือกมหาวิทยาลัยที่ตนเองต้องการจะเข้าศึกษาต่อได้ทุกที่ทุกแห่งทั่วประเทศ พ่อแม่ของอาสึนะก็เลยอยากให้เขามีอนาคตที่ดี เขาเองเข้าใจความหวังดีนั้นจึงไม่ขัดข้องอะไร

แต่เขาก็ทำคะแนนสอบเข้าได้ต่ำที่สุดเป็นประวัติการณ์ (ตามคำบอกของอาจารย์คุมสอบในตอนนั้น) แม้จะผ่านเข้าเรียนมาได้ก็จริง แต่ถ้าความสามารถของเขาอยู่แค่ในระดับนั้นก็ต้องขยันมากกว่าคนอื่นๆหลายเท่าตัว

ความจริงถ้าจะบอกว่าเขาสอบเข้ามาด้วยคะแนนต่ำสุดอาจจะไม่ถูกซะทีเดียว เพราะคนที่สอบได้คะแนนต่ำกว่านี้ก็มีอยู่บ้าง เพียงแต่พวกเขาเหล่านั้นไม่มีสิทธิ์ได้เข้าเรียนเพราะคะแนนไม่ถึงเกณฑ์

ถ้าจะเรียกให้ถูก อาสึนะน่าจะเป็นคนที่สอบเข้ามาด้วยคะแนนต่ำที่สุดแต่มีสิทธิ์เข้าเรียนซะมากกว่า

หลังจากที่อาสึนะตรวจดูว่าตัวเองเรียนอยู่ห้องไหนเสร็จแล้ว เขาก็กลับหลังหัน แสงแดดที่ส่องเข้ามาสะท้อนเข็มกลัดที่ติดอยู่บนหน้าอกเสื้อของเขา เข็มกลัดเหล่านี้ก็คือสัญลักษณ์ของตำแหน่งต่างๆในเกมที่แต่ละคนเลือกไว้เมื่อตอนสอบเข้า

ซึ่งเข็มกลัดของอาสึนะคือสัญลักษณ์ของตำแหน่ง ‘พอน’ ตำแหน่งที่ต่ำที่สุดในเกม แต่เมื่อเขาสอบเข้าเรียนมาด้วยคะแนนต่ำแบบนั้น อาสึนะก็คงเป็นพอนที่อยู่ต่ำกว่าพอนลงไปอีก

เพราะความจริงไม่ใช่ว่าทุกคนที่สอบเข้าด้วยคะแนนสูงๆจะอยากเล่นเป็นตำแหน่งสูงๆตาม คะแนนสอบที่ทำให้เป็นเพียงการปลดล็อคขีดจำกัดในการเลือกตำแหน่งของแต่ละคนเท่านั้น บางคนทำคะแนนได้สูงแต่อยากเป็นพอนก็มี

ด้วยความที่อาสึนะเลือกเป็นพอนเพราะเขาไม่มีตัวเลือกอื่น แถมยังทำคะแนนได้ต่ำที่สุดตอนสอบเข้าเรียนอีก จึงได้พูดไว้ข้างต้นว่าอาสึนะเป็น ‘พอนที่อยู่ต่ำกว่าพอน’

แต่ถ้าเรียกแบบนั้นตลอดก็คงยาวไปสักหน่อย มีฉายาหนึ่งที่อาสึนะได้มาตั้งแต่ยังไม่ได้เข้ามาเรียนวันนี้เลยด้วยซ้ำ ฉายานั้นคือ ‘อันเดอร์ด็อก’ (สุนัขรองบ่อน)

ฉายานี้อาสึนะได้มาหลังจากที่ลองเข้าไปดูเว็บไซต์ของโรงเรียนมิไรเคียว แต่อย่าเพิ่งเข้าใจผิดว่าทางโรงเรียนประจานคะแนนสอบของเขาลงเว็บไซต์

แต่เป็นหัวข้อหนึ่งในกระดานสนทนาของเว็บไซต์ต่างหาก ที่ได้มีการวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับนักเรียนที่สอบเข้าเรียนมาด้วยคะแนนต่ำที่สุด ซึ่งอาสึนะเองก็ไม่รู้ว่าคนที่ตั้งหัวข้อนั้นขึ้นมาไปรู้ข่าวมาจากไหน

ในหัวข้อนั้นมีหลายคนเข้ามาพูดคุยกันอย่างออกรส ส่วนมากมักจะเป็นในเชิงดูถูกซะมากกว่า และหนึ่งในนั้นเรียกอาสึนะว่าอันเดอร์ด็อก หลังจากนั้นทุกคนในหัวข้อนั้นก็ต่างเรียกเขาแบบนั้นกันหมด

แม้จะไม่ได้มีการเอ่ยชื่อของเขา แต่ยังไงสักวันทุกคนก็คงต้องรู้ว่าเขาคือสุนัขตัวนั้น

หลังจากที่ผ่านพิธีปฐมนิเทศเหมือนกับโรงเรียนทั่วๆไป นักเรียนทุกคนก็ต่างแยกย้ายกันเข้าห้อง

อาสึนะเองก็เช่นกัน เขาอยู่ห้อง 1-A ซึ่งถ้าตามปกติโดยทั่วไป ห้องเรียนห้องแรกของระดับชั้นมักจะรวมเด็กนักเรียนที่มีระดับผลการเรียนดีเอาไว้ แต่ดูท่าทางโรงเรียนมิไรเคียวจะไม่ได้เป็นแบบนั้น ไม่งั้นเขาคงไม่ได้มาอยู่ห้องนี้แน่นอน

ห้องเรียนนั้นก็ดูเหมือนห้องเรียนธรรมดาทั่วๆไป เพียงแต่ว่าบนโต๊ะนั้นมีลักษณะเป็นหน้าจอคอมพิวเตอร์แบบสัมผัส และมีอุปกรณ์ VR เตรียมไว้ให้

ส่วนหน้าห้องนั้นก็มีกระดานแบบอิเล็กทรอนิกส์และโพเดี้ยมตั้งอยู่หนึ่งตัว ซึ่งมีลักษณะเป็นหน้าจอคอมพิวเตอร์แบบสัมผัสเช่นเดียวกัน ที่ตรงนั้นคงมีไว้สำหรับอาจารย์แน่นอน

“ปางปะกะป๊าง~! ♪ ยินดีต้อนรับนักเรียนทุกคนเข้าสู่โรงเรียนมิไรเคียว! ครูชื่อโคอิซึมิ อุซางิ เป็นอาจารย์ประจำชั้นห้อง 1-A จ้า ♡”

อาจารย์สาวสวยผมสีบลอนด์กล่าวทักทายนักเรียนในห้องอย่างร่าเริงเป็นกันเอง พลางกระโดดพร้อมชูกำปั้นขึ้นจนหน้าอกไซส์มหึมาที่ตนมีอยู่กระเพื่อมขึ้นลงตามหลักฟิสิกส์

อาสึนะรู้จักเธอมาตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้ว เพราะเธอคืออาจารย์ที่คุมสอบเขาเมื่อตอนสอบเข้าเรียนนั่นเอง แต่บุคลิกของเธอในตอนนี้ช่างดูต่างจากตอนนั้นยิ่งนัก

“วันนี้เป็นวันเปิดเรียนวันแรกจึงไม่มีการเรียนการสอน ครูเลยจะแค่มาแนะนำโครงสร้างของหลักสูตรให้ทุกคนได้ทราบกันก่อน

เริ่มจากอย่างแรกเลย หลักสูตรของเราจะมีเรียนแค่ภาคเช้าเท่านั้น ส่วนภาคบ่ายนั้นจะเป็นช่วงเวลาอิสระเปิดโอกาสให้ทุกคนทำอะไรก็ได้ ไม่ว่าจะทำกิจกรรมชมรม ฝึกซ้อม หรือจะกลับบ้านเลยก็ได้ แต่ว่าในบางกรณีก็อาจจะมีการเรียนการสอนช่วงบ่ายเช่นกัน ดังนั้นควรจะเตรียมพร้อมอยู่เสมออย่ามัวแต่คิดว่าตอนบ่ายจะเป็นช่วงเวลาอิสระทุกวันนะจ๊ะ ♡

อย่างที่สองคือเรื่องของคะแนน ในแต่ละเทอมจะมีคะแนนเต็มทั้งหมดหนึ่งร้อยคะแนน โดยแบ่งเป็นคะแนนสอบสามสิบคะแนน และคะแนนเก็บเจ็ดสิบคะแนน เริ่มจากคะแนนสอบที่จะแบ่งย่อยออกเป็นคะแนนสอบภาคทฤษฎีสิบคะแนน และคะแนนสอบภาคปฏิบัติยี่สิบคะแนน หลักสูตรเราไม่มีสอบกลางภาค มีแต่สอบปลายภาคไปทีเดียวเลย

ส่วนคะแนนเก็บนั้นก็ถูกแบ่งย่อยออกไปอีก ถ้าพูดตามภาษาเกมล่ะก็จะประกอบไปด้วยห้าสิบคะแนนสำหรับ ‘เควสหลัก’ ซึ่งก็คือคะแนนที่ได้มาจากการเรียนในห้องเรียนนั่นเอง ไม่ว่าเป็นคะแนนเข้าห้องเรียนหรืองานต่างๆที่ต้องทำในคาบเรียนต่างก็รวมอยู่ในนี้

ส่วนยี่สิบคะแนนที่เหลือจะเป็น ‘เควสเสริม’ ซึ่งจะทำหรือไม่ทำก็ได้ โดยเควสเสริมเหล่านี้อาจจะเรียกว่าเป็นการบ้านก็ได้เพราะนักเรียนทุกคนสามารถทำได้ที่บ้าน วิธีการก็ง่ายๆเลย ครูเชื่อว่าทุกคนคงจะมีเกม Checkmate ที่บ้านอยู่แล้ว ก็แค่นำสมุดประจำตัวนักเรียนของตัวเองเชื่อมต่อกับเครื่องคอมพิวเตอร์ที่บ้านและใช้ฟังก์ชันถ่ายโอนข้อมูลเซิฟเวอร์ของทางมิไรเคียวเพื่อให้เกม Checkmate มีฐานข้อมูลแบบเดียวกับที่โรงเรียนและสามารถทำเควสเสริมได้ ซึ่งเควสเสริมแต่ละอย่างนั้นต่างก็มีคะแนนไม่เท่ากัน โดยถ้าไม่มั่นใจว่าตัวเองสามารถทำคะแนนในส่วนอื่นได้ดีพอ คะแนนในส่วนนี้จะช่วยเหลือทุกคนได้จ้ะ”

ในระหว่างที่อาจารย์อุซางิอธิบายไปเรื่อยเปื่อย นักเรียนทุกคนรวมทั้งอาสึนะก็ต่างหยิบสมุดประจำตัวนักเรียนของตัวเองขึ้นมา

ถึงจะถูกเรียกว่าเป็นสมุด แต่จริงๆมันคืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่มีลักษณะคล้ายเครื่องคอมพิวเตอร์ขนาดพกพา นอกจากจะทำหน้าที่เป็นบัตรประจำตัวนักเรียนแล้วยังมีฟังก์ชันต่างๆมากมาย อย่างเช่นการถ่ายโอนข้อมูลของเซิฟเวอร์ตามที่อาจารย์อุซางิกล่าวไว้ข้างต้น

ซึ่งโดยหลักๆแล้วมักจะถูกใช้ในลักษณะของสมุดจดเลคเชอร์ที่สามารถบันทึกข้อมูลได้มากกว่าพันล้านหน้า และใช้ในการเล่นอินเตอร์เน็ตทั่วๆไปเป็นส่วนใหญ่

นอกจากนี้ยังสามารถใช้เล่นเกม Checkmate นอกสถานที่ได้อีกด้วยเพียงแต่ไม่เป็นที่นิยมนัก เพราะมันจำเป็นต้องพกอุปกรณ์ VR ไปด้วย

เมื่อแจ้งเรื่องสำคัญทุกอย่างครบ อาจารย์อุซางิก็เดินออกจากห้อง ก่อนหน้านั้นก็ส่งสายตามาทางอาสึนะเล็กน้อย

ดูเหมือนเธอจะจำเขาได้ ก็ไม่แปลกอะไรเพราะคะแนนที่อาสึนะสอบเข้ามามันช่างน่าจดจำขนาดนั้น แม้เธอจะไม่ได้พูดอะไร แต่น่าจะพอเดาออกว่าสายตานั้นอาจจะหมายถึงการย้ำเตือนให้เขาตระหนักในสถานะของตัวเองว่าต้องกระตือรือร้นให้มากกว่าคนอื่น เขาจึงยิ้มแหยๆตอบกลับไป

หลังจากที่อาจารย์ออกไปแล้ว วันนี้จึงเป็นวันเดียวที่ช่วงเวลาอิสระเริ่มตั้งแต่คาบเช้า ซึ่งตอนนี้ที่ลานกว้างหน้าโรงเรียนเริ่มมีนักเรียนชั้นปีสองและสามตะโกนเรียกนักเรียนใหม่เข้าชมรมของตัวเองกันแล้ว นักเรียนบางส่วนจึงเริ่มทยอยลงไปที่ลานกว้างตรงนั้น แต่ก็มีบางส่วนที่ตัดสินใจนั่งในห้องต่อเพื่อพูดคุยทำความรู้จักกับเพื่อนร่วมห้อง

ส่วนอาสึนะเองไม่ได้มีเรื่องที่อยากจะทำต่อ จะกลับบ้านเลยดีไหมนะ? แต่ในระหว่างนั้น

“รู้ไหมว่าโดนัทกับผู้หญิงเหมือนกันตรงไหน?”
“คะ ครับ?”

เสียงนั้นฟังดูเลื่อนลอยเหมือนไม่ได้พูดกับอาสึนะ แต่เขาก็ตอบรับเพราะมันได้ยินมาจากโต๊ะข้างๆ

เมื่อหันไปก็เจอเด็กหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาเหมือนนายแบบ เขาหันหน้านิ่งๆมาทางอาสึนะ เป็นการยืนยันว่าเสียงนั้นพูดกับเขาแน่นอน ที่หน้าอกเสื้อนักเรียนของเด็กหนุ่มคนนั้นติดเข็มกลัดที่เป็นสัญลักษณ์ของตำแหน่ง ‘รุค’

“เหมือนกันตรงที่มีรูไงล่ะ”
“อะ อะไรนะ?”

อาสึนะตอบกลับไปแบบหน้ามึนสุดขีด

“ไม่ขำหรอกหรอ? คิดมุกนี้ทั้งคืนเลยนะ”
“อะ ฮ่ะๆ”

(หล่อซะเปล่า แต่พิลึกคนชะมัด)

อาสึนะคิดในใจ

“ฉันชิโนดะ เร็น ถ้าไม่เป็นการรบกวนอยากให้เรียกฉันว่าเร็น”
“เอ่อ คันซากิ อาสึนะ”

ถึงในใจจะไม่อยากรู้จักกับคนพิลึกๆแบบเขา แต่อาสึนะก็ไม่อยากเสียมารยาท เมื่อแนะนำตัวเสร็จ เขาก็ลุกขึ้นจากโต๊ะทันที

“จะไปไหน?”
“ดูชมรมน่ะ”

อาสึนะตอบไปแบบส่งๆ จริงๆเขาแค่อยากไปให้ห่างๆก็พอ แต่กลายเป็นว่าเร็นก็ลุกขึ้นมาจากโต๊ะเช่นเดียวกัน

“ว่าจะไปเหมือนกัน ขอไปด้วยคน”
“ง่ะ...”

สุดท้ายก็หนีไม่พ้น...

อาสึนะกับเร็นจึงเดินออกจากห้องเรียนพร้อมกัน แต่ทันทีที่ออกมา ไหล่ซ้ายของอาสึนะก็ชนเข้ากับใครบางคนที่เดินมาพอดิบพอดี

“ขอโทษครับ”
“ไม่หรอกค่ะ ฉันต่างหากที่ต้องขอโทษ”

เมื่อหันไปก็พบกับเด็กสาวผมสีบลอนด์ที่ถูกผูกเป็นหางม้า เธอมีนัยน์ตาเฉียบคมสีเขียว หน้าอกเสื้อนักเรียนของเธอติดเข็มกลัดเป็นสัญลักษณ์ของตำแหน่ง ‘ไนท์’

“กึ๋ย!!”

จู่ๆอาสึนะก็หน้าซีดเหงื่อตก เขาแกล้งทำเป็นไม่สนใจเด็กสาวแล้วเดินหนีไปอีกทาง แต่ก็ถูกเธอคว้าหมับเข้าที่ไหล่

“แหมๆ ไม่คิดจะทักทายเพื่อนสมัยเด็กหน่อยเลยหรอจ๊ะ?”

น้ำเสียงอ่อนหวานที่แฝงไปด้วยความดุดันหน่อยๆเล่นเอาอาสึนะเย็นวาบไปถึงสันหลัง

เด็กสาวคนนี้คือ มิอุระ ทามิโกะ เธอกับอาสึนะรู้จักกันมาตั้งแต่เด็กๆแล้ว

ตอนนั้นเขายังคงจำได้ว่าเธอมักพูดบ่อยๆว่าอยากจะเป็นอัศวินที่สง่างามมาโดยตลอด พอนำมารวมกับตำแหน่งไนท์ที่ทามิโกะเลือกเมื่อเข้าเรียนที่นี่แล้ว เธอคงจะเข้าเรียนที่นี่เพื่อทำตามความใฝ่ฝันของตัวเองก็เป็นได้

“วะวะวะ ว่าไงคุณมิอุระ สบายดีไหม--- เจี๊ยก!”
“ทำไมไม่เรียกฉันด้วยชื่อตัวกันยะ!”

เด็กสาวใช้สันมือสับคาราเต้เข้าที่คอของอาสึนะจนหน้าเขียว

เป็นเพื่อนกันตั้งแต่เด็กแล้วแต่ดันเรียกนามสกุลเหมือนคนอื่นคนไกลแบบนี้บางทีมันรู้สึกแปลกๆก็จริง แต่ถึงขั้นสับคาราเต้ใส่คอเลยเรอะ?

“ขะ ขอโทษฮับ ท่านทามิโกะ”
“ให้ตายสิอาสึนะ ชอบทำตัวเป็นคนอื่นคนไกลตลอด”

สงสัยที่อาสึนะทำแบบนั้นก็คงเพราะไม่อยากจะยุ่งกับเด็กผู้หญิงที่สับคาราเต้ใส่คอคนอื่นได้หน้าตาเฉยแบบนี้กระมัง

“แล้วนี่คิดยังไงถึงมาเข้าเรียนที่นี่ล่ะ? เมื่อก่อนยังพูดอยู่เลยว่าไม่ชอบเกมนี้ แถมเล่นกี่รอบก็แพ้ทุกรอบ”

พอเธอเหลือบไปเห็นเข็มกลัดบนหน้าอกเสื้อของอาสึนะ ก็ทำท่ากลั้นหัวเราะเต็มที่ แต่ก็ทนไม่ไหว

“อุ๊บ... ฮ่าๆ เป็นแค่พอนหรอเนี่ย? ก็ดูเหมาะกับฝีมือของนายดีนะ ฮ่าๆ”
“อุก...”

ทามิโกะระเบิดเสียงหัวเราะพร้อมใช้นิ้วชี้จิ้มย้ำๆไปที่เข็มกลัดพอนของอาสึนะ เขาก็ไม่ได้โกรธอะไรเพราะที่พูดมามันก็เป็นเรื่องจริง อีกอย่างเธอเองก็ปากร้ายแบบนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว

ถ้าทามิโกะรู้อีกว่าเขาสอบเข้ามาด้วยคะแนนต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ล่ะก็เธอคงขำยิ่งกว่านี้แน่

“งั้นฉันขอตัวก่อนนะ ฉันอยู่ห้อง 1-B มาทักทายกันบ้างล่ะ ไม่งั้นเจอดีแน่”

ทามิโกะบอกลาแล้วเดินจากไป เหลืออาสึนะกับเร็นสองคน

“สนิทกันดีนี่”
“ไม่เลย...”

อาสึนะพูดอย่างละเหี่ยใจ

“ไปดูชมรมกันได้หรือยัง?”
“ไม่เอาล่ะ... รู้สึกไม่ค่อยสบาย ขอไปห้องพยาบาลดีกว่า”
“งั้นหรอ? โชคดี”

จากนั้นอาสึนะก็เดินห่อไหล่ไปที่ห้องพยาบาล เขาคิดว่าจะนอนงีบสักหน่อย ใจจริงก็อยากจะกลับบ้านไปเลยเหมือนกัน แต่รู้สึกหมดแรงยังไงก็ไม่รู้ตั้งแต่เจอหน้าทามิโกะ

“ขออนุญาตคร้าบ...”

เขาเปิดประตูห้องพยาบาลเข้าไปพร้อมกล่าวขออนุญาตด้วยน้ำเสียงซังกะตาย ก็พบว่าในห้องไม่มีใครอยู่เลยแม้กระทั่งอาจารย์ประจำห้องพยาบาล แต่อาสึนะก็ไม่ใส่ใจนัก

เตียงแต่ละตัวในห้องต่างถูกปิดไว้ด้วยผ้าม่าน เขาตัดสินใจเลือกเตียงแรกซึ่งอยู่ใกล้ที่สุดเพราะไม่อยากจะเดินไปไกล

พรืด อาสึนะรูดผ้าม่าน

และในขณะที่เตรียมตัวจะทิ้งตัวลงนอนบนเตียงอยู่นั้น

สายตาของเขาไปเห็นอะไรบางอย่างที่ทำให้ความรู้สึกอยากนอนหายไปในพริบตา

ร่างเปลือยของเด็กผู้หญิง

เปลือยจริงๆ เปลือยอย่างสมบูรณ์แบบ ไม่มีอาภรณ์ใดๆห่อหุ้มร่างกายทั้งสิ้น ไม่มีแม้กระทั่งชุดชั้นใน

เพราะตอนแรกอาสึนะคิดว่าตาฝาด หรือไม่ก็คิดว่าคงเป็นป้ายสแตนด์ขนาดเท่าคนจริงที่ใครพิเรนทร์เอามาวางไว้ เขาจึงจ้องมองตาไม่กะพริบเพื่อพิจารณาว่าสิ่งที่เห็นคืออะไร

อีกใจก็คิดว่ามันจะไปมีเด็กผู้หญิงคนไหนมาแก้ผ้าแก้ผ่อนที่ห้องพยาบาลกัน

แต่พอเห็นร่างเปลือยนั้นขยับ เขาก็รู้ทันทีว่าไม่ได้ตาฝาด

จะให้มองโลกในแง่ดีถึงขนาดคิดว่าเธอคงเป็นภาพจากหน้าจอโทรทัศน์ที่มองไม่เห็นมันก็เกินไป อาสึนะจึงยอมรับว่าตนได้ทำเรื่องเสียมารยาทลงไปเสียแล้ว

“ขอโทษครับ!”

เขารีบเบือนหน้าหนีพร้อมกล่าวขอโทษ หน้านั้นแดงก่ำจนถึงใบหู

ปกติ เด็กผู้ชายวัยนี้มักจะมีความสนใจและชื่นชอบในเรือนร่างของผู้หญิงอยู่แล้ว แน่นอนว่าเสี้ยวหนึ่งในความคิดของอาสึนะก็อยากจะหันกลับไปดูเรือนร่างของเด็กผู้หญิงคนนี้อีกสักครั้ง ที่สำคัญเป็นร่างเปลือยแบบจะๆในระยะกระชั้นชิดอีกต่างหาก ซึ่งต้องเรียกว่าเป็นอาหารตาชั้นยอดที่บุรุษเพศแทบทุกคนใฝ่ฝันอยากจะมองเห็น

แต่ถึงกระนั้น อาสึนะเองก็มีความเป็นสุภาพบุรุษซึ่งกดความคิดนั้นไว้อยู่ ถึงจะอยากเห็นเพียงใด แต่มันเป็นการไม่ให้เกียรติสุภาพสตรีเป็นอย่างมาก เขาจึงเลือกที่จะไม่มอง

ความรู้สึกอยากงีบหลับก็คงไม่เหลืออีกแล้ว อาสึนะจึงไม่ได้แค่จะเดินไปเตียงอื่น แต่เลือกที่จะเดินออกจากห้องไปเลย

หมับ! แต่แล้วก็มีมือเรียวสวยมาจับมือของเขาไว้ทำให้เขาหยุดเดิน

นั่นเป็นมือของเด็กผู้หญิงคนนี้อย่างแน่นอน

เพราะไม่เคยมีประสบการณ์เรื่องผู้หญิง นี่เลยเป็นครั้งแรกที่อาสึนะได้รับรู้ว่ามือของผู้หญิงนั้นทั้งนุ่มและอุ่น

แต่นี่ไม่ใช่เวลาที่จะมาสนใจเรื่องนั้น ที่ควรจะสนใจคือ ทำไมเธอถึงทำแบบนั้น

หรือเธอว่าจะโกรธ!?

เธอคงจะรั้งตัวคนร้ายโรคจิตถ้ำมองอย่างเขาไว้ที่นี่แล้วเรียกคนมาช่วย คงไม่มีเด็กผู้หญิงคนไหนรู้สึกดีที่มีเด็กผู้ชายมาเห็นตัวเองในสภาพเปลือยเปล่าแน่ นี่มันอาชญากรรมชัดๆ... แต่จะว่าไปแล้วปกติในสถานการณ์แบบนี้ เธอก็น่าจะกรีดร้องด้วยความตกใจออกมานี่นา!?

ถึงจะไม่อยากหันกลับไปดู แต่ตอนนี้มันจำเป็นต้องทำแบบนั้น อาสึนะจึงหันกลับไปมองเด็กสาวแบบเต็มๆตาอีกครั้ง

สีหน้าของเธอนิ่งมาก นิ่งจนน่าตกใจ ทั้งๆที่ตัวเองโดนล่วงเกินทางสายตาแต่กลับนิ่งได้ขนาดนี้

อีกทั้งเธอยังไม่มีท่าทีว่าจะเขินอายแต่อย่างใด กลับกลายเป็นอาสึนะนั่นแหละที่รู้สึกเขินอายแทน ทุกอย่างมันกลับตาลปัตรกันไปหมด

แต่ในเมื่อได้เห็นรูปร่างหน้าตาของเธอแบบเต็มๆอีกครั้ง ก็เลยสามารถพรรณนาถึงลักษณะของตัวเธอได้อย่างชัดเจนขึ้น

เธอเป็นเด็กสาวที่มีลักษณะของ ‘ยามาโตะ นาเดชิโกะ1’ อย่างแท้จริง

ผมยาวสีดำจนถึงแผ่นหลัง สวมที่คาดผมสีขาว ดวงตาสงบนิ่งสีม่วงแดง ผิวขาวใสราวกับมองทะลุได้ รวมทั้งสรีระร่างกายที่ดูอรชรสมส่วน

และเพราะได้เห็นร่างเปลือยของเธอแทบจะทุกองศา เลยทำให้รู้ว่าตามร่างกายของเธอแทบจะไม่มีรอยตำหนิใดๆทั้งสิ้น

ผู้หญิงในอุดมคติโดยแท้

เธอจ้องตาอาสึนะอยู่สักพัก ก่อนที่จะเคลื่อนกายเข้ามาใกล้ จนผลไม้ทั้งสองลูกของเธอเกือบจะสัมผัสโดนแขนของเขาอยู่รอมร่อ

อาสึนะจึงตั้งใจที่จะกล่าวขอโทษขึ้นมาอีกครั้ง แต่เด็กสาวก็พูดแทรกขึ้นมาก่อน

“ชื่อ? ชั้นปี? ห้อง?”
“อะ เอ๊ะ?”
“ชื่อ? ชั้นปี? ห้อง?”

อาสึนะรู้สึกสับสน ว่านั่นคือประโยคบอกเล่าหรือคำถาม เพราะมันเป็นน้ำเสียงที่ฟังดูเรียบๆโดยสิ้นเชิง

แต่พอเธอพูดซ้ำขึ้นมาอีกครั้งด้วยเสียงที่ดังขึ้น บวกกับเหมือนโดนสะกดจิตจากโคนจุกสีอมชมพูที่เห็นเต็มสองตาหรือเปล่าก็ไม่อาจทราบได้ เขาจึงตอบไป

“คันซากิ อาสึนะ ปี 1 ห้อง A ครับ!”
“คันซากิ!?”

เด็กสาวทวนเพียงนามสกุลของเขา และมีท่าทางเหมือนจะนึกอะไรบางอย่างออก แต่อาสึนะไม่อาจจะอ่านความรู้สึกของเธอได้

ก่อนที่เธอจะปล่อยมือจากอาสึนะ และหันกลับไปหยิบเสื้อผ้าของเธอมาใส่ทีละชิ้นโดยไม่สนใจเขาอีก

“อะ เอ่อ...”

(อะไรกันเนี่ย?)

แต่เพราะไม่มีอะไรแล้ว (หรืออาจเพราะเด็กสาวตรงหน้าเริ่มใส่เสื้อผ้าแล้ว) อาสึนะจึงไม่มีเหตุผลที่จะยืนอยู่ที่นี่อีกต่อไป

เขาจึงเดินออกมาจากห้องโดยไม่ได้พูดอะไร แล้วตรงกลับไปที่ห้องเรียนของตัวเอง

(เหมือนจะไม่ได้โกรธอะไรแฮะ)

อาสึนะคิดแบบนั้น ไม่งั้นเขาคงไม่ได้ออกมาเฉยๆแน่

แต่ยังไงก็ตาม...

(สวย... ยังไงเธอก็สวยจริงๆนั่นแหละ)

ภาพของเธอผุดขึ้นมาในความคิดของอาสึนะอีกครั้ง หน้าตาอันสะสวย ผมอันยาวสลวย ร่างกายอันงดงาม หัวน---

“อ้าว กลับมาเร็วจัง”

เสียงทักของเร็นดึงอาสึนะกลับมาสู่ปัจจุบัน

“อ๋อ... เอ่อ... อาจารย์ห้องพยาบาลไม่อยู่เลยกลับมาน่ะ”

แน่นอนว่าเขาคงไม่บอกความจริงไปว่าเจออะไรมา

ในเมื่อตอนนี้ไม่น่ามีเรื่องอะไรให้ทำที่โรงเรียนแล้ว ชมรมก็ไม่ได้สนใจเป็นพิเศษ อาสึนะก็เลยคิดว่าคงถึงเวลาที่จะต้องกลับบ้านเสียที เขาจึงหันไปทางเร็นแล้วกำลังอ้าปากจะบอกว่าขอตัวกลับก่อน แต่ในขณะนั้นเอง

แซ่ด แซ่ด เสียงเอะอะโวยวายอะไรบางอย่างดังแว่วมาแต่ไกล

มันดังมาเรื่อยๆ จนกระทั่งมาถึงหน้าห้อง 1-A ที่อาสึนะอยู่

“วี๊ด! ว๊าย!”
“ทะ ท่านยูกิ!”
“ทะ ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ล่ะ!?”
“สวยกว่าในรูปเยอะเลย!”

นั่นคือเสียงที่พอจะจับใจความได้

นอกจากนี้ นักเรียนที่อยู่ในห้องของเขาก็ต่างกรูกันออกนอกห้อง ทำให้อาสึนะเกิดความสงสัย เขาจึงลองเดินออกไปดูบ้างว่ามันมีอะไร

และในระหว่างนั้น

“ฉันมาหาคนชื่อคันซากิ อาสึนะ”

อาสึนะหยุดกึกเมื่อได้ยินเสียงนั้น

(นั่นมันตรูนี่หว่า!?)

ไม่รู้ทำไมอาสึนะถึงรู้สึกสังหรณ์ไม่ดี เขาจึงเปลี่ยนใจรีบกลับหลังหัน แล้วกะว่าจะออกทางประตูหลังห้องเรียนแทน

“คนนั้นค่ะ”

แต่ไม่ทันแล้ว

เพื่อนร่วมห้องคนนึงเดินเข้ามาในห้องแล้วชี้ไปที่อาสึนะ พร้อมๆกับการเข้ามาของคนที่มาตามหาเขา

(อะ อ้าว?)

พบว่าคนที่มาตามหาอาสึนะ คือเด็กสาวที่เขาเจอในสภาพเปลือยที่ห้องพยาบาล

แต่คราวนี้เธอสวมชุดนักเรียนโรงเรียนมิไรเคียวเรียบร้อย และเดินเข้ามาหาอาสึนะ โดยที่ทั้งเด็กนักเรียนในห้องและนอกห้อง ต่างหันมามองเป็นตาเดียว

เมื่อเธอเดินเข้ามาใกล้ สิ่งที่ทำให้อาสึนะตกใจมากที่สุดคือ

เข็มกลัดสัญลักษณ์แทนตำแหน่ง ‘ควีน’ ที่หน้าอกเสื้อของเธอ

ตำแหน่งซึ่งมีความสามารถมากที่สุดในเกม

และปลอกแขนสีเลือดหมูที่ระบุคำว่า ‘ประธานนักเรียน’ เอาไว้

“คันซากิ อาสึนะ เวลาสี่โมงเย็น มาเจอกับฉันที่สนามแข่งขันที่หนึ่ง ถ้านายไม่มาล่ะก็จะถูกไล่ออก”
“หะ หา?”

ยังไม่ทันที่จะได้ถามอะไรไปมากกว่านี้ เธอคนนั้นก็จากไปเสียแล้ว ท่ามกลางเสียงฮือฮาจากคนที่ได้ยืนมองอยู่บริเวณนั้น

“อะ อะไรกันเนี่ย?”
“นายไปมีเรื่องอะไรมาน่ะ? นั่นประธานนักเรียนไม่ใช่หรอ?”

เร็นซึ่งนั่งดูสถานการณ์อยู่เงียบๆพูดขึ้น

“หรือว่าที่นายกลับมาที่ห้องเร็วเพราะเรื่องนี้?”

เห็นดูเฉื่อยชาแต่กลับสมองไวกว่าที่คิด

เร็นเดาถูกเกือบทั้งหมด ที่เธอคนนั้นนัดอาสึนะไปเจอที่สนามแข่งคงคิดอย่างอื่นไปไม่ได้นอกจากเป็นการท้าสู้ และเหตุผลน่าจะมาจากเรื่องในห้องพยาบาลที่เขาคิดว่าเธอไม่น่าจะโกรธอะไรเป็นแน่แท้

ที่เธอถามชื่อกับชั้นปีและห้องของเขา ก็เพราะแบบนี้นั่นเอง

“โอ๊ะ โอ! พาดหัวข่าวหน้าหนึ่งเลยนะเนี่ย”

จู่ๆก็มีเสียงใสๆของเด็กผู้หญิงคนนึงดังขึ้น

เจ้าของเสียงเป็นเด็กสาวตัวเล็กน่ารัก เธอมีผมสั้นหยิกฟูสีชมพูอ่อน สวมแว่นสายตากรอบสีแดง เข็มกลัดของเธอเป็นตำแหน่งพอนเหมือนอาสึนะ

ในมือของเธอถือสมุดประจำตัวนักเรียนซึ่งเปิดฟังก์ชันสมุดจดเลคเชอร์และพิมพ์อะไรบางอย่างลงไป ที่เห็นชัดที่สุดคือมีรูปของอาสึนะกำลังยืนเผชิญหน้ากับประธานนักเรียน ซึ่งรูปนั้นเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่อยู่ด้วย

ถ่ายไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้

จากนั้นเธอก็หันมาทางอาสึนะ แล้วทำท่าวันทยาหัตถ์แบบน่ารักๆ

“อ๊ะ ขอโทษที่เสียมารยาท ฉันชื่อ มิยาตะ จูริ ผู้กำลังจะก่อตั้งชมรมหนังสือพิมพ์จ้า”
“หา กำลังจะก่อตั้ง?”
“ใช่แล้ว! ตอนนี้ฉันเลยพยายามจะสร้างผลงานจะได้มีสมาชิกเข้าชมรมเยอะๆ แล้วก่อตั้งเป็นชมรมอย่างเป็นทางการ และนี่จะเป็นผลงานแรกของฉัน ‘ราชินีปะทะสุนัขรองบ่อน ศึกความต่างชั้นแห่งมิไรเคียว’”
“เดี๋ยวสิ-”

อาสึนะกำลังจะพูดว่า ไปเอาฉายาแบบนั้นมาจากไหน แต่คำตอบก็ตามมาโดยไม่ต้องถามอะไร

“ไม่ต้องแปลกใจหรอกทำไมฉันถึงรู้ การจะเป็นนักข่าวก็ต้องมีการหาข้อมูลทุกอย่างเป็นอย่างดีอยู่แล้ว และประธานนักเรียนที่คุณคันซากิต้องเจอน่ะ เธอคือ โยชิดะ ยูกิ ฉายาฮาร์ทเลส ควีน (ราชินีไร้หัวใจ) และเป็นหนึ่งในห้าของไมท์ตี้ พิสเซส (ตัวหมากทรงอานุภาพ)”
ไมท์ตี้ พิสเซสหรอ?”
“ใช่แล้ว ไมท์ตี้ พิสเซสคือชื่อเรียกของนักเรียนที่มีความสามารถอยู่ในห้าอันดับแรกของโรงเรียนน่ะ ประธานโยชิดะอยู่อันดับสอง”

ดูท่าอาสึนะจะได้แกว่งเท้าหาตอม่อสะพานซะแล้ว ถ้ามองโลกในแง่ดี อย่างน้อยก็ไม่ใช่อันดับหนึ่ง

“ประธานโยชิดะน่ะเป็นที่นิยมมากไม่ว่าจะทั้งในโรงเรียนหรือนอกโรงเรียน ตามอินเตอร์เน็ตก็มีวิดีโอการต่อสู้ของเธอเยอะแยะ เธอเลยมีแฟนคลับเยอะมากถึงตัวเธอเองจะดูไม่ค่อยสนใจก็เถอะ แล้วก็น้อยคนนักจะได้ต่อสู้กับเธอแบบตัวต่อตัวนะ ขนาดหาข้อมูลมาอย่างดีแล้ว ฉันก็ยังไม่รู้ว่าทำไมจู่ๆถึงมาท้าสู้คุณคันซากิแบบนี้

แต่อาสึนะรู้เป็นอย่างดีเลยแหละ

“อีกอย่างนะ ขอแนะนำเลยว่าคุณคันซากิห้ามปฏิเสธหรือเบี้ยวนัดเธอเป็นอันขาด ที่บอกจะไล่นายออกน่ะ ไม่ใช่พูดส่งๆ ประธานโยชิดะมีอำนาจเกือบจะเทียบเท่าผู้อำนวยการเลยนะ สั่งไล่ใครออกได้สบายๆเลย ดังนั้นไปเถอะคุณคันซากิ”
“ขะ ขนาดนั้นเลย”

อาสึนะเริ่มหน้าซีด

แย่ที่สุด อย่างนี้มันแย่สุดๆ

ทำไมเขาต้องมาเจออะไรแบบนี้ในวันเปิดเรียนวันแรกด้วยนะ

จริงอยู่ว่าอาสึนะไม่ได้ปรารถนาจะเข้าเรียนที่มิไรเคียวตั้งแต่แรกอยู่แล้ว แต่อุตส่าห์เข้ามาได้จะให้โดนไล่ออกง่ายๆแบบนี้ก็กระไรอยู่

แต่ต่อให้ไปตามนัด พอนระดับอันเดอร์ด็อกอย่างเขาจะเอาอะไรไปสู้กับควีนอย่างโยชิดะ ยูกิ แถมเธอยังอยู่ในอันดับสองของโรงเรียนอีกต่างหาก ไม่ต่างอะไรกับฆ่าตัวตายเลยแท้ๆ นอกเสียจากว่า เธอไม่ได้นัดเขาไปสู้ ซึ่งโอกาสเป็นไปได้แทบจะเป็นศูนย์

ยังไงก็ตาม เขาต้องไป ถึงยังไงๆก็แพ้ แต่ขายหน้าน่าจะดีกว่ายอมโดนไล่ออก
ขึ้นไปข้างบน Go down
ฟ้ามืด
Superstar Grade B
Superstar Grade B
ฟ้ามืด


จำนวนข้อความ : 504
Join date : 30/04/2013
Age : 31
ที่อยู่ : μ's

Checkmate : Turn 1 Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Re: Checkmate : Turn 1   Checkmate : Turn 1 EmptySat Jul 16, 2016 1:01 am

‘สวัสดีค่า! ยินดีตอนรับสู่สนามแข่งขันที่หนึ่งค่า~!!”

สี่โมงเย็น ณ สนามแข่งขันที่หนึ่งแห่งโรงเรียนมิไรเคียว บนอัฒจันทร์นั้นต่างมีนักเรียนนั่งเรียงกันแน่นเต็มไปหมดจนแทบไม่เหลือที่ว่าง

พอรู้ข่าวกันว่าประธานนักเรียนจะมาต่อสู้ที่สนามนี้ก็พาเข้ามาดูกันยกใหญ่ แม้ว่าช่วงเวลานี้จะเป็นเวลากลับบ้านของนักเรียนโดยส่วนใหญ่ก็ตาม

โดยปกติสนามแข่งขันของโรงเรียนมิไรเคียวจะไม่เปิดให้ใครเข้าไปเป็นอันขาด ยกเว้นว่าจะมีการแข่งขันหรือใช้สอนในคาบเรียน ซึ่งก็ต้องขออนุญาตทุกครั้ง จากการที่ยูกิสามารถขอใช้สนามแห่งนี้ได้ทั้งๆที่การต่อสู้ครั้งนี้น่าจะมาจากเรื่องส่วนตัวนั้น ได้ตอกย้ำอำนาจของเธอยิ่งขึ้นไปอีกว่ามีมากอย่างที่ว่าไว้จริงๆ

‘ดิฉัน มายุซึมิแห่งชมรมวิทยุและกระจายเสียง จะรับหน้าที่เป็นผู้บรรยายในแมตช์พิเศษ! การต่อสู้แบบตัวต่อตัวที่หาชมได้ยากของ ‘ฮาร์ทเลส ควีน’ โยชิดะ ยูกิ ประธานนักเรียนผู้ทรงเสน่ห์แห่งมิไรเคียว เจอกับนักเรียนปีหนึ่งที่ไม่มีข้อมูลใดๆเลยอย่าง คันซากิ อาสึนะ แถมยังเป็นแค่ตำแหน่งพอนอีกต่างหาก ไม่รู้เหมือนกันนะคะว่าประธานโยชิดะเห็นอะไรในตัวของเขากันแน่ถึงได้ท้าสู้แบบนี้’

(เปล่าหรอก เรานี่ละที่ไปเห็นอะไรๆที่ไม่เหมาะไม่ควรจากประธานเข้าต่างหาก)

อาสึนะคิดแบบนั้นอยู่ในอุโมงค์ทางเดินสำหรับผู้เล่นฝ่ายสีดำ ซึ่งประตูอัตโนมัติที่จะออกไปสู่สนามแข่งขันนั้นถูกปิดไว้ แต่มันก็เป็นกระจกใสซึ่งทำให้มองเห็นสนามแข่งขันได้ชัดเจน เห็นแม้กระทั่งโยชิดะ ยูกิ ที่ยืนรออยู่อีกฝั่งของอุโมงค์สำหรับผู้เล่นฝ่ายสีขาว

สนามประลองนั้นมีโต๊ะที่มีลักษณะคล้ายกับโต๊ะที่ใช้ในห้องเรียนอยู่ฝั่งละสิบหกตัวสองฝั่ง รวมเป็นโต๊ะทั้งหมดสามสิบสองตัว ซึ่งจำนวนโต๊ะก็มีพอดีกับจำนวนผู้เล่นสูงสุดในแต่ละฝั่ง และมีลำโพงติดตั้งอยู่รอบสนาม

‘เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา ขอแนะนำผู้เล่นฝ่ายสีดำก่อน เขาก็คือนักเรียนปีหนึ่งห้อง A ตำแหน่งพอน คันซากิ อาสึนะ นั่นเองค่ะ!’

อาสึนะเดินผ่านประตูอัตโนมัติออกมา โดยที่ไม่มีเสียงอะไรเลยจากคนดูบนอัฒจันทร์ ก็แน่อยู่แล้ว เขาไม่ใช่คนดังอะไรแบบนั้นสักหน่อย

‘และผู้เล่นฝ่ายสีขาว ตำแหน่งควีน ‘ฮาร์ทเลส ควีน’ ประธานนักเรียนแห่งมิไรเคียว โยชิดะ ยูกิ ค่า!’

เสียงโห่ร้องและเสียงกรี๊ดกร๊าดดังมาจากทางอัฒจันทร์รอบด้าน

‘สู้เค้านะค้า~! ท่านยูกิ’
‘ท่านยูกิสู้ๆ’
‘อีกฝ่ายเป็นแค่พอน ยังไงท่านยูกิก็ชนะใสๆ’

มีแต่เสียงสรรเสริญให้กับยูกิที่กำลังเดินเข้าสู่สนาม แต่เธอก็ไม่มีปฏิกิริยาตอบรับใดๆกับเสียงเหล่านั้น

“เป็นลูกผู้ชายเหมือนกันนี่นะ ที่ยอมมาตามนัด”
“กะ ก็ประธานบอกถ้าไม่มาจะไล่ผมออกนี่ครับ?”
“หึ... ถ้าเป็นคนอื่นล่ะก็ฉันไม่มายื่นข้อเสนออะไรแบบนี้หรอก บังอาจมาทำเรื่อง ‘แบบนั้น’ กับฉันในห้องพยาบาล แค่ไล่ออกยังจะน้อยไปด้วยซ้ำ”
‘แบบนั้น? แบบไหนอ่ะ???’
‘ไอ้หน้าจืดนั่นมันทำอะไรกับท่านยูกิ!!’
‘ระ หรือว่าจะเป็นเซ็-’
‘ว๊ากกกก!! ยอมไม่ได้’
‘ฆ่ามัน! ฆ่ามัน! ฆ่ามัน!’

เสียงคนดูบนอัฒจันทร์เริ่มรุนแรงขึ้น คำพูดแต่ละอย่างก็ดูจะไม่ใช่เรื่องล้อเล่นซะด้วยสิ อาสึนะก็ชักเริ่มหวาดเสียว จึงก้มหัวประหลกๆให้ยูกิแล้วรีบหนีเข้าไปนั่งบนโต๊ะฝ่ายตัวเองทันที

ยูกิก็เดินเข้าไปนั่งที่โต๊ะฝ่ายตัวเองเช่นกัน ทั้งสองฝ่ายต่างหยิบอุปกรณ์ VR ขึ้นมาสวม พร้อมทั้งสอดการ์ดข้อมูลอาวุธลงไปในอุปกรณ์

เมื่อเสร็จเรียบร้อยแล้ว บริเวณที่เป็นโต๊ะสำหรับผู้เล่นทั้งสองฝ่ายก็มีกระจกทึบเลื่อนลงมาครอบไว้ทำให้คนดูบนอัฒจันทร์มองไม่เห็นว่ามีคนนั่งอยู่ ก่อนที่บนสนามจะแปรเปลี่ยนเป็นจอโทรทัศน์ขนาดยักษ์บนอากาศรอบทิศทางที่ทำให้เห็นภาพในเกมได้อย่างชัดเจน

ซึ่งทั้งอาสึนะและยูกิ ก็ต่างเข้าไปอยู่ในเกมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พื้นที่ที่ทั้งสองยืนเผชิญหน้าอยู่ในเกมตอนนี้นั้นเป็นเพียงแค่โลกมืดๆไม่มีอะไรพิเศษ

“ฉันให้สิทธิ์นายเลือกสมรภูมิรบ”

สมรภูมิรบที่ยูกิว่า มันก็คือฉากต่อสู้ในเกมนั่นเอง ซึ่งผู้เล่นสามารถเลือกได้อย่างอิสระ มีฉากหลากหลายรูปแบบตั้งแต่ฉากในป่าไปจนถึงฉากล้ำๆอย่างพวกสถานีบนอวกาศเลยทีเดียว

อาสึนะใช้มือเลื่อนรูปของสมรภูมิต่างๆที่ลอยอยู่กลางอากาศตรงหน้า หลังจากที่เลือกอยู่นานสองนาน เขาก็เลือกฉากที่เป็นรูปเครื่องหมายคำถาม

“สุ่มฉาก? ไม่มีความมั่นใจในตัวเองเอาซะเลย”

ยูกิพูดตำหนิอาสึนะ ในขณะที่โลกมืดๆที่ทั้งสองอยู่ในตอนแรกจะเริ่มมีรอยร้าวเหมือนกระจกแตก ซึ่งภายในรอยแตกนั้นได้หลายเป็นภาพของสมรภูมิรบที่ทั้งสองจะต้องต่อสู้กัน ก่อนที่โลกมืดๆนั้นจะแตกสลายหายไปหมด กลายเป็นโลกที่เป็นสมรภูมิรบของทั้งสองอย่างแท้จริง

“สมรภูมิน้ำแข็งงั้นหรอ? โชคร้ายหน่อยนะ เป็นสมรภูมิที่ฉันถนัดพอดี... สู่จุดเยือกแข็ง เฮียวโรงะ (เขี้ยวหมาป่าน้ำแข็ง)”

เกล็ดน้ำแข็งบนอากาศได้ล่องลอยเข้าไปเกาะที่มือทั้งสองข้างของของยูกิ ก่อนที่เธอจะประกบมือทั้งสองข้างนั้นแล้วดึงออกมากลายเป็นดาบตรงที่มีคมดาบสีฟ้าขุ่นๆเหมือนน้ำแข็ง

ดาบเล่มนั้นลอยอยู่กลางอากาศอยู่ครู่หนึ่ง แล้วยูกิก็ถือมันเอาไว้ด้วยสองมือ

“อะ เอ่อ จะ จงออกมา!”

อาสึนะพูดเรียกอาวุธตัวเองด้วยท่าทีเงอะๆงะๆ เรียกเสียงหัวเราะครืนมาจากคนดูแบบไม่ได้ตั้งใจ

ดาบคาตานะที่มีคมดาบสีดำปรากฏขึ้นกลางอากาศ แล้วตกลงพื้นจนอาสึนะต้องก้มลงไปเก็บ เพิ่มเสียงหัวเราะจากคนดูหนักขึ้นไปอีก

“นั่นมัน คุโรเท็ตสึ (โลหะทมิฬ) อาวุธของรุ่นพี่อากาเนะ?”
“อะ เอ๊ะ? ประธานรู้จักพี่สาวผมด้วยหรอ?”
“...แน่นอน รุ่นพี่อากาเนะน่ะ คือแรงผลักดันที่ทำให้ฉันมีวันนี้เลยล่ะ”
‘อ๊ะ ฉันเพิ่งนึกออกเมื่อครู่นี้เองค่ะ! นามสกุลคันซากิ! ที่แท้แล้ว คันซากิ อาสึนะ ก็เป็นน้องชายของ คันซากิ อากาเนะ อดีตประธานนักเรียนที่เรียนจบไปนั่นเองค่ะ!’
‘คันซากิ อากาเนะ ที่เป็นไนท์คนนั้นใช่ไหม?’
‘ใช่ๆ เป็นไนท์ก็จริงแต่ฝีมือติดอันดับไมท์ตี้พิสเซสเลยล่ะ’
‘แล้วทำไมน้องชายถึงเป็นแค่พอนล่ะเนี่ย น่าสมเพชชะมัด’

เสียงของผู้บรรยายและคนดูบนอัฒจันทร์ดังขึ้น มีเสียงดูถูกดูแคลนอาสึนะปนมานิดหน่อย

“เพราะฉันเห็นว่านายนามสกุลคันซากิ ฉันเลยอยากจะทดสอบฝีมือของนาย เรื่องที่ห้องพยาบาลน่ะ ถ้าไม่ใช่เพราะนามสกุลคันซากิ ฉันคงไล่นายออกอย่างไม่ลังเล แต่ในฐานะที่นายเป็นน้องชายของรุ่นพี่อากาเนะ ฉันจะให้โอกาสนายได้ต่อสู้กับฉัน ถ้านายชนะ ฉันจะทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นเรื่องที่ห้องพยาบาล แต่ถ้านายแพ้ ฉันจะสั่งพักการเรียนนายสามเดือน”
“สะ สามเดือน!?”
“ฉันใจดีสุดๆแล้วนะ เพราะเห็นแก่ความเป็นลูกผู้ชายของนายที่มาตามนัดเลยลดโทษให้ไม่ไล่ออก นายควรขอบคุณฉันด้วยซ้ำไป”

บางทีอาจจะเป็นแบบนั้น อย่างน้อยๆเขาก็ไม่ถูกไล่ออก ส่วนเรื่องเอาชนะนั้น จนถึงตอนนี้ อาสึนะก็ยังไม่เห็นหนทางนั้นเลยแม้แต่น้อย

(เตรียมหาอะไรทำได้เลย สามเดือนนี้)

‘ก้าวสู่สมรภูมิใน สาม สอง หนึ่ง’

เสียงระบบของเกมดังขึ้น เพื่อเป็นการเตือนให้ผู้เล่นเตรียมพร้อม เม็ดเหงื่อเริ่มผุดขึ้นตามใบหน้าของอาสึนะ แม้สมรภูมิในตอนนี้จะเป็นน้ำแข็งก็ตาม

การต่อสู้ครั้งแรกของอันเดอร์ด็อก ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว

‘พร้อม... เริ่มได้!’

----------------------------------------------------

1ยามาโตะ นาเดชิโกะ (大和撫子) คือคำที่ใช้เรียกผู้หญิงที่มีลักษณะของ “กุลสตรีญี่ปุ่น”
ขึ้นไปข้างบน Go down
 
Checkmate : Turn 1
ขึ้นไปข้างบน 
หน้า 1 จาก 1
 Similar topics
-
» Checkmate : Turn 10
» Checkmate : Turn 2
» Checkmate : Turn 3
» Checkmate : Turn 4
» Checkmate : Turn 5

Permissions in this forum:คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
Bloody Wrestling Online :: BWO : Special Event :: BWO Novel-
ไปที่: