Bloody Wrestling Online
Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.

Bloody Wrestling Online

The Number One Cyber Wrestling Online
 
บ้านPortalLatest imagesสมัครสมาชิก(Register)เข้าสู่ระบบ(Log in)

 

 Cataclysm: The Endless Hellfire XXIV

Go down 
ผู้ตั้งข้อความ
Neferpitou
Moderators
Moderators
Neferpitou


จำนวนข้อความ : 552
Join date : 05/12/2012
Age : 27
ที่อยู่ : The Facility of Banned Organizer

Cataclysm: The Endless Hellfire XXIV Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Cataclysm: The Endless Hellfire XXIV   Cataclysm: The Endless Hellfire XXIV EmptySat Dec 03, 2016 5:48 am

Cataclysm: Endless Hellfire
Act XXIV

------------

  หัตถ์แห่งมารเต็มไปด้วยปราณอัคคี รวมตัวเป็นรูปทรงกลมคล้ายบอลที่ค่อยๆ ขยายตัวใหญ่ขึ้นจากปราณที่รวมเป็นหนึ่ง บอลนั้นใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จนเมื่อรู้สึกตัวอีกทีมันก็มีขนาดมหึมาเสียยิ่งกว่าร่างของผู้ใช้พลังเสียอีก สายตาของไซอาลอทมองลงไปยังผืนดิน สู่ดินแดนแห่งสตอร์มโฮล์มและมองไปยังเจ้าของเมืองที่มิอาจจะขยับร่างของตนได้ ดั่งว่าอสรูแห่งไฟคิดจะใช้พลังเพลิงของเขาทำลายล้างเมืองแห่งนี้และสังหารองค์กษัตริย์ทิ้งเสีย โครนอสพยายามที่จะทำทุกทางเพื่อที่จะดึงดาบของตนที่ปักลงไปบนมือของเขา ทิ่มลงสู่ผืนดินตรึงร่างของชายผู้นี้ไว้ ด้วยความเหนื่อยและบาดแผลที่ตนได้รับ จึงทำให้เขาไม่มีกำลังพอที่จะดึงดาบเล่มนั้นได้ มารเพลิงเห็นโครนอสดิ้นสู้เพื่อเอาชีวิตรอดจึงยิ้มออกมาอย่างมีความสุข มองชายที่สู้กับความสิ้นหวังราวกับเป็นการล้อเล่น มันมิได้ทำให้ไซอาลอทรู้สึกตกใจที่โครนอสยังสู้เลยแม้แต่น้อย เขากลับมองว่ามันเป็นความเขลาที่คนผู้นั้นกำลังจะหนีความตายที่อยู่เบื้องหน้าเสียต่างหาก เช่นนั้นแล้วไซอาลอทจึงขว้างบอลเพลิงขนาดยักษ์ลงไปผืนล่าง สู่เมืองหลวงศิวิไลซ์ ปราณทรงกลมนั้นดิ่งลงมาอย่างรวดเร็ว โครนอสที่เห็นเช่นนั้นจึงหยุดขยับร่างของเขาทั้งหมด รับรู้ว่ามันสายเกินที่จะหนีแล้ว เขาจึงยอมรับมัน หลับตาลงน้อมรับความตาย...

แต่การโจมตีนั้นกลับหายไปต่อหน้าต่อตาของมารเพลิง... ดั่งเช่นหายไปในมิติแห่งอื่น!

  สิ่งที่เกิดขึ้นสร้างความตกใจให้แก่มารร้ายเป็นอย่างมาก มันจักเป็นไปได้เช่นไรที่บอลปราณของเขาจะหายไปต่อหน้าต่อตา มันหาใช่ฝีมือของธรรมชาติเป็นแน่แท้ แต่ใครเป็นคนทำล่ะ? สถานที่แห่งนี้... นอกจากลิ่วล่อทหารของโครนอสและตัวของราชาเองก็ไม่เห็นมีใครอยู่ในระแวกนี้เลย เจ้าเมืองแห่งสตอร์มโฮล์มค่อยๆ ลืมตาขึ้น ประจักษ์ว่าตนยังรอดอยู่ เขามองไปโดยรอบซึ่งตัวเมืองก็ยังคงสภาพเดิมดั่งเช่นเมื่อครู่ ก่อนที่จะแหงนขึ้นไปมองปรปักษ์ ผู้ซึ่งกำลังช็อคกับอะไรสักอย่าง ดูเหมือนว่าการโจมตีของไซอาลอทจะไม่เป็นผล ถือว่าเป็นเรื่องน่ายินดีสำหรับโครนอสอยู่พอควร แต่กระนั้นก็มิอาจจะดีใจได้เพราะสภาพของเขามิอาจจะทำอะไรกับมารเพลิงได้เลยสักนิด เขาต้องหลุดออกจากพันธนาการนี้ให้ได้เสียก่อน เช่นนั้นแล้วตัวเขาอาจจะมีโอกาสต่อกรกับมารเพลิงได้

“มันเป็นไปได้เช่นไร?” มารเพลิงกล่าวขึ้นมาด้วยอารมณ์ที่หงุดหงิด
“ช่างมัน...” เขากล่าวขึ้นมาต่อ “รวบรวมปราณใหม่แล้วใช้มันอีกครั้งก็ได้”

  สิ้นคำพูดนั้นอสูรอัคคีจึงรวมพลังปราณเข้าที่หัตถ์ข้างขวาอีกครั้ง ในครั้งนี้ปราณแห่งเพลิงรวมรวบตัวอย่างรวดเร็วมากเสียยิ่งกว่าครั้งที่แล้วเป็นเท่าตัว มิทันไรหัตถ์แห่งมารเพลิงข้างนั้นก็มีปราณแปลกประหลาดผุดขึ้นมาระหว่างแขนและมือข้างนั้นของเขา มันเป็นปราณสีม่วงเข้ม ลักษณะพลังคล้ายกับ.. พลังแห่งวอยด์! เมื่อไซอาลอทรู้ตัวเขาก็รีบคลายพลังบอลเพลิงของตนเสีย พยายามที่จะดึงมือของตนออกจากปราณประหลาดนั้น แต่ออร่านั้นได้ก่อตัว บิดเบือนมิติจนเกิดเป็นประตูมิติขนาดเล็ก ดั่งรูหนอน มันตัดมือข้างนั้นของมารเพลิงออกเนื่องเพราะการหักเหของมิติ ไซอาลอทกรีดร้องด้วยความทรมาณ โลหิตเพลิงของเขาไหลรินเข้าไปในมิตินั้นเรื่อยๆ ราวกับว่ารูหนอนนั้นกำลังสูบเลือดของไซอาลอทจนหมด มารเพลิงดึงมือของตนออกจากบริเวณนั้น แล้วกายาเพลิงนั้นก็ร่วงลงสู่ผืนดิน เขาค่อยๆ ลุกขึ้นมาและยังคงกุมแขนข้างนั้นด้วยความเจ็บปวด สิ่งที่ปรากฏอยู่ต่อหน้าเขาคือชายสามคนที่ยืนปกป้องโครนอสอยู่ ดูเหมือนว่าพวกเขาจะเพิ่งมาได้ไม่นานนัก สิ่งที่ปรากฏทำให้มารเพลิงไม่พอใจเอามากๆ เขามองชายเหล่านั้นด้วยสายตาอาฆาตเช่นเดียวกับพวกเขาทั้งสามที่แสดงท่าทางที่คล้ายคลึงกัน

  ชายเหล่านั้นก็มิใช่ใครที่ไหน พวกเขาคือผู้ใกล้ชิดของโครนอส มือซ้ายแห่งองค์ราชัยน์เซรดริก มือขวาโบล์ทและบุตรบุญธรรมของราชานามลูเซียส ถ้าเช่นนั้นแล้วการที่บอลเพลิงของไซอาลอทหายไปกลางอากาศก็อาจจะเป็นฝีมือของใครสักคนในสามคนนี้ ณ ตอนนี้หาได้มีฝ่ายใดที่จะบุกเข้าไป โจมตีใส่ปรปักษ์ของตนเลยแม้แต่น้อย แต่คนที่ตกใจที่สุดคือโครนอส เขาไม่คิดว่าสามคนนี้จะกลับมาช่วยเขา ซึ่งอันที่จริงแล้วเขาคือคนที่บอกกับปากตัวเองให้คนเหล่านี้หนีไปเสีย

“พวกเจ้ากลับมาทำไม?!” โครนอสตะโกนขึ้น
“หนีไปซะ! ไม่งั้นได้ตายกันหมดแน่!” เขาตะโกนย้ำให้คนเหล่านั้นถอยฉากออกไป

  คนเหล่านั้นยังคงนิ่งเฉยเมื่อได้ยินวาจาของผู้เป็นนายของตน ดั่งเป็นการขัดคำสั่งของเขา แต่มันเป็นสิ่งที่พวกเขาทั้งสามได้ตัดสินใจด้วยตัวเอง แม้นว่าจะขัดคำสั่งก็ตามทีแต่พวกเขาประสงค์ที่จะมาที่นี่ ปกป้ององค์ราชาของพวกเขาและเมืองนี้จากมารร้ายตนนั้น ไม่นานนักแขนของมารเพลิงก็ถูกตัดจนขาดก็คืนกลับมาสู่สภาพเดิม โดยมีเนื้อและกระดูกงอกขึ้นมาเป็นการรักษาบาดแผล มารเพลิงสบัดแขนของตนเพื่อเช็คดูว่ามันอยู่ในสภาพพร้อมใช้งานและปกติดี สีหน้าที่ตรึงเครียดของมารเพลิงค่อยๆ หายไป กลายเป็นแสยะยิ้มเย้ยอีกครั้ง มารร้ายเหยียดแขนของตน ตามด้วยร่างเป็นการสื่อถึงว่าเขากำลังเตรียมพร้อม ดูเหมือนว่าตัวของมารเพลิงพร้อมที่จะต่อกรกับปรปักษ์เหล่านั้นแล้ว

“การฟื้นฟูร่างกายแบบนั้น... ปีศาจชัดๆ” เซรดริกพูดขึ้นมาเบาๆ
“ก็เห็นๆ กันอยู่ว่ามันเป็นปีศาจ แต่ไม่คิดว่ามันจะสามารถรักษาร่างกายได้เร็วผิดปกติแบบนั้น” โบล์ทกล่าวต่อ
“จะเอาไงล่ะ?” เซรดริกถามแทรกขึ้น
“มันอาจจะแกร่ง กายามันอาจจะฟื้นฟูได้เร็วกว่าใคร.. แต่ข้ามั่นใจว่าในตอนนี้มันก็เสียปราณไปพอควร ไม่อาจสู้กับเราได้หรอก” โบล์ทตอบ
“คิดงั้นหรอ?” เซรดริกกล่าวขึ้นพลางมองมารเพลิง “ขนาดองค์ราชายังอยู่ในสภาพนี้ได้แล้วเราล่ะจะเป็นยังไง?”
“มันก็จริง.. แต่จะให้หนีไปแล้วปล่อยให้เมืองและองค์ราชาพินาศงั้นหรือ?”

เมื่อโบล์ทกล่าวเช่นนั้นแล้ว เซรดริกจึงเงียบไปในทันที..

“ก็ไม่..” เขาตอบกลับ
“แต่ข้าจะยืนดูองค์ราชาพินาศ!”

“ฉึกกกกกกกกก!” เสียงของคมมีดแทงเข้าไปสู่ร่างของมนุษย์

  มันเป็นมีดสั้นของเซรดริกที่แทงเข้าไปกลางอกของโบล์ท โลหิตของชายหนุ่มพลังสายฟ้าไหลออกมาจากบาดแผล โบล์มจ้องมองเซรดริกอย่างตกใจ ดวงตาของเขาเบิกโพลงขึ้นมองเซรดริกด้วยสีหน้าที่โมโห ทางด้านของชายที่แทงมีดเล่มนั้นกลับมองหน้าของโบล์ทด้วยสีหน้าที่ต่างไป เขายิ้มแย้ม แลดูเป็นดั่งผู้ชั่วร้ายก่อนที่จะใช้พลังของตนผลักร่างของโบล์ทออก ร่างของแม่ทัพผู้นั้นถูกดีดออกไปจนกระแทกใส่กับตัวบ้านที่ทำด้วยอิฐหลังหนึ่ง เขาหมดสติไปในทันที ความตกใจนั้นถูกแผ่ออกไปแก่ชายอีกสองคน ลูเซียสและโครนอส พวกเขาคาดไม่ถึงกับสิ่งที่เซรดริกกระทำลงไป มันมาอย่างกับสายฟ้าฟาด เมื่อนั้นชายผู้ใช้พลังแห่งวอยด์จึงหันไปหาลูเซียสในทันที ชายหนุ่มสวมแว่นสีดำที่อยู่เบื้องหน้าของโครนอสจึงตอบรับด้วยการปลดปล่อยพลังปราณสีดำแห่งดูบาร์นของเขาออกมาทั่วกายา สื่อออกมาว่าเขาจะไม่ยอมให้ชายผู้นั้นมาทำร้ายเขาหรือพ่อเลี้ยงของเขาเป็นแน่ เซรดริกที่เห็นแบบนั้นก็หาได้สนใจ เขารีบแทงมีดเล่มนั้นไปยังจุดหมายหวังจะสังหารลูเซียสในทันที

“หยุดก่อน...” มารเพลิงกล่าวขึ้นในขณะที่เขาเริ่มเดินเข้ามาหาเซรดริก
“เจ้าอย่าได้แตะลูกของข้าเป็นอันขาด! ข้ามีอะไรที่จะคุยกับลูกของข้าอีกเยอะ..”
“ถือซะว่าเป็นการรวมญาติที่ไม่ได้เจอกันนับทศวรรษก็แล้วกัน”
“เจ้าคงเข้าใจข้าดีสินะเซรดริก... แม้นข้าจะเป็นมารร้าย แต่ข้าก็ยังผูกพันกับบุตรแห่งข้าอยู่”

“รับทราบขอรับ...” เซรดริกตอบกลับในขณะที่หันไปหามารร้ายตนนั้น ก้มตัวลงน้อมรับคำของมารเพลิง
“แล้..”

  ผู้ใช้พลังแห่งวอยด์ยังมิทันพูดจบก็ถูกพลังปราณสีโคลนซัดใส่เข้าอย่างจัง เป็นกระสุนแห่งดูบาร์นที่ถูกยิงออกไปเป็นจำนวนนับพัน เข้าใส่ร่างของเซรดริกและไซอาลอท การโจมตีนั้นทำให้ร่างของทั้งสองคนปลิวออกไปไกล พลังนั้นถูกปล่อยออกมาจากหนุ่มบรรณารักษ์ลูเซียส เขาดูโกรธ โมโห พิโรธมากกับสิ่งที่เกิดขึ้น อารมณ์เหล่านั้นขับให้ตัวเขาใช้พลังอย่างบ้าคลั่งจนมิอาจจะควบคุมมันได้ดั่งใจ ดูเหมือนว่าในตอนนี้เขาสูญเสียการควบคุมพลังดูบาร์นโดยสมบูรณ์ พลังสีดำได้กลืนกินจิตใจของหนุ่มผู้นี้จนเปลี่ยนกลายเป็นดั่งเครื่องจักรสังหาร ที่หวังจะฆ่าศัตรูของตนให้หมดไปเท่านั้น แม้นว่าพลังโคลนนั้นจะรุนแรงก็ตามที แต่มันก็หาได้ทำอะไรมารเพลิงได้ เพราะเขาคือผู้สร้างพลังด้วยตัวเอง มันจึงเป็นเหมือนกับส่วนหนึ่่งของร่างกายไซอาลอท แต่เซรดริกเองก็บาดเจ็บไม่น้อย ทั่วทั้งร่างของเขาถูกยิงด้วยกระสุนปราณไม่พอ แต่ปราณเหล่านั้นที่เกาะติดร่างของเขาได้กัดกินปราณและเนื้อทุกส่วนที่มันเกาะติดช้าๆ เซรดริกใช้ปราณของตนขับกระสุนปราณที่มีชีวิตออก มันหลุดจากร่างของเขาในที่สุดแต่แผลทุกส่วนที่ถูกกระสุนยิงเข้าไปไหลออกมาซึ่งโลหิตของผู้ใช้พลังวอยด์ เมื่อนั้นลูเซียสก็วิ่งเข้าไปหาเซรดริกในทันที สร้างดาบสีดำขึ้นมาด้วยพลังปราณของเขา หวังจะฟาดฟันใส่ผู้ทรยศให้แหลกเป็นผุยผง เซรดริกหลบมันไปได้ ก่อนจะใช้พลังของตนสร้างมิติขึ้นมา หักเหการโจมตีทั้งหมดของลูเซียสทำให้มันไร้ผลไปโดยปริยาย

  ลูเซียสยังคงกระหน่ำการจู่โจมของเขาออกไปอย่างบ้าคลั่ง ราวกับไม่รู้จักคำว่าเหน็ดเหนื่อย ทุกการโจมตีนั้นมุ่งเน้นไปจากบุคคลคนเดียวนั่นคือเซรดริก แม้นว่าการโจมตีที่ดูบ้าเหมือนปีศาจจะดูไม่เป็นแบบแผนและมั่วซั่วก็ตามที แต่มันก็หาได้สร้างช่องโหว่อันใดที่จะทำให้ผู้ใช้พลังแห่งวอยด์สามารถตอบโต้ได้เลย สิ่งเดียวที่เขาทำได้ในตอนนี้คือถอยฉากเท่านั้น ไม่นานนักมารเพลิงก็รุดตัวเข้ามาจับร่างของลูเซียส มันทำให้ดูบาร์นของลูเซียสที่ถูกไซอาลอทจับได้สลายไปราวกับฝุ่น การกระทำนั้นของมารเพลิงทำให้ร่างของหนุ่มสวมแว่นอ่อนแอลงเป็นเท่าตัว ราวกับว่ากำลังถูกสูบพลังโดยอสูรไฟอยู่ โครนอสเห็นเช่นนั้นก็ทนดูไม่ได้ เขาพยายามที่จะดึงดาบเล่มนั้นออก ใช้แรงทั้งหมดที่มีดึงอาวุธของเขาออก และมันก็หลุดออกมาได้ในที่สุด โครนอสใช้มืออีกข้างจับดาบเล่มนั้นไว้แน่น ดูเหมือนว่ามือข้างที่ถูกดาบของตนทำร้ายนั้นจะไม่สามารถใช้การได้แล้ว กระนั้นชายผู้นี้หาได้คิดจะยอมแพ้ เขาพุ่งเข้าไปด้วยพลังแห่งแสง เร็วเสียยิ่งกว่าสายลมที่พัดกระหน่ำ พุ่งไปยังเป้าหมายนั่นคือมารเพลิง ใช้ดาบของเขาแทงเข้าไปใส่ร่างของไซอาลอท มันทำให้มารเพลิงปล่อยร่างของลูเซียส หันไปหาโครนอสก่อนที่จะใช้มือของเขาที่มีกงเล็บยาวฟันลงใส่แขนของโครนอส

“ฉวกกกกกกกก!” โลหิตแห่งศักดิ์ศรี เลือดแห่งองค์ราชัยน์พุ่งออกจากร่างของเขา

  การโจมตีของมารเพลิงเพียงแค่ฉับเดียวนั้นทำให้แขนที่โครนอสจับดาบอยู่ถูกซัดออกจนขาดออกจากตัวของเขา องค์ราชาร้องด้วยความทรมาณก่อนจะทรุดลงไปกับผืนดิน โลหิตไหลรินไปทั่วผืนดินของตน นั่งคุกเข่าโดยไร้การต่อกรอันใดต่อมารเพลิงอีก ทางเด็กหนุ่มนามลูเซียสเห็นเช่นนั้นจึงพยายามจะออกหมัดกระแทกเข้าไปใส่หน้าของมารเพลิง แต่มือของเด็กผู้นั้นก็ถูกจับเอาไว้โดยมารร้ายตนนั้น ก่อนจะถูกผลักออกไปอย่างแรง ลูเซียสกระแทกใส่กับอาคารเรือนแห่งหนึ่ง เขาคิดจะรุดตัวไปหามารเพลิงอีกครั้งแต่ร่างกายทุกส่วนมิอาจจะขยับได้อย่างที่เขาต้องการ เมื่อเด็กหนุ่มมองลงไปดูผืนดินจึงพบกับว่าพลังดูบาร์นของเขาเองกำลังต่อต้านคำสั่งของตนอยู่ เหมือนกับว่ามันกำลังเกรงกลัวต่อมารเพลิงและไม่ยอมที่จะทำตามที่ลูเซียสประสงค์ เด็กหนุ่มผู้บ้าคลั่งมิอาจจะขยับกายาของตนได้เลยแม้แต่น้อย แถมดูบาร์นที่เป็นโคลนตมยังจับตัวแข็งอยู่กับพื้นเกาะทั้งร่างของลูเซียสและผืนดินเอาไว้เสียอีก มันจึงไม่ต่างกับว่าเด็กหนุ่มผู้นี้ถูกตรึงอยู่กับที่

“ท่านพ่อ!” ลูเซียสตะโกนเรียกองค์ราชาที่แทบจะไร้สติ เขาดูหมดแรงราวกับกำลังจะตายในไม่ช้า

แน่นอนว่าไซอาลอทรู้ตัวว่าเด็กหนุ่มหาได้เรียกตัวเขา ด้วยสายตาของหนุ่มผู้นั้นจดจ้องไปหาโครนอสอยู่อย่างเดียว

“ฟังสิโครนอส... เสียงนั้น! เสียงกรีดร้อง.. ครวญครางของคนที่แกเรียกว่าลูก ของมนุษย์แห่งโพรโตเนี่ยน” ไซอาลอทกล่าวขึ้นมา
“ฟังให้ชัดๆ มันเป็นเสียงแห่งความสูญสิ้นของเผ่าพันธุ์เจ้าเอง”
“อืม... มันช่างไพเราะก้องกังวานเสียจริง ข้าชอบ.. โทนของเสียงและจังหวะที่พวกเจ้ากรีดร้องออกมา”
“เสียงที่บ่งบอกให้ประจักษ์ว่าดาวดวงนี้ถึงกาลล่มสลาย!”
“นั่นล่ะคือสิ่งที่เจ้าจะได้ยินก่อนตาย...”

เมื่อนั้นไซอาลอทจึงหันไปหาลูเซียสที่ดูจะไม่พอใจกับวาจาแห่งอสูรเพลิง สายตาของชายผู้นั้นจดจ้องมารแห่งความตายด้วยความโมโหจัด ดั่งว่าหากเขาสามารถขยับกายาได้ สิ่งที่เขาจะทำคือซัดใบหน้านั้นของอสูรตนนี้เสีย

“โดยที่คนที่รักแกที่สุดจดจ้องแกตาย.. และอีกคนที่แกรักมากที่สุดจะสังหารตัวแก!”
“หมะ.. หมายความ.. ว่ายังไง?” โครนอสค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมาไป กล่าวถามด้วยความสงสัย
“เดี๋ยวเจ้าได้รู้” มารเพลิงตอบกลับ
“เซรดริก! ทำให้มันเห็น...”
“ขอรับนายท่าน”

“ข้าคงต้องขอตัวก่อน การกระทำของข้าเพียงเท่านี้มันเพียงพอที่จะประจักษ์แก่โลกาถึงการกลับมาของข้าแล้ว” ไซอาลอทกล่าวต่อ
“แล้วก็เซรดริก... เมื่อเจ้าฆ่าโครนอสแล้ว นำตัวลูกของข้ามาด้วย”
“ทราบแล้วครับ”

  เมื่อการสนทนาสิ้นสุดลง มารเพลิงจึงกางปีกของตนออกมา บินขึ้นสู่ฟากฟ้าก่อนจะโบยบินไปในทิศทางที่ตนต้องการ ณ ตอนนี้เหลือเพียงแค่บุรุษสี่คนอยู่ในตัวเมืองนี้ พวกเขาทั้งหมดต่างอยู่อาศัยในดินแดนนี้มาแต่แรกเริ่ม ลูเซียสมิอาจจะขยับร่างได้ จึงไม่อาจจะช่วยอะไรโครนอสได้แต่น้อย ตัวของโบล์ทเองก็หมดสติไปถึงแม้ว่าจะยังไม่ตายก็ตามที แต่เขาก็คงทำอะไรในตอนนี้ไม่ได้เช่นกัน ตัวขององค์ราชาถือว่าน่าเป็นห่วงที่สุด เลือดของเขาไหลออกมาเรื่อยจนตัวของโครนอสแทบจะสิ้นใจแล้ว แต่สปิริตในตัวของกษัตริย์นั้นทำให้เขายังอยู่ สีหน้าของโครนอสจดจ้องไปหาผู้ทรยศด้วยความโกรธแค้น มันแทบจะพูดออกมาเป็นคำบรรยายไม่ถูก เพราะอะไรกันเซรดริกถึงทำเช่นนั้น มันเหมือนกับว่าเขาถูกเซรดริกใช้มีดเล่มนั้นแทงเข้าจิตใจเอง แม้นจะไม่ได้เกิดขึ้นจริงก็ตามที ความโกรธาพุ่งเข้าสู่กายาของเจ้าเมือง แต่เขามิอาจจะทำอันใดได้ด้วยร่างกายที่เป็นเช่นนี้ ผู้ทรยศมองดูสีหน้าของโครนอสก่อนจะยิ้มด้วยความพึงพอใจ ดูเหมือนว่ามันจะเป็นสิ่งที่เขาปรารถนาแต่แรกแล้วยังไงยังงั้น ในตอนนี้มันราวกับว่าเขาหาได้มองดูข้ารับใช้ผู้เป็นสุภาพบุรุษเลยแม้แต่น้อย เป็นดั่งคนละคน ดั่งอสรพิษร้าย

“ทำไม.. เซรดริก? ทำไม?” โครนอสกล่าวถาม
“ข้าไม่เคยมีนามว่าเซรดริก ไม่! ข้าไม่เคยมีตัวตนนามเซรดริกอยู่ภายในจิตใจ”
“ทุกอย่างโครนอส... ทุกอย่าง! สิ่งที่เจ้ารู้ถึงข้าทั้งหมด มันเป็นเรื่องหลอกลวง.. จากข้าเอง”
“เพื่อที่สักวันเมื่อไซอาลอทกลับมายังโพรโตเนี่ยน ข้าและเขาจะได้บรรลุเป้าหมาย”
“โอ้ว..” จู่ๆ ชายผู้นั้นก็สบถขึ้นมา “ขออภัยด้วย.. ข้ายังไม่ได้แนะนำตัวข้าอย่างแท้จริงเลย”

  เมื่อชายผู้นั้นพูดจบ ทั่วทั้งร่างของเขาก็ก่อเกิดปราณสีม่วงเข้มสื่อเป็นพลังแห่งวอยด์ของเขา ดูเหมือนว่าสิ่งที่เขาไม่ได้หลอกโครนอสเลยคงจะเป็นความสามารถและพลังปราณที่ตนมี เมื่อปราณเหล่านั้นคลุมกายของชายผู้นั้น มันจึงทำให้ร่างของเขาเปลี่ยนไปกลางเป็นดั่งคนละคน เป็นดั่งการเปลี่ยนร่างหรือถ้าจะพูดให้ถูกมันคล้ายกับว่าเขากำลังคืนกลับสู่ร่างเดิมของตนเสียมากกว่า สรีระของชายผู้นั้นไม่ต่างไปจากเดิมเสียเท่าไหร่ แต่ดูกำยำขึ้น ดวงตาที่ประกายแสงสีม่วงออกมา สีผิวที่ดูซีดเผือดดั่งคนตาย ชายผู้นี้มีชุดที่ดูต่างออกไปจากเดิม เมื่อครู่ที่ยังคงอยู่ในร่างที่ถูกกล่าวในนามเซรดริก เขาสวมชุดสีขาวดูมีฐานะชั้นตระกูล แต่ตอนนี้เขาสวมชุดโทนมืด ที่หลังของเขามีดาบสองเล่มพร้อมกับฝักดาบ เหมือนว่านั่นคืออาวุธของเขา ชายผู้นั้นแปลงโฉมของตนจนเสร็จสิ้น แสดงท่าทางออกมาราวกับว่ารู้สึกดีที่ได้กลับมาเป็นตัวเองอีกครั้ง เขาสูดอากาศเข้าซะเต็มปอดก่อนที่จะถอนหายใจออกมา ก่อนที่จะนั่งยองๆ ลงไปกับพื้นเพื่อที่จะอยู่ในระดับเดียวกันกับโครนอสที่นั่งคุกเข่าอยู่ การทำเช่นนี้จะทำให้โครนอสฟังสิ่งที่เขากล่าวออกมาง่ายขึ้น และดูเป็นกันเองมากขึ้น แต่สำหรับองค์ราชา เขาไม่สนอะไรทั้งนั้นนอกเสียจากความแค้น ความโมโหที่มีต่อชายผู้นั้น

“ข้าถูกเรียกด้วยหลายนาม หลายร่าง... อสรพิษ! ปีศาจ! ลูซิเฟอร์! ซาตาน.. แต่นั่นไม่เคยเป็นนามของข้า”
“ข้าคือแรธ หรือรู้จักกันดีในนาม.. ความพิโรธ!”
“ตัวข้าอยู่ในโลกนี้มานับพันปี.... ตั้งแต่ยุคแวมไพร์ครองราชย์จนถึง ณ ตอนนี้ ถูกเรียกด้วยชื่อที่พวกเจ้าสุดแสนจะคิดให้ข้า”
“ชื่อแห่งความอัปมงคล นั่นเพราะพวกเจ้ามองว่าอุดมการณ์ของข้าคือหายนะ”
“ทั้งที่ข้าเพียงแค่ต้องการชะล้างหายนะที่แท้จริงของดาวดวงนี้เสียต่างหาก...”
“นั่นก็คือมนุษย์!”
“และเมื่อไซอาลอทเห็นความตั้งใจของข้า เขาจึงรับข้าเข้าร่วมกลุ่ม..”

เมื่อนั้นแรธจึงหันไปหาลูเซียสด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้ม ก่อนจะกล่าววาจาของตน

“โอ้ใช่ลูเซียส... เหตุที่มาเดียร่าของเจ้าถูกจับไปมันเป็นเพราะข้าเองล่ะ”
“กำไลที่ข้าให้เธอน่ะ มันก็แค่กำไลธรรมดาเท่านั้น”

  สิ่งที่แรธกล่าวออกมามันเหมือนกับเป็นการยั่วชายหนุ่มผมสีดำผู้ใช้ดูบาร์น ลูเซียสที่ได้ยินเช่นนั้นแสดงปฏิกริยาโมโหออกมาแบบสุดๆ เขาแทบจะทนไม่ได้กับสิ่งที่แรธกล่าวออกมา ความโมโหนั่นทำให้ร่างของลูเซียสแทบจะคลั่งแต่เขาก็มิอาจจะขยับกายาได้นั่นเพราะปราณของเขาเองยังคงผนึกร่างของเขาไว้อยู่ การที่ชายผู้ใช้พลังแห่งวอยด์กล่าวออกมาเช่นนั้น มันดูเหมือนกับว่าทุกอย่างล้วนแล้วแต่อยู่ภายใต้แผนการที่เขากำหนดไว้แต่แรกยังไงยังงั้น ความรู้สึกของทุกคนที่ได้ยินวาจาของชายผู้นั้น นอกจากจะโกรธแค้นแล้ว พวกเขาคงจะรู้สึกเหมือนไอ้โง่ตัวหนึ่งที่เชื่อสนิทใจกับชายผู้นี้ และตัวของแรธเองก็รู้สึกได้ว่าพวกเขากำลังคิดต่อเขาเช่นนั้น เมื่อนั้นแรธจึงลุกขึ้นยืน สร้างพลังที่มือของเขาก่อนที่จะมีการหักเหของมิติดั่งว่าเป็นการสร้างประตูมิติอะไรสักอย่าง ขนาดของมันใหญ่น่าดูเมื่อเทียบกับครั้งก่อนๆ มันใหญ่พอที่จะให้คนๆ หนึ่งสามารถเดินออกมาได้อย่างสบายๆ เมื่อนั้นมิติแห่งนั้นก็ถูกเปิดออก มีบุรุษผู้หนึ่งเดินออกมาจากมิติแห่งนั้น เมื่อโครนอสเห็นเช่นนั้น สีหน้าของเขาดูช็อคไปในทันที ราวกับเห็นคนที่ตายกลับมามีชีวิตเลยมิผิดเพี้ยน

“ไม่..” องค์ราชาสบถขึ้นเบาๆ
“อย่างที่มารเพลิงนายท่านแห่งข้ากล่าว..”
“แกจะตายโดยที่คนที่รักแกที่สุดจดจ้องแกตาย.. และอีกคนที่แกรักมากที่สุดจะสังหารตัวแก!”
“พบกับคนรู้จักของแกในอดีต... ที่แกคิดว่าตายไปแล้ว”
“และนี่ก็คือคนที่แกรักที่สุดโครนอส.. ยูเรนัส มาลเตล! ลูกชายของแกเอง!”

  บุรุษที่ปรากฏอยู่ต่อหน้าของโครนอส ผู้ที่ถูกเรียกว่าบุตรที่แท้จริงของเขา เขาสวมชุดดำสนิท สีหน้าของเขาดูเหมือนกับว่าเป็นคนที่ตายไปแล้วเป็นชาติยังไงยั้งงั้น คล้ายกับผีดิบที่ถูกคืนชีพขึ้นมาจากความตาย ไร้นัยน์ตา แถมดูเหมือนว่าจะไม่หายใจเสียด้วยซ้ำ แต่หากใช้พลังปราณในการมองดูภายในร่างของชายผู้นี้ จะพบปราณจำนวนมหาศาลเทียบเท่ากับพ่อของเขาเองด้วยซ้ำ ด้วยความที่ปราณยังไหลรินอยู่ทุกส่วนภายในร่างกาย เดินไปโดยไร้การบังคับจากสิ่งใด มันจึงเป็นหลักฐานชิ้นดีว่าตัวเขายังมีชีวิตอยู่เหมือนกับคนทั่วไป ที่มือขวาของชายผู้นี้ถือเคียวทรงประหลาด มันมีทรวดทรงคล้ายดั่งเสี้ยวจันทรา แต่ส่วนด้านขนของเคียวก็มีรูปลักษณ์คล้ายคลึงดั่งเพลิง เขาถือมันไว้แน่นและเปล่งปราณไปยังอาวุธชิ้นนั้น ชัดเจนว่าเขาคิดที่จะใช้มันทำอะไรสักอย่าง เมื่อนั้นชายถือเคียวใหญ่นั้นก็เดินเข้าไปใกล้ผู้เป็นบิดาของตน ง้างเคียวขึ้นเหนือหัวราวกับจะฟาดฟันมันในทันที กระนั้นร่างของยูเรนัสก็หยุดนิ่ง ดูคล้ายว่าเขากำลังรอคำสั่งจากแรธอยู่

“เอาล่ะโครนอส.. อย่าถือกันเลยนะ มันไม่ใช่เรื่องส่วนตัว” แรธกล่าว
“แต่ข้าจำเป็นต้องสังหารเจ้า” เขากล่าวต่อ “ในนามของไซอาลอท..”
“เอาเถอะ... เจ้าจะถูกจดจำโครนอส ในฐานะราชาผู้ซึ่งไม่สามารถปกป้องเมืองของตนได้!”
“เจ้าพูดถูก...” โครนอสกล่าวสวนขึ้นมา “ข้ามิอาจจะปกป้องเมืองนี้ได้”
“แต่ประชาชนทั้งหลาย คนพวกนั้นจะไม่ตกอยู่ในกำมือของพวกเจ้า!” ราชาพูดขึ้นต่อ
“ไม่นานหรอกโครนอส.. พวกนั้นจะตายตามเจ้า!”

  เมื่อนั้นลูกชายแท้ของโครนอสจึงแกว่งอาวุธเคียวของตนไป ฟันใส่หัวของโครนอส ในช่วงเวลาที่ชายผู้นั้นจะถูกฟันด้วยคมแห่งจันทรานั้น เขาหลับตาลง คิดถึงความทรงจำในช่วงอดีตกาล ตอนนี้เขาหาได้คิดเรื่องความทุกข์อันใดเมื่อตนตายไป ภาพที่ไหลเข้าหัวของเขามีเพียงความสุข ความทรงจำในอดีตที่เขาเคยทำลงไปทั้งหมด เสียงตะโกนของลูเซียสมิอาจจะเข้าไปในหัวขององค์ราชาได้เลยแม้แต่น้อย เขาพร้อมที่จะตายแล้ว และเมื่อรู้สึกตัวอีกที.. เขาก็ได้จากโลกนี้ไปเสียแล้ว! ศีรษะของผู้สูงส่งถูกสะบั้นออกจากบ่า ดวงตาของโครนอสถูกปิดลงและเขาก็ตายอย่างมีความสุขด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม หาได้โศกเศร้าอันใดเลยแม้แต่น้อย ลูเซียสผู้ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์หัวใจแทบแตกสลาย ผู้ซึ่งเป็นพ่อเลี้ยงของเขาเองต้องมาตายต่อหน้าต่อตาของเขา โลหิตของบิดาแท้ๆ ของยูเรนัสแปดเปื้อนที่อาวุธของเขาเอง เมื่อนั้นชายผู้นั้นจึงหันหน้าไปหาแรธอย่างไร้อารมณ์ ก่อนที่จะเหลียวมองไปหาลูเซียส สีหน้าอันไร้จิตใจนั้นมันทำให้หนุ่มผู้นี้รู้สึกหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูก

“อืม... ลูเซียส! ข้ารู้ว่าเจ้าอาจจะไม่ชอบถึงสิ่งที่ข้ากระทำลงไป”

แรธพูดพลางกับเดินไปหาลูเซียส ดูเหมือนว่าชายผู้นี้กำลังจะทำตามสิ่งที่มารเพลิงได้สั่งเขาเอาไว้ นั่นคือการนำตัวของลูกชายแห่งเพลิงกลับไปหาเขา

“แต่นี่ล่ะคือโลกความจริงลูเซียส ข้าจะสอนอะไรให้เจ้าเล็กน้อย”
“ก่อนที่ข้าจะพาเจ้าไปหาบิดาที่แท้จ..”

  ยังมิทันได้กล่าววาจาของตนจนจบ ร่างของแรธก็มิอาจจะขยับได้ เขามองลงไปที่ผืนดินพบกับว่ามีปราณแห่งสายฟ้าอยู่เต็มไปหมด มันเอ่อล้นออกมา ไหลเข้าสู่ร่างของแรธและยูเรนัสจนร่างกายของพวกเขารู้สึกผิดปกติ แรธทรุดลงไปกับพื้นก่อนจะขับพลังสายฟ้าออกจนหมด เขาลุกขึ้นมาและพบกับว่าเบื้องหน้ามีอะไรสักอย่างพุ่งเข้ามาหาเขา มันเป็นแสงสีทอง สายฟ้าสีทองแห่งซินโดร่าประกายสีสวยงามพุ่งตรงเข้าไปหาแรธในทันที เมื่อนั้นจึงปรากฏเป็ํนร่างของโบล์ทที่ดูบาดเจ็บพอควร เขาใช้ดาบสีฟ้าของเขาแทงเข้าไปกลางอกของแรธ ทะลุไปถึงหัวใจ มันทำให้แรธกระอักเลือดออกมาจากปากของเขา ดวงตาของเขาเปิดกว้าง แสดงสีหน้าที่ดูช๊อคที่ทำไมโบล์ทถึงยังไม่ตาย มีดที่เขาใช้แทงไปเมื่อครู่ค่อนข้างมั่นใจว่าเขาแทงมันไปถูกจุดแล้วนี่ มันเป็นจุดตายเสียด้วยซ้ำแล้วเหตุไฉนเขาจึงยังไม่ตายจากการโจมตีนั้นได้ เมื่อเขาก้มมองดูร่างกายของโบล์ทดีๆ แล้วมันหาได้มีแผลอันใดเลยแม้แต่น้อย สิ่งนั้นสร้างความงุนงงให้กับแรธ เขาสังเกตที่รอบตัวของโบล์ทใหม่และพบกับว่าปราณของโบล์ทเอ่อล้นทั่วทั้งร่าง และเมื่อพลังปราณแห่งวอยด์กระทบต่อแสงนั้น มันเกิดการหักเหของแสงและมิติจนภาพพล่ามัว เป็นดั่งกับ...

“ภาพลวงตา... บะ.. แบบนี้นี่เอง”
“ใช่” โบล์ทตอบ “แกแทงฉันพลาดไอ้สารเลวเอ้ย!”

  โบล์ทยกดาบขึ้นพร้อมกับร่างของแรธ ก่อนจะปลดปล่อยพลังสายฟ้าทั้งหมดที่มีลงไปในดาบ สายฟ้าเหล่านั้นไหลแล่นไปทั่วร่างของชายผู้ใช้พลังวอยด์ สร้างความทรมาณให้กับเขา แม่ทัพแห่งสตอร์มโฮล์มหวังจะใช้สายฟ้าของเขาสังหารชายผู้นี้ภายในครั้งเดียว แต่จู่ๆ ชายนามยูเรนัสก็พุ่งตรงเข้ามาหาโบล์ท ใช้เคียวที่เต็มไปด้วยปราณสายฟ้าสีทมิฬกระหน่ำฟันใส่ชายที่อยู่เบื้องหน้า โบล์ทจำเป็นต้องดึงดาบของตนออกจากร่างของแรธเพราะมิเช่นนั้นเขาอาจจะถูกการโจมตีนั้นเข้าอย่างจังและบาดเจ็บอย่างหนักจนเป็นฝ่ายเสียเปรียบก็เป็นได้ ทันใดนั้นสายฟ้าสีทองจึงถอยฉากออกไป โดยที่สายฟ้าสีดำแห่งจันทรา ยูเรนัสปกป้องแรธอยู่ ผู้ใช้พลังแห่งวอยด์ค่อยๆ ลุกขึ้นมาโดยที่มียูเรนัสพยุงร่างของเขาเอาไว้ ทันใดนั้นเองประตูมิติจึงถูกเปิดออกเบื้องหลังศัตรูแห่งสตอร์มโฮล์ม พวกเขาเริ่มถอยฉากออกไปช้าๆ โดยที่โบล์ทหาได้ยินยอมให้พวกเขาหนีไป ชายหนุ่มผู้นั้นรวบรวมปราณไปไว้ที่ดาบของตน ฟาดลงสู่พื้น เมื่อการกระทำนั้นสิ้นสุดลง ณ จุดที่ชายหนุ่มผู้นั้นฟาดดาบได้เกิดเป็นพลังสายฟ้าแหวกออกเป็นทางตรง พุ่งไปเป็นพลังอันแรงกล้าสู่จุดหมายที่อยู่เบื้องหน้า แต่ยูเรนัสกลับใช้เคียวตั้งรับ มันดูดกลืนแสงสีทองของโบล์ทจนสิ้น กลายเป็นความมืดมิด เป็นพลังเข้าสู่กายาของเขา

  ศัตรูแห่งสตอร์มโฮล์มทั้งสองหายไปกับประตูมิติที่ถูกสร้างขึ้น โบล์ทมิอาจที่จะหยุดพวกเขาได้ ชายหนุ่มแสดงท่าทีไม่พอใจออกมา พอผ่านไปได้สักพักดูบาร์นของลูเซียสจึงกลับสู่สภาพเดิม มันน่าแปลกอยู่เหมือนกันที่ทำไม่ดูบาร์นจึงมีสภาพเป็นเช่นนั้น หากเพราะเกรงกลัวพลังของมารเพลิงยังพอเป็นอะไรที่สามารถเข้าใจได้เพราะไซอาลอทเป็นคนสร้างมันด้วยตัวเอง แต่ว่าเมื่อมารเพลิงจากไป มันกลับยังคงอยู่ในสภาพนั้น เพราะอะไรกัน... แต่เรื่องนั้นหากคิดไปก็ปวดหัวลูเซียสเองเปล่าๆ ในตอนนี้สิ่งที่เขาควรจะคิดมันคืออะไรที่สำคัญกว่ามาก นั่นคือชีวิตที่ถูกสังเวยไปในค่ำคืนนี้ ชีวิตของบุคคลที่สำคัญที่สุดในเมือง โครนอส... ว่าแล้วลูเซียสจึงรีบรุดตัวเข้าไปหาร่างขององค์ราชาที่อยู่ไม่ไกลจากตัวเขานัก เมื่อครั้นที่ชายหนุ่มเห็นร่างของพ่อเลี้ยงของตน องค์กษัตริย์ที่สิ้นชีพอย่างชัดเจนแล้ว เขาก็อดมิได้ที่จะร้องไห้ออกมา แม้นตัวเขาเองจะไม่อยากแสดงอาการเช่นนั้นออกมาเลยแม้แต่น้อย แต่น้ำตามันกลับไหลไปของมันเอง อารมณ์มันกลับไปตามที่มันต้องการโดยที่ใจไม่อาจจะหยุดมันได้ ชายสวมแว่นโอบกอดร่างไร้วิญญาณของโครนอส ระเบิดเสียงร่ำไห้ออกมาอย่างทุกข์ทรมาณ สิ่งที่เขาเป็น สิ่งที่เขาเจอ... มันมีแต่ทำให้เขาต้องสูญเสีย เขาเสียหญิงสาวที่ตนหลงรักไปยังไม่พอ บิดาผู้ชุบเลี้ยงเขามาแต่น้อยกลับต้องถูกสังเวยไปอีก มันดูเหมือนฟ้ากำลังเล่นตลกกับเขา ไร้ความเป็นธรรม!

“ทำไม!? ทำไมกัน? ทำไมข้าถึงมีแต่ต้องสูญเสีย!”
“ทำไมทุกคนที่อยู่ข้างกายข้าต้องมารับอะไรแบบนี้!”
“ลูเซียส!” โบล์ทกล่าวแทรกขึ้นมา “หยุดร่ำไห้เสีย..”
“นั่นหาใช่สิ่งที่ท่านโครนอสต้องการมิใช่หรือ? เจ้าคิดว่าองค์ราชาต้องการให้เรามาเสียใจ ทรมาณแบบนี้หรือ?”
“ดูใบหน้าของท่านสิ... แม้นจะสิ้นใจเขากลับยิ้มออกมา เขาฝากความหวังทุกอย่างให้กับเรา!”

  แม้นโบล์ทเองจะกล่าวเช่นนั้น แม้ว่าเขาจะบอกให้ลูเซียสหยุดร้องไห้ แต่ตัวเขาเองก็มิอาจจะหยุดน้ำตาแห่งความโศกเศร้าได้เช่นกัน เขาก้มลงหยิบดาบขององค์ราชาที่แปดเปื้อนโลหิตของเจ้าของเดิมมัน กำมันไว้แน่น มันก่อเกิดแสงแห่งธรรม เอ่อล้นออกมาทั่วทั้งดาบ

“เพราะตอนนี้เรากำความหวังของมวลมนุษย์ทุกคนไว้อยู่ในมือ... เราจะล้มเหลวไม่ได้!”
“เราจำเป็นต้องทำในสิ่งที่ท่านโครนอสฝากฝังเราไว้”
“เราจะตามหาอัลทานิส และเราจะใช้แสงธรรมแห่งโครนอส...”
“กำราบมารร้ายทั้งหมดให้สิ้นไปจากโพรโตเนี่ยน!”

------------

Cataclysm: The Endless Hellfire XXIV 3478hp2
Part I: The Devouring's Dawn, Ending
ขึ้นไปข้างบน Go down
https://www.facebook.com/BillAlfenolf
 
Cataclysm: The Endless Hellfire XXIV
ขึ้นไปข้างบน 
หน้า 1 จาก 1

Permissions in this forum:คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
Bloody Wrestling Online :: BWO : Special Event :: BWO Novel-
ไปที่: