Bloody Wrestling Online
Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.

Bloody Wrestling Online

The Number One Cyber Wrestling Online
 
บ้านPortalLatest imagesสมัครสมาชิก(Register)เข้าสู่ระบบ(Log in)

 

 Story of Normal Guy : EP 1

Go down 
ผู้ตั้งข้อความ
DanielsoN
Xiao Mei's Husband
Xiao Mei's Husband
DanielsoN


จำนวนข้อความ : 2272
Join date : 19/09/2010
Age : 29

Story of Normal Guy : EP 1 Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Story of Normal Guy : EP 1   Story of Normal Guy : EP 1 EmptySat Oct 08, 2016 1:55 am

“โอเค...น่าจะครบทุกอย่างแล้ว”

ผมพูดอยู่หน้ากระจกพลางสำรวจตัวเองว่านำของไปครบรึเปล่า กระจกนั้นสะท้อนใบหน้าของผม ใบหน้าธรรมดาๆ เส้นผมสีดำ เช่นเดียวกันกับเครื่องแบบสีดำและกางเกงขายาวสีดำ ผมเปิดประตูและออกจากห้องนอนของตัวเอง เมื่อผมออกมานั้นผมก็เห็นอาหารเช้าที่เตรียมไว้แล้ว มันเป็นขนมปังแผ่นและมันถูกทาด้วยแยมสตอเบอรี่ ผมหยิบขนมปัง ผมใช้ฟันของผมกัดลงบนขนมปังปิ้ง ไม่นานนักมันก็หมด ผมหยิบกล่องนมถั่วเหลืองที่วางไว้ใกล้ๆกับจาน ผมดื่มมันจนหมด ผมเดินไปทิ้งขยะ ล้างจาน ใส่รองเท้าและเดินออกจากห้อง

ผมอาศัยอยู่ที่คอนโด มันไม่ใช่คอนโดหรูอะไร แต่ก็กว้างพอ ห้องของผมอยู่ชั้นห้าของตึกนี้ ผมเดินบันไดลงไป เสียงของเท้าของผมที่เหยียบลงขั้นบันไดกับหัวใจของผมนั้นดังไปพร้อมๆกัน มันเป็นความรู้สึกที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น การไปยังโรงเรียนใหม่ มันก็ไม่ต่างอะไรกับการผจญภัยครั้งใหม่ พบกับผู้คนใหม่ๆ ได้เรียนรู้เรื่องราวใหม่ๆ มันเป็นอะไรที่น่าตื่นเต้นมากสำหรับผม ผมก้าวเท้าด้วยความรวดเร็ว ผมอยากจะไปถึงโรงเรียนแห่งใหม่ให้เร็วที่สุด

โรงเรียนใหม่ของผมนั้นชื่อ “โทคุ กัคคุเอ็น” เป็นโรงเรียนสำหรับคนพิเศษ ผมจบ ม.ต้น มาด้วยเกรดที่ค่อนข้างดี ผมจึงสามารถเลือกไปเรียนโรงเรียนไหนก็ได้ และผมก็ตัดสินใจเลือกโรงเรียนแห่งนี้ ด้วยเหตุผลว่ามันเป็นโรงเรียนที่ค่อนข้างใกล้ เท่าที่ผมเคยลองเดินดู ใช้เวลาประมาณ 15 นาทีก็ถึงแล้ว และถ้าหากผมเดินเร็วหน่อยประมาณ 10 นาทีก็จะถึงสถานศึกษาแห่งใหม่ของผม

ในที่สุดผมก็อยู่หน้ารั้วโรงเรียน ผมมองไปยังกำแพงสีขาวที่มีตัวอักษรสีทองเขียนว่า “โทคุ กัคคุเอ็น” แม้ผมจะจำได้ว่าโรงเรียนตั้งอยู่ตรงไหน แต่ผมก็เช็คเพื่อความมั่นใจของตัวเองอีกที เมื่อผมมั่นใจว่าผมมาถูกที่ ผมก็ก้าวเข้าผ่านกำแพงสีขาวเข้าไป ตลอดทางเดินนั้นมีต้นซากุระตั้งอยู่เป็นทางยาว กลีบสีชมพูนั้นโรยอยู่เต็มพื้นอิฐ เสียงหัวเราะและเสียงพูดคุยนั้นคลุ้งทั่วอากาศ เหล่านักเรียนต่างเดินมุ่งเข้าอาคารเรียน ผมรู้อยู่แล้วว่าห้องของตัวเองนั้นคือห้องไหน และผมก็อดใจไม่ได้ที่จะได้พบกับเพื่อนใหม่ของผม

ในขณะที่ผมกำลังเดินเข้าไปยังอาคารเรียนนั้น ผมก็ได้ยินเสียงรถจอดข้างหลังผม ผมหันกลับไปตามเสียง มันเป็นรถลีมูซีนสีดำยาว ประตูนั้นถูกเปิดออกช้าๆ ก่อนที่คนในรถจะก้าวออกมา เธอเป็นหญิงผมสีชมพู ผมของเธอนั้นมักจะถูกเรียกว่าทวินเทล ด้วยใบหน้าที่งดงามของเธอ ทำให้ทุกสายตานั้นมองไปที่เธอ หญิงผมสีชมพูคนนี้ปิดประตูรถก่อนจะเดินผ่านฝูงผู้คนที่หยุดนิ่ง เธอยิ้มให้กับทุกคนที่เธอเดินผ่าน เช่นเดียวกันกับผม เธอส่งยิ้มอันอ่อนโยนให้กับผม รอยยิ้มของเธอนั้นทำให้หัวใจของผมเต้นไม่เป็นจังหวะ ไม่นานนักเธอก็เดินเข้าไปอาคารเรียน

“รุ่นพี่ฟูนามินี่น่ารักจังเลยนะ” เสียงของผู้ชายที่ยืนอยู่ข้างหลังผมดังขึ้น
“นั่นซินะ...แปลกจริงๆว่าน่ารักขนาดนี้ทำไมยังไม่มีแฟน” เพื่อนของชายคนเมื่อครู่ถามกลับ
“ก็ดีแล้วนี่ แบบนี้เราจะได้มีหวัง” ชายที่เอ่ยปากชมหญิงชมพูตอบกลับ
“อย่างแกไม่ต้องหวังหรอกเว้ย” เพื่อนของเขาพูดพลางหัวเราะ

หลังจากผมหยุดฟังสองสหายยืนคุยกันถึงรุ่นพี่ผู้แสนงดงามแล้ว ผมก็เดินเข้าไปในอาคาร ผมเดินตามทาง ห้องเรียนของผมนั้นอยู่ชั้นสอง ห้องของผมนั้นคือ 1-B ซึ่งเมื่อผมขึ้นมาและมองไปทางขวานั้นผมก็เจอห้องที่มีป้ายสีขาวที่เขียนว่า 1-B ติดอยู่เหนือประตูเลื่อนสีขาว ผมหยุดหน้าประตูก่อนจะสูดหายใจลึกๆ ภายในห้องนั้นจะมีเพื่อนร่วมห้องของผมอยู่ จะมีคนแบบไหนบ้างนะ? แล้วใครอยากจะเป็นเพื่อนกับผมบ้างนะ? ผมตั้งคำถาม ไงก็ตามผมก็เลื่อนเปิดประตูช้าๆ เสียงประตูที่ถูกเลื่อนดังครืด ผมก้าวเท้าเข้าไปในห้อง ภายในห้องนั้นมีคนกลุ่มนึงอยู่แล้ว มีทั้งชายทั้งหญิงปะปนกันไป พวกเขาหันมามองผมกันแปปนึง ก่อนที่จะกลับไปทำธุระของตัวเองต่อ

ผมเดินไปเลือกที่นั่งของผมเอง ที่นั่งของผมนั้นเป็นแถวเกือบติดหน้าต่าง กล่าวคือข้างๆผมนั้นเป็นแถวติดหน้าต่าง ผมจัดข้าวของตัวเอง ก่อนที่ผมจะหันไปเห็นชายผมสีทรายนั่งติดหน้าต่าง ผมของเขานั้นถือว่ายาว แต่มันถือว่าสั้นหากเป็นผู้หญิง หน้าต่างนั้นถูกเปิดออกอยู่ บนขอบหน้าต่างนั้นมีนกสองสามตัวเกาะอยู่ ผมว่าผมควรจะแนะนำตัวผมเองให้เขารู้จัก ในเมื่อเขานั่งข้างๆผมแล้ว ผมก็ควรจะรู้จักเขาไว้

“ชั้นยูจิโร่ ทัตซึ-“
“ชู่” เขาเอานิ้วชี้ของเขามาวางไว้บนริมฝีปากของเขา เป็นสัญลักษณ์บอกให้ผมเงียบ

ผมเงียบตามความต้องการของเขา ชายผมสีทรายคนนี้หันไปพูดกับเหล่านกน้อย ภาษานก? ไม่รู้แฮะ ผมไม่รู้ว่าภาษานกนั้นเป็นยังไงเหมือนกัน เมื่อเขาพูดจบเหล่านกพวกนั้นก็บินออกจากขอบหน้าต่าง เมื่อมันบินออกไปหมด ชายผมสีทรายก็เดินไปปิดหน้าต่าง เขานั่งลงบนที่นั่งของเขา ก่อนที่เขาจะหันมาทางผม

“เอ่อ...ชั้นชื่อยูจิโร่ เท็ตซึโอะ ยินดีที่รู้จัก” ผมแนะนำตัวด้วยรอยยิ้มที่เป็นมิตร

แต่ชายผมสีทรายนั้นนิ่ง เขาไม่ได้พูดอะไร ดูเหมือนเขาจะไม่ได้สนใจผมเท่าไหร่ เสียงประตูเปิดขึ้นอีกครั้ง มันทำให้ผมหันไปมองตามเสียง คราวนี้คงเปิดประตูนั้นเป็นชายร่างยักษ์ ผมของเขานั้นเป็นสีทรายเช่นเดียวกัน ใบหน้าของเขานั้นมีแผลอยู่ด้วย ดูเหมือนจะเป็นรอยข่วนของตัวเองอะไรซักอย่าง ตอนแรกๆผมก็คิดว่าเขาเป็นอาจาร์ยของห้องนี้ แต่ความคิดของผมก็เปลี่ยนเมื่อเขามานั่งรวมกับพวกผม นักเรียน? ผมอยากจะเดินไปถามเขา แต่ด้วยใบหน้าที่น่ากลัวของเขานั้นทำให้ผมไม่กล้าเอ่ยปากถามเท่าไหร่นัก

หลังจากที่ชายคนนี้นั่งลงเสียงประตูก็ถูกเปิดขึ้นอีกครั้ง คราวนี้ผู้เปิดประตูเป็นชายผมสีขาว ผิวของเขานั้นแทน ถ้าหากผมพูดแบบนี้ ฟังแล้วเขาดูปกติใช่ไหมครับ? แต่สิ่งที่ต่างออกไปคือเขาสวมหน้ากากปิดบริเวณดวงตาของเขา พูดแบบนี้อาจจะไม่เห็นภาพให้นึกถึงหน้าไซคอร์ปจาก X-Men อาจจะช่วยได้ เขาเดินไปโพเดี้ยมที่อยู่หน้าห้อง มันทำให้ผมโล่งใจว่าเขาไม่ใช่นักเรียนอีกคนในห้อง ในมือของเขามีแฟ้มขนาดใหญ่อยู่ด้วย เขามองนักเรียนทุกคนในห้อง ทุกคนเงียบและมองเขาเช่นเดียวกัน เขาหันไปยังกระดานก่อนจะหยิบชอล์กขึ้นมาก่อนจะเขียนลงบนกระดาน

“จูอิจิ”

นั่นคือสิ่งที่เขาเขียนบนกระดาน เขาวางชอล์กลงไปบนรางก่อนจะหันกลับมาหาเหล่านักเรียน

“ชั้นชื่อจูอิจิ ชั้นเป็นครูประจำชั้นของพวกเธอ...ชั้นรู้ว่าพวกเธอนั้นพิเศษและแตกต่างจากคนอื่นๆจึงมาที่นี่”
“แต่ว่าชั้นจะพยายามเต็มที่ที่จะให้พวกเธอเข้ากับสังคมนี้ให้ได้” เขาพูดกับเหล่านักเรียน

คำว่า “พิเศษ” นั้นค่อนข้างดึงความสนใจพอสมควร ผมมองไปรอบๆ ผมเห็นสิ่งแปลกปลอมมากมาย นอกจากคนที่คุยกับนกหรือคนที่หน้าตาแก่เป็นรุ่นพ่อผมได้แล้ว เพื่อนร่วมห้องผมหลายๆคนยังมีเอกลักษณ์ค่อนข้างแปลกอยู่ อย่างคนที่นั่งใกล้กับประตูทางออกนั้นใส่เสื้อกันหนาวหนาราวกับเขาอยู่ในขั้วโลกเหนือ ผมรู้ว่าฤดูนี้ค่อนข้างหนาว แต่มันก็ไม่ควรจะหนาขนาดนั้น หรืออย่างคนหัวฟูที่นั่งท้ายห้องที่เอามือล้วงเข้าไปในทรงผมของเขา ก่อนที่จะดึงเอาแว่นตาออกมาสวม...ไม่มั้งโรงเรียนนี้น่าจะเป็นโรงเรียนปกตินั่นแหละ แต่แค่ห้องเรียนที่ผมอยู่เต็มไปด้วยพวกบ้าๆบอๆละมั้ง

“เดี๋ยวพวกเธอจะต้องไปฟังปฐมนิเทศนะ...ครูจะส่งผังที่นั่งให้”

พูดจบเขาส่งผังที่นั่งให้กับคนนั่งหน้าสุด จากนั้นกระดาษที่บอกแผนผังการนั่งก็ถูกส่งต่อมาเรื่อยๆ ก่อนที่จะมาถึงผม ผมรับไว้ก่อนจะส่งไปให้ข้างหลัง ซึ่งนั่นก็เป็นแผ่นสุดท้ายพอดี ผมมองไปยังบนกระดาษ ผมจะนั่งระหว่างคนที่ชื่อว่า “โอคิตะ ชิโนบุ” และข้างๆของผมนั้นจะเป็นคนที่ชื่อว่า “เหมย” ผมกวาดสายตาไปรอบๆห้องเพื่อหาคนที่น่าจะชื่อว่า “เหมย” แต่มองไปยังไง ผมก็ยังหาไม่เจอ หรือว่ายังไม่มา? เพราะที่นั่งข้างๆผมนั้นก็ยังว่างเปล่า ไงก็ตามผมลุกตามคนอื่นๆไปยังโรงยิม ในโรงยิมนั้นเต็มไปด้วยผู้คนมากมาย และการที่เต็มไปด้วยผู้คนนั้นก็แปลว่าผมเริ่มเห็นเหล่านักเรียนที่มี “บุคลิก” เป็นเอกลักษณ์มากขึ้น

“ขอต้อนรับทุกคนเข้าสู่โทคุกัคคุเอ็น โรงเรียนสำหรับคนพิเศษ” ชายผมสีเทาพูดบนเวที
“แน่นอนว่าเป้าหมายของเรานั้นก็เหมือนทุกปี ก็คือสร้างบุคลากรที่มีศักยภาพในสังคม” ผู้อำนวยการพูดต่อ

รอบนี้ผมเริ่มเข้าใจแล้วว่า “พิเศษ” ที่ว่านี่คืออะไร เพราะตอนนี้ผมอยู่ในโรงยิม ซึ่งทำให้ผมเห็นผู้คนมากมาย และแต่ละคนนั้นก็ล้วนแต่มีอะไรที่แตกต่างจากผม หรือพูดให้ถูกผมนั้นแตกต่างจากคนอื่น ผมอยากจะกรีดร้องขึ้นมา ผมอยากจะตะโกนว่าผม “พลาดแล้วววววว” แต่ผมทำไม่ได้ ผมได้แต่อัดอั้นไว้ ผมพยายามคิดหาทางแก้ปัญหา ผมควรจะทำไงดี แน่นอนว่าผมสามารถลาออกได้เลย แต่ผมเชื่อว่าแบบนั้นผมคงต้องเสียเวลาฟรีๆหนึ่งปี และพ่อแม่ของผมคงไม่พอใจกับการตัดสินใจแบบนั้นของผมแน่นอน

ผมนั่งฟังสิ่งที่ผู้อำนวยการพูดไปเรื่อยๆ มันช่างเป็นอะไรที่น่าเบื่อ คงไม่ต่างอะไรกับโรงเรียนอื่นๆในจุดนี้ มันทำให้ผมหันไปมองข้างๆ ซึ่งเจ้าของที่นั่งคือ “โอคิตะ ชิโนบุ” หรือก็คือชายผมสีทรายที่นั่งข้างผมในห้องเรียน เขายังคงไม่คุยกับผมเหมือนเคย เขาหยิบซองอะไรบางอย่าง เขาฉีกซองออกก่อนจะเทลงพื้น มันเป็นน้ำตาล เมื่อน้ำตาลตกลงพื้น เหล่ามดก็เริ่มตรงมายังกองน้ำตาล ปากของเขานั้นขยับ ดูเหมือนเขาจะพูดอะไรเบาๆกับเจ้าสิ่งมีชีวิตขนาดเล็ก ผมหันไปมองอีกข้าง ซึ่งมันยังเป็นเก้าอี้ที่ว่างเปล่า เจ้าของที่นั่งคงจะยังไม่มา ผมไม่รู้ว่านานเท่าไหร่ แต่ในที่สุดปฐมนิเทศก็จบลง และเจ้าของที่นั่งข้างๆผมก็ยังไม่มา เหล่านักเรียนเริ่มแยกย้ายกันกลับไปยังห้องเรียน เมื่อเรากลับห้องเรียน

“เอาล่ะ...อย่างแรกเลย เราควรจะเลือกหัวหน้าห้อง มีใครอาสาไหม?” อาจารย์จูอิจิถาม

ทุกคนเงียบ ไม่มีใครยกมือหรือเสนอใครทั้งนั้น ทุกคนเงียบ ชายผิวแทนลูบคางของเขา ก่อนจะมองไปที่รอบๆห้อง

“เธอเป็นหัวหน้าห้องก็แล้วกัน”

เขาชี้หญิงที่นั่งอยู่แถวหน้าสุดของผม เขาบอกให้เธอลุกขึ้นมา เธอลุกขึ้นมาก่อนจะยืนอยู่ข้างๆ อาจาร์ยประจำชั้นของพวกเรา เธอเป็นหญิงที่มีผมสีดำ ผมของเธอนั้นปิดดวงตาอีกข้างซ้ายของเธอ แต่ถึงกระนั้นมันก็ทำให้ผมเห็นดวงตาสีแดงจากตาขวาของเธอ เธอปล่อยบรรยากาศที่เรียกว่าแปลกพอสมควร ใช้คำว่าอะไรดี? อึดอัด? น่ากลัว? เธอมองมายังเพื่อนร่วมชั้นของเธอ ชายผมขาวเกาศีรษะของเขาก่อนเอ่ยปากถามขึ้นมา

“เธอชื่ออะไรนะ?”
“นากาชิม่า อายูมุ” เธอตอบห้วนๆด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ
“อ่า หลังจากนี้ถ้าใครมีอะไรก็บอกคุณนากาชิม่าก็แล้วกัน” ชายผมสีขาวพูดกับทุกคนในห้อง 1-B
“ไปนั่งเถอะ” จูอิจิพูดกับหัวหน้าห้องคนใหม่

หลังจากนั้นเขาก็เริ่มขานชื่อคนในห้อง ดูเหมือนทุกคนในห้องจะมา เว้นแต่คนที่นั่งข้างๆผม

“ดูเหมือนจะมีแค่คุณเหมย ซูยินแฮะที่ยังไม่มา เอาเป็นว่าวันนี้หมดโฮมรูมแค่นี้แล้วกัน”
“ตั้งใจเรียนวิชาแรกด้วย”

หัวหน้าห้องคนใหม่ตะโกนให้ทุกคนลุกขึ้นมาก่อนที่จะโค้งให้กับชายคนนี้ในขณะที่เอาเดินออกจากห้องเรียน พวกเรานั่งลงไป ไม่ถึงนาทีก็มีอาจาร์ยอีกคนเข้ามา เธอเป็นอาจาร์ยผู้หญิง พวกเราลุกขึ้นโค้งให้กับเธออีกครั้ง เธอเริ่มแนะนำตัวเอง ดูเหมือนเธอจะสอนวิชาภาษาอังกฤษ แม้มันจะเป็นเรื่องแปลกแต่เธอเริ่มสอนทันที แม้โรงเรียนนี้จะแปลกขนาดไหน แต่อย่างน้อยๆหลักสูตรนั้นยังปกติดี อาจารย์สอนภาษาอังกฤษนั้นยังคงสอนเรื่อยๆ เสียงชอล์กที่กระแทกกระดานนั้นดังขึ้นเป็นระยะๆ ในขณะที่เธอสอนนั้นเธอก็เริ่มเอ่ยปากถามคำถามเพื่อทดสอบว่านักเรียนที่ของเธอนั้นตั้งใจเรียนรึเปล่า

“คุณทานากะ พอจะช่วยครูตอบข้อนี้ได้รึเปล่า?” เธอเอ่ยปากถามคนที่มีนามสกุลว่าทานากะ
“เอ่อครับ...แปปนะครับ” ชายผมสีส้มที่อยู่ห่างจากแถวผมประมาณสองสามแถวตอบรับ

เขาลุกขึ้นก่อนจะใช้นิ้วทั้งสองแตะไว้บนข้างหน้าผากของเขา เขาหลับตาลง

“เอ่อ คำตอบคือ...ข้อ A รึเปล่าครับ?” เขาตอบกลับ
“ดีมาก ถูกต้อง นั่งลงได้” อาจารย์เอ่ยปากชมก่อนจะอนุญาตให้ชายผมส้มนั่งลง

เขานั่งลงไป การเรียนนั้นยังคงดำเนินต่อไป น่าแปลกว่าต่อให้คนพวกนี้มีอะไรที่ไม่เหมือนคนทั่วไป แต่เหมือนพวกเขาจะค่อนข้างสนใจในการเรียนพอสมควร โดยเฉพาะชายผมสีทองที่มีร่างกายบึกบึนและใบหน้าที่ดูมีอายุ เขาดูตั้งใจเรียนมากเป็นพิเศษ ผมก้มลงไปก่อนจะจดสิ่งที่อาจารย์เขียนไว้บนกระดานสีดำ แต่ในขณะที่ผมเขียนอยู่นั้นผมก็ได้ยินเสียงฝีเท้าของใครบางคนวิ่งบนทางเท้า ดูเหมือนจะเป็นรีบมาก ไม่นานนักเสียงฝีเท้าก็หยุดลง เสียงฝีเท้าถูกเปลี่ยนเป็นสีประตูที่ถูกเลื่อนออก เมื่อประตูถูกเลื่อนออกนั้นก็ปรากฏเป็นหญิงผมสีดำ ทรงผมของเธอนั้นค่อนข้างแปลก ใกล้ๆบริเวณหูนั้นม้วนเป็นวง ใบหน้าของเธอนั้นมีแต้มสีแดงอยู่ด้วย หญิงคนนี้รูปร่างค่อนข้างบางและตัวไม่สูงเท่าไหร่นัก ทุกสายตานั้นจับจ้องไปที่เธอ เธอหายใจด้วยความเหนื่อยล้า

“เอ่อ...เธอคือ?” อาจารย์หน้าห้องถาม
“หนูชื่อเหมย ซูยินค่ะ...ขอโทษที่มาสาย” เธอก้มโค้งเพื่อขอโทษ

ใช้คำว่ามาสายมากน่าจะดีกว่า...

“รีบไปนั่งเถอะ ชั้นจะได้สอนต่อ” อาจารย์พูดด้วยสีหน้าเซ็งแซ่

เธอโค้งให้ก่อนจะเดินเข้ามาในห้อง ในห้องนั้นเหลือที่ว่างเดียว ซึ่งก็คือที่นั่งนั้นก็คือข้างๆผม...เธอดูเหมือนเป็นคนธรรมดา แต่บอกได้เลยว่าการได้รู้จักกับผู้หญิงที่ชื่อ “เหมย” นั้น ทำให้ชีวิตของผมเปลี่ยนไปตลอดกาล
ขึ้นไปข้างบน Go down
 
Story of Normal Guy : EP 1
ขึ้นไปข้างบน 
หน้า 1 จาก 1
 Similar topics
-
» Story of Normal Guy : EP 3
» Story of Normal Guy : EP 2
» Story of Normal Guy : EP 4
» Story of Normal Guy : EP 5
» Story of Normal Guy : EP 6

Permissions in this forum:คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
Bloody Wrestling Online :: BWO : Special Event :: BWO Novel-
ไปที่: