Bloody Wrestling Online
Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.

Bloody Wrestling Online

The Number One Cyber Wrestling Online
 
บ้านPortalLatest imagesสมัครสมาชิก(Register)เข้าสู่ระบบ(Log in)

 

 Cataclysm: The Endless Hellfire XLV

Go down 
ผู้ตั้งข้อความ
Neferpitou
Moderators
Moderators
Neferpitou


จำนวนข้อความ : 552
Join date : 05/12/2012
Age : 28
ที่อยู่ : The Facility of Banned Organizer

Cataclysm: The Endless Hellfire XLV Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Cataclysm: The Endless Hellfire XLV   Cataclysm: The Endless Hellfire XLV EmptySat May 06, 2017 9:05 pm

Cataclysm: Endless Hellfire
Act XLV

------------

  ไอร้อนแผ่ไปทั่วบริเวณที่มันจะสามารถขยายตัว เพลิงดาบที่ลุกโชนด้วยความเร่าร้อน ประกายแสงสีส้มอ่อนๆ จากตัวดาบที่สื่อถึงคุณธรรมได้เปล่งแสงออกมาประจักษ์แก่มารเพลิงผู้ซึ่งเป็นครึ่งหนึ่งแห่งผู้พิทักษ์อัคคี ด้วยเพลิงที่ลุกไหม้ทั่วทั้งดาบ มันทำให้ความยาวของคมดาบยาวขึ้นมาส่วนนึง ดูคล้ายกับเป็นดาบยาวทั้งสองที่ใช้ในการโจมตีระยะกลาง เพียงแค่ออร่าเพลิงที่ก่อขึ้นจากตัวดาบนั้นก็มีความแกร่งเทียบทัดกับเหล่าผู้ใช้ปราณระดับสูงเลย นั่นหาได้ทำให้ปีศาจแห่งความตายเกรงกลัวไม่ ซ้ำเขายังตอบกลับปฏิกริยานั้นด้วยสีหน้าที่นิ่งเฉยราวกับไร้ความกลัวและเพลิงที่ลุกไหม้ทั่วทั้งหัตถ์ของตน สื่อออกมาว่าเตรียมพร้อมที่จะรับมือทุกเมื่อ แต่หากจะพูดให้ถูกแล้วคงเป็นฝ่ายอัลทานิสเสียมากกว่าที่ต้องรับมือต่อเพลิงแห่งความตายผู้นี้ ไซอาลอทเริ่มเป็นฝ่ายเดินเข้าใกล้ตัวอัลทานิสช้าๆ ย่างกรายแห่งเพลิงที่เหยียบย่ำลงบนผืนไม้ทำให้พื้นไม้ตัวบ้านของอัลทานิสเป็นรอยไหม้ดำเกรียมพร้อมกับควันฉุนผุดออกมา ตัวของชายกล้าถอดฉากออกไปช้าๆ แต่มือที่กำดาบไว้แน่นก็บ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าเขาเตรียมพร้อมที่จะสู้แน่ หากแต่ความกลัวและหยั่งรู้ว่าตนมิอาจจะเอาชนะมารตนนี้ได้ก็ยังค้างคาในจิตใจ

“เจ้าคิดจะสู้กับข้าจริงๆ หรืออัลทานิส..” ไซอาลอทกล่าวขึ้น
“อย่าลืมว่าสิ่งที่เจ้าเป็นได้ก็แค่ส่วนหนึ่งของข้า... ส่วนที่ข้าทิ้งมันไปละนะ”

  ทันใดนั้นคมดาบจากมือขวาแห่งเพลิงคุณธรรมพุ่งตัวเข้าไปอย่างรวดเร็ว เป้าหมายหวังจะซัดร่างของไซอาลอท แต่มารเพลิงขยับเท้าเพียงก้าวเดียวก็สามารถหลบมันไปได้อย่างง่ายดาย ท่าทางที่ปรากฏออกมาจากตัวของมารเพลิงผู้นั้นหาได้มีความเกรงกลัว หรือจริงจังต่ออัลทานิสเลยแม้แต่น้อย ซ้ำยังแสดงใบหน้าที่แปดเปื้อนไปด้วยแสยะยิ้มที่ดูชวนขนหัวลุก เพลงดาบที่ดูรุนแรงเมื่อครู่ถูกหลบไปได้จนทำให้อัลทานิสเสียจังหวะ ท่าทางที่ดูตกใจของชายหนุ่มผู้นั้นปรากฏขึ้นมา กว่าที่ตนจะหันกลับเข้าไปหาเพลิงแห่งความตายก็ไม่ทันเสียแล้ว เขาถูกไซอาลอทใช้มือผลักเบาๆ จนล้มลงไป โดยไร้แรงขับหรือไอปราณอันใดที่คิดจะโจมตีชายผู้นั้นเลยสักนิด ราวกับว่ามารร้ายผู้นี้กำลังหยอกล้อเล่นกับอัลทานิสอยู่ยังไงยังงั้น ร่างของหนุ่มที่ล้มลงกระแทกผืนบ้านของตน ดาบทั้งสองเล่มหลุดออกจากมือโดยไม่ตั้งใจ ดาบเล่มหนึ่งที่ดูทรงคล้ายกระบี่คาตานะปลิวออกไปไกล โชคดีที่อีกเล่มซึ่งดูเป็นทรงดาบแห่งอัศวินอยู่ใกล้ตัว เช่นนั้นแล้วชายผู้นั้นรีบรุดตัวจะจับดาบที่อยู่ใกล้ตัว ทันใดที่เขาจับดาบเล่มนั้นเขารู้สึกได้ถึงไอร้อนที่แผ่ไปทั่วดาบ แต่มันหาใช่เพลิงของเขาเองแต่เป็นไซอาลอท มารเพลิงเหยียบดาบเล่มนั้นของอัลทานิสไว้ไม่ให้เจ้าของดาบนำมันกลับคืน กดเท้าไว้แน่นดั่งคิดจะหลอมละลายตัวดาบด้วยเท้าของตน

เจ้าของดาบมิอาจจะดึงมันกลับเข้าตัวได้ เมื่อนั้นตนจึงรีบรุดตัวขึ้นมา หัตถ์เพลิงที่ก่อขึ้นบนมือของเขาพุ่งตัวเข้าไปหาไซอาลอทอย่างรวดเร็ว หมัดที่ไวดั่งกระสุนพุ่งตรงเข้าหัวใจหวังจะสังหารถูกจับไว้เต็มมืออย่่างง่ายดาย ราวกับมารเพลิงสามารถมองตามการโจมตีนั้นทัน ชายหนุ่มพยายามจะดึงมือของตนที่ถูกจับกลับเข้าหาตัว แต่พลกำลังที่เหนือกว่าของมารร้ายทำให้เขาไม่สามารถดึงกลับมาได้ เมื่อนั้นมารเพลิงจึงบีบมือข้างนั้นของอัลทานิสโดยพลัน สร้างความเจ็บปวดให้แก่หนุ่มจนกรีดร้องออกมาด้วยความทรมาณ ด้วยแรงที่หาได้เทียบทัดกับมารร้ายทำให้อัลทานิสหยุดออกแรงดึงกลับ เพราะหากตนยังคงดื้อดันต่อไปแขนข้างนั้นของตนอาจจะถูกฉีกขาดก็เป็นได้

“เจ้าหาได้มีปราณแห่งข้า... อย่าได้คิดจะเทียบทัดกับเพลิงหนึ่งเดียว!”

   สิ้นวาจานั้นร่างของชายหนุ่มถูกสะบัดอย่างรวดเร็ว ฟาดร่างของอัลทานิสกระแทกลงสู่ผืนดิน เขารู้สึกถึงแรงกระแทกที่แผ่เข้ากายา ทำให้ทุกส่วนของร่างกายชาไปหมดมิอาจจะขยับได้ดั่งใจ แม้นว่าเขาจะถูกฟาดลงไปก็ตามที แต่มารร้ายปรปักษ์ของตนหาได้ปล่อยมือนั้นของอัลทานิส ไซอาลอทยังกำมันไว้แน่นก่อนที่จะรีบยกเท้าของตนขึ้น ก่อนจะดิ่งมันลงตามแรงโน้มถ่วง มันพุ่งตรงไปเพื่อจะทลายกะโหลกของชายผู้นั้นให้แหลกคาเท้าแห่งเพลิง ในจังหวะเดียวกันนั้นเองอัลทานิสจึงหมุนตัวหลบไปได้ ก่อนจะใช้แรงขยับดีดตัวขึ้นมาอย่างรวดเร็ว แม้นว่าจะถูกจับมือของตนเอาไว้ทำให้ขยับกายได้ไม่สะดวกตามที่ตนต้องการก็ตามที แต่เขายังสามารถขยับร่างได้อย่างพริ้วไหว ทันใดนั้นอัลทานิสจึงรีบออกแรงจู่โจม ใช้ขาของตนเตะเข้าใส่ลำคอของไซอาลอท เพลงเตะนั้นทำให้มารเพลิงเสียการทรงตัวทำให้อัลทานิสหลุดออกจากการควบคุม เช่นนั้นแล้วเขาจึงรีบอาศัยจังหวะนั้นจับดาบที่อยู่ใกล้ตัวไว้แน่น ก่อนจะแกว่งคมดาบไปอย่างรวดเร็ว คมดาบเกิดเพลิงลุกขึ้นเป็นสีส้มอ่อน ดูร้อนระอุ มันฟาดฟันใส่กลางอกแห่งเพลิง เกิดแผลใหญ่บนอกของมารร้ายตนนั้น พร้อมกับโลหิตที่ไหลรินออกมาจากกายามาร และคราบโลหิตที่ปาดเปื้อนอยู่บนคมดาบแห่งอัลทานิส

  แน่นอนว่าการโจมตีนั้นสร้างความเสียหายให้แก่มารร้ายตนนั้น แต่หากจะบอกว่าการโจมตีนั้นมีประสิทธิภาพและได้ผลก็คงจะบอกไม่ถูก สำหรับมารเพลิงตนนี้แล้ว ต่อให้ถูกโจมตีเพียงใดมันก็สามารถฟื้นฟูร่างกายกลับมาอยู่ในสภาพปกติได้ดังเดิมตามที่ต้องการ เช่นเดียวกับที่กำลังเกิดขึ้นอยู่เบื้องหน้าของอัลทานิสในตอนนี้ บาดแผลนั้นเริ่มปิดตัวลงช้าๆ โดยพลังปราณแห่งเพลิงที่ก่อตัวเป็นดั่งหนวดปลาหมึกประหลาดสีเพลิงคล้ายของเหลวที่เกิดจากโลหิตลาวาของไซอาลอทที่จับตัวเป็นรูปร่างผุดขึ้นมาก่อนที่จะแข็งตัวภายในแผลเป็นดั่งเม็ดเลือดในยามที่แข็งตัวปกป้องบาดแผลเอาไว้ ไม่นานนักหนังหุ้มภายนอกจึงปิดตัวลง สมานแผลให้หายเป็นปกติโดยที่ไซอาลอทก้มมองลงดูบาดแผลของตนพลางยิ้มเริงร่าอย่างสนุกสนาน ต่างจากสีหน้าของอัลทานิสที่แลดูตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก จริงอยู่ที่เขารู้ว่าไซอาลอทสามารถทำอะไรเช่นนี้ได้เพราะเคยเป็นส่วนหนึ่งของกายาแห่งเพลิง แต่ก็หาได้หยั่งถึงว่ามันจะเร็วเพียงนี้ เขาดูตกใจราวกับว่ากระบวนการสมานแผลนั้นหาได้เป็นเหมือนครั้นที่เขาเป็นไซอาลอท

เมื่อนั้นผู้ถูกโจมตีจึงเงยหน้าขึ้นพร้อมกับสีหน้าที่ดูขรึม ดูไร้ความกลัวหรือความตกใจอะไรเลยแม้แต่น้อย ก่อนที่จะใช้มือลูบไปรอบหน้าอกของตนที่ถูกดาบฟันเข้าเมื่อครู่ ราวกับเป็นการเย้ยต่ออัลทานิสที่ไซอาลอททำให้การโจมตีนั้นดูไร้ผลไปโดยปริยาย

“อืม.... เพลิงของเจ้ามันเย็นเฉียบเลยนะอัลทานิส”

  ชั่วพริบตานั้นกายาแห่งเพลิงได้หายไปต่อหน้าต่อตาของอัลทานิส ไร้ฝุ่นร่องรอยที่จะตรวจจับได้ อัลทานิสรีบวิ่งตรงไปยังดาบคาตานะของตนก่อนที่จะตั้งท่าเตรียมรอไซอาลอท เป็นการตั้งรับด้วยคมดาบทั้งสองคล้ายดั่งเป็นเพลงดาบตั้งรับไว้ใช้ในโอกาสที่ไซอาลอทโจมตีหรือโผล่ขึ้นมาโดยพลัน ดาบทั้งสองที่อยู่ติดกันเป็นท่าชาร์จ โดยที่ปลายดาบชี้ลงไปยังผืนดินในลักษณะมุมสี่สิบห้าองศาจากร่างกายที่ยืนตั้งท่า เขากวาดสายตาไปรอบๆ มองดูว่าเพลิงพิโรธจะโผล่ขึ้นมาในยามใด เพราะในตอนนี้เขามิอาจจะใช้วิชาปราณตรวจจับได้เนื่องเพราะปราณแห่งไซอาลอทนั้นหาใช่แบบทั่วไปที่อยู่ติดร่างกาย แต่มันแผ่ออกไปทั่วทั้งบริเวณที่เขาประจำอยู่ กล่าวคือทั่วทั้งบริเวณนี้เต็มไปด้วยพลังปราณแห่งความตายเอ่อล้นอยู่ในปริมาณที่เทียบเท่ากัน จึงพูดได้ว่าสายตาเท่านั้นที่จะช่วยให้อัลทานิสมองการโจมตีได้ทัน ทันใดนั้นไซอาลอทจึงพุ่งตัวออกมาจากเบื้องหน้าของอัลทานิส เป็นเพลิงที่ลุกโชนพร้อมกับกงเล็บยาวที่พุ่งเข้าหาตัวอัลทานิส ราวกับว่ามันไม่เป็นการดักโจมตีเลยแม้แต่น้อย ดูเหมือนกับการโจมตีซึ่งๆ หน้าเสียมากกว่าด้วยซ้ำ เช่นนั้นแล้วดาบที่ตั้งท่ารอการโจมตีจึงซัดออกปัดมือของไซอาลอทขึ้น ทำให้มารเพลิงเสียการทรงตัว เช่นนั้นแล้วดาบทั้งสองจึงพุ่งตรงเข้าหาร่างอัคคีนั้น เตรียมจะแทงทะลุเข้าไป

  น่าแปลกที่ดาบทั้งสองกลับหยุดลงซะอย่างนั้น แม้นว่าอัลทานิสจะกดแรงเข้าไปหวังจะสังหารไซอาลอทก็ตามที คล้ายคลึงมาว่ามันอะไรสักอย่างที่จับคมดาบนั้นไว้ มันเป็นอะไรสักอย่างที่ผุดออกมาจากอกของไซอาลอท เหมือนกับโลหิตลาวาของมารร้ายที่จับตัวเป็นก้อน กลายเป็นมือในรูปร่างทรงประหลาดจับคมอาวุธนั้นไว้แน่น เมื่อนั้นไซอาลอทจึงใช้มือทั้งสองที่ว่างอยู่ผลักร่างของอัลทานิสเข้าอย่างแรง ในครั้งนี้มันเต็มไปด้วยปราณที่อัดแน่นอยู่เต็มฝ่ามือกลายเป็นดั่งวิชาฝ่ามือปราณเพลิง ทันใดที่ชายหนุ่มผู้ใช้ดาบถูกฝ่ามือนั้นอัดเข้าไป กายาของเขาจึงลอยขึ้นเหนืออากาศ พุ่งปลิวออกไปชนเข้าใส่กับกำแพงไม้ของบ้าน แต่กำแพงหนาก็มิอาจจะรับร่างของชายผู้นี้ไว้ได้ กำแพงไม้แตกหักกลายเป็นรูก่อนที่ร่างของหนุ่มผู้นั้นจะรอดผ่านออกมา ไถลไปกับผืนปฐพีแห่งดินแดนซันดาซัส อัลทานิสค่อยๆ ลุกขึ้นมาพร้อมกับดาบที่มีเพียงเล่มเดียวอยู่ในมือ มันเป็นดาบคาตานะของเขา ดูเหมือนว่าอีกเล่มจะหล่นจากมือในยามที่ถูกการโจมตีเมื่อครู่เข้า สภาพของชายหนุ่มไม่ค่อยสู้ดีเสียเท่าไหร่ เสื้อของเขาลุกไหม้เป็นรอยฝ่ามือของไซอาลอท เป็นแผลไหม้บนหน้าอกของเขา

  ชายหนุ่มหันไปรอบข้างด้วยความตกตะลึงกับสิ่งที่เห็น ที่ภายนอกของแผ่นดินมงกุฏทองคำบัดนี้กลายเป็นดั่งมงกุฏที่ถูกพังทลาย อาคารเรือน ชาวเมืองต่างล้มตายสิ้นหายกันเป็นจำนวนมาก ไม่นานนักได้มีเสียงผุดขึ้นมาจากตัวบ้านของผู้รู้จักรวาล พร้อมกับเสียงเหล็กที่ขูดกับผืนไม้ ปรากฏเป็นมารเพลิงที่ถือดาบอีกเล่มของอัลทานิสเอาไว้ด้วยมือทรงประหลาดบนหน้าอก มารเพลิงใช้มือที่แท้จริงข้างขวาของเขาหยิบดาบเล่มนั้นมาจากหัตถ์อวตารเพลิง ก่อนที่มือเพลิงลาวาทั้งสองจะค่อยๆ แปรสภาพกลายเป็นของเหลว ไหลกลับเข้าไปในร่างของมารตนนั้น ทันใดที่ไซอาลอทจับดาบเล่มนั้น มันลุกกลายเป็นดาบเพลิงดูทรงพลัง กระนั้นเหล็กไหลที่ใช้ในการหล่อดาบเล่มนั้นหาได้ละลายไปตามความร้อน นั่นเพราะเจ้าของดาบก็เป็นผู้มีปราณเพลิงระดับสูงเช่นกัน มันจึงสามารถทนรับความร้อนได้ มารเพลิงยกดาบเล่มนั้นจนมันอยู่เบื้องหน้าของใบหน้าตน มองคมดาบพลางแสยะยิ้มอย่างมีความสุข เจ้าของกระบี่เล่มนั้นเห็นเช่นนั้นจึงทนไม่ได้ต่อการกระทำ เขากำดาบไว้แน่น แสดงท่าทางเป็นภัยต่อมารเพลิง แน่นอนว่าราธที่อยู่ภายนอกอยู่แล้ว เมื่อเห็นปฏิกริยาเช่นนั้นของอัลทานิสที่มีต่อผู้เป็นนาย จึงได้ตอบโต้โดยปฏิกริยาเช่นเดียวกันกับอัลทานิส เขาดึงดาบออกจากฝักเตรียมที่จะจัดการกับผู้รู้จักรวาล

“อย่างที่ข้าพูด... อย่าเข้ามารบกวน” มารเพลิงกล่าวพลางหันไปมองข้ารับใช้ของตน

แน่นอนว่าราธที่เห็นเช่นนั้นยอมรับคำสั่งแต่โดยดี เขาก้มลงต่อมารเพลิง เก็บดาบเข้าฝัก รับฟังคำสั่งของมารร้ายโดยไม่มีข้อกังขาอันใด

ในจังหวะที่มารเพลิงให้ความสนใจกับข้ารับใช้ของตน จนเมินเฉยต่ออัลทานิสผู้เป็นคู่ต่อสู้ ชายหนุ่มผู้นั้นจึงรีบพุ่งตัวเข้าไปพร้อมกับดาบของตน แกว่งเพลิงดาบออกไปเข้าใส่จอมมารในทันที

“เคร้งงงงงงง!”

ไซอาลอทรับคมดาบนั้นไว้โดยที่ตนเองไม่ได้มองด้วยซ้ำ มันเป็นการตั้งรับอย่างสมบูรณ์แบบแม้แต่อัลทานิสก็มิได้คาดถึง เช่นนั้นแล้วมารเพลิงจึงหันกลับไปหาคู่ต่อสู้ของตน สายตาที่จ้องมองอัลทานิสราวกับว่ากำลังมองเขาเป็นดั่งมดปลวกสร้างความรำคาญให้แก่ชายผู้นั้น มันเหมือนเป็นการยั่วให้หนุ่มผู้นี้ตกอยู่ภายใต้ความพิโรธจนขาดสติยังไงยังงั้น

“เพลงดาบของเจ้าเชื่องช้าอย่างกับคนพายเรือ.. แบบนี้จะสังหารข้าได้จริงๆ หรือ?” มารเพลิงกล่าวเย้ย
“กะอีแค่รับเพลงดาบข้าได้ครั้งเดียวอย่าทำเป็นได้ใจนัก!”

  อัลทานิสตะโกนตอกกลับพร้อมกับดันกระบี่ของตนขึ้น มันทำให้มารเพลิงที่ถือดาบไว้ในมือถูกซัดออกไปตามแรงดันนั้น แรงผลักนั้นรุนแรงพอถึงขั้นทำให้ไซอาลอทเซออกไป อัลทานิสไม่ปล่อยโอกาสนั้นให้หลุดมือ พุ่งตัวเข้าไปอย่างรวดเร็ว มากเสียยิ่งกว่าครั้งก่อนเสียอีก ไซอาลอทที่ยังคงเสียจังหวะมองดูอัลทานิสด้วยความงุนงงซึ่งสิ่งที่ส่วนหนึ่งของเขากำลังกระทำอยู่คือการแกว่งเพลงดาบไปมา หากเป็นคนธรรมดาคงมองเห็นว่าในตอนนี้อัลทานิสกำลังแกว่งดาบด้วยมือข้างเดียว แต่สำหรับไซอาลอทผู้ที่เหนือกว่าสิ่งอื่นใดหาได้เป็นเช่นนั้น เขามองเห็นการขยับเขยื่อนร่างกายของอัลทานิส มันเป็นการแกว่งดาบด้วยมือทั้งสองดาบ การหมุนดาบไปมาก่อนที่จะโยนไปมาระหว่างมือทั้งสองข้าง วัตถุประสงค์คงเป็นการทำให้ไซอาลอทสบสันว่าอัลทานิสจะใช้กระบวนท่าอะไร หรือคิดจะโจมตีด้วยมือข้างไหน สำหรับนักดาบ การใช้ดาบในมือคนละข้างกันย่อมมีผลออกมาในด้านที่ต่างกันอยู่แล้ว ซึ่งในจุดนี้ไซอาลอทเอง... ต่อให้ไม่ใช่นักดาบก็สามารถมองมันออกถึงความตั้งใจของอัลทานิส แต่เขากลับมองไม่ออกว่าอัลทานิสจะออกจู่โจมเขาตอนไหนหรือรูปแบบไหนก็เท่านั้น

  แต่ชายหนุ่มนักดาบกลับโยนดาบของตนออกไปซะทั้งอย่างนั้น มันพุ่งตรงไปทิศทางที่มารเพลิงยืนอยู่ แต่ดาบนั้นหาได้ใกล้ตัวไซอาลอทเลยแม้แต่น้อย ราวกับว่าหนุ่มผู้นั้นโยนพลาด ซึ่งมันก็พลาดเป้าอย่างจัง ความผิดพลาดนั้นปรากฏออกมาซึ่งความตลกขำขันของมารร้าย เสียงหัวเราะถูกขับออกมาอย่างบ้าคลั่ง เยาะเย้ยต่อเพลิงส่วนหนึ่งของตน แต่เมื่อไซอาลอทรู้สึกตัวอีกทีอัลทานิสก็ได้หายไปจากบริเวณนั้นแล้ว มารเพลิงกวาดสายตาไปรอบจนลืมให้ความสังเกตต่อดาบคาตานะที่อัลทานิสได้โยนออกไป ซึ่งความเร็วของดาบเล่มนั้นลดลงจนดูแปลกไปผิดวิสัยกับความเร็วที่แท้จริงของวัตถุที่ถูกโยนออกไป เมื่อนั้นร่างของอัลทานิสจึงโผล่ในสภาพที่ตนถือดาบเล่มนั้นเอาไว้ เขารีบฟาดฟันดาบเล่มนั้นเข้าใส่ร่างของมารเพลิงแต่ด้วยสัญชาตญาณของมารร้าย มันรู้ตัวถึงภัยที่เข้าใกล้ตัว จึงเบี่ยงตัวหลบออกไปเพื่อให้จุดสำคัญพ้นอันตราย แต่มันหาใช่ว่าเขาจะหลบพ้นการโจมตีนั้นได้...

“ฉัวะ!” ดาบคมไฟได้ตัดเข้าที่แขนซ้ายของมารเพลิง โชคไม่เข้าข้างที่มือข้างนั้นหาได้จับดาบของอัลทานิสเอาไว้ กล่าวคือเจ้าของดาบยังหาได้อาวุธของตนกลับคืน

  การโจมตีนั้นสร้างความเสียหายให้แก่มารเพลิง แขนซ้ายส่วนที่ถูกตัดสะบั้นออกหล่นลงสู่ผืนดิน มันค่อยๆ สลายไปราวกับถูกแผดเผาด้วยเพลิง กลายเป็นตอนตะโกที่ปลิวหายไปตามแรงลม แต่มันจะเป็นความเสียหายจริงๆ งั้นหรือ? มารร้ายตนนี้มีความสามารถการฟื้นฟูอย่างน่าอัศจรรย์เหนือกว่าสิ่งมีชีวิตอื่นใดทั่วทั้งดวงดาวโพรโตเนี่ยนแห่งนี้ ไม่นานแขนที่ขาดนั้นคงผุดออกมาซึ่งกระดูกและก่อสร้างเซลล์ เนื้อหุ้มจนกลายเป็นอวัยวะดังเดิมก็เป็นแน่ ไซอาลอทมองดูแขนข้างนั้นของตนเอง ที่ดูจะทำการฟื้นฟูช้ากว่าปกติ ไม่สิ... มันหาได้ทำกระบวนการฟื้นฟูอันใดเสียด้วยซ้ำ หากจะพูดให้ถูกแล้วระบบนั้นมันก็ยังคงทำงานอยู่ตามปกติ แต่มีพลังอะไรสักอย่างที่ขัดขวางการทำงานนั้น ทำให้มันไร้ผลไป

“อย่างนี้นี่เอง... เพลิงจากตัวดาบของเจ้า..”
“มันขัดการฟื้นฟูของข้า” ไซอาลอทกล่าว

  มันคือเพลิงที่ก่อขึ้นจากตัวดาบของอัลทานิส ดูเหมือนมันจะเป็นปราณเพลิงที่ต่างออกไปจากครั้งแรกที่เขาใช้ มันดูเหมือนกับเป็นการฝังปราณเพลิงเข้าตัวดาบเสริมความคมและพลังการทำลายล้าง ในช่วงที่มันฟาดฟันไซอาลอทจนก่อให้เกิดบาดแผล ตัวดาบได้ทิ้งเศษเพลิงลงบนแผลข้างนั้น มันมีผลตรงข้ามต่อการฟื้นฟู แผดเผาเซลล์ที่ก่อตัวขึ้นมาเรื่อยๆ จนมิอาจจะสร้างอวัยวะได้ หรือหากจะพูดโดยง่ายก็คืออัลทานิสได้หยุดกระบวนการฟื้นฟูร่างกายของไซอาลอทผ่านทางวิชาเพลิงของเขา เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้วจึงพูดได้ว่าความเป็นไปได้ที่อัลทานิสจะสามารถโค่นเพลิงพิโรธตนนี้ได้นั้นมากขึ้นเป็นเท่าตัวเลยทีเดียว น่าแปลกที่เพราะอะไรไซอาลอทยังคงแสดงท่าทางสนุกสนานออกมา ทั้งที่จุดที่ทำให้เขาแกร่งที่สุดถูกทลายไปด้วยน้ำมือของอัลทานิส ทั้งที่ในตอนนี้เขาได้มีจุดอ่อนที่จะทำให้ตนเองแพ้ส่วนหนึ่งของเพลิงพิทักษ์นี้ได้ทุกเมื่อ

“ช่างมันประไร..” จู่ๆ อสูรอัคคีก็ได้กล่าววาจาของตนออกมาอีกครั้ง
“แค่แขนข้างเดียว.. ยังไงซะข้าก็เอาชนะเจ้าได้อยู่ดี!”

  ท่าทางและคำพูดแลดูไม่เกรงกลัวสร้างความกังวลให้กับอัลทานิส เช่นนั้นแล้วไซอาลอทจึงตรงเข้าไปหาชายหนุ่มพร้อมกับดาบของชายผู้นั้น ก่อนจะใช้มันฟาดฟันอัลทานิสอย่างรวดเร็ว นักดาบเพลิงรับคมดาบนั้นได้ด้วยดาบคาตานะของตนเอง ด้วยแรงอันมหาศาลของไซอาลอทที่ฟาดฟัน แม้นว่าอัลทานิสจะรับคมดาบไว้ได้ แต่ตัวเขาไถลออกไปพอควร แรงกระทบของดาบนั้นทำให้ร่างของอัลทานิสชะงักงัน เขารู้สึกถึงแรงกระแทกที่สั่นไหวทั่วทั้งร่างหยุดการทำงานการสั่งการของสมอง ในระหว่างนั้นเองไซอาลอทจึงออกเพลงดาบของตนไป แต่มันดูเหมือนกับเป็นการแกว่งดาบอย่างไร้ศิลปะเท่านั้น แน่นอนว่าการทำแบบนั้น ต่อให้มันเร็วขนาดไหนก็ตามแต่กับสายตาของยอดนักดาบผู้นี้มันก็เหมือนกับเป็นการเด็กน้อยที่ทำการละเล่นกระบี่กระบอง อัลทานิสรับคมดาบนั้นไว้ แต่ในครั้งนี้เขาได้คำนวณกำลังของมารตนนั้น จึงรับมันไว้ได้โดยที่ร่างกายไม่ไถลถอยกลับไป ทั้งสองฟาดฟันคมดาบแห่งเพลิงใส่กันและกัน แต่ด้วยผู้ที่ชำนาญตัวดาบมากกว่าย่อมได้เปรียบอยู่แล้ว

  เหมือนกับเป็นเรื่องประชดประชัน... เมื่อครู่ตัวของมารเพลิงได้พูดออกกับปากตนเองวิจารณ์ถึงวิชาดาบของอัลทานิสที่เชื่องช้าดั่งคนพายเรือ แต่สิ่งที่ตนเองทำกลับย่ำแย่เสียกว่านักพายเรือเสียเอง การแกว่งดาบอย่างไร้ชั้นเชิงเช่นนั้น ซึ่งแม้กระทั่งนักพายเรือยังอ่อนช้อยและแกว่งไม้พายดูมีชั้นเชิงกว่าเสียอีก คมดาบที่ดูแข็งเกร็งนั้นถูกมองออกโดยอัลทานิส เขารับคมดาบไว้ทุกครั้งที่ไซอาลอทแกว่งเข้ามาและฟันกลับคืนไปด้วยความเร็วที่เหนือกว่า ถึงแม้ว่ากำลังจะไม่เทียบเท่ามารเพลิงก็ตามที แต่ทั้งทักษะและความเร็วนั้นทำให้เพลงดาบของผู้รู้จักรวาลนั้นเหนือกว่าอสูรเพลิงเป็นเท่าตัว คมดาบเพลิงฟาดเข้าใส่ร่างของไซอาลอทจนเกิดเป็นบาดแผลหลาดจุด แม้นมันจะไม่ใหญ่แต่ไฟสีส้มอ่อนของชายนักดาบที่ลุกไหม้ทั่วทั้งบาดแผลมิอาจจะทำให้มารเพลิงสามารถรักษาตัวได้ ทุกครั้งที่ไซอาลอทถูกจู่โจมความพิโรธจึงเพิ่มพูลขึ้นเรื่อย มารร้ายใช้อารมณ์เหนือความหยั่งคิด ฟาดฟันดาบไปเรื่อยราวกับคลื่นน้ำยามบ้าคลั่ง คมดาบเพลิงเหล่านั้นถูกรับด้วยดาบของอัลทานิสอย่างสมบูรณ์แบบ เป็นดั่งสุดยอดเพลงดาบป้องกัน

  ด้วยวิชาป้องกันเมื่อครู่นั้นสามารถกันเพลงดาบของมารเพลิงได้อย่างไร้ที่ติ ในจังหวะที่คมดาบกระทบเข้าหากัน อัลทานิสได้ใช้ท่วงท่าดีดตัวดาบของไซอาลอทออกจากมือมารร้าย เช่นนั้นแล้วคมดาบแห่งเพลิงจึงพุ่งตัวเข้าหาไซอาลอทอีกครั้ง แน่นอนว่าการโจมตีที่ดูชัดเจนโจ่งแจ้งเสียขนาดนั้นมิอาจจะจัดการมารเพลิงได้แน่ มารร้ายใช้กงเล็บของตนรับคมดาบนั้นไว้ เล็บยาวเหล่านั้นตรึงตัวดาบไม่ให้เจ้าของดาบปล่อยวิชาเพลงได้ น่าแปลกที่ชายหนุ่มหาได้คิดที่จะดึงดาบเล่มนั้นเข้าหาตัว เขากลับปล่อยมันออกจากมือ กระโดดขึ้นเหนือฟากฟ้าในทันที อัลทานิสกระโจนตัวไปทางด้านหลังของไซอาลอทที่ซึ่งเป็นจุดที่ดาบอีกเล่มตกอยู่ มันเป็นดาบทรงอัศวินที่ดูมีขนาดใหญ่กว่าคาตานะที่ติดอยู่ในมือของมารเพลิง เขาหยิบมันขึ้นมาโดยเร็วก่อนที่จะเหวี่ยงมันสุดแรง รวบรวมปราณทั้งหมดเข้าไปในตัวดาบนั้น คมดาบก่อเป็นปราณเพลิงดั่งเคียวขนาดใหญ่ซัดออกเป็นรัศมีทั้งกลม ปราณอัคคีเหล่านั้นพุ่งออกจากตัวดาบในทันทีกลายเป็นคลื่นพลังรูปเสี้ยวจันทร์ขนาดยักษ์ ในระยะที่เผาขนเช่นนี้หากไม่ใช่ผู้ที่มีปฏิกริยาตอบรับสูงคงจะถูกกระบวนท่านี้เป็นแน่

แต่มารเพลิงหาได้เป็นเช่นนั้น เขารับรู้ถึงการโจมตีนั้นตั้งแต่ครั้นที่ชายหนุ่มกวัดแกว่งเพลงดาบแต่แรกเริ่มแล้ว มารเพลิงเปลี่ยนวิธีการจับทรงดาบคาตานะที่ติดอยู่ในมือ เขาโยนมันขึ้นแล้วจับด้ามคาตานะ ก่อนที่จะใช้มันรับคลื่นพลังนั้น มารเพลิงหันคมดาบเข้าหาเพลิงที่พุ่งเข้าหาตัว ทันใดที่คลื่นพลังอัคคีนั้นกระทบเข้าตัวดาบมันจึงขาดออกเป็นสองท่อนในทันที แต่แล้วชายหนุ่มกลับเก็บดาบในมือของตนเข้าฝักดาบเสียทั้งอย่างนั้น การที่เก็บอาวุธในสนามการต่อสู้คงไม่ใช่เรื่องดีนัก หนำซ้ำอัลทานิสยังวิ่งตรงเข้าไปด้านหน้าโดยมือที่ไร้อาวุธเครื่องป้องกันที่จะต่อกร การกระทำเช่นนั้นสร้างจุดสนใจให้แก่ปีศาจตนนี้ แลดูพึงพอใจกับท่าทีของอัลทานิสที่ดูไม่เป็นพิษภัยต่อเขาเลยแม้แต่น้อย เมื่อทั้งสองเข้าใกล้ตัวกันแล้วทางฝ่ายมารเพลิงออกดาบของปรปักษ์ทันใด ด้วยความที่ตัวดาบที่มีแต่ความรุนแรงแต่คาดเดาง่ายเช่นนั้น ตัวของอัลทานิสจึงหลบมันได้ เขางอเข่าทั้งสองของตนให้ไถลไปกับพื้น เงยหน้ากลับหลังเป็นการหลบคมดาบ สไลด์ไปตามทางพร้อมกับมือสองข้างชูขึ้นเหนือหัวของตน ทันใดนั้นหัถต์เหล่านั้นก่อเกิดประกายไฟกลายเป็นรูปร่างคล้ายกับอาวุธ ปรากฏเป็นปืนสั้นในทรงหรูหราดูแปลกตาสองกระบอก

“ปัง!” “ปัง!” “ปัง!”

  ปืนสั้นทั้งสองลั่นไกออกไปอย่างรวดเร็วกระหน่ำออกอย่างกับปืนกล กระสุนเพลิงพุ่งเข้าใส่ไซอาลอทจนชายผู้นั้นเสียจังหวะ ทันใดนั้นตัวของหนุ่มผู้นั้นจึงลุกขึ้นมาจากผืนดิน แต่ยังคงไม่หยุดที่จะรัวอาวุธของตน บอลเพลิงที่ถูกขับออกจากลำกล้องสร้างบาดแผลให้กับมารเพลิง ยิ่งบาดแผลที่มากมีเท่าไหร่ยิ่งเป็นการสร้างความได้เปรียบแก่อัลทานิสมากขึ้นเท่านั้น ไซอาลอททรุดตัวลงยกมือข้างเดียวกับกระสุนที่อาจจะทำอันตรายต่อศีรษะของตนเอง เมื่อนั้นมารเพลิงจึงเปล่งปราณออกจากร่าง ให้มันแผ่ออกไปทั่วร่างกายของตนเอง มันปรากฏออกเป็นม่านพลังทรงกลมคลุมกาย ดูเหมือนว่าจะเป็นวิชาป้องกันที่ใช้ในการปกป้องตัวเองจากการโจมตีในระดับหนึ่ง ด้วยความที่ตัวของไซอาลอทเป็นดั่งผู้มีปราณไร้ขีดจำกัด พลังเพลิงที่มีอานุภาพสูงได้ช่วยให้กระสุนของอัลทานิสที่พุ่งเข้าหาตัวสลายไปในทันทีเมื่อกระทบต่อม่านพลังนั้น แม้จะเป็นเช่นนั้นแต่ลั่นไกปืนหาได้หยุด อัลทานิสคงมีความตั้งใจที่จะทำลายม่านพลังนั้นด้วยพลังของตนเอง ในทางทฤษฏีของวิชาม่านพลัง มันมีความเป็นไปได้สูงที่การโจมตีเหล่านั้นสลายตัวไปหาใช่เพราะมันไร้ผล แต่มันเป็นเพราะบาเรียซึมซับการโจมตี ดูดปราณที่จับตัวเป็นก้อนซึ่งคือกระสุนให้กลายเป็นโมเลกุล ซึ่งหากโจมตีโดยรัวแบบนี้ต่อไปม่านพลังนั้นคงมิอาจจะต้านทานอาวุธแห่งอัลทานิสได้

  ซึ่งมันก็เป็นตามที่หนุ่มผู้นั้นคาดคะเนไว้ ม่านพลังเริ่มเสื่อมคลายลงช้าๆ ราวกับว่าพลังของมันเริ่มไม่เสถียร ไม่นานนักมันจึงแตกออกเป็นเสี่ยงๆ จนสามารถมองเห็นได้ชัด กลายเป็นโอกาสให้แก่อัลทานิสในการปิดฉากศึกนี้เสียที ชายหนุ่มผู้รู้จักรวาลกระโดดตัวขึ้นเหนือฟากฟ้า มันเป็นจังหวะที่ไซอาลอทกำลังตั้งตัว ซึ่งระยะกระโดดขึ้นไปบนฟากฟ้าค่อนข้างสูงน่าดู เช่นนั้นแล้วชายหนุ่มจึงเก็บอาวุธปืน สลายตัวไปกลายเป็นปราณเพลิง ก่อนที่จะดึงฝักดาบออก เมื่อนั้นชายหนุ่มจึงออกเพลงดาบสับเป็นรูปกากบาทลงสู่ผืนดิน เหมือนกันเป็นการพัดดาบสร้างแรงลมขึ้นมา ซึ่งมันเป็นบริเวณที่มารร้ายยืนอยู่พอดิบพอดี ทันใดนั้นมันจึงเกิดเป็นรอยแตกบนผืนดิน กดตัวของไซอาลอทลงไปราวกับมีพลังอะไรสักอย่างที่ทำให้เป็นเช่นนั้น รอยแตกที่ดูคล้ายกับถูกเหล็กไหลมีคมฟันเข้า มันคงจะเป็นสิ่งที่อัลทานิสได้ทำลงไปเมื่อครู่นี้ ในระหว่างนั้นเองตัวของหนุ่มนักดาบดิ่งลงมาจากฟากฟ้า เก็บดาบของตนเข้าฝักอีกครั้งก่อนที่จะเสกปืนพลังปราณไว้ที่มือทั้งสอง ไขว์ปืนเป็นรูปกากบาทก่อนที่จะกระหน่ำรัวยิงมันออกไปคล้ายคลึงกับตนกำลังเสกสรรดาวตกเพลิงพิโรธที่จะทำลายล้างมารร้าย

ดาวหางอัคคีร่วงโรยกระหน่ำใส่มารร้าย ระเบิดบริเวณนั้นจนราบเป็นหน้ากลอง ฝุ่นควันตลบอวบอวนจนแทบจะมองไม่เห็นร่างของไซอาลอทเลย เมื่อนั้นอัลทานิสจึงหยุดการโจมตีของตนแต่ตัวเองยังคงลอยอยู่เหนืออากาศ คงจะคาดการณ์ว่าตนเองคงจะสามารถหยุดมารเพลิงตนนี้ได้แล้วก็เป็นได้

“ฟลุบบบบ!”

  เสียงการเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วออกมาจากทะเลควัน มันเป็นอวัยวะทรงประหลาดดูคล้ายกับหนวดปลาหมึกขนาดใหญ่ พุ่งตัวเข้าไปรัดคออัลทานิส มันตรึงร่างของนักดาบเพลิงเอาไว้จนเขามิอาจจะขยับกายาได้ตามต้องการ เช่นนั้นแล้วสิ่งนั้นมันจึงเหวี่ยงร่างของอัลทานิสกระแทกเข้ากับอาคารเรือนจนพังทลายลง ร่างของชายหนุ่มรับแรงกระแทกเข้าไปเต็มๆ ทำให้ตัวเองรู้สึกชาไปทั้งตัว ไม่นานนักอวัยวะส่วนนั้นจึงดึงตัวกลับเข้าไปยังดงควันที่ซึ่งเป็นบริเวณที่ไซอาลอทอยู่ ร่างของอัลทานิสที่ถูกดึงเข้าไปในดงควันสร้างแรงลมพัดกลุ่มควันออกไปจนหมด ปรากฏเป็นหน้าอกของมารเพลิงที่มีศีรษะของมังกรขนาดยักษ์ฝังตัวอยู่ ดูเหมือนว่าสิ่งที่รัดกายาของชายหนุ่มจะเป็นลิ้นของมังกรตนนั้น ไม่นานนักมันปล่อยร่างของอัลทานิสออก และปากของมังกรร้ายตนนั้นจึงอ้าขึ้นกว้างปล่อยพลังเพลิงพ่นไฟเต็มพิกัดใส่อัลทานิสหวังจะแผดเผาส่วนหนึ่งแห่งผู้พิทักษ์แห่งมอดไหม้กลายเป็นธุลีโดยที่ชายหนุ่มไร้ทางป้องกันตัว

“จงตายด้วยเพลิงแห่งข้าเสีย...”

อัคคีแผดเผาร่างของผู้กล้า แม้นว่าอัลทานิสจะเป็นเพลิงที่แกร่งเพียงใดแต่ในโลกาหาได้มีใครเทียบเทียดต่อเพลิงพิโรธแห่งมารไซอาลอทได้ จึงเป็นไปได้ว่าต่อให้เป็นอัลทานิสเองคงจะไม่คณามือของมารร้ายตนนี้เป็นแน่

“ฉัวะ!”

เสียงของวัตถุมีคมอะไรสักอย่างสะบั้นศีรษะของร่างมนุษย์จนขาดออก โลหิตพุ่งกระฉูดออกมาดูน่ากลัว เลือดที่ไหลลงสู่ผืนดินทำปฏิกริยาก่อเกิดเป็นไอร้อนและกลิ่นควันฉุนที่เกิดจากเพลิงไหม้และกระบวนท่าพ่นเพลิงของมังกรแห่งความตายจึงหยุดลง มันเป็นศีรษะของมารเพลงที่หลุดออกจากบ่าแต่ใครกันที่เป็นคนทำเช่นนั้น อัลทานิสที่ตกอยู่ภายใต้วิชาการโจมตีแห่งไซอาลอทมิอาจจะโต้กลับอะไรไปได้อยู่แล้ว และตัวของราธเองก็หาได้เป็นคนทำเช่นนั้นแล้วใครกันละที่จะมีความเป็นไปได้ที่จะลงมือทำแบบนั้นได้

เสียงฝีเท้าดังขึ้นมาเดินเข้าไปหาชายหนุ่มอัลทานิส พร้อมกับหยาดของเหลวคล้ายโลหิตหยดลงผืนดิน แต่มันหาใช่เลือดแต่เป็นโคลมตมสีทมิฬ... มันเป็นดูบาร์นแห่งลูเซียส!

“นั่นเป็นการตัดสินที่ไม่ฉลาดเอาเสียเลยนะ...”
“... ลูเซียส”

เสียงของจอมมารกล่าวออกไปแม้ว่าตนจะถูกสะบั้นหัวจนขาดออก ไม่นานนักจึงมีหัตถ์แห่งเพลิงหยิบเอาศีรษะอสูรขึ้นมาจากผืนดินฝุ่นทราย ปัดเศษฝุ่นออกแล้วจึงนำมันไปประติดประต่อกับคอของร่างนั้น รอยแผลที่ถูกสะบั้นเริ่มสมานตัวเข้ารักษาตัวที่ซึ่งเป็นสุดยอดวิชาที่น่ากลัวของไซอาลอท ดูเหมือนว่าดูบาร์นแห่งลูเซียสจะหาได้มีผลเช่นเดียวกับเพลิงแห่งอัลทานิส มันจึงไม่อาจจะหยุดกระบวนการรักษาตัวของเพลิงพิโรธนี้ได้ แน่นอนว่าการกระทำเช่นนั้นของดูบาร์นที่ซึ่งถูกเรียกโดยจอมมารเองว่าเป็น “บุตรแห่งตน” เช่นนี้ย่อมไม่ทำให้ไซอาลอทยินดีเป็นแน่แท้

“แย่เสียจริงๆ ที่บุตรแห่งข้าทำเรื่องเช่นนี้ต่อผู้เป็นบิดา”
“จะให้ข้าเรียกเจ้าว่าอะไรดีล่ะลูเซียส... ลูกทรพีงั้นหรือ?”
“แล้วรู้ไหมว่าสิ่งที่คนที่เลวร้ายถึงขนาดที่ทำร้ายพ่อของตนเองจะถูกลงทัณฑ์เช่นไร?”

“กลัวบ้างหรือเปล่าล่ะลูเซียส?”
ขึ้นไปข้างบน Go down
https://www.facebook.com/BillAlfenolf
 
Cataclysm: The Endless Hellfire XLV
ขึ้นไปข้างบน 
หน้า 1 จาก 1
 Similar topics
-
» Cataclysm: The Endless Hellfire IV
» Cataclysm: The Endless Hellfire XXI
» Cataclysm: The Endless Hellfire V
» Cataclysm: The Endless Hellfire VI
» Cataclysm: The Endless Hellfire XL

Permissions in this forum:คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
Bloody Wrestling Online :: BWO : Special Event :: BWO Novel-
ไปที่: