Time Remaining 9:50
Erika 50 - 50 Mineเอริกะซึ่งสติแตกไปชั่วขณะเริ่มรวบรวมสติกลับคืนมาได้เมื่อรู้ว่าตนเองก็ไม่ได้เสียเปรียบไปซะทีเดียว เพราะมิเนะยังต้องรับมือกับร่างแยกที่เกิดจากคำสาปซึ่งดูยังไงๆเธอคนเดียวไม่น่าจะรับมือได้ไปจนครบกำหนดเวลา แถมหากกำจัดร่างแยกของตัวเองยังจะทำให้ค่าพลังชีวิตลดลงไปอีก
“ยังไงหล่อนก็โดนร่างแยกกระทืบตายก่อนอยู่ดีล่ะน่า! เอาล่ะ... เหล่าร่างเงาทั้งหลายจงออกมา!!”
จากนั้นรอบๆตัวมิเนะก็เหมือนมีกระจกเงาหลายบานที่ทำให้มองเห็นเพียงแค่เงาสะท้อนของตัวเองเต็มไปหมด เพียงแต่เงาเหล่านั้นกลับไม่ได้ขยับตัวตามเจ้าของเงาดั่งเช่นปกติ เงาสะท้อนเหล่านั้นจ้องมองมิเนะด้วยสายตาอำมหิต ทั้งๆที่เธอเป็นเจ้าของเงาพวกนั้นเองแท้ๆ
“ค่าพลังชีวิตของหล่อนมีอยู่ห้าสิบ ดังนั้นร่างแยกของหล่อนก็จะถูกสร้างทั้งหมดห้าสิบตัว”
ร่างแยกพวกนั้นเริ่มทะลุตัวออกมาจากกระจกเงา หน้าตาของพวกมันเหมือนมิเนะอย่างกับแกะ จนตอนนี้ดูแทบไม่ออกแล้วว่าเจ้าของร่างแยกตัวจริงนั้นอยู่ไหนกันแน่ แม้ไม่รู้ว่าพวกมันมีครบห้าสิบตัวอย่างที่ว่าหรือเปล่า แต่แค่นี้ก็รอดยากแล้ว
“และขอใช้การ์ด HP Boost”
อายาโตะพูดขึ้นมาบ้างแล้วจัดการใช้การ์ดเพื่อทำให้ค่าพลังชีวิตของเอริกะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
มิเนะกวาดสายตามองไปรอบๆอย่างใจเย็น เหล่าร่างเงากระหายเลือดยังคงจ้องเธอแต่ยังไม่เข้าจู่โจมในทันที เช่นเดียวกับมิเนะก็ไม่จู่โจมก่อน เพราะเธอตระหนักไว้แล้วว่าการกำจัดร่างเงาพวกนั้นจะทำให้เธอบาดเจ็บไปด้วย
แต่แล้วก็เกิดแรงระเบิดขึ้นอย่างฉับพลันพร้อมๆกับมิเนะที่กลิ้งตัวหลบแรงระเบิดได้อย่างเฉียดฉิว ทั้งๆที่ยังไม่เห็นเลยด้วยซ้ำว่าระเบิดนั้นมาจากไหน ที่แน่ๆคือมาจากหนึ่งในร่างเงาของมิเนะแน่นอน แต่เธอก็ยังไหวตัวหลบได้ทันอย่างเหลือเชื่อ คงเพราะว่ายังไงร่างเงาพวกนั้นก็คือตัวเธอเองนั่นแหละ ในเมื่อเป็นตัวเองก็ย่อมรู้ทางตัวเองเป็นธรรมดา
เสียงระเบิดนั้นเหมือนเป็นการนำร่องให้ร่างเงาตัวอื่นเริ่มกรูเข้ามาโจมตี ความจริงมันก็ทำให้ร่างเงาตัวอื่นๆถูกทำลายไปด้วย แต่เพราะไม่ได้เป็นการฆ่าจากฝีมือของมิเนะเธอจึงไม่เป็นอะไร แต่ถึงกระนั้นร่างเงาก็ออกมาเพิ่มขึ้นจนกลับมาเป็นห้าสิบตัวเท่าเดิมเพราะค่าพลังชีวิตของมิเนะนั้นยังคงอยู่ที่ห้าสิบ
Time Remaining 9:00
Erika 65 - 50 Mineเอริกะเริ่มยิ้มออกมาบ้างกับสิ่งที่เห็น แต่เมื่อเหลือบมองไปยังตัวเลขสี่มิติที่อยู่บนศีรษะก็แอบหวั่นใจ ตอนนี้เวลาเพิ่งหมดไปแค่หนึ่งนาที แม้จะค่อนข้างแน่ใจว่าน้ำน้อยย่อมแพ้ไฟ แต่เธอก็ประมาทไม่ได้ ด้วยค่าพลังที่ลดลงจนต่ำสุดของเธอโดนซัดแรงๆสักทีสองทีก็ไม่น่าจะรอดแล้ว เธอจึงทำได้แค่ภาวนาให้ร่างเงาพวกนั้นรีบจัดการมิเนะโดยเร็วที่สุด รวมทั้งถ่วงเวลาให้มากที่สุดเพื่อกักตุนค่าพลังชีวิตให้มากเข้าไว้
ด้านมิเนะที่กำลังผจญกับร่างเงาของตนได้พยายามใช้การต่อสู้ในระยะประชิดตอบโต้ เพราะการจู่โจมในลักษณะดังกล่าวไม่ทำให้ถึงตาย หนึ่งในร่างเงาใช้ระเบิดแฟลชทำให้มิเนะต้องเบือนหน้าหนี เมื่อเธอหันกลับมาก็ถูกร่างเงาส่งหมัดตรงเข้าใส่ มิเนะจับหมัดนั้นไว้อย่างเฉียดฉิวพร้อมเหวี่ยงร่างเงานั้นไปรอบๆ ส่งผลให้ร่างเงาอื่นๆที่อยู่ใกล้ต่างล้มระเนระนาด
“พยายามได้ดีนี่”
เอริกะกล่าวชม ก็ไม่รู้ว่าเป็นการชมจากใจจริงหรือเป็นการเล่นจิตวิทยา มิเนะไม่สนใจนักแล้วมองเหล่าร่างเงาที่เริ่มลุกขึ้นมา ค่าพลังชีวิตของมิเนะยังอยู่เท่าเดิม นั่นหมายความว่ายังไม่มีร่างเงาตัวไหนถูกเธอกำจัด
“กดดันสุดๆไปเลยนะครับ ถูกรุมโจมตีแถมยังตอบโต้ไม่ได้อีก คงมีทางเดียวคือต้องหาทางหยุดร่างแยกพวกนั้นให้ได้โดยที่ไม่ต้องกำจัด”
“วิเคราะห์สถานการณ์เก่งเหมือนกันนี่มัคกี้ ก็อย่างที่นายว่านั่นแหละ ฝั่งซุมิเระต้องหาทางหยุดการจู่โจมของร่างแยกตัวเองโดยที่ต้องไม่ทำลายร่างแยกพวกนั้น แต่จะทำยังไงฉันก็ไม่แน่ใจนักเหมือนกัน”
“หรือไม่ก็ต้องเข้าจู่โจมที่ตัวเอริกะโดยตรงสินะครับ”
“เรื่องที่จะเข้าโจมตีเอริกะน่ะมันเป็นสิ่งที่ควรทำอย่างยิ่งเลยล่ะ เพราะค่าพลังของเธอตอนนี้ต่างลดลงต่ำสุด แต่ลำพังแค่ลุยกับพวกร่างแยกอย่างเดียวก็จะไม่ไหวอยู่แล้ว พูดตรงๆนะ เท่าที่ฉันเห็นในการประลองแต่ละครั้งของท่านเท็ตสึยะ ฉันยังไม่เคยเห็นใครรอดจากคำสาปนี้สักคน มันเป็นคำสาปสั่งตายดีๆนี่ละ โดนยังไงก็ไม่รอดแน่นอน”
เมื่อเห็นเหล่าร่างเงาเริ่มลุกขึ้นมา มิเนะคว้าระเบิดขึ้นมาจำนวนหนึ่ง นั่นทำให้เอริกะขมวดคิ้ว ทั้งๆที่รู้ว่าหากทำลายร่างเงาพวกนั้นจะทำให้ตัวเองต้องบาดเจ็บ
“เธอบอกว่าถ้ากำจัดร่างแยกพวกนี้จะทำให้ค่าพลังชีวิตของฉันลดลงใช่ไหม?”
“กะ... ก็ตามนั้น”
“ถ้างั้น ก็แค่ไม่ฆ่าทิ้งก็พอสินะ”
เมื่อพูดจบมิเนะก็ปาระเบิดที่อยู่ในมือท่ามกลางความตกตะลึงของทุกๆคนที่อยู่ในการประลอง ดูจากจำนวนระเบิดแล้วแรงระเบิดที่เกิดขึ้นน่าจะพอสมควร ซึ่งแน่นอนมันน่าจะกำจัดร่างเงาได้จำนวนหนึ่ง แล้วมิเนะทำแบบนั้นเพื่ออะไรเมื่อรู้ดีว่ามันจะส่งผลเสียแก่เธอเสียเอง
นอกเสียจากว่ามันจะไม่ใช่ระเบิดทำลายล้าง...
และมันก็เป็นแบบนั้นจริงๆ
เมื่อระเบิดเหล่านั้นตกถึงพื้น สิ่งที่ระเบิดออกมากลับเป็นลักษณะคล้ายกับเมือกสีขาวกระจายไปทั่วบริเวณ เหล่าร่างเงาต่างเลอะเมือกสีขาวที่ว่าตามร่างกาย ดูเหมือนมันจะยังไม่มีอันตรายใดๆเพราะทำให้ร่างเงาเหล่านั้นแค่มองดูรอบตัวด้วยความสงสัย ถ้ามันอันตรายพวกนั้นคงร้องระงมด้วยความเจ็บปวดไปแล้ว แต่เสียงเจ็บปวดนั้นแทนที่ด้วยเสียงบ่นพึมพำด้วยความสงสัยในสสารประหลาดที่ติดอยู่ตามร่างกาย
“อะไรน่ะ?”
แม้เอริกะเองก็แปลกใจ พอพวกร่างเงารู้ว่าตัวเองไม่เป็นอะไรก็เริ่มที่จะเคลื่อนที่เพื่อจู่โจมมิเนะอีกครั้ง แต่ช่วงขาของพวกมันที่ถูกปกคลุมไปด้วยเมือกสีขาวกลับขยับไม่ได้ราวกับติดอยู่ในบ่อโคลน พวกมันพยายามที่จะดึงขาออกมาก็ไม่เป็นผล
จากนั้นร่างเงาแต่ละตัวก็เริ่มล้มหน้าคว่ำเพราะฝืนขยับตัวในขณะช่วงล่างถูกยึดไว้อยู่ เมื่อทั้งร่างกายล้มลงสัมผัสกับเมือกสีขาวเหล่านั้นแล้วพวกมันก็ลุกไม่ขึ้นอีกเลย
“นั่นมัน? หรือว่า...”
“ระเบิดกาวยังไงล่ะ”
มิเนะเฉลยโดยไม่รอให้เอริกะถาม
“มือระเบิดอย่างฉันมีระเบิดหลากหลายชนิดกว่าที่เธอคิดนะ ระเบิดกาวพวกนี้จะตรึงร่างผู้เคราะห์ร้ายไม่ให้ขยับไปไหนได้ แต่จะไม่เป็นอันตรายใดๆนอกจากหยุดการเคลื่อนไหวเท่านั้น ในเมื่อห้ามฆ่า ก็แค่อย่าให้มันทำอะไรฉันได้ก็พอ”
ว่าแล้วมิเนะก็พุ่งตัวผ่านเหล่าร่างเงาที่ถูกพันธนาการด้วยสสารเหนียวหนึบข้นคลั่กไปหาเอริกะที่พยายามถอยหนีแต่ก็จนมุมในเวลาไม่นานเพราะข้างหลังถูกปกคลุมด้วยม่านพลังงาน
“ถึงกาวมันจะอยู่ได้ไม่นาน แต่เวลาแค่นั้นก็พอแล้วที่จะให้ฉันซัดหล่อนจนตายก่อนสิบนาที!”
มิเนะปล่อยหมัดใส่เอริกะ คาดว่าที่เธอไม่ใช้ระเบิดเพราะกลัวว่ามันอาจจะไปโดนเหล่าร่างเงาที่ถูกตรึงร่างอยู่ก็ได้ หมัดนั้นไปโดนม่านพลังงานเพราะเอริกะเบี่ยงตัวหลบได้ทัน แต่ก็เป็นการหลบที่ฉิวเฉียดเอามากๆเรียกได้ว่าช้าไปแค่เสี้ยววินาทีคงไม่รอด
มิเนะไม่รอช้าจัดการโจมตีชุดต่อไปทันที คราวนี้เอริกะต้องยกแขนขึ้นมาป้องกันเพราะมันหลบไม่ทันจริงๆ ไม่น่าเชื่อว่าแค่หมัดธรรมดาๆ ทำให้เอริกะถึงกับการ์ดแตกจนเกือบทรุดลงไปกอง
“เจ็บชะมัด! ค่าพลังป้องกันของเรา...”
Time Remaining 6:50
Erika 53 - 50 Mineนอกจากจะทำให้บาดเจ็บยังทำให้พลังชีวิตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆหยุดลงเพราะถูกโจมตีอีกต่างหาก เพราะปกติคำสาปนี้เหยื่อมักถูกร่างเงาของตัวเองรุมจนแทบทำอะไรไม่ได้ เอริกะจึงไม่เคยเจอปัญหาแบบนี้ นี่คงเป็นครั้งแรกที่เธอถูกเข้าจู่โจมในสภาพที่ไม่ต่างอะไรกับกระสอบทรายดีๆนี่เอง
เอริกะรีบลุกขึ้นก่อนที่จะถูกโจมตีซ้ำ แต่มิเนะก็เข้ามาได้ทันแล้วจัดการเตะเข้าที่ปลายคาง เอริกะถึงกับลอยคว้างกลางอากาศแล้วตกลงมา อายาโตะไม่รอช้าใช้การ์ดเพิ่มพลังชีวิตเอริกะให้กลับมาเต็มโดยไม่ต้องรอให้อีกฝ่ายร้องขอ แต่แล้วค่าพลังชีวิตก็ลดลงฮวบอีกเมื่อเอริกะถูกมิเนะลากคอขึ้นมาแล้วเหวี่ยงเข้าใส่ม่านพลังงานอย่างแรง
“บ้าเอ้ย... การ์ดเพิ่มการหลบหลีกก็ใช้ไปแล้ว การ์ดเพิ่มพลังชีวิตก็ใบสุดท้ายแล้วด้วย...”
อายาโตะพึมพำด้วยความเจ็บใจ ภาพที่เห็นตรงหน้าถ้าว่ากันตรงๆมันกลับดูโหดร้ายชอบกล ทั้งๆที่มิเนะก็ถูกเล่นงานด้วยคำสาปสารพัดของเอริกะมาหนักยิ่งกว่า แต่กลับดูไม่น่าสงสารเท่าเอริกะที่ถูกอัดอยู่ฝ่ายเดียวอย่างไร้ทางสู้ในตอนนี้ จะให้พูดว่าเป็นผลกรรมที่ตามมาของจอมเวทสาวก็คงไม่ผิดนัก
Time Remaining 4:20
Erika 71 - 50 Mineมิเนะกระชากคอเอริกะที่ล้มลงแล้วผลักไปติดกับม่านพลังงานพร้อมยกร่างของเอริกะขึ้นจนตัวลอยจากพื่น ใบหน้าที่บูดเบี้ยวของเอริกะแสดงให้เห็นถึงความเจ็บปวดแสนสาหัส ขาทั้งสองข้างของเธอตะเกียกตะกายไปมาดูน่าเวทนา
“หมดยุคของไสยศาสตร์แล้ว”
มิเนะยิ้มเยาะพร้อมหยิบระเบิดขึ้นมาหนึ่งลูกแล้วดึงสลักออก ท่าทางเธอจะไม่สนใจแล้วว่ามันจะไปโดนร่างเงาของเธอเองหรือเปล่า เพราะถ้าหากระเบิดลูกนี้สร้างความเสียหายแก่เอริกะได้เต็มๆล่ะก็คงจะจบเกมได้ไม่ยาก
“ลาก่อน”
มิเนะพยายามนำระเบิดที่ถูกดึงสลักยัดเข้าใส่ในปากของเอริกะที่พยายามจะขัดขืนเต็มที่ แต่เพราะมืออีกข้างของมิเนะที่คว้าคอเธออยู่มันคงทำให้หายใจไม่ออก เอริกะจึงต้องอ้าปากเพื่อรับออกซิเจนอย่างช่วยไม่ได้ ลิ้นของเธอเริ่มรับรสชาติแปลกๆที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน เหมือนเป็นกลิ่นเหม็นๆของเหล็กหรือสนิม ซึ่งเป็นความรู้สึกที่ยืนยันได้ว่าระเบิดมรณะน่าจะเข้าไปอยู่ในปากของเธอแทนอาหารมื้อเทียงเป็นที่เรียบร้อย
เมื่อเป็นเช่นนั้น เอริกะก็ทำได้แค่หลับตาเตรียมรับชะตากรรม
ตูม!!!เอริกะได้ยินเสียงระเบิดดังสนั่นเต็มสองหูอย่างชัดเจน แต่ทำไมเธอกลับไม่รู้สึกอะไร ด้วยความสงสัยเธอจึงลืมตาขึ้น และคำตอบนั้นก็อยู่ตรงหน้า
มิเนะที่อยู่ตรงหน้าเธอหายไปเสียแล้ว เพราะร่างเงาของมิเนะหลุดพ้นจากพันธนาการได้แล้วเข้ามาขัดขวาง นั่นทำให้ระเบิดถูกเบนเป้าหมายและมันก็ไปโดนร่างเงาตัวอื่นๆที่อยู่บริเวณนั้นแทน
ไม่นานนักมิเนะตัวจริงก็ปรากฏขึ้นท่ามกลางร่างเงาที่กระเด็นไปคนละทิศละทาง ซึ่งนั่นคงหนีไม่พ้นฝีมือของเธอแน่นอน
Time Remaining 3:50
Erika 71 - 39 Mineเหลือเวลาอีกสามนาทีกว่าๆกับพลังชีวิตของมิเนะที่ลดไปพอสมควร นั่นหมายความว่าจำนวนร่างเงาของมิเนะก็ต้องลดลงไปด้วยเช่นเดียวกัน สายตาของมิเนะบ่งบอกถึงความเสียดายอย่างมากเพราะอีกแค่นิดเดียวเท่านั้นเธอก็จะชนะแล้ว
ร่างเงาที่ยังเหลืออยู่พุ่งเข้าจู่โจมมิเนะ เธอใช้ทั้งหมัดและเท้าสวนกลับใส่พวกนั้น และดูท่าจะมีบางตัวที่ทนพิษบาดแผลไม่ไหวสลายไปเพราะค่าพลังชีวิตของมิเนะนั้นลดลง แม้จะถูกโจมตีจากศัตรูจากรอบกาย แต่สายตาของเธอไม่ได้มองไปที่ศัตรูเลย กลับมองไปที่เป้าหมายที่แท้จริงอย่างเอริกะ จากการจู่โจมเอริกะแบบตรงๆแสดงให้เห็นแล้วว่าเป็นกลยุทธ์ที่ได้ผลที่สุด แต่คำถามคือมิเนะจะทำอย่างนั้นได้อีกครั้งหรือเปล่า
เอริกะได้แต่ยืนสั่นระริก เม็ดเหงื่อผุดขึ้นตามใบหน้าและร่างกาย การถูกโจมตีอย่างหนักคงทำให้เธอขวัญเสียพอสมควร เทียบกับช่วงแรกแล้วเหมือนกับหนังคนละม้วน จากจอมเวทสาวผู้มีเวทมนตร์ดำอันร้ายกาจและน่ากลัวกำลังจะกลายเป็นแค่ผู้หญิงที่แต่งชุดคอสเพลย์เป็นแม่มดเท่านั้น
“เอริกะ ทำใจดีๆไว้”
อายาโตะพยายามพูดปลอบใจ ความจริงเขาคงอยากจะเข้าไปอยู่ข้างๆแต่คงทำไม่ได้ในตอนนี้ ร่างเงาของมิเนะช่วยถ่วงเวลาไว้อย่างเต็มที่ คงจะพอซื้อเวลาให้สภาพจิตใจของเอริกะกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้บ้าง
“เกะกะชะมัด!”
มิเนะพูดขึ้นด้วยความรำคาญ ในขณะที่ใช้เท้าเตะร่างเงากระเด็นออกไปตัวหนึ่ง เธอไม่รอช้าขว้างระเบิดตามไปด้วยทันที นั่นทำให้ร่างเงาถูกกำจัดไปอีกส่วนหนึ่ง ค่าพลังชีวิตของมิเนะลดไปมากตามจำนวนร่างเงาที่ถูกกำจัด แต่เธอคงไม่แคร์แล้ว
เมื่อเปิดทางได้พอสมควร มือระเบิดสาวก็เดินเข้าหาเป้าหมายที่แท้จริงของตนอย่างช้าๆ เอริกะซัดสายฟ้าใส่มิเนะ ฝ่ายที่ถูกจู่โจมแทบไม่รู้สึกอะไรเลยสักนิด สายฟ้าอีกจำนวนมากถูกซัดเข้าใส่เป้าหมายอย่างต่อเนื่อง มิเนะไม่คิดแม้แต่จะหลบเพราะรู้ว่ามันไม่เป็นอันตราย แต่เมื่อโดนบ่อยๆเข้าก็เริ่มทำให้รู้สึกอะไรบ้าง เธอจึงไม่ชักช้าพุ่งเข้าไปจู่โจมในระยะใกล้เช่นเคย
คราวนี้หมัดของมิเนะไปกระทบกับคลื่นน้ำที่เอริกะกางขึ้นมาเป็นเกราะกำบังไว้ เพียงหมัดเดียวเกราะกำบังก็แตกร้าวอย่างรวดเร็ว จอมเวทสาวไม่ยอมแพ้พยายามรีดพลังเวทที่มีอยู่ออกมากางเกราะป้องกันขึ้นมาเสริมอีกครั้ง นั่นทำให้มิเนะยิ่งเพิ่มความถี่ของหมัดมากไปอีก
ด้วยพลังด้านต่างๆที่อ่อนแอทำให้เกราะกำบังนั้นแตกสลายในเวลาไม่นาน คราวนี้หมัดดังกล่าวกระทบเข้ากับหน้าของเอริกะแทน ร่างของเธอปลิวว่อนราวกับขนนก ยังไม่ทันที่ร่างของเอริกะจะตกถึงพื้น มือระเบิดจอมโหดก็คว้าขาข้างซ้ายของเธอแล้วเหวี่ยงสุดแรง ทำให้ร่างของเอริกะที่ตกกระทบพื้นรุนแรงกว่าที่มันควรจะเป็น บังเกิดเสียงโครมครามพร้อมร่องรอยการแตกร้าวของพื้นบริเวณนั้น
ร่างของเอริกะที่จมอยู่ในพื้นดินพยายามที่จะขยับตัว มิเนะเดินมาพร้อมระเบิดคู่ใจมองดูร่างของเอริกะที่จมอยู่ในพื้นดินราวกับว่านั่นเป็นหลุมศพของเธอ ระเบิดในมือของมิเนะถูกดึงสลัก เตรียมจะเผด็จศึก
แต่แล้วร่างเงาที่ยังคงมีแรงสู้พุ่งเข้ามาขัดขวางอีกครั้ง มิเนะจึงไม่มีทางเลือกใช้ระเบิดในมือกับตัวน่ารำคาญแทน ร่างเงาสลายไปจนเกือบจะหมด เท่ากับว่าพลังชีวิตของมิเนะก็ใกล้จะหมดเช่นกัน ร่างเงาทีเหลือรอดถูกตรึงด้วยระเบิดกาวของมิเนะอีกครั้ง
เมื่อจัดการกับตัวน่ารำคาญเสร็จมิเนะก็หันกลับไป พบว่าเอริกะนั้นลุกขึ้นมายืนด้วยขาทั้งสองข้างแม้ร่างกายจะสะบัดสะบอมเต็มทน
Time Remaining 0:30
Erika 30 - 5 Mine“ไม่ต้องรีบร้อนอะไรหรอก... ใกล้จะได้ผลการตัดสินแล้ว”
มิเนะกล่าวพร้อมหยิบระเบิดที่คงจะเป็นชุดสุดท้ายของการต่อสู้ครั้งนี้ พลางเหลือบมองเวลาที่เหลืออยู่แค่สามสิบวินาทีและนับถอยหลังลงไปเรื่อยๆ
“ไม่คิดเลยนะว่าเวลาจะผ่านล่วงเลยมาจนถึงตอนนี้”
“ความจริง นั่นควรจะเป็นคำพูดของฉันนะ”
เอริกะเริ่มกลับมาช่างจ้อเหมือนเดิมหลังจากที่ดูหลุดไปมาก ถึงสภาพร่างกายจะยังแย่ แต่สภาพจิตใจของเธอน่าจะกลับมาเต็มร้อยแล้ว เอริกะกางแขนทั้งสองข้างออก พลังสายฟ้าไหลจากร่างกายแทบทุกส่วนไปรวมอยู่บนมือทั้งสองข้าง เธอคงเค้นพลังเวทที่มีทั้งหมดมารวบรวมเพื่อใช้โจมตีครั้งสุดท้าย ค่าพลังชีวิตของมิเนะเองก็เหลือน้อย พลังเวทที่ถูกรวบรวมน่าจะเพียงพอแล้ว
มิเนะเองก็ดึงสลักให้กับระเบิดทุกลูกเตรียมพร้อม พลังเวทของเอริกะก็น่าจะพร้อมแล้วเช่นกัน รอยยิ้มเริ่มปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าของทั้งสองฝ่าย เป็นรอยยิ้มที่สื่อความหมายอะไรได้หลายอย่าง
ก่อนที่ทั้งคู่ก็ต่างใช้อาวุธในมือจู่โจมเข้าใส่ในขณะที่เวลาเหลืออีกเพียงแค่หนึ่งวินาที
เปรี้ยง!!!! ตูม!!!!เกิดโทนเสียงที่ต่างกันดังสนั่นสองครั้งติดๆ เกิดทั้งควันและแสงจ้าแสบตาจนทำให้ทุกคนต้องหรี่ตามอง ไม่ว่าใครก็ต่างรอดูผลการต่อสู้ที่กำลังจะออกมา ทุกคนยังมองไม่เห็นมันตราบใดที่ควันยังไม่จางลงไป
หลังจากเฝ้ามองดูอย่างใจจดใจจ่อ ซุมิเระก็ยิ้มกว้างเมื่อมองเห็นค่าพลังชีวิตของเอริกะที่เหลือศูนย์หลังจากควันจางลง
แต่ก็ต้องหุบยิ้มแทบจะทันทีเมื่อค่าพลังชีวิตของมิเนะก็เหลือศูนย์เช่นกัน
“สะ... เสมองั้นหรอ”
ทุกคนแทบจะพูดออกมาเป็นเสียงเดียวกันกับสิ่งที่เห็น ตัวอักษรสี่มิติที่ขึ้นมาว่า ‘เสมอ’ เป็นหลักฐานยืนยันชัดเจนว่าสิ่งที่ทุกคนพูดออกมานั้นไม่ผิด
ม่านพลังงานหายไปหลังจบการประลองอันดุเดือด เทรนเนอร์ทั้งสองฝ่ายเข้าไปดูอาการ AG ของตนเองที่สะบักสะบอมไม่แพ้กัน แต่ไม่ว่ายังไงการประลองไม่ได้ทำให้บาดเจ็บถึงชีวิต ทั้งสองฝ่ายจึงต่างลุกขึ้นมาได้อย่างง่ายดาย
“กะ... ก็ตามนั้นแหละนะ นายคงจะบอกว่าเสมอไม่นับงั้นล่ะสิ ช่างมันเถอะ ฉันจะปล่อยนายไปก็ได้ แต่ถ้านายทำแบบนี้อีกล่ะก็-”
“คุณประธาน”
อายาโตะคว้ามือเรียวบ้างของซุมิเระขึ้นมาโดยที่เธอไม่ทันตั้งตัว
“เป็นการประลองที่ดีมาก ผมดีใจจริงๆที่ได้ประลองกับคุณ”
“จะ... จู่ๆพูดอะไรของนาย”
ใบหน้าของซุมิเระแดงก่ำทันทีตามธรรมชาติของผู้หญิง มีผู้ชายหล่อๆอยู่ใกล้ๆแถมยังถึงเนื้อถึงตัวแบบนี้มันก็ต้องมีความรู้สึกเขินอายกันบ้าง
“พอผมมองคุณดีๆแล้ว... คุณประธาน ไม่สิ... คุณซุมิเระ”
ด้วยเสียงอันไพเราะราวกับเทพบุตร ซุมิเระก็ซุมิเระเถอะ เธอตกอยู่ในภวังค์ชั่วขณะ รู้สึกเหมือนตัวเองสวมชุดเจ้าหญิงอยู่ท่ามกลางสวนดอกไม้แสนสวยงาม พร้อมเจ้าชายรูปหล่อที่อยู่ตรงหน้า ใบหน้าขององค์ชายรูปงามอยู่ใกล้จนแทบได้ยินเสียงลมหายใจ
“ดะ... เดี๋ยวสิ ฉันยังไม่ได้-”
“แบนสุดๆไปเลยแฮะ”
สวนดอกไม้แทบจะเหี่ยวเฉาลงไปทันใด ก่อนที่จะถูกพลังวีนแตกที่ระเบิดออกมาจากตัวซุมิเระแผดเผาจนเหี้ยนเมื่อได้ยินคำพูดต้องห้าม อายาโตะปล่อยมือซุมิเระสลัดมาดเจ้าชายกลายเป็นมังกรหนุ่มจอมกวนเหมือนเดิม พร้อมรอยยิ้มยียวนชวนหมั่นไส้
“กะ กะ กะ แก!! ไอ้บ้า!! ไอ้โรคจิต!! ฉันจะ-”
“พักเที่ยงใกล้หมดแล้ว ผมไปเดินชมโรงเรียนต่ออีกหน่อยดีกว่า แล้วเจอกันนะ สาวเขียง”
“เอ๋? สาวเขียงหรอ? หา! นี่นายว่าหน้าอกฉันแบนเหมือนเขียงหรอ! กลับมาเดี๋ยวนี้นะไอ้โรคจิต!!”
อายาโตะโบกมือด้วยท่าทียียวนแล้วเดินจากไปพร้อมกับเอริกะท่ามกลางเสียงวีนของประธานสภานักเรียน สงสัยทั้งคู่คงจะกลายเป็นคู่กัดกันอย่างเต็มตัวไปซะแล้ว หลังจากซายูริส่งสายตาหวานเยิ้มให้กับอายาโตะจนเดินลับตา เธอก็เดินเข้าไปหาเพื่อนสนิทที่ยังควันออกหูพร้อมกับมาคิโนะ
“ไง ทำได้ไม่เลวเลยนะ”
“ให้ตายสิ... ทั้งๆที่ตอนแรกใจเต้นแทบแย่”
“อะไรนะ?”
“เปล่าไม่มีอะไร ฉันไปละ เตรียมตัวเข้าห้องเรียนได้แล้วนะ”
ซุมิเระเดินจากไปอย่างรวดเร็วโดยที่มิเนะเองก็เดินตามหลังไป ซายูริเอียงคอสงสัยแล้วมองตามอย่างงงๆ ก่อนที่จะหันกลับไปมองมาคิโนะที่ก็งงไม่แพ้กัน
----------------------------------------------------
อายาโตะเดินทอดน่องพร้อมฮัมเพลงอย่างอารมณ์ดี เอริกะนั้นถูกเขาส่งกลับบ้านไปพักผ่อนก่อนหน้านี้แล้ว ส่วนเขาเองยังต้องอยู่ที่โรงเรียนนี้ต่อ เวลาพักเที่ยงก็เหลืออยู่ไม่มาก อีกไม่นานคงใกล้เวลาเข้าเรียนแล้ว
“โอ๊ะ!”
ระหว่างที่คิดอะไรเพลินๆใครบางคนก็เดินสวนทางมาแล้วชนเข้าที่บริเวณหัวไหล่ บุคคลที่เดินชนหันมาทำท่าจะขอโทษแต่กลับชะงักเล็กน้อยแล้วเดินหนีไปทันทีอย่างเสียมารยาท อายาโตะมองตามบุคคลนั้นพร้อมขมวดคิ้วเหมือนพยายามนึกอะไรบางอย่าง ก่อนที่จะร้องทักออกไป
“ไม่คิดจะทักทายคนเคยรู้จักกันหน่อยหรอครับ? คุณชิโร่ คาซามิ”
ผู้ที่เพิ่งกระทำการเสียมารยาทหยุดฝีเท้าทันทีเมื่อถูกเรียกชื่อแต่ก็ยังไม่หันกลับไป
“หืม... ดูเปลี่ยนไปเยอะเลยนะครับ ถ้าเมื่อก่อนนี่เห็นหน้าผมทีร้องขอรีแมตช์กับผมเป็นเด็กน้อยเลยนะ ตอนนี้ผมก็ว่างๆอยู่ จะมาประลองกับผมไหมล่ะ เดี๋ยวผมไปตามเอริกะมาให้ก็ได้นะ”
คาซามิยังคงไม่ตอบแม้กระทั่งไม่หันไปเผชิญหน้ากับผู้พูด อายาโตะเองก็มองแบบแปลกใจนิดๆคงเพราะเหมือนตัวเองพูดอยู่คนเดียว
“พวกเราสองคนก็เคยมีความทรงจำดีๆร่วมกันด้วยนี่ครับ ตอนที่เราสองคนประลองในการแข่งขันระดับเขตน่ะ เราสองคนน่าจะรำลึกถึงเรื่องนั้นแล้วมานั่งคุยกันอย่างสนุกสนานนะครับ”
หลังจากปล่อยให้อีกฝ่ายพูดอยู่นาน คาซามิก็หันไปเผชิญหน้าอายาโตะพร้อมส่งสายตาเย็นชาให้เขา รู้สึกว่าในช่วงที่อายาโตะพูดคำว่า “การแข่งขันระดับเขต” จะทำให้เขามีปฏิกิริยาบางอย่าง ความทรงจำดีๆที่ว่านั่นอาจจะดีสำหรับอายาโตะเพียงคนเดียว แต่สำหรับคาซามิแล้ว... มันคงจะเป็นความทรงจำอันแสนเลวร้ายที่เขาไม่อยากนึกถึงมันอีกเป็นครั้งที่สอง