Bloody Wrestling Online
Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.

Bloody Wrestling Online

The Number One Cyber Wrestling Online
 
บ้านPortalLatest imagesสมัครสมาชิก(Register)เข้าสู่ระบบ(Log in)

 

 Sengoku : 3

Go down 
ผู้ตั้งข้อความ
DanielsoN
Xiao Mei's Husband
Xiao Mei's Husband
DanielsoN


จำนวนข้อความ : 2272
Join date : 19/09/2010
Age : 30

Sengoku : 3 Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Sengoku : 3   Sengoku : 3 EmptyFri Aug 15, 2014 5:51 pm

กราฟความสัมพันธ์ของตอน 2
https://scontent-a-sin.xx.fbcdn.net/hphotos-xpf1/l/t31.0-8/10431190_708407519206306_4572614822217239528_o.jpg

=====

หนึ่งสัปดาห์หลังจากที่แคว้นฮิดะตกเป็นของตระกูลโอนิสึกะ ผู้นำแคว้นมิโนะ เทรุมิ คุจิคาว่าก็ได้ล้มป่วยโดยไร้สาเหตุและเสียชีวิตมาไม่กี่วันต่อมา แพทย์ได้ตรวจสอบและดูเหมือนคุจิคาว่าจะเสียชีวิตเพราะยาพิษ ไม่มีใครรู้ว่าใครเป็นคนวางยา แต่ที่แน่ๆในจังหวะที่เกิดความวุ่นวายนี้ ตระกูลเท็ตซึยะได้นำทัพมาก่อนจะยึดแคว้นมิโนะได้อย่างง่ายดาย ไม่รู้ว่าจังหวะของซูตะนั้นประจวบเหมาะพอดีหรือซูตะล่วงรู้ถึงการตายของคุจิคาว่าอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นแบบไหนก็ตามในตอนนี้แคว้นมิโนะได้ตกอยู่ในกำมือของซูตะเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แน่นอนว่าการกระทำของซูตะครั้งนี้ทำให้ผู้นำแคว้นอิเซะอย่างตระกูลโยชิคุนิโกรธเป็นฝืนเป็นไฟ เคนตะประกาศยุติการเป็นพันธมิตรกันแต่เพียงเท่านี้ ไม่ใช่แต่เพียงประกาศยุติสงครามเท่านั้น แต่เคนตะยังตัดสินใจเกณฑ์พลทหารเพื่อจะบุกแคว้นมิโนะ

=====

ในขณะเดียวกันชายหนุ่มหน้าหวานอย่างยาโนะและเจ้านายของเขาอย่างไทโซก็กำลังเดินทางไปยังอิเซะเพื่อเข้าร่วมสงครามครั้งนี้เหมือนกัน ทั้งคู่เดินไปอย่างไม่รีบร้อนอะไร เสียงฝีเท้าของทั้งคู่ย่ำลงดินดังเป็นระยะๆ ประกอบไปกับเสียงของเหล่าชาวนาที่กำลังทำนากันอย่างเหน็ดเหนื่อย ไทโซหันไปมองในขณะที่กำลังก้าวเท้าเดินก่อนจะตะโกนถามยาโนะที่เดินตามหลังมา

“จะว่าไปยาโนะ...ที่บ้านของเจ้าทำอะไรงั้นหรือ?”
“ที่บ้านของข้างั้นหรือขอรับ...บ้านข้าเป็นร้านน้ำชาน่ะขอรับ” ยาโนะตอบ
“พ่อเจ้าเป็นใครล่ะ?” ไทโซถามต่อ
“พ่อข้าเป็นพ่อค้าที่เรียนการชงชามาขอรับ” ยาโนะตอบ

(Note = ในสมัยก่อนร้านน้ำชามักจะถูกสร้างโดยพระ , ซามูไร – ไดเมียว , พ่อค้าที่เรียนการชงชามาครับ ซึ่งร้านน้ำชาถูกสร้างครั้งแรกก็คือยุคนี้แหละครับ)

“แล้วท่านไทโซล่ะขอรับ?” ยาโนะถามกลับ
“ข้าไม่อยากเล่าเท่าไหร่....เอาเป็นว่าข้าเกิดในตระกูลซามูไรก็แล้วกัน” ไทโซเลี่ยงจะตอบคำถามของยาโนะ

ยาโนะได้แต่เงียบก่อนจะเดินตามไทโซ ก่อนที่ไทโซจะหยุดเดิน ยาโนะเดินไปข้างๆ ก่อนจะเห็นกลุ่มชายฉกรรจ์ประมาณ 7 ถึง 8 คนยืนขวางทางกลุ่มทหารที่กำลังแบกเกี้ยวสีแดงอยู่ ไทโซก้าวเท้าไปข้างหน้าก่อนจะเดินตรงไปยังกลุ่มชายฉกรรจ์พวกนั้นก่อนจะเอ่ยปากถามว่า “เกิดอะไรขึ้น”

“พวกข้าเป็นคนคุมถนนเส้นนี้ ถ้าหากพวกเจ้าต้องการผ่านทาง พวกเจ้าจะต้องจ่ายเงินให้พวกข้า” หัวหน้ากลุ่มเอ่ย
“เจ้ารู้ไหมว่าถนนนี้ไม่ใช่ถนนของเจ้าเสียหน่อย นี่เป็นถนนหลวงต่างหาก” ไทโซแย้ง
“ข้าไม่สน!! ตอนนี้มันเป็นของข้าแล้ว และถ้าพวกเจ้าจะผ่าน พวกเจ้าก็ต้องจ่าย” ชายคนเดิมยืนกราน
“เฮ้อ...ข้าเองก็ไม่อยากทำเช่นนี้หรอกนะ” ไทโซถอนหายใจก่อนจะเตรียมดึงดาบ
“ช้าก่อนนายท่าน” ชายหนุ่มหน้าหวานห้ามไว้

ยาโนะก้าวไปข้างหน้าก่อนจะหยิบถุงสีเหลืองและยื่นไปให้กับเหล่าบุรุษที่ปิดทางอยู่ พวกเขารับไว้ก่อนจะเปิดถุงออกมาก่อนจะทำหน้าตกใจ เช่นเดียวกันกับไทโซที่ตกใจกับการกระทำของยาโนะ

“เงินทั้งหมดนี้ถือเป็นค่าผ่านทางให้กับพวกข้าและกลุ่มทหารพวกนั้นก็แล้วกัน” ยาโนะเอ่ย

อันธพาลเหล่านั้นมองหน้ากันก่อนจะเปิดทางให้เดินผ่านได้ เมื่อทุกคนเห็นเส้นทางเปิดก็เดินผ่านไป เมื่อไทโซกับยาโนะเดินไปได้ซักพักไทโซก็หยุดเดินอีกครั้งก่อนจะหันมาหายาโนะ

“เจ้าให้เงินพวกมันทำไม? นั่นมันเงินที่เจ้าได้จากท่านเรียวชินไม่ใช่หรือ?” ไทโซถามด้วยสีหน้าที่หงุดหงิด
“ข้าไม่อยากให้เกิดการนองเลือดขึ้น ข้าคิดว่าที่พวกเขาต้องทำเช่นนี้เพราะพวกเขาก็มีเหตุผลของพวกเขา” ยาโนะตอบ
“อีกอย่างเงินเยอะๆแบบนั้น ข้าเองก็ไม่รู้จะเอาไปทำอะไรเช่นกัน” ยาโนะเสริม
“แต่นั่นก็ยังเป็นเงิน....เจ้าเป็นลูกพ่อค้า เจ้าน่าจะรู้ดีนี่” ไทโซต่อว่า
“ข้าต้องขออภัยด้วย” ยาโนะคุกเข่าขอโทษไทโซ

ในขณะที่ทั้งคู่กำลังเถียงกันอยู่นั้น ทั้งคู่ก็เห็นเกี้ยวสีแดงถูกวางลงกับพื้น ก่อนที่จะมีสตรีผมสีน้ำตาลยาวเดินออกมาจากเกี้ยสีแดง ใบหน้าของเธอนั้นงดงามมาก จะบอกว่างามกว่ายาโนะก็ยังว่าได้ (?) เธอสวมชุดกิโมโนสีชมพู ไทโซขุกเข่าลงกับพื้นเพื่อแสดงความเคารพของกุลสตรีท่านนี้ เธอยิ้มให้กับยาโนะที่คุกเข่าอยู่ที่พื้น ก่อนจะบอกให้ทั้งสองลุกขึ้นมา ยาโนะกับไทโซลุกขึ้นมาช้าๆ

“ดิชั้นต้องขอขอบคุณพวกท่านจริงๆ ที่ไม่ทำให้เกิดการนองเลือด” สตรีคนนี้โค้งให้กับไทโซและยาโนะ
“โดยเฉพาะท่านผู้หญิง ที่ยอมสละสินทรัพย์ของตนเองเพื่อส่วนรวม ช่างเป็นคนที่น่ายกย่องจริงๆ” เธอชื่นชมยาโนะ
“สินทรัพย์พวกนี้เป็นสิ่งไม่สำคัญหากเทียบกับชิวตพวกนี้แล้ว...” ยาโนะตอบกลับ
“เอ่อ...แต่กระผมเป็นผู้ชาย” ยาโนะแย้งคำพูดขององค์หญิง

องค์หญิงคนนี้ได้ยินก็สะดุ้งด้วยความตกใจ ก่อนจะโค้งขอโทษยาโนะที่เธอเรียกว่า “ท่านหญิง”

“จะว่าไปดิชั้นยังไม่ได้แนะนำตัวเลยนี่คะ...ดิชั้นชื่อ ฮานะค่ะ” องค์หญิงฮานะแนะนำตัว
“ข้าฮิมูระ ไทโซ ส่วนนี่คนรับใช้ข้า ชิซึกะ ยาโนะ” ไทโซแนะนำตัว
“ส่วนนี่ก็องค์รักษ์ของข้าคาวาจิ เท็ตซึกะ” องค์หญิงฮานะแนะนำองค์รักษ์ผมขาวของตนเองที่ยืนอยู่หน้ากองทหาร

เท็ตซึกะเป็นซามูไรตัวเล็กที่มีผมสีขาว บนหลังของเขามีดาบเล่มใหญ่กว่าขนาดตัวของเขาอยู่ ดวงตาของเท็ตซึกะนั้นจ้องมาที่ไทโซโดยไม่กระพริบ ยาโนะหันมามองหน้าของไทโซที่จ้องหน้าของเท็ตซึกะเช่นกัน หากทว่าทั้งคู่ไม่ได้พูดอะไรทั้งนั้น ในมือของไทโซนั้นเตรียมชักดาบ เช่นเดียวกันกับเท็ตซึกะที่เตรียมจะดึงดาบของตัวเองเช่นกัน แต่ดูเหมือนฮานะจะไม่ได้สังเกตุท่าทีของทั้งสอง

“แล้วพวกท่านจะไปงั้นหรือ?” องค์หญิงเอ่ยปากถาม
“พวกข้าจะไปอิเซะ พวกข้าจะไปร่วมรบกับท่านเคนตะ” ไทโซตอบโดยที่มือของเขายังกำด้ามดาบอยู่
“ช่างบังเอิญเสียจริง พวกดิชั้นก็กำลังมุ่งหน้าไปยังอิเซะเช่นกัน” ฮานะตอบพร้อมรอยยิ้ม
“ท่านจะไปอิเซะทำไมหรือ” ยาโนะเอ่ยปากถามด้วยความสงสัย
“ดิชั้นมีเรื่องจะต้องคุยกับท่านเคนตะน่ะ...ถ้าไม่รังเกียจทำไมเราไม่เดินทางไปด้วยกันล่ะ” ฮานะเสนอ
“ข้าไม่มีปัญหาหรอก แต่เจ้าบอกให้องค์รักษ์ของเจ้าปล่อยมือออกจากดาบก่อนจะดีกว่า” ไทโซตอบกลับ

ฮานะหันไปก่อนจะพยักหน้าให้กับเท็ตซึกะ เท็ตซึกะเห็นคำสั่งของนายหญิงของตัวเองก็ปล่อยมือออกจากดาบของตน เมื่อไทโซเห็นดังนั้นเขาก็ปล่อยมือออกจากดาบของตนเองเช่นกัน ก่อนจะเริ่มออกเดินทางไปอิเซะด้วยกัน โดยเป็นไทโซและยาโนะที่เดินนำหน้าขบวนเกี้ยวที่เดินตามหลังมาติดๆ และในที่สุดพวกเขาก็มาถึงอิเซะก่อนตะวันตกดิน...หากทว่าเมื่อพวกเขามาถึงนั้นสิ่งพวกที่พวกเขาต้องพบคือประตูที่ปิดสนิทและมีทหารสองสามนายยืนบังประตูไว้

“พวกเรามีเรื่องจะคุยกับท่านเคนตะ พวกเจ้าช่วยเปิดประตูให้ได้ไหม?” ไทโซเอ่ยปากถาม
“เราต้องขออภัยด้วย แต่ท่านเคนตะสั่งพวกเรามาว่าห้ามเปิดประตูให้ใครทั้งนั้น” ทหารที่เฝ้าประตูตอบ
“ถ้างั้นช่วยบอกท่านเคนตะด้วยว่า องค์หญิงฮานะอยากจะขอพบด้วย” ฮานะเอ่ยขึ้นมาพร้อมกับก้าวออกมาจากเกี้ยว

ทหารสองคนมองหน้ากันก่อนที่คนหนึ่งจะวิ่งไปบอกเคนตะที่สั่งพวกเขา ซักพักทหารคนเดิมก็วิ่งกลับมาพร้อมกับสั่งให้เปิดประตู ฮานะกลับเข้าเกี้ยวก่อนจะเข้าไปยังตัวปราสาทแต่ในขณะที่ไทโซและยาโนะกำลังจะก้าวเท้าเข้าไปในตัวปราสาท ประตูก็ถูกปิดลง ก่อนที่ทหารจะพูดกับชายหนุ่มทั้งสองว่า

“ท่านเคนตะ...อนุญาตแค่องค์หญิงฮานะเท่านั้น พวกท่านกลับมาใหม่พรุ่งนี้เถอะ”

ชายหนุ่มทั้งสองได้แต่มองหน้ากันดูเหมือนวันนี้จะไม่เป็นใจให้พวกเขาเท่าไหร่

=====

ยามวิกาลมาถึง ชายหนุ่มทั้งสองเลือกจะพักในโรงแรมถูกๆ เนื่องด้วยว่าเงินที่ได้มาจากสงครามที่ฮิดะมีมากพอที่จะทำให้ไทโซสามารถเช่าได้สองห้อง ท้องฟ้าคืนนี้เต็มไปด้วยดวงดาว ดวงดาวมากมายราวกับเป็นมหานทีแห่งดวงดา ดวงจันทร์นั้นก็เต็มดวงดูสวยงาม ไทโซนั่งกอดอกในชุดยูกาตะโทรมๆของเขา ก่อนที่เขาจะหยิบขวดสาเกและยกกรอกเข้าปากของเขา ไทโซวางขวดสาเกไว้ข้างๆตัวก่อนจะชื่นชมความงดงามบนผืนนภา แต่ในขณะที่เขากำลังนั่งมองอยู่นั้น เขาก็ได้ยินเสียงฝีเท้าใครซักคนเดินตรงมาหาเขา ไทโซคว้าดาบที่อยู่ใกล้ๆตัวเตรียมพร้อมจะรับมือ และเมื่อแสงส่องมายังเงานั้น ก็เป็นภาพของชายหนุ่มร่างเล็กปรากฏตัวออกมา เส้นผมของเขาขาวโพลน ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความโกรธแค้น

“เจ้ามาทำไม? ฆ่าข้างั้นหรือ?” ไทโซเอ่ยปากถาม
“เปล่า ข้าไม่ได้มาฆ่าเจ้า ข้ามาส่งจดหมายขององค์หญิงฮานะให้กับยาโนะต่างหาก” เท็ตซึกะตอบ
“งั้นหรือ...เรื่องอะไรล่ะ?” ไทโซเอ่ยปากถามอีกครั้ง
“ข้าไม่จำเป็นต้องตอบเจ้า ทำไมเจ้าไม่ไปถามยาโนะเองล่ะ” เท็ตซึกะตอบก่อนจะหันหลังกลับไป
“ตอนนี้ข้าเป็นคนขององค์หญิงฮานะ ดังนั้นข้าจะลืมเรื่องที่เจ้าทำกับตระกูลข้าไว้”
“หากทว่า...นั้นก็ไม่ได้แปลว่าข้าจะยกโทษกับสิ่งที่เจ้าทำ”

สิ้นเสียงเท็ตซึกะก็เดินหายลับไปในความมืด ส่วนไทโซก็ได้แต่นั่งเงียบๆและแหงนหน้ามองท้องฟ้าอีกครั้ง

ในขณะเดียวกันในห้องของยาโนะ ยาโนะนั่งอ่านจดหมายคนเดียวเงียบๆ ใช่ มันเป็นจดหมายขององค์หญิงฮานะที่เท็ตซึกะส่งมาให้นั่นแหละ

สวัสดี ท่านยาโนะ นี่ดิชั้นเองฮานะ

ดิชั้นเป็นน้องสาวของเท็ตซึยะ ซูตะ ที่ดิชั้นเดินทางมาอิเซะเพื่อพบท่านเคนตะนั้นเป็นเรื่องเกี่ยวกับสงครามที่กำลังจะเกิดขึ้น ดิชั้นไม่อยากให้ผู้คนต้องตายในสงคราม ไม่ว่าจะเป็นคนของตระกูลเท็ตซึยะหรือตระกูลโยชิคุนิ ดิชั้นก็ไม่อยากให้พวกเขาต้องตายทั้งนั้น ดิชั้นพยายามจะอ้อนวอนขอให้ท่านเคนตะพิจารณาเกี่ยวกับการทำสงครามครั้งนี้ หากทว่าท่านเคนตะปฏิเสธดิชั้น
และหลังจากที่ข้าเห็นสิ่งที่ท่านทำในวันนี้แล้ว ทำให้ข้าคิดว่าท่านน่าจะไม่ชอบการฆ่าฟัน ดังนั้นข้าจึงอยากขอร้องให้ท่านช่วยทำให้สงครามนี้มีคนตายน้อยที่สุด หรือ ไม่เกิดขึ้นเลย ถ้าหากท่านทำได้ ท่านไม่จำเป็นต้องทำตามที่ข้าขอร้องก็ได้ ถ้าหากมันมากเกินไป เพราะยังไงการตัดสินใจทุกอย่างมันก็ขึ้นอยู่กับท่าน

ลงชื่อ
ฮานะ”


ยาโนะอ่านจดหมายแล้วก็พับและวางไว้บนโต๊ะก่อนจะทิ้งตัวลงบนฟูก ยาโนะหลับตาก่อนจะบ่มพึมพัมคนเดียว

=====
ก่อนหน้านี้

เคนตะนั่งอยู่บนพื้นโดยกำลังนั่งขัดธนูของเขา ในขณะเดียวกันองค์หญิงฮานะนั่งอยู่ข้างหน้าเขา

“เสียใจด้วยนะองค์หญิง แต่ข้าไม่สามารถทำได้” เคนตะตอบโดยไม่ได้มองหน้าขององค์หญิง
“ทำไมละค่ะ ท่านเคนตะ?” ฮานะเอ่ยปากถาม

เคนตะลุกขึ้นมาก่อนจะหยิบลูกธนูและง้างธนูและยิงลูกธนูออกไป ลูกธนูนั้นลอยตัดผ่านตรงกลางธงของตระกูลเท็ตซึยะ ก่อนที่ลูกธนูจะไปปักเข้ากับกำแพงปราสาท

“รู้ไหมองค์หญิง สิ่งที่ข้าเกลียดที่สุดบนโลกนี้คืออะไร?” เคนตะหันมาถาม

ฮานะเงียบ

“การหักหลังยังไงล่ะ...อย่างที่พี่ชายเจ้าทำ” เคนตะยิงธนูออกไปอีกครั้ง คราวนี้ก็ทะลุธงสัญลักษณ์เช่นเคย
“ข้าไม่มีปล่อยให้คนทรยศมีชีวิตอยู่บนแผ่นดินนี้ได้หรอก” เคนตะพูดก่อนจะเก็บธนูของตนเอง
“ถ้างั้นมีอะไรที่จะทำให้ท่านเปลี่ยนใจได้ไหม? จะเป็นร่างกายของดิชั้น หรือจะเป็นเงินทองดิชั้นก็ยอม” ฮานะก้มกราบ
“มีซิ...มีอยู่อย่างที่จะทำให้ข้าเปลี่ยนใจได้”

”หัวของซูตะไง”

ขึ้นไปข้างบน Go down
 
Sengoku : 3
ขึ้นไปข้างบน 
หน้า 1 จาก 1
 Similar topics
-
» Sengoku : 5
» Sengoku : 30
» Sengoku : 6
» Sengoku : 31
» Sengoku : 7

Permissions in this forum:คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
Bloody Wrestling Online :: BWO : Special Event :: BWO Novel-
ไปที่: