“แซ่ก” เสียงของหน้ากระดาษถูกพลิกดังขึ้นมา
หญิงผมสีน้ำตาลทรงหางม้านั่งอยู่บนเก้าอี้ของเธอ เบื้องหน้าของเธอนั้นคือหนังสือ มันเป็นหนังสือที่ค่อนข้างหนา มันเป็นหนังสือประวัติศาสตร์ที่บอกเล่าเรื่องราวในอดีต มือของเธอนั้นเอื้อมไปยังขนมบิสกิตที่อยู่บนจานสีขาว เธอเอามันเข้าปากก่อนจะเคี้ยว ดวงตาของเธอยังจับจ้องไปยังตัวอักษรที่ถูกเขียนลงไปบนแผ่นกระดาษ เมื่อเธอเคี้ยวขนมจนละเอียดและกลืนมันลงไปแล้ว เธอใช้จับหูของถ้วยน้ำชา ก่อนจะยกจิบน้ำชา ซักพักนึงนั้นประตูห้องนี้ก็ถูกเปิดออก หญิงวัยชราในชุดคนใช้เข็นรถเข็นเข้ามา บนโต๊ะนั้นมีบิสกิตจำนวนหนึ่ง เช่นเดียวกันกับกาน้ำสีเงิน เธอเข็นมาใกล้ๆกับโต๊ะที่เด็กสาวคนนี้นั่งอยู่ก่อนจะรินน้ำชาลงไปในถ้วยของเธอ
“นี่ค่ะ คุณหนู” หญิงแก่คนนี้พูด
“ขอบใจมากนะ” หญิงทรงหางม้าตอบกลับด้วยรอยยิ้ม
“จะว่าไป คุณหนูโดรีนอ่านอะไรอยู่หรอคะ?” หญิงแก่คนนี้ถามเด็กสาวที่อยู่หน้าตัวเอง
“แค่ประวัติศาสตร์ของทวีปเราน่ะ” หญิงที่ชื่อโดรีนตอบกลับด้วยรอยยิ้ม
“งั้นหรอคะ ถ้างั้นดิชั้นขอตัวก่อนละกัน” หญิงชราโค้งให้ก่อนจะเข็นรถออกไป
โดรีนยังคงถูกมนต์สะกดจากหนังสือเล่มนี้อยู่ เธอหันไปมองออกไปนอกหน้าต่าง มันทำให้เธอเห็นสวนในบ้านของเธอ แม้มันจะเพียงไม่กี่วินาที แต่เธอเห็นอะไรบางอย่างตรงเข้าไปในพุ่ม โดรีนไม่แน่ใจว่าเธอตาฝาดรึเปล่า เธอพยายามคิดว่าเธอตาฝาดและพยายามจะอ่านหนังสือต่อ แต่สิ่งนั้นมันรบกวนใจของเธอ มันทำให้เธอลุกขึ้นจากเก้าอี้ของเธอ ก่อนจะเดินออกจากห้องสมุด เธอเดินอยู่ในทางเดินยาว ตลอดทางนั้นเธอเดินสวนกับคนใช้ที่คอยก้มโค้งให้กับเธอ หญิงผมสีน้ำตาลผู้นี้ยิ้มก่อนจะโบกมือให้กับพวกเธอ เธอเดินมาถึงสวนของเธอ
มันเต็มไปด้วยดอกไม้นานาชนิด เรียกได้ว่าดอกไม้เกือบทั่วภูมิภาคอยู่ในบ้านหลังนี้เกือบหมดแล้ว เธอเดินช้าๆอย่างระมัดระวัง เธอเดินตรงไปยังพุ่มที่เธอมองลงจากห้องสมุดของเธอ เธอยืนมอง มันหยุดนิ่งไม่ขยับ มันเริ่มทำให้เธอสงสัยว่าที่เธอเห็นเมื่อครู่นี้ มันเป็นเพียงแค่ภาพลวงรึเปล่า โดรีนจะหันกลับไป แต่เธอได้ยินเสียงพุ่มไม้ขยับ มันทำให้โดรีนหันกลับไปตามเสียง พุ่มไม้นั่นยังคงขยับอยู่ เธอรู้แล้วว่าเธอไม่ได้ตาฝาดและมีอะไรเข้าไปในนั้นจริงๆ เธอพยายามหาอะไรใกล้ๆตัวหยิบมาเป็นอาวุธป้องกันตัว แต่หากทว่าเธอไม่สามารถหาอะไรได้ เธอตัดสินใจรวบรวมความกล้าและเดินไปตรงพุ่มไม้ เธอใช้มือแหวกออกมา
เธอเห็นกิ้งก่าสีเขียวหลบอยู่ในนั้น มันเป็นกิ้งก่าที่มีลวดลายสีแดงบนหน้าท้องของมัน มันยืนสองขา ดวงตาของมันมองโดรีน สภาพมันดูอ่อนแรง บนตัวมันนั้นเต็มไปด้วยรอยช้ำ มันพยายามรวบรวมแรงที่มีอยู่พยายามส่งเสียงขู่ให้หญิงผมน้ำตาลคนนี้กลัว แต่สภาพของมันนั้นคงไม่สามารถทำอะไรให้ใครกลัวได้ ก่อนที่มันจะล้มหมดสติลงกับพื้น โดรีนเห็นนั้นได้แต่ตระหนกตกใจ เธอไม่รู้ว่าเธอควรจะทำยังไงดี แต่ทันใดนั้นเธอก็นึกอะไรออกมาอย่างนึง เธอหยิบมือถือของเธอออกมาก่อนจะเลื่อนหารายชื่อ ก่อนที่เธอจะใช้นิ้วกดลงไปบนรายชื่อนั้น
“เชอริล ใช่ไหม? ชั้นมีเรื่องจะรบกวนหน่อย”
=====
โดรีนนั่งอยู่กับหญิงผมสีทรายคนนึง เธอเป็นหญิงผมยาว เธอสวมชุดค่อนข้างหนา ราวกับว่าเธออยู่ในเมืองหนาว ทั้งคู่นั่งเงียบ รอบๆของทั้งสองนั้นเต็มไปด้วยโปเกม่อนที่ได้รับบาดเจ็บ ไม่นานนักก็มีนางพยายามผมสีชมพูเดินกลับมาพร้อมกับโปเกบอลหนึ่งลูก
“นี่ค่ะ คุณโดรีน เคชเลออน ของคุณค่ะ” นางพยาบาลผมสีชมพูกล่าว
“ขอบคุณมากค่ะ” โดรีนรับไว้
โดรีนมองลูกบอลสีแดงขาวลูกนี้ เธอหันไปหาหญิงผมสีทรายที่นั่งข้างๆเธอ
“เชอริล ทำไมมันมาในรูปแบบนี้อะ? แล้วกิ้งก่าตัวนั้นอะ?” เธอถามด้วยสีหน้างุนงง
“นั่นเรียกว่าโปเกบอล และนั่นก็คือที่บรรจุโปเกม่อน” หญิงที่ชื่อเชอริลตอบด้วยน้ำเสียงเซ็งแซ่
“อ้าว แบบนี้โปเกม่อนข้างในไม่อึดอัดตายเลยหรอ ลูกบอลแค่นี้” โดรีนถามต่อด้วยความใสซื่อ
“เธอไม่รู้เรอะ ว่าโปเกบอลจะสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีที่สุดให้กับโปเกม่อนน่ะ ชั้นว่าข้างในสบายกว่าข้างนอกอีก” หญิงผมสีทรายตอบ
“เธอนี่ไม่รู้เรื่องโปเกม่อนเลยจริงๆ” เชอริลบ่นอุบอิบ
“แล้วถ้าจะเรียกมันออกมาทำยังไง?” หญิงผมสีไม้เอ่ยปากถามต่อ
“ก็แค่โยนบอลลงพื้น” เชอริลโยนลูกบอลลูกนั้นลงพื้น
ลูกบอลนั้นแตกออกก่อนจะปรากฏให้เห็นถึงกิ้งก่าที่ชื่อว่า “เคชเลออน” มันออกมาก่อนจะมองไปรอบๆ ก่อนจะหันมามองหน้าโดรีน
“ส่วนถ้าเธอจะเอามันกลับ เธอก็แค่หยิบโปเกบอลจากพื้นก่อนจะยื่นมาข้างหน้าแบบนี้”
เชอริลยื่นมือไปในขณะที่เธอพูด แสงสีแดงจากโปเกบอลนั้นดูดเคชเลออนกลับไป กิ้งก่าสีเขียวตัวนั้นหายไป ราวกับไม่เคยมีโปเกม่อนตัวไหนยืนอยู่ตรงนี้มาก่อนเลย หญิงผมสีทรายยื่นโปเกบอลลูกนี้ให้กับโดรีน เธอรับไว้ก่อนที่หญิงสีทรายในชุดฤดูหนาวจะพูดกับเธอ
“มันเป็นของเธอ...ดูแลมันให้ดีๆล่ะ”
พูดจบเธอก็เดินจากไป และทิ้งให้โดรีนยืนอยู่คนเดียว โดยในมือของเธอนั้นยังมีโปเกบอลอยู่ เธอไม่รู้เธอจะทำอะไร เธอตัดสินใจเดินกลับบ้านของเธอ เธอพยายามเก็บลูกบอลสีแดงขาวลูกนี้ให้มิดชิดเพื่อที่จะไม่ให้ใครรู้ว่าตอนนี้เธอมีโปเกม่อนในการครอบครอง เธอเดินมาถึงหน้าประตูคฤหาสน์ของเธอ เธอเอื้อมมือก่อนจะเปิด เธอยังคงเห็นคนใช้เดินไปเดินมาอย่างวุ่นวาย โดรีนเหลือบมองนาฬิกา นี่ก็เริ่มเย็นแล้ว ก็คงเป็นเวลาที่เหล่าคนใช้จะเตรียมข้าวเย็นให้กับครอบครัวของเธอ โดรีนเดินกลับเข้าห้องของเธอ
โดรีนนั่งลงบนเตียงนอนของเธอ ในมือของเธอนั้นก็ยังคงกุมโปเกบอลไว้อยู่ เธอไม่มีความรู้เรื่องโปเกม่อนเลย มันคงเป็นเรื่องแปลกที่ในโลกซึ่งทุกอย่างล้วนแต่ศูนย์กลางตามโปเกม่อน แต่กลับมีใครบางคนที่แทบไม่รู้อะไรเกี่ยวกับมันเลย เธอสูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะโยนโปเกบอลนี้ลงพื้น กิ้งก่าตัวนี้ปรากฏมา มันมองหน้าของเจ้าของมัน มันไม่ส่งเสียงอะไร มันได้ยืนเงียบๆ เช่นเดียวกันกับโดรีนที่นั่งเงียบเช่นเดียวกัน เธอไม่รู้ว่าเธอจะพูดอะไรกับมันดี เธอคิดคำพูดของตัวเอง ก่อนที่เธอจะใช้นิ้วอันเรียวบางของเธอชี้มาที่ตัวเอง
“ชั้นชื่อโดรีน ยินดีที่รู้จัก” เธอเอ่ยแนะนำตัว
เคชเลออนมองหน้าของเธอเหมือนเดิม ไม่รู้ว่ามันเข้าใจในสิ่งที่เธอพูดรึเปล่า ในขณะที่เธอกำลังนั่งอยู่บนเตียงนั้น เธอก็ได้ยินเสียงเคาะประตู เสียงเคาะประตูนั้นทำให้โดรีนสะดุ้งด้วยความตกใจ เธอรีบเก็บโปเกม่อนของตัวเองกลับเข้าโปเกบอลด้วยความตื่นตระหนก
“มีอะไรหรอ?” โดรีนตะโกนถาม
“ข้าวเย็นพร้อมแล้วค่ะ” คนใช้ที่อยู่หลังประตูห้องตะโกนตอบกลับมา
“โอเค เดี๋ยวชั้นไป”
พอพูดถึงข้าวแล้วมันก็ทำให้โดรีนนึกสงสัยขึ้นมา แล้วโปเกม่อนของเธอล่ะกินอะไร? เธอตัดสินใจโทรหาเพื่อนของเธออีกครั้ง เธอรอซักพักก่อนที่เพื่อนของเธอจะรับสาย
“เชอริลปกติแล้วโปเกม่อนกินอะไร?” โดรีนเอ่ยปากถาม
“ปกติเวลามันอยู่ในบอลมันไม่ต้องกินนะ ข้างในโปเกบอล มันสร้างอาหารให้โปเกม่อนกินเอง” เชอริลตอบ
“ดูเหมือนเธอจะไม่รู้เรื่องโปเกม่อนเลยแฮะ...งั้นเอางี้ พรุ่งนี้ชั้นจะสอนพื้นฐานให้เธอเอง” หญิงที่อยู่ปลายสายพูด
“เอ๊ะ แต่แบบนั้นจะดีหรอ เธอเป็นหัวหน้ายิมไม่ใช่หรอ?” โดรีนถามกลับ
“หัวหน้ายิมทำอะไรก็ไม่ผิด ถ้างั้นเจอชั้นที่หน้าโปเกม่อนเซ็นเตอร์ ตอน 10 โมงพรุ่งนี้นะ”
=====
เชอริลกับโดรีนยืนอยู่ในป่า ในมือของโดรีนมีสมุดโน๊ตเล็กๆอยู่ ขณะเดียวกันเชอริลนั้นกำลังจิ้งจอกเก้าหางสีขาว โดยตรงข้ามกับพวกเธอนั้นคือนกสีแดงที่กำลังดูอ่อนแรง ปีกของมันขยับช้าๆ มันมองหน้าของจิ้งจอกสีขาวตัวนี้ เชอริลหยิบโปเกบอลออกมาจากกระเป๋าของเธอ
“พอมันอ่อนแรง ก็ขว้างบอลให้โดนมัน” เชอริลพูดพลางเขวี้ยงบอลไปทางนกสีแดงนั่น
บอลสัมผัสกับนอกสีแดงก่อนที่มันจะดูดนกตัวนั้นเข้าไปในลูกบอล บอลตกลงพื้น วัตถุทรงกลมนั่นขยับไปมา ดูเหมือนเจ้านกสีแดงนั่นจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อจะรักษาอิสรภาพของมัน แต่ด้วยความอ่อนแรงของมัน จึงทำให้มันถูกจับในที่สุด เชอริลเดินไปก่อนจะหยิบลูกบอลลูกนี้ขึ้นมาจากพื้น
“ยิ่งถ้าอ่อนแรง หรือยิ่งติดสถานะ มันก็ยิ่งมีโอกาสที่จะจับสำเร็จ” เชอริลอธิบายต่อ
โดรีนพยักหน้าพลางจดข้อมูลที่เธอพูดลงไปบนกระดาษ หน้ากระดาษที่เธอจดนั้นเต็มไปด้วยข้อมูลต่างๆ เขียนไว้ตั้งแต่การสั่งโปเกม่อนโจมตี การแพ้ชนะธาตุ ข้อมูลจิปาถะ และเรื่องของการจับโปเกม่อนเมื่อครู่นี้
“มีอะไรที่ชั้นต้องเรียนรู้อีกไหม?” โดรีนพูดด้วยน้ำเสียงกระตือรือร้น
“ใจเย็นๆก่อน วันนี้ชั้นว่าชั้นสอนเธอเยอะไปแล้วนะ ค่อยไว้วันอื่นแล้วกัน” เชอริลพูดพลางเก็บโปเกม่อนที่เธอพึ่งจับได้ลงกระเป๋าของเธอก่อนที่เธอจะมุ่งหน้าออกนอกป่า
“เอ๊ะ จะไปแล้วหรอ?” โดรีนเอ่ยปากถาม
“ถึงชั้นจะบอกว่าหัวหน้ายิมทำอะไรก็ได้ แต่ชั้นก็ต้องกลับไปเฝ้ายิมอยู่ดีนั่นแหละ” หญิงในเครื่องแบบแฟชั่นฤดูหนาวตอบพลางเรียกโปเกม่อนของตัวเองกลับเข้าบอล
“เธอก็กลับไปอ่านทวนสิ่งที่ชั้นเขียนก็แล้วกัน”
พูดจบเชอริลก็เดินจากไป ตามปกติแล้วโดรีนควรจะเดินตามเพื่อนของเธอไป แต่เธอตัดสินใจอยู่ในป่าต่อ เธอขว้างโปเกบอลของเธอออกมา เคชลีออนปรากฎออกมา เธอตัดสินใจเริ่มฝึกซ้อม เธอฝึกซ้อมจนเวลาล่วงเลยจนมาถึงยามเย็น เธอยืนด้วยรอยยิ้ม แม้เธอจะเหนื่อย แต่มันเป็นรอยยิ้มที่กว้าง หัวใจของเธอนั้นเต้นแรงด้วยความสนุก ด้วยความตื่นเต้น เธอเกือบจะลืมความรู้สึกพวกนี้ไปแล้ว เธอหันไปมองเจ้ากิ้งก่าสีเขียวของเธอด้วยรอยยิ้ม มันหันกลับมา มองหน้าของเธอ มันไม่ได้ส่งสีหน้าอะไร แต่เพราะอะไรบางอย่างเธอรู้ว่าเคชลีออนกำลังส่งยิ้มให้กับเธออยู่
เธอเก็บโปเกม่อนตัวนี้กลับเข้าโปเกบอลของมัน ก่อนจะเดินกลับไปยังบ้านของเธอ ท้องฟ้านั้นเป็นสีแสด อีกไม่นานมันคงกลายเป็นความมืด เธอเปิดประตูคฤหาสน์ของเธอ แต่เมื่อเธอเปิดไปนั้น สิ่งที่เธอเห็นนั้นมันดูต่างออกไป เธอไม่เห็นเหล่าคนใช้ที่เดินไปเดินมา ทุกอย่างนั้นเงียบสงัด โดรีนยังคงเดินต่อไป ณ ตอนนี้นอกจากเสียงฝีเท้าของเธอแล้ว เธอไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย มันให้ความรู้สึกราวกับอยู่ในหนังสยองขวัญ เธอเดินไปก่อนจะเปิดประตูห้องกินข้าวของเธอ เมื่อเธอเปิดไปนั้น เธอก็เห็นพ่อกับแม่ของเธอนั่งอยู่
“กลับมาแล้วหรอลูก” ผู้เป็นพ่อพูดด้วยสีหน้าจริงจัง
“อะ อืม” โดรีนตอบ
“นั่งก่อนซิลูก” คราวนี้เป็นผู้เป็นแม่พูดบ้าง
โดรีนทำตามคำสั่งของแม่ตัวเอง เธอลากเก้าอี้ก่อนจะนั่งตรงข้ามกับพ่อแม่ของเธอ
“เอ่อ แล้วพวกคนใช้คนๆอื่นล่ะคะ?” โดรีนถามด้วยความสงสัย
“พ่อให้พวกเขากลับไปพักที่เรือนตัวเองก่อนน่ะ พ่อไม่อยากให้พวกเขาได้ยินสิ่งที่เราคุยกัน” ชายวัยกลางคนพูด
“เรื่องที่พวกเราต้องคุยกัน?” โดรีนทวนที่พ่อตัวเองพูด
พ่อกับแม่ของหญิงผมน้ำตาลมองหน้ากันก่อนจะพยักหน้าให้กัน เหมือนกับเป็นการส่งสัญญาณอะไรบางอย่างให้กัน
“โดรีน...จริงๆแล้วลูกไม่ใช่ลูกแท้ๆของเรา แต่เราเก็บลูกมาเลี้ยง”
“ห๊ะ?” โดรีนอุทานด้วยความตกใจ
“แม่ของลูก ร่างกายไม่แข็งแรงพอที่จะมีลูก เราเลยตัดสินใจรับลูกบุญธรรมมาเลี้ยง” ผู้เป็นพ่อเล่าต่อ
“พ่อกับแม่ต้องขอโทษด้วยที่เราปิดบังเรื่องนี้มาตลอด” ชายวัยกลางคนผู้นี้พูดด้วยสีหน้าเศร้า
“ก็ไม่เห็นเป็นไรนี่ ถึงกับพ่อกับแม่จะไม่ใช่พ่อแม่จริงๆ แต่พ่อกับแม่ก็เลี้ยงดูหนูมาตลอด”
“มันก็ไม่ต่างอะไรกันหรอกค่ะ”
“โดรีน..” แม่พูดชื่อของลูกตัวเองเบาๆ
“จะว่าไป ไหนๆเราก็คุยกันแล้ว หนูมีเรื่องอยากจะขอร้องเหมือนกัน” โดรีนพูดกับพ่อแม่ตัวเอง
“หนูอยากเป็นโปเกม่อนเทรนเนอร์ หนูอยากจะออกเดินทางรอบทวีป เพื่อได้รู้จักกับโปเกม่อน” หญิงผมน้ำตาลพูดด้วยแววตาที่ประกายไปด้วยฝัน
“แต่ลูก ข้างนอกมันอันต-“ ผู้เป็นแม่พูด
“ลูกมีโปเกม่อนแล้วใช่ไหม?” พ่อแทรกแม่ของตัวเอง
โดรีนพยักหน้า
“งั้นก็ได้” ผู้เป็นพ่อเอ่ยปากอนุญาต
“คุณค่ะ!!” แม่ทำเสียงทักท้วง
“ถ้านั่นเป็นสิ่งที่ลูกอยากทำ ชั้นก็ไม่อยากขัดหรอก” ผู้เป็นพ่อพูดต่อ
“ขอบคุณมากค่ะ!!” หญิงผมสีน้ำคาลพูดด้วยน้ำเสียงดีใจ
=====
หญิงผมน้ำตาลยืนอยู่ที่ท่าเรือ ท้องฟ้านั้นแจ่มใส ดูเหมาะสมกับการเดินเรือ โดรีนสะพายกระเป๋า โดยมีพ่อและแม่เธอ รวมถึงเพื่อนสนิทของเธออย่างเชอริลมาส่งด้วย
“ว่าแต่ทำไมชั้นต้องเดินทางข้ามไปอีกฝั่งของทวีปด้วย?” โดรีนเอ่ยปากถาม
“เพราะว่าอีกด้านนึงของทวีปโปเกม่อนไม่แข็งแกร่งขนาดนั้น ถ้าเธออยากจะฝึก ชั้นว่าเธอควรจะไปเริ่มจากด้านนั้นดีกว่า” เชอริลตอบกลับ
“ดูแลตัวเองดีๆนะลูก” ผู้เป็นแม่พูดกับลูกสาวตัวเองด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง
“ค่ะ”
โดรีนก้าวขึ้นเรือ ก่อนที่เรือจะเริ่มเคลื่อนออกจากฝั่ง เธอหันมาก่อนจะโบกมือให้กับครอบครัวและเพื่อนของเธอ เรือนั้นแล่นออกไปเรื่อยๆ เธอเริ่มเห็นภาพของครอบครัวเธอเล็กลงเรื่อยๆ ก่อนที่เธอจะไม่เห็นอีก เธอหันกลับไปมองท้องทะเลอันกว้างใหญ่ เธอกำหมัดของเธอแน่น เธอรู้สึกตื่นเต้น และออกไปผจญโลกกว้าง
=====
Pokedex
เคชลีออน (Kecleon)
สูง : 3 ฟุต 3 นิ้ว หนัก 48.5 ปอนด์
ธาตุ : (นอร์มอล)
เคชลีออนสามารถเปลี่ยนสีเป็นสีอะไรก็ได้ตามเพื่อกลืนเข้ากับสภาพแวดล้อม แต่มีปัญหาอยู่หนึ่งอย่าง คือเคชลีออนไม่สามารถซ่อนลายบนหน้าท้องตัวเองได้