Bloody Wrestling Online
Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.

Bloody Wrestling Online

The Number One Cyber Wrestling Online
 
บ้านPortalLatest imagesสมัครสมาชิก(Register)เข้าสู่ระบบ(Log in)

 

 Cataclysm : Prologue

Go down 
ผู้ตั้งข้อความ
Neferpitou
Moderators
Moderators
Neferpitou


จำนวนข้อความ : 552
Join date : 05/12/2012
Age : 28
ที่อยู่ : The Facility of Banned Organizer

Cataclysm : Prologue Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Cataclysm : Prologue   Cataclysm : Prologue EmptySat Feb 14, 2015 8:07 pm

Cataclysm : Prologue 29pq7ht


ณ ดินแดนเอเมอร์รัล เทอร์เรส ดินแดนที่ผู้คนต่างว่ากันว่าเป็นแดนผืนป่าที่งามเช่นดั่งมรกตที่ประกายแสงสวยงาม ตอนนี้ผืนแผ่นดินแห่งนี้กลายเป็นสีแดงฉานยิ่งกว่าทับทิมที่ระยิบระยับ เศษอาวุธที่แตกหักไม่ว่าจะเป็นดาบที่ปักอยู่ที่พื้นโดยที่เจ้าของดาบยังกำไว้แน่นแม้นว่าเขาจะสิ้นลมไปแล้ว เศษโล่ขนาดใหญ่ที่มีตราแห่งสตอร์ม ครูเซสอยู่กับคราบเลือดที่ไม่สามารถล้างมันออกได้ แผ่นดินทุกแห่งในระยะกว่าร้อยเมตร แทบจะมีศพของกลุ่มของเหล่ากองทัพหมอผีปีศาจ อันโฮลี่ ซังตัมส์ และกองทัพหลักสตอร์ม ครูเซส บ้างก็เป็นศพที่เละจนไม่เหลือสภาพ บ้างก็ยังอยู่ครบทุกส่วน บัดนี้เหลือเพียงชายที่มีร่างกายดั่งปีศาจ ลูกตาสีแดงฉานราวกับเพลิง และทั่วทั้งร่างเขาแตกเป็นรอยร้าวราวกับแม็กม่าที่ปะทุออกมาผืนแผ่นดิน

''แคร๊ดดดด !!'' เสียงคมดาบที่ลากกับพื้นดังขึ้นมาตลอดทางท่ามกลางความมืดยามราตรี และมันยังคงดังขึ้นเรื่อย ๆ และเรื่อย ๆ ถึงแม้นกระนั้นภายใต้ความมืดก็ยังสามารถมองเห็นดาบเล่มนั้นได้พอลาง ๆ มันเป็นดาบที่มีสัญลักษณ์แกะสลักทองรูปสิงโตที่คำรามพร้อมทั้งสยายปีกแห่งอินทรีย์ของกองทัพกลางสตอร์ม ครูเซส

ไม่นานนักภายใต้ความมืดและเสียงเหล็กของคมดาบที่เสียดสีกับพื้นหยุดลงได้ปรากฏเป็นชายในชุดรบดูมียศถาบรรดาศักดิ์ ชุดเกราะสลักทอง ที่หน้าอกซ้ายมีสัญลักษณ์เช่นเดียวกับดาบปรากฏ สวมผ้าคลุมสีน้ำเงินเข้มซึ่งกรอบนอกเป็นลายลักษณ์สีทอง แต่อายุของเขาหาได้มากเท่ากับยศที่ประดับเลย เขาเชิดดาบขึ้นต่อหน้าชายร่างปีศาจเพลิงตนนั้น ปลายคมดาบประกายระยิบระยับจากการกระทบของแสงไฟของปีศาจ การเชิดดาบขึ้นชี้หน้าแบบนั้นเป็นการเย้ยหยั่นท้าทายต่อศัตรู เขาไร้ซึ่งความกลัวใด ๆ แม้นอยู่ต่อหน้าอสูรกายตนนี้ก็ตาม

''มันจบแล้วไซอาลอท... จะไม่มีความตายอีกต่อไปแล้วเว้นเสียแต่ความตายของเจ้า !!'' ชายหนุ่มคนนั้นเอ่ยขึ้น

''จุดจบ ?.... มันไร้ซึ่งความหมายต่อข้า สิ่งที่มีความหมายต่อข้ามีเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น'' ชายร่างอสูรตอบกลับ น้ำเสียงเขาดูราวกับมังกรคำรามออกมาเป็นคำพูด ทุกคนที่เขาเปล่งวาจาขึ้นมาความร้อนก็แผดเผาไปทั่วรูขุมขนของหนุ่มกล้าคนนั้น ''และความตายของเจ้ามันคือจุดเริ่มต้น''

''ไม่มีวัน !!'' ชายหนุ่มผู้นั้นตะโกนขึ้นเป็นการปฏิเสธด้วยน้ำเสียงที่แข็งกร้าว ทันใดที่เขาปฏิเสธนั้นดาบของเขาก็มีออร่าสีฟ้าปกคลุมไปทั่วดาบ ออร่าที่มารวมตัวกันดูรุนแรง เข้มข้นและเต็มไปด้วยพลัง เมื่อนั้นเขาก็เปิดฉากโจมตีใส่อสูรตนนั้นทันที

ชายหนุ่มพุ่งดาบแทงไปยังเป้าหมาย ศีรษะของอสูรตนนั้นคือสิ่งที่เขาพยายามจะแทงให้มันทะลุเป็นรู แต่สำหรับอสูรตนนั้นแล้วหาใช่เรื่องยากเลยในการหลบดาบที่มายังจุดหมายที่ใคร ๆ ต่างก็คาดถึง เขาหลบเพียงแค่พอเฉียด ๆ ที่จะทำให้เขาไม่ได้รับบาดแผลจากการบาดเพียงเล็กน้อย แต่กลับกันหน้าของอสูรตนนั้นเกิดรอยไหม้สีดำเป็นรอยข่วนของดาบ เลือดสีแดงอมดำเข้มของเขาไหลออกมาเพียงเล็กน้อย ซึ่งในจังหวะนั้นเองอสูรตนนั้นก็ใช้ปีกทั้งสองข้างที่ลุกไปด้วยเพลิงนิรันดร์ของเขา โอบกอดรัดใส่ชายหนุ่มคนนั้นอย่างรวดเร็ว ปีกแห่งเพลิงนั้นว่ากันว่าหากใครเพียงได้แต่มันร่างกายก็จะสลายไปดั่งกระดาษที่ถูกไฟเผาจนสิ้น เหลือเพียงธุลีดำเท่านั้น แต่ก่อนที่ไฟแห่งนิรันดร์จะลุกไหม้ร่างของชายหนุ่มได้เกิดแสงสีฟ้ารอบกายของเขาส่องสว่างเป็นทรงกลมคลุมกายและระเบิดมันออกมา

ชายหนุ่มกระโดดตัวกลับหลังมาตั้งหลัก ชุดเกราะของเขาเป็นรอยปีกสีดำที่เกิดจากการลุกไหม้ ผ้าคลุมที่ไหม้อยู่หายไปทันควันเหลือเพียงเศษสีดำที่ติดประกายเพลิงล่องลอยไปตามอากาศเท่านั้น แม้แต่ผมสีทองที่ยาวสลวยของเขาก็เกิดประกายไฟเล็ก ๆ ออกมา เขาปัดผมตัวเองเพียงแค่ฝ่ามือเพื่อให้สะเก็ดไฟที่ผมของเขาหายไป ก่อนที่จะแสยะยิ้มขึ้นราวกับมีความสุขไปกับมัน

''แม้แต่ไฟแห่งนิรันดร์ที่ว่ากันว่าสามารถสยบแม้กระทั่งพระเจ้าก็มิอาจกลืนกินข้าได้'' ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นก่อนที่จะถือดาบขนานขึ้นมา พลังออร่าสีฟ้านั้นก็ได้ก่อเกิดขึ้นมาอีกแต่สิ่งที่แปลกไปจากเดิมคือสายฟ้าได้ก่อเกิดขึ้นจากทุกผืนแผ่นดินที่เขายืนอยู่ในตอนนี้ แสงของดวงจันทร์ที่เจิดจรัสเต็สดวงก็ได้จางหายไปกลายเป็นกลุ่มเมฆที่ปลกคลุมทั่วทั้งผืนฟ้าราวกับพายุลูกใหญ่ มันได้ทำให้อสูรตนนั้นแสดงอาการตกใจ เขาได้เงยหน้าขึ้นไปบนฟ้าก็ได้พบกับสิ่งที่เห็นคือกลุ่มเมฆที่ปลกคลุมนั้นได้กลายเป็นพายุเมฆไปแล้ว หลักฐานที่สามารถบ่งบอกถึงมันได้อย่างเด่นชัดคือที่ศูนย์กลางของมันเป็นช่องโหว่เฉกเช่นเดียวกับตาพายุ ซึ่งมันก็ขนานลงมาที่ร่างของชายหนุ่มคนนั้น ก่อนที่อสูรตนนั้นจะหันลงมามองที่ชายคนนั้นด้วยความตื่นใจที่รับรู้ถึงออร่าที่แผดขึ้นมาหลายเท่าจากดาบเล่มนั้น

ฟรึบ !!

ดั่งแสงที่เดินทางท่ามกลางกาลเวลา ร่างกายของชายหนุ่มได้หายไปอย่างรวดเร็วเป็นสัญญาณเริ่มการจู่โจมหรือการตั้งรับก็หารู้ไม่ อสูรตนนั้นหันไปรอบ ๆ ด้วยอาการที่ยังแตกตื่นอยู่ราวกับว่าแม้ตัวเขาก็มิอาจรับรู้ได้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นจากที่ไหนก็ตามที่สายตาแดงฉานของเขาจะเห็นได้ แต่ก็ไม่มีปฏิกริยาใดเลยที่อสูรตนนั้นจะแสดงถึงการตั้งรับของตน เพราะสิ่งที่เขาทำก็เพียงแค่มองไปรอบ ๆ ผืนป่าที่มืดมิดเท่านั้น มิทันไรก็เกิดลมแรงกล้าจากข้างหลังของอสูรกาย แม้แต่เขาก็สามารถรับรู้ได้ถึงออร่ามหาศาลที่ก่อเกิดขึ้นพร้อมกับลมเหล่านี้ เพียงชั่วพริบตาชายหนุ่มคนนั้นก็ปรากฏเป็นร่างสายฟ้าพุ่งเข้าไปด้วยความเร็วที่เทียบเท่าได้กระทั่งแสง เขาพุ่งคมดาบสายฟ้าของเขาไปกลางหลังของปีศาจ

เมื่อชายหนุ่มเปิดฉากจู่โจม อสูรกายตนนั้นก็แสดงถึงปฏิกริยาที่สามารถรับรู้ถึงการโจมตีนั้น เขาหันไปทางชายหนุ่มก็ปล่อยเพลิงสีแดงเข้มออกไป ภายหลังจากที่ไฟพวกนั้นสลายหายไปกับลมแล้ว ก็หาได้พบกายของชายหนุ่ม แม้กระทั่งเส้นผมก็ยังไม่สามารถเห็นมัน หากพูดให้ถูกคือเพลิงนั้นมิอาจเผาได้แม้แต่เส้นผมของชายหนุ่มเลย ชายหนุ่มได้หายตัวไปยังด้านขวาของอสูรทันทีและยังโจมตีด้วยกระบวนท่าเดิมซ้ำแล้วซ้ำเล่าราวกับบทเพลงที่ซ้ำที่ท่อน ๆ เดิมเพราะทุกอย่างที่มันเกิดขึ้นก็คือสิ่งเดิม ๆ สายฟ้าโจมตีประดุจดั่งแสง และเพลิงนิรันดร์กลับตั้งรับดั่งผูผา

ฉึก !! ฉึก !! ฉึก !!

โลหิตแห่งปีศาจสีแดงเข้มที่ผสานรวมกับหินแม็กม่าไหลท่วมออกมาจากร่างปีศาจ ทั้ง ๆ ที่เขามั่นใจว่าการตั้งรับนั้นสมบูรณ์แบบแล้ว เหตุฉะไหนเขาจึงเกิดบาดแผลเป็นรอยถูกของมีคมแทงอยู่ตลอดเวลา ซ้ำแผลเหล่านั้นก็หาใช่แผลที่สดเลย มันถูกเผาเป็นเกรียมดำรอบ ๆ รอยแผลเหมือนกับการโจมตีครั้งแรกไม่มีผิดเพี้ยน หรือนี่คือความสามารถของชายหนุ่มกัน อสูรตนนั้นครุ่นคิดอยู่ในใจ สิ่งที่วิ่งวนอยู่ในใจของเขาได้เกิดขึ้นมา เราต้องทำอะไรสักอย่าง นั่นคือสิ่งที่อสูรตนนั้นพยายามที่จะทำ ทันใดนั้นเขาใช้มือทั้งสองข้างแทงเข้าไปลึกสุดหัวใจตนและฉีกอกของตนออกมา ''แคว๊กกก !!'' ปรากฏเป็นหัวมังกรขนาดเท่าอกของอสูรตนนั้น มันได้อ้าปากอันน่าขยะแขยงออกแสดงถึงฟันอันแหลมคมและแข็งแกร่งบ่งบอกถึงการกัดกินผู้คนมานับแต่นับ แม้กระทั่งลิ้นของมังกรก็ยังมิปานถึงความน่ารังเกียจ มันยาวเหยียดและมีแม็กม่าไหลกระทบลงพื้นอยู่ตลอดราวกับว่านั่นคือน้ำลายของหัวมังกรนั้น

แล้วการโต้กลับของอสูรกายก็ได้เริ่มขึ้น ลิ้นนั้นพุ่งเข้าไปยังเป้าหมายอากาศที่ว่างเปล่า มิทันไรก็เกิดประกายสายฟ้าที่จุดนั้น ชายหนุ่มปรากฏขึ้นและใช้ความเร็วของเขาพุ่งหลบลิ้นมังกรที่มีปลายอันแหลมคมนั้น แต่ลิ้นนั้นก็สามารถติดตามเขาได้ ถ้าหากเป็นการมองด้วยตาเปล่าแล้วมันมีความเร็วที่เท่ากับชายหนุ่ม แต่หากสายตาของผู้วิเศษแล้วก็จะสามารถรับรู้ถึงความต่างของมันได้ หาใช่ว่าลิ้นนั้นมีความเร็วที่เท่ากับสายฟ้า แต่สายฟ้าตะหากที่พยายามเร่งความเร็วให้เทียบเท่ากับลิ้น ไม่สิ.... ให้มากกว่าลิ้นเสียตะหาก ชายหนุ่มคนนั้นหันกลับไปมองถึงสิ่งที่พุ่งตรงมาหาเขา ลิ้นนั้นได้ผ่านต้นไม้สีมรกตแม้ว่าระยะมันจะห่างพอสมควร แต่ต้นไม้สีมรกตเหล่านั้นได้เกิดประกายไฟลุกลามขึ้นแผดเผาสิ่งมีชีวิตที่ไม่อาจเคลื่อนที่ได้จนมลายสิ้น ชายหนุ่มสามารถรับรู้ได้ทันทีว่านี่มันต่างจากปีก หากถูกเขาไปแม้แต่นิดเดียวก็อาจถึงฆาตได้เลย

เขากำลังตัดสินใจอะไรสักอย่าง เพราะหากปล่อยเอาไว้มากกว่านี้ความเสียเปรียบที่มีต่ออสูรกายก็จะยิ่งเพิ่มพูลขึ้นเรื่อย ๆ เขาตัดสินใจจู่โจมไปโดยตรงเพื่อที่จะทำลายหัวมังกรนั้นให้สิ้น เพียงพริบตาความเร็วของสายฟ้าก็เร็วเสียยิ่งกว่าลิ้นแห่งปีศาจ คมดาบสายฟ้าได้พุ่งตรงไปยังหัวมังกรหมายที่จะทำลาย ว่าแล้วปีศาจตนนั้นก็พ่นเพลิงออกมาจากปากตนทันที คมดาบสายฟ้านั้นก็จางหายราวกับถูกกลืนกินด้วยเพลิงแห่งความตาย เพียงพริบตาออร่าสายฟ้าก็ปรากฏขึ้นมาเป็นคมดาบตัดลิ้นมังกรเป็นสองท่อน เลือดของมังกรพุ่งกระฉูดออก ซึ่งรอบข้างของมันร้อนเสียยิ่งกว่าแม็กม่าที่ประทุออกมาด้วยซ้ำ ชายหนุ่มคนนั้นกำลังจะหายตัวด้วยพลังสายฟ้าของเขาอีกครั้งแต่ถูกมือของปีศาจจับใบหน้าของเขาซะแน่น ใบหน้าของชายหนุ่มรูปงามเริ่มถูกแผดเผาจนเสียโฉม เขาพยายามจะดิ้นสู้ความตายที่อยู่เบื้องหน้า แต่เขาหาได้กลัวที่จะตาย เขากลัวที่ปีศาจร้ายตนนี้จะมีชีวิตอยู่ตะหาก เขารู้ดีว่าในตอนนี้ตัวเขาไม่อาจหยุดยั้งความตายและปีศาจตนนี้ได้ แต่เขาก็อยากที่จะทำอะไรสักอย่าง.... สักอย่างเพื่อจะทำให้มารตนนี้ไม่ก่อความเดือดร้อนแก่โพรโทเนี่ยนอีกต่อไป

''ความตาย... มันคือจุดเริ่มต้นของความนิรันดร์ ถึงกระนั้นผู้คนยังหวาดกลัวถึงมัน ยังดิ้นรนเพื่อที่จะหลีกเลี่ยงมัน ทั้ง ๆ ที่ก็รู้ดี... ว่าเรามิอาจหลีกหนีความตายได้'' มารตนนั้นเอ่ยขึ้นมา

''ไม่ใช่ !!'' ชายหนุ่มขัดด้วยน้ำเสียงที่เริ่มอ่อนแรง ''ข้าหาได้กลัวที่จะตาย... แต่ข้ากลัวว่ามารเช่นเจ้าจะทำอะไรต่อไปหลังจากที่ข้าสิ้นลม.. ข้ากลัวว่าเจ้าจะสร้างความเดือดร้อนแก่มวลมนุษย์ตะหาก !!'' เขาพูดขึ้นด้วยความกล้าที่จะตาย

''ความเดือดร้อน... ?'' มารเอ่ยขึ้นและหัวเราะเบา ๆ ''ก็เพราะมีข้ามิใช่รึไง... โพรโทเนี่ยนจึงเดือดร้อน มันเป็นวัฏจักรของสิ่งมีชีวิตที่มีวิญญาณทุกตน ความสุข ความทุกข์ และความตาย !!''

''หากทวยเทพ พยาดาทั้งหลายคือความหวัง หากความหวังของมวลมนุษย์คือความสุข... เช่นนั้นตัวข้าก็คือหายนะของพวกมัน คือความตาย !!''

''งั้นเจ้าก็จะตาย... ด้วยความหวังของมวลมนุษย์ !! เจ้าจะตายจากการลงทัณฑ์ของเทพ !!'' ชายหนุ่มตะโกนขึ้นด้วยความไม่ยอมแพ้ต่อมวลมนุษย์

''หึหึหึ !! ฮ่าฮ่าฮ่า !! เทพ... แม้นแต่พระเจ้าก็สยบภายใต้เพลิงแห่งข้า แล้วจะให้มันมาลงทัณฑ์ข้ารึไง ? ข้าตะหากที่จะลงทัณฑ์พวกมันและโลกอันโสโครกใบนี้ !!'' มารตอบกลับเป็นการเย้ยหยันต่อชายหนุ่มผู้ไม่รู้จักความย่อท้อ

''หากเจ้าห่วงว่าข้าจะทำอะไร... ข้าก็จะให้เจ้าอยู่เห็นดาวดวงนี้ถึงกาลอวศาลภายในตัวข้า !! เจ้าจะได้ทนทุกข์ยิ่งกว่านรกหลายขุม และสิ่งที่จะเฉือนวิญญาณของเจ้าจนเจียนตายคือจุดจบของโพรโตเนี่ยน... แต่เจ้าจะไม่ตายหรอกแม้หวังที่จะตายก็ตามที เพราะเจ้าจะต้องอยู่ดูความทรมาณภายในกายของข้าชั่วนิรันดร์ !!''

ว่าแล้วอสูรตนนั้นก็กำใบหน้าของชายหนุ่มคนนั้น ร่างกายของเขาเริ่มถูกแผดเผาด้วยไฟแห่งนิรันดร์จนมลายหายไปเหลือเพียงวิญญาณหลงทางที่พยายามหนีไปจากยมบาลเท่านั้น แต่แล้ววิญญาณนั้นก็ไหลซึมเข้าไปในร่างของอสูร แม้แต่วิญญาณที่ตายไปแล้วยังร้องด้วยความทรมาณที่ถูกกลืนกิน เสียงแห่งวิญญาณหายไปด้วยความโศกเศร้าเหลือทิ้งไว้แค่ดาบแห่งสายฟ้าเท่านั้น แต่เพลิงแห่งความชั่วร้าย เพลิงแห่งความพิโรธที่จะทำลายดวงดาวใบนี้ยังอยู่ ชั่วพริบตาก็ได้มีควันดำที่บ่งบอกถึงความชั่วร้ายปรากฏอยู่หลังของปีศาจ ปรากฏเป็นหมอผีปีศาจตนนึงใส่ชุดสีดำเข้มและมีเส้นเขียวตัดตลอดชุดของเขา

''นายท่าน...'' หมอผีตนนั้นเอ่ยขึ้นมา

''เตรียมคาถาแห่งบาปเสร็จสิ้นหรือยัง ?'' อสูรตนนั้นเอ่ยถามต่อผู้เป็นน้อย

''เสร็จสิ้นแล้วครับ...'' หมอผีปีศาจตอบด้วยเสียงสั่นอย่างเห็นได้ชัด แม้นแต่ผู้ทรงเวทย์แห่งบาปยังแสดงถึงความกลัวต่อปีศาจ ราวกับว่ารับรู้ถึงปีศาจตนนี้ว่ามันอยู่คู่เพียงแต่บาปเท่านั้น

''ดี...'' ปีศาจตนนั้นเอ่ยตอบรับและก้าวผีเท้าของตนไปยังผามรกต เขายืนจ้องความมืดมิดที่ไร้ที่สิ้นสุด กลุ่มเมฆที่ปลกคลุมแสงจันทร์ได้จางหายไปแต่จันทรากลับกลายเป็นสีแดงฉานราวกับถูกเลือดของมวลมนุษย์ราดไปทั่วผืนแผ่นจันทร์ แสงสีแดงสาดส่องทำให้ค่ำคืนนี้กลายเป็นคืนที่น่ากลัว แต่แสงของจันทราที่ว่าแรงกล้าก็ยังมิอาจสู้แสงแห่งเพลิงของมารตนนี้ได้



Cataclysm : Prologue 111nygl



''เมื่อไหร่ก็ตามที่ข้าเดินทางไปถึงซินโดร่า สกรีม เมื่อนั้นพวกมวลมนุษย์โง่เขลาจะได้รับความเจ็บปวด... ความทรมาณ !! และพวกมันจะคุกเข่าร้องขอความเมตตาจากข้า !!''


''ข้าคือความเจ็บปวด.... ความคือความทรมาณ... ข้าคือความทุกข์ของพวกมัน !!''


''ข้าคือไซอาลอท ข้าคือหายนะของโพรโตเนี่ยน !!''





''I'm the.... !!''




Cataclysm : Prologue 2dum1si
ขึ้นไปข้างบน Go down
https://www.facebook.com/BillAlfenolf
 
Cataclysm : Prologue
ขึ้นไปข้างบน 
หน้า 1 จาก 1
 Similar topics
-
» Cataclysm: The Endless Hellfire Prologue + รับสมัคร
» A.I. : Prologue
» ??? : Prologue
» รับสมัครตัวละครนิยาย "Warzone" + Prologue
» Genesis : The Prologue

Permissions in this forum:คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
Bloody Wrestling Online :: BWO : Special Event :: BWO Novel-
ไปที่: