Bloody Wrestling Online
Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.

Bloody Wrestling Online

The Number One Cyber Wrestling Online
 
บ้านPortalLatest imagesสมัครสมาชิก(Register)เข้าสู่ระบบ(Log in)

 

 Sengoku : 37

Go down 
ผู้ตั้งข้อความ
DanielsoN
Xiao Mei's Husband
Xiao Mei's Husband
DanielsoN


จำนวนข้อความ : 2272
Join date : 19/09/2010
Age : 30

Sengoku : 37 Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Sengoku : 37   Sengoku : 37 EmptySun Nov 16, 2014 7:03 pm

ณ ห้องใต้ดินของปราสาทตระกูลฮิมูระ มันมีห้องที่เต็มไปด้วยสิ่งประดิษฐ์มากมาย กองกันเป็นภูเขาเลากา ไม่ว่าจะกวาดสายตาไปทางไหนก็จะเจอแต่สิ่งของที่คาเมอิสร้างไว้ ไม่ว่าจะเป็นอันที่สร้างเสร็จสิ้น หรือ บางอันที่ถูกทิ้งร้างไว้ เพราะว่าผู้ประดิษฐ์นั้นหมดไอเดียกับมัน ทั้งห้องนั้นมีเพียงเครื่องใช้ไม่กี่อย่าง อย่างแรกก็คือฟูกนอนของคาเมอิที่วางไว้บนพื้น และอย่างที่สองก็คือโต๊ะที่มีเบาะสีเขียวสองอันวางไว้อยู่ใกล้ๆกับโต๊ะ และในตอนนี้เบาะหนึ่งอันก็ถูกจับจองโดยสหายของคาเมอิที่ชื่อว่ายาโนะ

ไม่นานนักชายผมสีเขียวที่ชื่อว่าคาเมอิก็ปรากฏตัวออกมา ในมือทั้งสองของเขาถือถ้วยน้ำสีแดง ควันนั้นลอยออกมาจากถ้วยทั้งสอง คาเมอินั่งลงบนเบาะตรงข้ามกับยาโนะก่อนจะวางถ้วยทั้งสองลงบนโต๊ะ ยาโนะชะโงกหน้าเข้าไปมองถ้วยที่มีของเหลวสีน้ำตาลอยู่ภายใน มันเป็นอะไรที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน ยาโนะแหงนหน้ามองด้วยสีหน้าสงสัยว่ามันคืออะไร คาเมอิที่ถูกตั้งคำถามด้วยสีหน้าก็แสดงสีหน้ากลับไปว่า “ลองชิมดูซิ” ชายหน้าหวานก้มมองเครื่องดื่มในถ้วยตัวอีกครั้งก่อนจะยกดื่ม สัมผัสแรกที่เขารู้สึกก็คือความขม มันทำให้เขารีบวางถ้วยนี้ลงไปก่อนจะกุมปากของตัวเองด้วยสีหน้าที่แสดงออกมาชัดเจนว่าเขาไม่ชอบเครื่องดื่มชนิดนี้

“กาแฟน่ะ...ข้าได้มาจากตอนที่ข้าไปซื้อกับโจเซฟ” คาเมอิบอกให้ยาโนะฟังว่ามันคืออะไร
“รสชาติมันแย่มากๆ....เจ้าดื่มทำไม?” ยาโนะตั้งคำถาม
“ข้าว่ารสชาติดีนะ...แถมมันทำให้ข้าตาสว่างด้วย” คาเมอิพูดพลางจิบกาแฟของตน

เมื่อเขาดื่มไปได้ซักพักเขาก็วางลง ก่อนที่เขาจะเปลี่ยนสีหน้าของเขาเป็นสีหน้าที่เปี่ยมไปด้วยความจริงจัง

“แล้วที่เจ้ามาหาข้าเนี่ย เจ้ามีเรื่องอะไร? ข้าเชื่อว่าเจ้าคงไม่ได้มาหาข้าเพราะอยากจะเสวนากับข้าอย่างเดียวหรอก” คาเมอิถาม
“เจ้านี้รู้ใจข้าดีจริงๆ” ยาโนะพูดพลางหัวเราะ

ว่าแล้วยาโนะก็เริ่มเล่าเรื่องราวทั้งหมดในแคว้นฮิดะให้ฟัง โดยเฉพาะ “ยักษ์แดง” ที่มีกำลังมหาศาลและทำลายทุกสิ่งอย่าง เมื่อยาโนะเล่าจบ คาเมอิที่นั่งอยู่ตรงข้ามก็พยักหน้า ยาโนะหยิบกระดาษแผ่นหนึ่งขึ้นมาก่อนจะวางไว้บนโต๊ะ คาเมอิคว้าขึ้นมาดู มันเป็นกระดาษที่มีรูปวาดของ “ยักษ์แดง” ที่ไทโซเผชิญหน้าในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา โดยกระดาษแผ่นนี้ผู้วาดก็ไม่ใช่ใครอื่นแต่เป็นไทโซเอง แม้มันจะไม่ได้เหมือนกับที่เขาเห็นเป๊ะๆ แต่มันก็ใกล้เคียงพอกับของจริง นอกจากนี้ในกระดาษแผ่นนี้ยังเขียนอีกว่ายักษ์สีแดงนี่โดนอะไรไปบ้าง คาเมอิวางกระดาษลงก่อนจะลุกขึ้นมา เขาเดินตรงไปยังกองสิ่งประดิษฐ์กองหนึ่งก่อนจะหาอะไรบางอย่าง ยาโนะก็ได้แต่มองเงียบๆ ซักพักหนึ่ง คาเมอิก็เหมือนหยิบอะไรขึ้นมา มันเป็นกระดาษเหมือนกัน เขาเดินมาก่อนจะวางไว้บนโต๊ะ ยาโนะหยิบขึ้นมาดู มันเป็นกระดาษอีกแผ่น ดูๆแล้วมันก็มีอายุพอควร บนกระดาษนั้นก็เป็นรูปวาดเช่นกัน ดูดีๆมันก็เป็นรูปคล้ายๆกับรูปที่ไทโซวาดก่อนหน้านี้ ยาโนะได้แต่มองก่อนจะตั้งคำถามว่า คาเมอิมีรูปได้อย่างไร

“มันเป็นรูปที่เพื่อนของข้าวาดไว้ตั้งแต่สมัยที่ข้ายังเรียนอยู่น่ะ” คาเมอิอธิบายให้ยาโนะฟัง
“เรียน?” ยาโนะทวนคำพูดของคาเมอิ
“ตอนที่ข้าเรียนวิชาการประดิษฐ์จากพ่อข้า ข้าไม่ได้เรียนคนเดียว แต่ข้ามีเพื่อนอีกคนเรียนกับข้าด้วย” คาเมอิเล่าให้ฟัง

ยาโนะได้ยินคำว่าเพื่อนแล้วก็ทำหน้าสนใจ

“นางชื่อมิกิ เป็นเพื่อนสมัยเด็กของข้าและนางก็สนใจในสิ่งประดิษฐ์เหมือนกัน” คาเมอิพูดต่อ
“และตอนที่เธอเรียนกับข้า เธอก็วาดสิ่งนี้ขึ้นมา” คาเมอิพูดพลางชี้กระดาษแผ่นที่ยาโนะถืออยู่

ชายหน้าหวานก้มมองกระดาษของตัวเอง ก่อนจะหยิบกระดาษแผ่นที่ไทโซวาดขึ้นมาเทียบ ไม่ว่าจะดูยังไงๆทั้งสองภาพก็มีความใกล้เคียงกันมาก

“กล่าวก็คือเจ้ากำลังบอกว่าเพื่อนของเจ้าเป็นคนสร้างเจ้ายักษ์สีแดงนี่ขึ้นมาหรือ?” ยาโนะตั้งคำถามกับคาเมอิ
“อาจจะ...ข้าเองก็ไม่รู้” คาเมอิเองก็ให้คำตอบไม่ได้
“แล้วเจ้าจะทำอะไรต่อล่ะ? ให้ข้าสร้างสิ่งประดิษฐ์อะไรไว้รึเปล่า” คาเมอิตั้งคำถามกับยาโนะ
“เจ้าสร้างไว้ก่อนแล้วกัน เผื่อเจ้าอาจจะได้ใช้” ยาโนะตอบคำถามของชายผมเขียว

พูดจบยาโนะก็ลุกขึ้นมาก่อนจะกล่าวบอกลาเพื่อนของเขา ก่อนจะลุกขึ้นมาโดยไม่ได้ดื่มกาแฟในแก้วให้หมดด้วยซ้ำ ยาโนะเดินขึ้นบันไดมาก่อนจะเลื่อนประตูกระดาษออกมา เขาเดินออกจากปราสาทของไทโซ และกลับไปยังตำหนักของตนเอง ยาโนะเปิดประตูกระดาษของเขาและก้าวเท้าเข้าไป เขาก็เห็นฮานะที่นั่งอยู่กับโคทาโร่และมากาเร็ต ในมือของฮานะนั้นมีคัมภีร์อยู่ด้วย ดูเหมือนจะให้ฮานะมาอ่านหนังสือให้ฟังเช่นเคย ในช่วงที่ฮานะย้ายมาอยู่ด้วยนั้น โคทาโร่และมากาเร็ตผู้เป็นลูกของมาซามิและไทโซมักจะมาเล่นอยู่ในตำหนักของยาโนะบ่อยๆเพราะว่ามาซามิเองนั้นก็ต้องช่วยไทโซบริหารบ้านเมืองจึงไม่ค่อยมีเวลาให้ลูกของตัวเองเท่าไหร่ ดังนั้นด้วยความที่ฮานะว่างจึงทำให้มาซามิฝากให้ฮานะดูแล ซึ่งดูเหมือนเธอจะยินดีกับงานนี้ด้วย ยาโนะนั่งลงใกล้ๆกับฮานะก่อนจะเอ่ยปากถามฮานะด้วยน้ำเสียงสงสัย

“อ่านหนังสือให้โคทาโร่กับมากาเร็ตหรือ?”
“ค่ะ...ดิชั้นอ่านนิทานที่ท่านมาซามิเป็นคนแปลให้น่ะค่ะ” ฮานะตอบด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล
“โฮ่...ถ้างั้นจะเป็นอะไรไหมถ้าผมฟังด้วย?” ยาโนะแสดงสีหน้าสนใจ
“ได้ซิค่ะ” เธอยิ้มตอบ

เธอเริ่มอ่านให้ฟัง สิ่งที่เธอเล่านั้นสามารถสะกดผู้ฟังทั้งสามได้ มันเป็นเรื่องราวของอัศวินคนหนึ่งที่ไปช่วยเจ้าหญิงที่ถูกมังกรลักพาตัวไป อาจจะเพราะน้ำเสียงที่ไพเราะเสนาะหูของฮานะหรืออาจจะเพราะภาษาอันสละสลวยที่มาซามิเป็นคนแปลขึ้นมา เมื่อเล่าจบนั้นทั้งสามก็ได้แต่นั่งอึ้ง ก่อนที่เด็กชายนามโคทาโร่จะลุกขึ้นมากับพื้นด้วยสายตาอันมุ่งมั่น พร้อมกับส่งเสียงที่เต็มไปด้วยพลังขึ้นมา

“ถ้างั้นข้าจะเป็นอัศวินเอง!! ส่วนมากาเร็ตเจ้าเป็นมังกรก็แล้วกัน” สิ้นเสียงของเขาก็วิ่งออกจากตำหนักของยาโนะไป
“เดี๋ยวก่อนซิท่านพี่ แบบนี้ก็ขี้โกงนี่นา” น้องสาวนามมากาเร็ตพูดขึ้นก่อนจะวิ่งตามพี่ชายของตัวเองออกไป

ฮานะเห็นก็ได้แต่นั่งยิ้มและหัวเราะเบาๆ ยาโนะเห็นฮานะยิ้มนั้นก็ทำให้เขาอดยิ้มไปด้วยไม่ได้ ทั้งสองนั้นนั่งดูบุตรและธิดาแห่งตระกูลฮิมูระเถียงกัน มันเป็นภาพที่ตลกไม่น้อย ในขณะที่ยาโนะและฮานะกำลังนั่งดูเด็กทั้งสองเถียงกันอยู่นั้น ฮานะที่นั่งอยู่ข้างๆยาโนะก็เปล่งเสียงออกมา

“ตั้งแต่เล็กๆ ดิชั้นเคยมีความฝันว่าอยากจะเป็นครู”
“ดิชั้นอยากจะให้ความรู้เด็กๆ เพราะดิชั้นเชื่อนะคะ ว่าถ้าหากทุกคนใช้เหตุผลเข้าหากัน สงครามก็จะไม่เกิด”
“และถ้าหากสงครามจะไม่เกิด ผู้คนก็ไม่ต้องล้มตาย” ฮานะพูดด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความฝัน

หากทว่าเธอเงียบลงไปพักหนึ่งก่อนที่จะก้มหน้าพูดต่อ

“แต่ดูเหมือนดิชั้นจะโชคร้าย ที่เกิดมาในตระกูลเท็ตซึยะ”
“พี่ของเจ้าไม่อนุญาตหรือ?” ยาโนะถามด้วยความสงสัย
“ค่ะ....ท่านพี่ซูตะไม่อนุญาต แต่ท่านพี่ไม่เคยบอกว่าทำไม” ฮานะตอบคำถาม

ยาโนะเองก็คาดเดาไม่ได้ว่าทำไม ซูตะนั้นไม่ยอมให้ฮานะสอนหนังสือเด็กๆ แต่ถ้าหากให้ยาโนะเดาก็คงเป็นเพราะความรู้สามารถทำให้ผู้คนแข็งกร้าวได้ กล่าวก็คือเมื่อไหร่ที่ผู้คนมีความรู้ พวกเขาก็เริ่มคิดอะไรหลายๆอย่างเอง และเริ่มจะไม่เห็นด้วยกับการปกครองของแคว้น ซึ่งนั่นก็นำพามาถึงความไม่มั่นคงของตระกูล และพร้อมจะพังทลายได้ทุกเมื่อ ไม่ว่าจากน้ำมือของประชาชนที่ก่อปฏิวัติขึ้นมาหรืออาจจะมาจากน้ำมือของศัตรูที่เห็นถึงความอ่อนแอ แต่ถึงกระนั้นมันจะเป็นเหตุผลนี้จริงๆรึเปล่า ตรงนี้ยาโนะเองก็ตอบไม่ได้

“ถ้างั้นหลังจากที่สงครามนี้จบลง ทำไมเจ้าไม่ลองตั้งโรงเรียนดูล่ะ?” ยาโนะตั้งคำถามกับฮานะ
“เอ๊ะ...จะดีหรอคะ ดิชั้นเองก็เป็นแค่ผู้อาศัย ท่านไม่ต้องทำตามดิชั้นก็ได้” ฮานะพูดด้วยน้ำเสียงเกรงใจ
“ไม่เป็นไรหรอก ผมเองก็ไม่อยากให้สงครามเกิดขึ้นเหมือนกัน” ชายหน้าหวานตอบด้วยรอยยิ้ม
“ถ้างั้นผมขอตัวก่อนล่ะ”
“ดิชั้นว่าการเกิดในตระกูลเท็ตซึยะก็ไม่ใช่เรื่องแย่ไปทั้งหมด...เพราะอย่างน้อย ๆดิชั้นก็ได้พบกับท่าน” ฮานะพูดในขณะที่ยาโนะลุกขึ้นมา
“ผมเองก็เช่นกัน” ยาโนะพูดพร้อมส่งยิ้มให้

พูดจบยาโนะก็ลุกขึ้นก่อนจะเดินตรงไปที่ประตูกระดาษ เขาไม่จำเป็นต้องเลื่อนประตูกระดาษเลยด้วยซ้ำ เพราะเด็กทั้งสองที่ยังคงเถียงกันเรื่องอัศวิน เปิดประตูทิ้งไว้ ยาโนะก้าวออกไป ก่อนจะเดินผ่านมากาเร็ตและโคทาโร่ เขาเดินไปยังโรงฝึกที่อยู่ไม่ไกลจากตำหนักของเขาเสียเท่าไหร่ จริงๆต้องบอกว่าทุกๆครั้งที่ไม่มีสงคราม ยาโนะก็มักจะเดินไปทั่วๆปราสาทของเขา หรือบางวันเขาอาจจะออกไปเดินเล่นในแคว้นทังโกะเพื่อพูดคุยกับผู้คน ยาโนะรักในการที่จะพูดกับทุกๆคนๆ เพราะเขาคิดว่าทุกครั้งที่บทสนทนาเกิดขึ้น เขาเชื่อว่าเขาต้องเรียนรู้อะไรขึ้นมาบ้าง เมื่อยาโนะก้าวเท้าเข้าไปในโรงฝึกเขาก็เห็นเมโกะและฮารุกะที่ฟาดฟันกันด้วยดาบไม้ ทั้งคู่ฝีมือนั้นไม่ได้ดูด้อยไปกว่ากันเลย ไม่ว่าฝ่ายไหนจะแกว่งดาบไปทางใด พวกเขาก็อ่านออกว่าดาบจะมาทางไหน แต่แล้วทั้งคู่ก็หยุดลงเมื่อเห็นยาโนะเดินเข้ามา ฮารุกะก้มโค้งให้กับยาโนะผู้เป็นนายของตัวเอง

“เจ้ามาทำอะไรที่นี่หรือยาโนะ?” เมโกะเอ่ยปากถาม
“แค่เดินเล่นน่ะ ปกติข้าก็ชื่นชอบการเดินเล่นในวันว่างอยู่แล้ว” ยาโนะตอบคำถามของสตรีผมขาว
“ว่าแต่ข้ามาขัดจังหวะอะไรรึเปล่า? ข้าเห็นพวกเจ้ากำลังประลองกันอยู่” ยาโนะถามสตรีทั้งสอง
“เปล่าเลย ถ้าหากท่านไม่มา ข้าก็คงแพ้ไปแล้ว” ฮารุกะพูดด้วยความถ่อมตน
“เจ้าก็ถ่มตนไป ข้าว่าถ้าหากการประลองดำเนินไปนานกว่านี้ ข้าต่างหากที่จะเป็นฝ่ายแพ้” เมโกะเองก็ถ่อมตัวเช่นกัน
“เอาเถิด...ไว้โอกาสหน้าก็แล้วกัน” ฮารุกะไม่ได้ต่อร้องต่อเถียงอะไร

พูดจบฮารุกะก็เดินออกจากโรงฝึกไป โดยทิ้งให้ยาโนะและเมโกะยืนมองอยู่ เมโกะวางดาบลงจากพื้นก่อนจะนั่งลงไปด้วยความเหนื่อยล้า ดูเหมือนการประลองของทั้งคู่จะใช้เวลาพอสมควร ยาโนะลงไปนั่งเช่นกัน โดยยาโนะนั่งตรงข้ามกับเธอ ยาโนะตะโกนเรียกให้บริวารนำชุดชงชามา เมื่อชุดชงชามาถึงยาโนะก็เริ่มชงชาให้เมโกะดื่ม เธอรับชาของยาโนะไว้ก่อนจะดื่ม สีหน้าของเมโกะที่ได้ดื่มชาของยาโนะแล้ว ก็แสดงให้เห็นได้ชัดว่าเมโกะชื่นชอบน้ำชาที่ยาโนะเป็นคนชง เมื่อเมโกะจิบชาจนเสร็จแล้วเธอก็วางถ้วยลงบนพื้น ยาโนะที่นั่งอยู่ตรงข้ามก็เอ่ยปากถามขึ้นมา

“แล้วหลังจากนี้ เจ้าจะทำยังไงต่อ...” ยาโนะถามถึงอนาคตของเธอ

เมโกะนั่งคิดซักพักก่อนจะตอบ

“ข้าคงอาจจะอยู่กับท่านต่อนั่นแหละ เพราะยังไงข้าก็คงไม่มีที่ไป”
“อีกอย่างเจ้าพยายามช่วยข้าตั้งมากมาย ข้าก็อยากจะตอบแทนอะไรเจ้าบ้าง”
“ดังนั้นจากนี้ไปให้ข้าเป็นกำลังให้เจ้าด้วย” เมโกะพูดด้วยรอยยิ้ม
“ถ้างั้นจากนี้ไปข้าก็ขอรบกวนด้วย” ยาโนะก้มโค้งให้กับเมโกะเป็นการแสดงความขอบคุณ

=====

ในยามวิกาลของวันเดียวกัน ยาโนะเดินไปยังสวนของตนเอง แม้ว่าตอนนี้จะมืดแล้วแต่ก็ไม่ได้มืดสนิท เพราะว่ามีแสงไฟจากตะเกียงอยู่รอบๆสวน ยาโนะนั่งลงไปหน้าหลุมศพของ “แมรี่” แม้นี่จะผ่านไปห้าปีแล้ว แต่น้ำเสียงและใบหน้าของสตรีผมสีทองไม่เคยจางหายไปจากความทรงจำของยาโนะเลยแม้แต่วินาทีเดียว ในมือของเขาถืออุปกรณ์ชงชามาด้วย ยาโนะเริ่มชงชาก่อนจะเริ่มเล่าเหตุการณ์ในสงครามแคว้นฮิดะ รวมถึงเหตุการณ์ในวันนี้ เมื่อเขาชงชาของเขาเสร็จ เขาก็ยกจิบและพูดกับ “แมรี่”

“จริงๆในสงครามแคว้นฮิดะ ข้าเจอจินด้วย....”
“ถ้าหากไม่ใช่เพราะความโง่เขลาของมัน เจ้าก็คงอยู่ข้างๆข้าในตอนนี้”
“แมรี่..ข้าขอสาบานกับเจ้า ว่าจินจะต้องชดใช้ ในสิ่งที่มันทำกับข้า
ขึ้นไปข้างบน Go down
 
Sengoku : 37
ขึ้นไปข้างบน 
หน้า 1 จาก 1
 Similar topics
-
» Sengoku : 13
» Sengoku : 25
» Sengoku : 42
» Sengoku : 14
» Sengoku : 26

Permissions in this forum:คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
Bloody Wrestling Online :: BWO : Special Event :: BWO Novel-
ไปที่: