Cataclysm คือนิยายที่ผมเคยทำไปเมื่อต้นปีก่อนแต่เป็นอันต้องยกเลิกไปเพราะว่าไม่มีเวลาในการทำมากนัก (ตอนนั้นขี้เกียจ) ในช่วงนี้ตัวเองสามารถควบคุมเวลาในการทำอะไรต่างๆ ได้มากขึ้นจึงมีประสงค์ที่จะกลับมาทำนิยายเรื่องนี้อีกครั้ง เนื้อเรื่องจะคล้ายคลึงกันกับเมื่อตอนที่ผมเขียนครั้งนั้นแต่อาจมีการปรับเปลี่ยนอะไรหลายอย่างทั้งทางปัจจัยตัวละครที่มาสมัครและอื่นๆ โดยแผนในการทำคิดจะทำออกมาเป็นสองภาคหากตัวละครที่มาสมัครเป็นส่วนหนึ่งที่เป็นตัวละครเดิมและตรงตามที่ผมต้องการดำเนินเรื่อง แต่การลงนิยายนี้จะไม่ได้ลงถี่ซะทีเดียว อาจจะสองสัปดาห์หรือสามต่อครั้ง ถามสะดวกอาจเร็วขึ้นตามความต้องการของผมเอง
โครงเรื่องคร่าวๆณ ดวงดาวโพรโทเนี่ยน โลกที่เป็นศูนย์รวมแห่งพลังธาตุ ดิน น้ำ ลม ไฟ ว่ากันว่าดวงดาวนี้แหละคือต้นกำเนิดของสิ่งมีชีวิตทั่วทั้งจักรวาล แต่ด้วยพลังธาตุที่แข็งแกร่งจนเหลือล้นเหล่านี้ที่ได้รวมอยู่กับมนุษย์ในยุคหลัง ๆ มันได้หลอมรวมเข้ากับจิตใจพวกเขาเป็นหนึ่ง แต่หากรู้ไม่ว่าในร่างกายของมนุษย์ทุกคนย่อมมีพลังที่ไหลรั่วออกมาเป็นพลังแห่งความเกียจชัง ความชั่ว ความอิจฉาริษยาและนานาก็ได้ก่อเกิดเป็นมารที่ตั้งตนที่จะทำลายล้างโพรโตเนี่ยนแห่งนี้ นาม ''ไซอาลอท''
และเมื่อมารตนนี้ได้ถือกำเนิด เหล่ามนุษย์ที่หยั่งรู้ถึงภัยพิบัติที่จะตามมาก็ได้หาวิธีต้านรับ ซึ่งมีเหล่าผู้กล้ามากมายที่หมายปองที่จะหยุดยั้งวันสิ้นโลกนี้ เพื่อความสงบสุขของโลกอีกครั้ง
โดยเนื้อเรื่องที่จะเกิดขึ้นจะอยู่ภายในดินแดนทางตะวันออกหรือเอสซิโอนิค
The Continental of Aceonic (Eastern Kingdom)
ดินแดนทางด้านตะวันออกของดวงดาวโพรโตเนี่ยน ''เอสซิโอนิก'' คือดินแดนปราการสุดท้ายที่มารร้ายไซอาลอทจะเดินทางมาเพื่อเปิดพลังแห่งบาปผ่านทางหอคอยแห่งซินโดร่า ว่ากันว่าหากคาถานี้ถูกใช้งานจนสมบูรณ์ ดวงดาวแห่งนี้จะถึงกาลอวสาน ภัยพิบัติทั้งดิน น้ำ ลม ไฟที่ใช้ปกป้องดวงดาวจะหวนกลับเป็นการมาทำลายโพรโตเนี่ยนเสียเอง
ซึ่งการบรรยายถึงภูมิประเทศของดินแดนต่าง ๆ จะบรรยายไปพร้อมกับการดำเนินเรื่องนี้
Windfield Forest - สถานที่ๆ เป็นที่ตั้งของเมืองสตอร์มโฮล์ม สถานที่ซึ่งเป็นเมืองหลวงของด้านทวีปตะวันออกแห่งโพรโตเนี่ยนถือเป็นศูนย์กลางของเศรษฐกิจ การทหารและอื่นๆ โดยมากผู้คนจะอาศัยอยู่ที่ดินแดนแห่งนี้เพราะความเสี่ยงในการตกเป็นภัยอันตรายนั้นค่อนข้างน้อย ปัจจุบันถูกปกครองโดยกองทัพแห่งสตอร์ม ครูเซเดอร์ กองทหารที่ใหญ่ที่สุดแห่งทวีปเอสซิโอนิก
Emerald Terrace - ผืนป่าดิบชื้นแห่งสตอร์มโฮล์ม เป็นสถานที่ๆ อุดมสมบูรณ์ที่สุดในบรรดาดินแดนทั้งหมดของทวีปแห่งนี้ เป็นอีกหนึ่งในแดนที่ผู้คนเลือกที่จะอาศัยอยู่ที่แห่งนี้ เพราะหากินได้ง่ายและสะดวกต่อการทำการเกษตรเป็นอย่างมาก โดยมากผู้คนที่อาศัยอยู่ในระแวกนี้จะขาดความเจริญหรือพูดง่ายๆ ก็มีแต่พวกชาวนาชาวสวนซะส่วนใหญ่
Blazing Spring - เดิมมันเคยเป็นดินแดนเดียวกันกับ Emerald Terrace แต่ในช่วงระหว่างยี่สิบปีก่อนได้มีการต่อสู้ระหว่างสองนักรบมากพลัง นั่นคือโคลริม เคลย์ทิวล์ ผู้พิทักษ์แห่งโพรโตเนี่ยนและไซอาลอท ไฟร์วอร์คเกอร์ มารเพลิงแห่งความตาย การต่อสู้ได้ทำให้ดินแดนป่าแห่งนี้กลายเป็นพื้นที่รกร้างจนสิ่งมีชีวิตไม่สามารถอาศัยอยู่ได้ และแหลมหินใจกลางดินแดนแห่งนั้นเป็นสถานที่ๆ มารเพลิงไซอาลอทถูกกักขังโดยโคลริมเองเนื่องเพราะมารเพลิงได้พ่ายการต่อสู้ และโคลริมก็มิอาจจะสังหารไซอาลอทได้อย่างเด็ดขาด เขาจึงตัดสินใจผนึกมารเพลิงไว้ใจกลางจนเกิดเป็นแหลมหิน แม้นมารเพลิงจะถูกผนึก ไม่สามารถขยับไปแห่งหนใดได้ แต่พลังปราณแห่งความตายยังคงสถิตอยู่ที่ร่างและเอ่อล้นจนไหลรินไปทั่วดินแดน ทำให้ผืนหญ้าจากสีเขียวตายไปและผืนดินกลายเป็นสีแดงฉานดั่งโลหิต นั่นจึงเป็นที่มาของชื่อดินแดน Blazing Spring
Matalius - สถานที่ซึ่งเป็นที่ตั้งของสำนักกระบี่ทมิฬ ถือเป็นแผ่นดินที่เจริญด้านเทคโนโลยีมากที่สุด ว่ากันว่านักวิทยาศาสตร์จากดินแดนนี้ ผู้รู้เรื่องต่างๆ สามารถใช้ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์และพลังปราณผสานเข้าจนผลิตนวัตกรรมใหม่ขึ้นมาได้เรื่อยๆ เคยมีผู้คนกล่าวไว้ว่าแผ่นดินนี้เคยสร้างแม้กระทั่งเครื่องบิน แต่กลับปิดแผนการเอาไว้อย่างลับๆ เมืองใหญ่ของแผ่นดินนี้คือ Theorin Town สถานที่ซึ่งเป็นที่เก็บความรู้ของชาวโพรโตเนี่ยนเลย
The Altaric Peak - ผืนดินที่ผู้คนอาศัยอยู่น้อยเนื่องเพราะทำเลไม่เป็นใจในการเพาะปลูกหรือตั้งถิ่นฐานอยู่อาศัย ด้วยความที่ภูมิประเทศเป็นที่ราบสูงและเนินชันโดยมาก มีภูเขาอยู่เต็มไปหมดจึงยากแก่การอยู่อาศัยและการเดินทาง ผู้คนที่เลือกจะอยู่บนแผ่นดินแห่งนี้โดยมากจะเป็นคนที่รักสงบและไม่อยากที่จะยุ่งเกี่ยวกับความเป็นไปของดวงดาว
Firewalker Crater - ดินแดนที่สภาพภูมิอากาศไม่เป็นใจแก่การอยู่อาศัย เนื่องเพราะอุณหภูมิที่สูงจนสามารถเผาร่างของคนธรรมดาที่มีปราณระดับต่ำได้ภายในไม่กี่นาที ในผืนดินแห่งนี้ว่ากันว่าเป็นสถานที่เกิดของมารเพลิงไซอาลอท ไฟร์วอร์คเกอร์ และถือว่าเป็นสถานที่กักเก็บพลังปราณแห่งเพลิงชั้นดี เหมาะสำหรับผู้ที่มีปราณธาตุไฟในการศึกษาค้นคว้าความเป็นมาและขุมพลังแห่งเพลิง
Lightmile - ถือเป็นดั่งเส้นแยกระหว่างทวีปทางตะวันออกแห่งนี้ออกเป็นเหนือและใต้ แผ่นดินแห่งไลท์ไมล์แยกออกเป็นทางตะวันออกและตะวันตกเนื่องเพราะขนาดของแผ่นดินที่ใหญ่เกินไป อาจทำให้หลงเมื่อเดินทางตามดินแดนนี้โดยอาศัยเครื่องนำทางเป็นแผนที่โดยหลัก แผ่นดินแห่งไลท์ไมล์มักจะเป็นสถานที่ๆ เหล่าผู้กล้าและนักสู้ที่อยากจะฝึกความแข็งแกร่งไปทดสอบสมรรถภาพทางร่างกาย ว่ากันว่าใครที่สามารถเดินทางด้วยเท้าจากเวสเทิร์น ไลท์ไมล์ไปจนถึงอิสเทิร์นได้ถือว่าเป็นหนึ่งในผู้แข็งแกร่งที่สามารถฝ่าอุปสรรคของดินแดนนี้ได้ เนื่องเพราะแผ่นดินแห่งนี้ทั้งเป็นทะเลทรายและกว้างใหญ่ จึงมีเพียงไม่กี่คนที่สามารถผ่านด่านทดสอบได้ ทางด้านตะวันตกนั้นมีเมืองใหญ่นามซันดาซัสอยู่ เป็นหนึ่งในดินแดนที่ทำการค้าขายเป็นอันดับต้นๆ ของทวีป กระนั้นเมืองนี้ยังคงเล็กกว่าสตอร์มโฮล์มเช่นกัน
Snowplague - หนึ่งในอีกแผ่นดินที่มีสภาพแวดล้อมไม่เป็นใจต่อการอยู่อาศัยของมนุษย์ในทวีปแห่งนี้ แต่ ณ แผ่นดินแห่งนี้จะหนาวเหน็บดั่งเช่นขั้วโลกเลย แดนแห่งนี้แทบจะกลายเป็นที่รกร้างโดยเดิมทีนั้นมีเหล่าชนเผ่าจากดินแดนตะวันออกที่รู้จักกันในนามเผ่า "คาดาล" อาศัยอยู่และมีปราสาทด้านตะวันออกของแผ่นดิน เดิมทีมันเคยเป็นเมืองที่เจริญรุ่งเรืองแต่เนื่องเพราะสภาพอากาศที่หนาวเหน็บเลยทำให้ผู้คนแยกย้าย ปัจจุบันจึงเหลือเพียงแค่ปราสาทพร้อมกับหญิงสาวแฝดสองที่เคยเป็นข้ารับใช้ของปราสาทแห่งนี้เท่านั้น
Fortunalis - ดินแดนที่ว่ากันว่าเป็นเมืองที่รวยที่สุดในบรรดาทวีปทั้งหมดของผืนดินแห่งเอสซิโอนิก นั่นเพราะเมืองแห่งนี้มีการทำเหมืองแร่เป็นจำนวนมาก รายได้ทั้งหมดเลยมาจากการค้าทองหรือเครื่องเพชรที่สามารถตามหาได้ในเหมือง โดยมากที่แห่งนี้จะมีราคาข้าวของที่สูงกว่าที่อื่นเป็นเท่าตัวและมีเพียงคนรวยเท่านั้นที่อาศัยอยู่ ว่ากันว่าสถานที่แห่งนี้เป็นหนึ่งที่ๆ ปลอดภัยที่สุดเนื่องเพราะมีเหล่าผู้กล้าที่ทำงานเป็นผู้รักษาความปลอดภัยอยู่เต็มไปหมด ใครก็ตามที่อาศัยอยู่ในดินแดนนี้หรือได้เกิดในผืนหญ้าแห่งดินแดนโชคลาภนี้ ถือว่าเป็นบุญประเสริฐอย่างแท้จริง บ้างก็ว่ากันว่าดินแดนแห่งนี้มีแต่เหล่าเลือดเทพบริสุทธิ์หรือความแปลกล้ำอาศัยอยู่
Shattered Fjord - แผ่นดินที่ถูกปกครองโดยปีศาจร้ายเบลล์ ผู้ซึ่งเคยเป็นอดีตมือขวาของมารเพลิงไซอาลอท มันเป็นอีกหนึ่งในสถานที่ๆ คนธรรมดาไม่อาจจะอาศัยอยู่ได้เนื่องเพราะปราณแห่งความตายได้สถิตอยู่รอบดินแดน มันสามารถทำให้คนธรรมดาคลั่งจนตายได้ ถิ่นฐานหลักของเบลล์และหมอผีปีศาจนั้นจะรวมตัวอยู่ในหอคอยขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่บนดินแดนนั้น ว่ากันว่ามันไม่สามารถถูกทำลายได้แม้แต่ปืนใหญ่นับร้อยจะโหมกระหน่ำกระสุนปืนใหญ่เข้าไป ทางทหารของสตอร์ม ครูเซเดอร์เคยหวังที่จะเข้าไปบุกรุกดินแดนแห่งนี้แต่กลับพลาดไม่เป็นท่า มันจึงเป็นหนึ่งในแผ่นดินที่อันตรายมากบนทวีปแห่งนี้
Moonshade - ดินแดนที่ลึกลับที่สุดในบรรดาแผ่นดินทั้งหมดของทวีปแห่งนี้ เป็นสถานที่ๆ มีปรากฏกราณ์เหนือธรรมชาติเกิดขึ้นทุกเดือน 6 ของปี โดยเดือนนั้นทั้งเดือนจะไม่มีแสงอาทิตย์สาดส่องบนผืนดินเลยแต่น้อย มีเพียงแค่แสงจันทราสว่างจ้าเท่านั้น ที่แผ่นดินแห่งนี้ไม่ค่อยมีผู้คนอาศัยอยู่นักเนื่องเพราะเป็นอันตรายมาก ทั้งเพราะสัตว์ป่าที่อันตรายและอยู่ใกล้กับดินแดนที่ถูกปกครองโดยเหล่าหมอผีปีศาจ มันจึงเป็นเหตุผลที่คนไม่ค่อยอาศัยอยู่
Sindora Scream - ชื่อของดินแดนนี้มาจากสุดยอดพลังของดวงดาวแห่งโพรโตเนี่ยนมันคือพลังแห่งซินโดร่านั่นเอง พลังนี้ถูกสร้างขึ้นบนแผ่นดินแห่งนี้มาจากหนึ่งในผู้พิทักษ์ดวงดาวในยามที่มีสงครามเมื่ออดีตกาลก่อน ว่ากันว่าพลังนี้เป็นต้นกำเนิดสิ่งมีชีวิตหลายชนิดบนดวงดาว แต่ด้วยความที่มันเป็นพลังที่มีอานุภาคมาก จึงเป็นที่ต้องการของใครหลายๆ คน ว่ากันว่าผู้คนยังคงเสาะหาพลังนี้เพื่อที่จะนำมาครอบครอง รวมไปถึงตัวของมารเพลิงเองเช่นกัน ว่ากันว่าในยามค่ำคืนจะได้ยินเสียงกรีดร้องของหญิงสาวหรืออะไรสักอย่างโดยผู้คนอ้างว่านั่นเป็นเพราะพลังแห่งซินโดร่ากำลังร่ำไห้ที่ต้องเห็นผู้คนฆ่าฟันกันเพื่อพลังนี้ทุกวัน
Kol' Rim - มันถูกตั้งชื่อจากหนึ่งในผู้พิทักษ์แห่งโพรโตเนี่ยนนามโคลริม เคลย์ทิวล์ ผู้ซึ่งเป็นแกนหลักสำคัญในการต่อสู้กับมารเพลิงไซอาลอทและได้รับชัยชนะมาก แต่ด้วยความที่ดินแดนแห่งนี้เป็นอีกหนึ่งในทะเลทรายแห้งแล้ง จึงไม่อาจจะเป็นที่อยู่อาศัยของมนุษย์ได้ ผู้ที่สามารถอาศัยได้นั้นต้องมีความอดทนสูงทั้งเรื่องการกระหาย หิวโหยและอะไรต่างๆ ที่น่าแปลกคือสถานที่แห่งนี้มีโบราณสถานจำนวนมากซึ่งไม่เป็นที่ทราบว่าใครกันเป็นผู้สร้างมันขึ้น แต่ที่รู้เป็นที่แน่ชัดคือสถานโบราณแต่ละแห่งใหญ่กว่าบ้านเรือนของมนุษย์หลายเท่านัก ดั่งว่าเป็นที่อยู่อาศัยของยักษ์ในอดีตกาล
Azcathus - แผ่นดินธรรมดาทางตอนตะวันออกของทวีปแห่งนี้โดยที่มีเมืองเล็กๆ อยู่ สำหรับดินแดนนี้ก็ไม่ได้มีอะไรพิเศษมาก แค่เป็นที่อยู่อาศัยของมนุษย์โดยมากเท่านั้น
Var' Shin Peninsula - เกาะใต้บาดาลคาบสมุทรแห่งวาชิน ถูกตั้งชื่อตามเทพแห่งวารีเมื่ออดีตกาลนาม อนิม่อน วาร์ชิน แม้นว่าจะเป็นดินแดนใต้ผืนน้ำก็ตามทีแต่ก็ยังมีมนุษย์และสิ่งมีชีวิตอื่นอาศัยอยู่เช่นกัน เหล่ามนุษย์ที่อยู่ในดินแดนนี้ล้วนแล้วแต่มีพลังปราณธาตุน้ำเป็นหลักหรือไม่ก็ธาตุรองที่เป็นแขนงย่อยของธาตุน้ำ คนเหล่านี้สามารถหายใจในน้ำได้โดยไม่มีปัญหาอะไร แต่ด้วยความที่ไม่เคยขึ้นบกเป็นเวลานานจะทำให้พวกเขาไม่ชินกับสภาพอากาศและอาจจะเข้าสู่สภาวะอัมพาตได้ชั่วคราว
ปล. ณ ดินแดน เอสซิโอนิก มีเพียงมนุษย์เท่านั้นนะครัช.... ไม่มีเผ่าอื่น
-----------------------
พลังธาตุปกติพลังธาตุหลัก ๆ ของดวงดาวโพรโตเนี่ยนนั้นแบ่งออกเป็น 4 ธาตุหลักคือ : ดิน (Earth) , น้ำ (Water) , ลม (Air) , ไฟ (Fire)
และพลังธาตุย่อยถูกแบ่งออกจากธาตุหลักเป็น 2 ธาตุในทุก ๆ พลังธาตุหลัก
ดินถูกแบ่งออกเป็น : เหล็ก (Metal) , ไม้ (Wood)
น้ำถูกแบ่งออกเป็น : น้ำแข็ง (Frost), พิษ (Toxic)
ลมถูกแบ่งออกเป็น : หมอก (Mist), เสียง (Sonic)
ไฟถูกแบ่งออกเป็น : สายฟ้า (Lightning), แสง (Light)
พลังธาตุในตัวมนุษย์ทั่วไปทุกคนจะมีอยู่ด้วยกัน 1 ธาตุที่แตกต่างกันออกไป ทั้งนี้ผู้คนนั้น ๆ จะสามารถเป็นธาตุหลักหรือย่อยก็ได้ ส่วนผู้คนได้รับการฝึกมานานก็อาจจะกำเนิดพลังธาตุที่สองหรือสามขึ้นมากับตัวก็ได้ ซึ่งการจะเรียนธาตุต่อ ๆ ไปให้ชำนาญจำเป็นต้องฝึกผ่านตามตาราง
ตัวอย่างเช่นหากคนผู้นั้นเกิดมาพร้อมกับพลังธาตุแสง การที่จะชำนาญการใช้ธาตุลมนั้นจำเป็นต้องเชี่ยวชาญธาตุไฟเสียก่อน อีกทั้งนี้คน ๆ นั้นจะไม่สามารถเรียนธาตุสายฟ้าได้ หากไม่ใช่ว่าเป็นสายเลือดพิเศษ กล่าวคือต่อให้ชำนาญได้ทั้งหมดก็ยังสามารถใช้ได้เพียง 11 ธาตุเท่านั้น (อีกตัวอย่างคือถ้าหากคนนั้นคือน้ำแข็ง ก็จะไม่สามารถสำเร็จวิชาพิษได้นั่นเอง) แต่ทั้งนี้ก็มีบางคนที่ใช้วิธีการใช้พลังจากอาวุธแทน ซึ่งจะสามารถทำให้ใช้ธาตุได้อย่างครบถ้วน เช่นหากคน ๆ นั้นมีพลังธาตุเป็นน้ำแข็ง หากจะใช้ความสามารถพิษได้ก็จำเป็นจะต้องสำเร็จพลังธาตุหลักซึ่งนั่นคือธาตุน้ำ แล้วใช้ความสามารถในการแปรคุณสมบัติธาตุผ่านทางอาวุธออกมาเป็นธาตุพิษได้ ทั้งนี้การจะทำแบบนั้นได้อาวุธชิ้นนั้นต้องถูกสลักพลังคุณสมบัติธาตุนั้น ๆ เช่นกัน
พลังธาตุพิเศษและก็จะมีพลังธาตุที่จะมีเฉพาะพวกเลือดพิเศษเท่านั้น โดยแบ่งออกเป็น 3 อย่างคือ
พลังบาป (Unholy) : พลังไสยศาสตร์ซึ่งจะมีเฉพาะเหล่าหมอผีปีศาจ (Unholy Sanctum เท่านั้นหรือง่าย ๆ คือพวกตัวร้ายนั่นเอง)
เลือด (Blood) : พลังธาตุที่หายากที่สุดในพลังทั้งหมด การที่จะมีพลังนี้ต้องเป็น The Chosen One เท่านั้น และว่ากันว่าพลังเลือดนี้ถือเป็นพลังธาตุที่แข็งแกร่งที่สุดเช่นกัน
วอยด์ (Void) : พลังธาตุที่มีความสามารถในการคุมประตูมิติและกาลเวลา ผู้ที่มีพลังเหล่านี้โดยมากมีเลือดจากเทพแห่งนิรันดร์ปะปนอยู่
ทั้งนี้เหล่าผู้คนที่มีพลังธาตุพิเศษจะไม่สามารถเรียนพลังธาตุปกติได้เลย กล่าวคือผู้คนนั้น ๆ สามารถมีพลังธาตุได้เพียงอย่างเดียวเท่านั้น (ส่วนข้อมูลและขีดจำกัดอื่น ๆ จะอธิบายในเนื้อเรื่องอีกทีครับ)
'# ที่สำคัญสำหรับเหล่าผู้ที่เลือกสายพิเศษ เหล่าคนพวกนี้ถือเป็นพวกหายากในโลกนี้ แน่นอนว่ามันย่อมมีทั้งคนชอบและกลัวในเวลาเดียวกัน เพราะงั้นกลุ่มคนที่กลัวจึงหาวิธีต่อต้านและบ้างก็เป็นอันสำเร็จผล กล่าวโดยง่ายคือกลุ่มคนที่มีพลังพิเศษถึงแม้พลังจะแข็งแกร่งมากก็ตามที แต่ก็มีผลเสียคือถูกแก้ทางได้โดยง่าย และมุมมองจากสังคมโดยรอบจะแตกต่างไปจากธาตุอื่น ๆ ด้วย ทั้งนี้การแก้ทางของพลังธาตุพิเศษเหล่านี้ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เหมือนกันเพราะมันจำเป็นต้องใช้เงื่อนไขและวัตถุดิบด้วย
---------------------------
ใบสมัครรูป : (ไม่จำกัดว่าจะเป็นการ์ตูน, หนัง, อนิเมชั่น 3D)
ชื่อ :
อายุ :
สถานที่เกิด : (ขอให้เป็นในดินแดน เอสซิโอนิกนะครับ)
ประวัติ : (อย่าเว่อร์จนเกินไป)
คาแรกเตอร์ :
อาวุธ :
พลังธาตุ : (เลือกได้อย่างมาก 2 พลังเท่านั้นและพลังทั้งสองต้องตรงตามการเดินเส้นของตารางด้วย)
กระบวนท่า : (กระบวนท่าปกติพร้อมชื่อและการอธิบาย 4 ท่าและไม้ตายอีก 1 ท่า)
---------------------------
ตัวอย่างการสมัครรูป : Bolvar Fordragon (Dragon Soul, The New Lich King Form)
ชื่อ : Zaelot Firewalker (ไซอาลอท ไฟร์วอร์กเกอร์)
อายุ : ไม่สามารถคำนวนได้
สถานที่เกิด : Firewalker Crater
ประวัติ : (บลา ๆ จะอธิบายในเรื่องเอา)
คาแรกเตอร์ : (เช่นเดียวกับประวัติ)
อาวุธ : -
พลังธาตุ : ไฟ (Fire), พลังบาป (Unholy) (เหตุที่มี Unholy เพราะเป็นผู้ถือกำเนิดพลังแห่งบาป)
กระบวนท่า :
The Eternity Blast - การปล่อยพลังเพลิงออกจากร่างกายเป็นดั่งการยิงลูกเพลิงออกไป
Inferno Quake - ปล่อยพลังเพลิงลงไปผืนดินจำนวนมหาศาลเพื่อก่อเกิดระเบิดขนาดยักษ์ขึ้นที่ผืนดิน
Consuming Soul - การแตะต้องคู่ต่อสู้ด้วยมือข้างใดก็ตามและดูดเอาวิญญาณมาสามารถคร่าชีวิตคน ๆ นั้นได้ในพริบตา (การใช้จำเป็นต้องมีเงื่อนไขอยู่)
Breathing of Death - การปล่อยลมหายใจออกเป็นไอร้อนและเกิดเป็นเพลิง (ง่าย ๆ คือการพ่นไฟ)
Cataclysm (ไม้ตาย) - การใช้พลังทั้งหมดระเบิดตัวออกซึ่งมีพลังทำลายที่รุนแรงมากที่สุดในกระบวนท่าทั้งหมด
'# ทั้งนี้บางส่วนในการสมัครของตัวละครตัวนี้เป็นแค่ตัวอย่างเท่านั้นนะครับ
-------------------------------
ตัวละครหลักรูป : Anduin Wrynn
ชื่อ : Nelrion Preston (เนลเรี่ยน เพรสตัน)
อายุ : 21 ปี
สถานที่เกิด : ไม่เป็นที่แน่ชัด แต่ปัจจุบันอาศัยที่บ้านหลังเล็ก ๆ ชานเมืองของแดน Windfield Forest
ประวัติ : เด็กหนุ่มที่ไม่ทราบประวัติในช่วงวัยแรกเกิดอย่างแน่ชัด โดยตัวเขาเป็นผู้ที่ไร้บ้านเกิด พ่อแม่ หรือผู้ปกครองทางสายเลือดใด ๆ เขาถูกเก็บมาเลี้ยงโดยชายมีอายุผู้หนึ่ง หลังจากที่เขาเติบโตจนเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น ชายผู้นั้นได้ถึงแก่กรรมและได้สานต่องาน ๆ หนึ่งกับเพรสตัน นั่นคือการศึกษาประวัติศาสตรแห่งพลังธาตุจนเข้าถึงแก่นแท้ของมันและเผยแผ่ความรู้ต่อเหล่าผู้คนแห่งเอสซิโอนิก โดยมากแล้วเขาจะใช้เวลาอยู่กับการอ่านตำรา นิทานหรือตำนาน ที่บ้างก็ว่ามันเป็นแค่เรื่องหลอกเด็กเท่านั้น
คาแรกเตอร์ : เป็นชายผู้ที่ค่อนข้างจะให้ความสำคัญกับงานที่ตัวเองได้รับจากชายผู้มีบุญคุณผู้นั้น นอกจากนั้นแล้วจะให้ความสำคัญที่น้อยลงไป ดูภายนอกจะเป็นเหมือนพวกที่เหนื่อยหน่าย ขี้เกียจและไม่สนใจโลกภายนอกสักเท่าไหร่ เนื่องด้วยตัวเขาเป็นพวกที่ทำงานจนไม่ได้รับการพักผ่อนที่ดี แต่ถึงแบบนั้นแล้วเขาก็ดูเป็นคนที่ตั้งใจ ฉลาด และผูกมิตรดีอยู่พอตัวเลยทีเดียว แต่หัวของเขาจะเป็นพวกที่ไม่ทันโลกสักเท่าไหร่ เนื่องด้วยหมกตัวอยู่ในบ้านมาเป็นเวลานานและตัดขาดจากโลกภายนอก แต่ถึงจะผูกมิตรเก่งในระดับหนึ่งก็ตามทีแต่นิสัยตัวเองก็ยังเป็นพวกขี้รำคาญอยู่เช่นกัน เขามักจะหงุดหงิดอยู่บ่อยครั้งถ้าได้รับการรบกวนจากใคร เวลาไหนที่ไม่พอใจอะไรก็จะไม่แสดงอาการโมโหออกมาอย่างเด่นชัด แต่กลับจะแสดงอาการเหนื่อยหน่ายราวกับจะเป็นจะตายเสียมากกว่า
อาวุธ : มีดสั้น (ไม่เกี่ยงว่าเป็นมีดสั้นแบบไหน แต่โดยปกติแล้วมักจะใช้มีดสั้น 2 เล่มเสียมากกว่า)
มีดเล่มแรก Frostfury (มีด Dagger จาก World of Warcraft ชื่อจริง ๆ คือ Bloodsipper)
มีดเล่มที่สอง Icecrown Claw (มีด Dagger จาก World of Warcraft ชื่อจริง ๆ คือ Twinblade of Mastery)
โดยเขามีความสามารถพิเศษในการรวมมีดทั้งสองและแปลงสภาพกลายเป็นดาบหนึ่งเล่มได้
ดาบ Canister Blade (เป็นดาบของ Lich King ใน World of Warcraft ชื่อจริง ๆ คือ Frostmourne)
พลังธาตุ : Frost
กระบวนท่า :
- Frost Talon : ดึงพลังออร่าน้ำแข็งออกมาเป็นพลังงานคลุมทั่วมีดสั้น (หรือดาบ) เพื่อเสริมความแข็งแกร่งของอาวุธที่ถือ และยังยืดความยาวออกมาได้ขนาดหนึ่งด้วย
- Obilterate Strike : ซึมออร่าเข้าไปทั่วทั้งร่างกายรวมทั้งรวมร่างกับมีดสั้นทั้งสอง (หรือดาบ) เพื่อสร้างกงเล็บขนาดแหลมที่มือทั้งสอง ใช้ในยามสู้กันตัวต่อตัวโดยมาก มีพลังทำลายที่ค่อนข้างสูง
- Brain Shock : เป็นท่าที่ปล่อยพลังออร่าอ่อน ๆ ที่สามารถมองเห็นได้โดยยากกระทบตัวศัตรูเพื่อสร้างความเสียหายให้กับสมอง มีผลทำให้ร่างกายศัตรูหยุดชะงักสักระยะ (ขี้นอยู่กับความแข็งแกร่งหรืออ่อนแอของศัตรูด้วย)
- Sinester Orbital Downpour : สร้างห่าฝนน้ำแข็งจำนวนมากเพื่อจัดการศัตรูในรัศมีของกระบวนท่า เน้นการใช้งานในการต่อสู้แบบหลายบุคคล
Finisher : Remorseless Throne : สร้างเขตแดนนั้นเป็นพื้นที่น้ำแข็ง โดยรอบของพื้นที่จะมีพายุหิมะรุนแรง ส่งผลทำให้ศัตรูถูกแช่แข็งได้ ขึ้นอยู่กับความแข็งแกร่งหรืออ่อนแอของศัตรู หากถ้าคู่ต่อสู้อ่อนแอจะส่งผลให้คนผู้นั้นถูกแช่แข็งผนึกไปชั่วชีวิตได้
-------------------------------
รูป : Diablo 3 Male Barbarian
ชื่อ : Kolrim of Khadal (โคลริมแห่งคาดาล), Kolrim Khaytil (โคลริม เคลย์ทิวล์)
อายุ : 64 ปี
สถานที่เกิด : The Land of Khadal (Western Kingdom)
ประวัติ : ชายชราที่ถูกขนานนามว่าเป็นเทพแห่งมหาศึกสงครามแห่งอสูรกาย เขาคือแกนหลักสำคัญและหัวหน้ากองทัพแห่งโคล ริมที่ตั้งมาจากชื่อของเขา ว่ากันว่าชายผู้นี้ไม่ได้เกิดอยู่ในดินแดนเอสซิโอนิคแต่เป็นดินแดนทางตอนตะวันตก ถิ่นที่ชนเผ่าคาดาลอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ถึงแม้อายุเขาจะมากแต่เขาก็ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในนักสู้ที่้เก่งที่สุด พลังของเขาสามารถต่อกรได้แม้กระทั่งมารเพลิงไซอาลอท แต่ในสงครามครั้งสุดท้ายเขาได้เสียชีวิตลงพร้อมกับลูกสาวของเขาจากการห่ำหั่นกับมารเพลิง
คาแรกเตอร์ : ชายผู้ที่ดิบเถื่อนในการต่อสู้ แต่เป็นหนึ่งในผู้ที่วางแผนทุกอย่างๆ รอบคอบ เขาเป็นผู้ชั้นเชิงในการต่อสู้และการใช้ชีวิต ค่อนข้างรักลูกสาวเพียงคนเดียวของตัวเองที่มีอยู่ ทั้งชีวิตเขาอยากจะเห็นโพรโตเนี่ยนที่สงบสุขอย่างที่จริงสักครั้งแต่โชคร้ายที่มันไม่ได้เป็นแบบนั้น ในโลกปัจจุบันเขากลายเป็นตำนานที่มีผู้คนเคารพนับถือแต่ก็มีบางส่วนที่ไม่เชื่อในเรื่องของเขา ซ้ำยังบอกว่าเป็นเรื่องโกหกอีกตะหาก
อาวุธ : ขวานบาบาเรี่ยนแห่งคาดาล (Barbarian Death Axe)
พลังธาตุ : Earth, Wood
รูป : King Varian Wrynn
ชื่อ : Cronos Maltheal (โครนอส มาลว์เตล)
อายุ : 43 ปี
สถานที่เกิด : Azcathus
ประวัติ : หนึ่งในนักสู้ช่วงมหาศึกสงครามแห่งอสูรกาย เขาคือผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์นั้นและเข้ารับตำแหน่งราชาแทนเอลทวอร์น ผู้ซึ่งจะเป็นราชาอยู่แล้ว ปัจจุบันเขาเป็นราชาแห่งดินแดนเอสซิโอนิคโดยอยู่ในเมืองหลวงสตอร์มโฮล์ม
อาวุธ : The Argent Crusader (จาก WoW ชื่อจริงคือ Replica Lions Fang)
พลังธาตุ : Fire, Light (Lighting as special element from the Elthawn's Sword)
รูป : Illidan Stormrage
ชื่อ : Bael of the Unholy Sanctum (เบลแห่งถ้ำแห่งบาป)
อายุ : ไม่ทราบ
สถานที่เกิด : Shattered Fjord
ประวัติ : เบลคือสิ่งมีชีวิตที่ถูกสร้างขึ้นมาโดยไซอาลอทจากพลังแห่งบาปที่มารเพลิงเป็นคนคิดค้นขึ้นมา ว่ากันว่าเบลคือศูนย์กลางแห่งพลังบาปที่กระจายออกไปทั่วทั้งโลก พลังของเบลนั้นไม่สามารถคำนวณหรือหยั่งถึงได้ เนื่องด้วยความเป็นธาตุพลังพิเศษจึงทำให้เขาเป็นหนึ่งในชายที่น่ากลัวที่สุด
อาวุธ : ร่างกายที่สามารถเปล่งปราณออกมาเป็นรูปใดๆ ก็ได้
พลังธาตุ : Unholy