Bloody Wrestling Online
Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.

Bloody Wrestling Online

The Number One Cyber Wrestling Online
 
บ้านPortalLatest imagesสมัครสมาชิก(Register)เข้าสู่ระบบ(Log in)

 

 Illusion : EP 3

Go down 
ผู้ตั้งข้อความ
DanielsoN
Xiao Mei's Husband
Xiao Mei's Husband
DanielsoN


จำนวนข้อความ : 2272
Join date : 19/09/2010
Age : 29

Illusion : EP 3 Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Illusion : EP 3   Illusion : EP 3 EmptyThu Dec 31, 2015 7:58 pm

“โอเค เสร็จซักที” ชายผมน้ำตาลปาดเหงื่อของเขาด้วยมือของเขา

ในที่สุดเขาก็จัดที่อยู่ใหม่ของเขาเสร็จเสียที เขาย้ายมาอยู่ในคอนโดแห่งใหม่ คอนโดที่อยู่ใกล้กับสถานที่ทำงานแห่งใหม่ของเขา หรือก็คือ WNBT…หลังจากที่เขาตัดสินใจอยู่นาน ในที่สุดเขาก็ตอบรับคำเชิญของจูเลียต ฮอว์กินส์ มันเป็นการตัดสินใจที่ยากและเขาก็ไม่รู้ว่ามันเป็นการตัดสินใจที่ถูกรึเปล่า แต่อย่างน้อยๆนี่มันเป็นสิ่งที่เขาอยากทำมาตลอดชีวิต เขาอยากจะสร้างละครที่มีดีแต่ความรุนแรงและเรื่องทางเพศ เขาอยากจะเปลี่ยนวงการบันเทิง เขาอยากจะสร้างสื่อที่ไม่ได้ให้แต่ความสนุกแต่ให้อะไรบางอย่างให้เราได้ข้อคิดกลับออกมาด้วย

คอนโดนี้เล็กกว่าคอนโดเดิมของเขาอย่างเห็นได้ชัด บางทีอาจจะเพราะคอนโดเก่าของเขานั้นมีพื้นที่กว้างเกินไปจึงทำให้คอนโดนี้ดูเป็นคอนโดแคบๆ แต่ถึงมันจะเล็กกว่า มันก็มีข้อดีอยู่สองสามอย่างเหมือนกัน อย่างแรกคือมันใกล้กับสถานที่ทำงานใหม่ของเขา เขาสามารถเดินไปกลับได้ภายใน 10 นาที และอย่างที่สองห้องของเขาสามารถเก็บคอเล็คชั้นหนังได้ครบถ้วน และท้ายที่สุดราคาก็ไม่ได้แพงเท่าไหร่นัก เรียกว่าถูกเลยก็ว่าได้หากเทียบกับคอนโดเก่าของเขา อีกอย่างเขาอยู่คนเดียวดังนั้นห้องที่เขาอยู่ตอนนี้เลยไม่มีปัญหาเท่าไหร่

“ก๊อกๆ” เสียงเคาะประตูดังขึ้น

เจเรมี่เดินทางประตูก่อนที่เขาจะเปิดประตูขึ้น ก่อนที่เขาจะเห็นหญิงร่างท้วมยืนอยู่ตรงหน้าเขา ผมของเธอนั้นหยิกซก ข้างๆของเธอนั้นเป็นหญิงผมดำที่ยาวสลวย ดวงตาของเธอนั้นเป็นสีเขียว ใบหน้าของเธอนั้นดูเย็นชาต่างกับหญิงร่างใหญ่ที่ใบหน้าของเธอนั้นดูเป็นมิตร

“สวัสดีค่ะ ดิชั้นอแมนด้า เคฮิลล์ อยู่ห้องข้างๆคุณ ยินดีที่รู้จักค่ะ” หญิงร่างอ้วนยื่นมือมายังชายผมน้ำตาล
“สวัสดีครับ ผมเจเรมี่ ควินน์ ยินดีที่รู้จักเช่นกันครับ”

คำว่า “เจเรมี่ ควินน์” นั้นทำให้ดวงตาของหญิงสาวผู้มีใบหน้าเบื่อโลกเบิกกว้างขึ้น

“ใช่ เจเรมี่ ควินน์ ที่เขียนบทละครรึเปล่า” เธอเอ่ยปากถาม
“อ่าใช่ นั่นผมเอง” เจเรมี่ตอบกลับ
“ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าชั้นจะได้เจอคุณตัวจริง...ชั้นอยากจะพูดอะไรอย่างนึงกับคุณมานานแล้ว” หญิงผมดำพูดด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความซีเรียส
“งานของคุณห่วยมาก”

พูดจบเธอก็สะบัดผมของเธอก่อนจะกลับห้องของเธอไป ประโยคนี้มันทำให้เจเรมี่เกาศีรษะของตัวเอง นี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกแหละที่เขาได้ยินคำพูดแบบนี้ แต่ส่วนใหญ่คนที่พูดประโยคนี้ต่อหน้าเขานั้นมักจะเป็นพวกคนในวงการบันเทิงเสียมากกว่า ถ้าหากเป็นคนที่อยู่นอกวงการล่ะก็คำพูดส่วนนี้มักจะมาจากในอินเตอร์เน็ตมากกว่า จะบอกว่าเด็กผู้หญิงคนมะกี้นั้นน่าจะเป็นคนแรกที่กล้าพูดกับเขาตรงๆแบบนี้ ประโยคนี้ทำให้ผู้เป็นหญิงร่างท้วมทำหน้าที่ไม่ค่อยพอใจนักก่อนจะหันมาทางชายผมน้ำตาลที่พึ่งโดนสบประมาทไปเมื่อครู่นี้

“นั่นลูกสาวของดิชั้นคะ เดซีย์...ต้องขอโทษแทนลูกสาวดิชั้นด้วย”
“ไม่เป็นไรหรอกครับ” เจเรมี่ยิ้มกลับ
“แต่ต่อให้ลูกสาวดิชั้นไม่ชอบ แต่ดิชั้นกับเพื่อนดิชั้นชอบนะคะ” เธอพูดด้วยพลางหัวเราะ

เจเรมี่ไม่ได้ตอบอะไร แต่เขาตอบหญิงข้างบ้านไปด้วยรอยยิ้ม

=====

เจเรมี่นั่งอยู่บนโซฟาสีเหลืองของเขา สายตาของเขานั้นมองไปยังทีวีที่เปิดอยู่ ภาพที่เขาเห็นนั้นคือภาพของหญิงผมสีชมพูที่มองออกไปยังนอกหน้าต่าง ในขณะที่เธอกำลังมองออกไปนั้นในหัวของเธอก็คิดถึงอัศวินผมสีทรายในชุดเกราะสีเงิน ภาพที่ชายผู้นำยื่นร่มให้กับเธอยังคงฉายให้เธอเห็นอยู่เรื่อยๆ แต่ภาพที่อยู่ในหัวของเธอนั้นก็ถูกทำลายลงด้วยเสียงของใครบางคน มันเป็นเสียงของเด็กผมสีขาวที่อยู่ในชุดสีน้ำตาลที่มีทั้งรอยเย็บและรอยฉีกขาดอยู่ เธอมองหญิงผมสีชมพูดด้วยแววตาของความเป็นห่วงและเมื่อหญิงผมสีชมพูหันมายังเธอแล้วก็ทำให้เด็กน้อยผู้ใสซื่อนี้เอ่ยปากขึ้นมา

“นายหญิงเจ้าคะ..ท่านเป็นอะไรหรือ? ท่านดูเหม่อๆนะเจ้าคะ”
“ไม่มีอะไร ข้าแค่กำลังคิดถึงอัศวินที่เราเจอเมื่อตอนกลางวันน่ะ” หญิงผมสีชมพูในชุดหรูหราตอบกลับ
“ท่านหมายถึงชายผมสีทรายคนนั้นหรือเจ้าคะ?” เด็กสาวถามต่อ
“อืม” เธอตอบสั้นๆ

หญิงผมสีชมพูมองออกไปนอกหน้าต่าง กระจกนั้นสะท้อนใบหน้าของเธอเอง ใบหน้าของหญิงคนนี้เต็มไปด้วยความสับสน ทุกครั้งทีเธอนึกถึงใบหน้าของชายคนนั้นมันก็ทำให้หัวใจของเธอนั้นเต้นไม่เป็นจังหวะ เธออยากจะเจอกับชายคนนั้นอีก เธออยากจะพูดคุยกับชายคนนั้นอีก

“บางที ข้าว่า...ข้าอาจจะชอบอัศวินคนนั้นแล้วก็ว่าได้”

พูดจบประโยคนี้ ภาพก็ตัดไปพร้อมกับดนตรีของซีรีย์ที่ดังขึ้นมา ชื่อของผู้ที่อยู่เบื้องหลังการสร้างผลงานปรากฏขึ้นมา แน่นอนมันมีชื่อของเขาอยู่ด้วย เจเรมี่คว้ารีโมทก่อนจะกดปุ่มสีแดง มันทำให้จอภาพนั้นดับลง เจเรมี่ลุกจากโซฟาสีเหลืองของเขาก่อนจะเดินไปยังปลั๊กไฟ เขาดึงปลั๊กไฟออก ก่อนที่เขาจะเดินกลับไปยังห้องนอนของตัวเอง เขาทิ้งตัวลงไปบนเตียง เขาหลับตาลง และเตรียมพร้อมกับการผจญภัยบทใหม่ของเขา

“กริ๊งงงง” เสียงนาฬิกาปลุกของเขานั้นดังกึกก้องไปทั่ว

เจเรมี่ยื่นมือไปยังนาฬิกาปลุกก่อนจะกดปิดนาฬิกาปลุก เสียงที่น่ารำคาญนั้นเงียบลงอย่างรวดเร็ว เจเรมี่ลุกขึ้นมาจากเตียงก่อนจะก้าวเท้าออกจากเตียง มันมักจะมีมุขตลกประจำอินเตอร์เน็ตประจำว่า “เตียง” เป็นสิ่งที่มีแรงโน้มถ่วงมากที่สุดในโลก แต่หากทว่าเจเรมี่กลับไม่ได้คิดเช่นนั้น เขาชอบที่จะตื่นมากกว่าการหลับ เพราะว่าเวลาเราตื่นเราทำอะไรได้เยอะแยะแต่ในขณะเดียวกันเวลานอนหลับนั้นเราไม่สามารถทำอะไรได้เลย ถึงจะทำอะไรได้มันก็คงเป็นแค่ในฝันเท่านั้น เจเรมี่แต่งตัวก่อนจะใส่ชุดสูทของเขา โดยปกติเขาไม่ชอบใส่ชุดสูทเท่าไหร่หรอก แต่นี่เป็นวันแรกที่ทำงาน ดังนั้นเขาก็อยากจะใส่อะไรที่ดูเป็นพิธีหน่อย

หลังจากที่เขาทำทุกอย่างเสร็จ เจเรมี่ก็เดินออกจากห้องของเขา ชายผมน้ำตาลเดินตรงไปยังที่ทำงานใหม่ของเขา เขาใช้เวลาเดินไม่นานนักก่อนที่เขาจะถึงที่ทำงานใหม่ของเขา มันเป็นตึกเพียงห้าชั้น เมื่อเทียบกับที่ๆเขาจากมานั้น ถือว่าเป็นคนละเรื่องกันเลยก็ว่าได้ ที่ทำงานเก่าของเขานั้นสูงละฟ้า แต่ที่นี่เหลือแค่เพียงห้าชั้นเท่านั้น ถ้าให้เดาที่นี่อาจจะมีสตูดิโอถ่ายทำเพียงนิดเดียว เขาเช็คแผนที่ดีๆ เผื่อเขาจะมาผิดที่ แต่ด้วยตัวอักษร WNBT ที่อยู่บนยอดตึก ทำให้เจเรมี่ไม่ต้องเปิดดูแผนที่ซ้ำสอง

“คงจะถูกที่แหละ” เจเรมี่พับแผนที่ก่อนจะก้าวเท้าเข้าไปในอาคาร

ทันทีที่เขาก้าวเข้าไปในอาคาร เขาก็ได้ยินเสียงของชายคนนึงพูดขึ้นมา

“กำลังรออยู่เลยคุณเจเรมี่”

เสียงนั้นมาจากชายผมสีขาว เขาสวมแว่นกรอบสีน้ำเงิน เขาสวมชุดสูทสีน้ำเงินเข้ม เขาติดตุ้มหูสีเขียวที่ดูเด่นพอสมควร ชายผู้นี้เดินมาก่อนจะจับมือกับเจเรมี่ผู้ที่เข้ามาในอาคาร เจเรมี่รู้จักชายคนนี้ดีเพราะเขาคือ “โรเบริต์ สเปนเซอร์” เจ้าของช่องโทรทัศน์ WNBT จริงๆก่อนที่เขาจะก้าวสู่โลกของธุรกิจนั้น เขาเป็นนักแสดงมาก่อน ในช่วงยุคปี 2000 ในตอนนั้นชื่อของโรเบริต์เป็นที่พูดถึงเกือบตลอดเวลา ถ้าเปรียบเทียบสมัยนี้ก็คงเป็นลีออน ลีลีเน็ตละมั้ง

“ยินดีจริงๆที่ได้คุณมาร่วมงานครับคุณเจเรมี่” เขาพูดด้วยรอยยิ้ม
“ยินดีเช่นเดียวกันครับที่จะได้ทำงานร่วมกับคุณ” ชายผมน้ำตาลพูดด้วยรอยยิ้ม
“ถ้างั้นเพื่อไม่ให้เสียเวลา เราไปคุยกันเรื่องสัญญาเลยดีไหมครับ?”โรเบริต์เอ่ยปากถาม

เจเรมี่พยักหน้าก่อนจะเดินตามเจ้าของบริษัทตลอดทางนั้นเขาเห็นพนักงานในบริษัทนี้มองเขาตลอด ก่อนที่จะกระซิบกระซากกัน มันเป็นภาพที่แปลกที่บริษัทเล็กๆแบบนี้จะสามารถคว้าตัวนักเขียนระดับต้นๆของประเทศได้ เขาเดินไปก่อนจะตามเข้าไปในออฟฟิศของโรเบริต์ มันเป็นออฟฟิศขนาดเล็ก มันมีตู้หนังสืออยู่ข้างหลัง และบนผนังนั้นก็มีโปสเตอร์ซีรีย์ที่บริษัทนี้สร้างขึ้น ส่วนใหญ่นั้นเป็นเรื่องที่เขาไม่รู้จัก ชายผมขาวเชิญให้ว่าที่พนักงานใหม่นั่งลงตรงข้ามกับเขา เขานั่งลงก่อนที่เจ้าของบริษัทจะยื่นสัญญาให้ เจเรมี่รับไว้ก่อนจะกวาดตาอ่านสัญญาที่เขาได้มา

“ผมรู้นะครับว่าเงินเดือนของคุณที่นั่นเยอะมาก แต่ด้วยว่าบริษัทของเราค่อนข้างเล็ก ดังนั้นนี่คือเงินเดือนที่มากสุดที่เราให้ได้” โรเบริต์พูด

เจเรมี่มอง มันก็เป็นเงินเดือนที่น้อยจริงๆนั่นแหละ แต่ถึงกระนั้นเงินไม่ใช่ปัจจัยหลักของเรื่องนี้ ชายผมน้ำตาลคว้าปากกาก่อนจะเซ็นลายเซ็นของเขาลงไป ชายผมน้ำตาลยื่นสัญญาให้ เจ้าของรับไว้ก่อนจะยิ้มกลับ

“ยินดีต้อนรับสู่ WNBT หวังว่าเราจะมีเวลาที่ดีร่วมกันนะครับ” เขาลุกขึ้นพร้อมกับยื่นมือให้กับเจเรมี่
“เช่นกันครับ”

เจเรมี่ลุกขึ้นพร้อมกับจับมือของชายผมขาว

“อาจจะดูโหดไปนิดนึง วันนี้ผมอยากจะคุยเรื่องซีรีย์ที่เราจะสร้าง”
“แต่ตอนนี้คุณจูเลียตยังไม่มา ดังนั้นผมอยากจะพาคุณไปชมบริษัทก่อน”
“ถ้างั้นก็รบกวนด้วยครับ” พนักงานใหม่ตอบรับด้วยรอยยิ้ม

=====

ทั้งสองมาถึงสตูดิโอที่กำลังถ่ายรายการทอล์คโชว์อยู่ ซึ่งตอนที่ทั้งสองมาถึงนั้นก็เป็นช่วงที่พักอยู่ บนฉากนั้นมีพิธีกรและแขกนั่งพักอยู่บนโซฟา แขกและพิธีกรไม่ได้คุยกัน ดูเพราะคุยกันเยอะแล้วรึเปล่า พอถึงตอนที่ไม่ต้องคุยเลยไม่ได้คุย เจเรมี่ไม่เคยได้ออกรายการแบบนี้เลยซักครั้ง ซึ่งจริงๆเขาก็ดีใจนะ เขารู้สึกว่าอะไรแบบนี้ไม่ใช่พื้นที่ของเขาเสียเท่าไหร่ หลังกล้องนั้นเขาเห็นชายอยู่สองคน คนนึงเป็นชายผมดำ เขาสวมหมวกอยู่ด้วย แม้นี่จะเป็นในที่ร่มก็ตาม ส่วนคนที่อยู่หลังกล้องนั้นเป็นชายที่สวมแว่น เพราะเสียงฝีเท้านั้นจึงทำให้ทั้งสองหันมายังเสียงฝีเท้า

“นี่ณอง ปิแอร์ ส่วนคนใส่หมวกนั่น เดนนิส พอล เป็นฝ่ายดูแลเรื่องถ่ายทำน่ะ”
“สวัสดีครับ เจเรมี่ ควินน์ครับ ตั้งแต่วันนี้จะมาทำงานที่นี่” ชายผมน้ำตาลแนะนำตัว

ชายทั้งสองเมื่อได้ยินชื่อของชายผมน้ำตาลก็มองหน้ากันก่อนจะลุกขึ้นมาพร้อมกับจับมือกับเจเรมี่

“ยินดีที่จะได้ทำงานกับคุณครับคุณเจเรมี่ ไม่อยากจะเชื่อเลยครับว่าผมจะได้ทำงานร่วมกันกับคุณ” ชายผู้สวมหมวกพูดกับเจเรมี่
“ยินดีที่ได้ร่วมงานกับพวกคุณสองคนเหมือนกัน ผมได้ดูรายการของช่องนี้มาบ้าง ผมว่ารายการที่พวกคุณถ่ายนั้นออกมาดูดีมาก
“ผมตื่นเต้นจริงๆที่จะได้ร่วมงานกับคนมีฝีมืออย่างพวกคุณ”
“จริงๆคนที่ถ่ายไม่ใช่ชั้น คนที่ถ่ายคือปิแอร์มากกว่า” เดนนิสชี้ไปยังคนที่ยืนอยู่ข้างๆตัวเอง

ชายที่อยู่ข้างๆกล้องไม่ได้พูดอะไรนอกจากพยักหน้าให้ เจเรมี่ยิ้มให้

“ดูเหมือนพวกคุณยังคงมีงานต้องทำต่อ ถ้างั้นผมกับคุณเจเรมี่ขอตัวล่ะ” โรเบริต์พูดขึ้น

เจเรมี่และโรเบริต์หันหลังและเดินกลับไป พวกเขาเดินมาถึงฝ่ายเขียนบท ซึ่งมันต่างจากฝ่ายเขียนบทที่อื่นๆ เพราะปกติฝ่ายนี้จะเต็มไปด้วยผู้คนที่เขียนบทกันอย่างหลังขดหลังแข็ง แต่ที่นี่นั้นไม่มีใครอยู่เลย

“ปกติแล้วมีเด็กฝึกงานอยู่นะ แต่นอกจากนั้นแล้วก็ไม่มีใครแล้วล่ะ” โรเบริต์พูด
“สรุปว่าตอนนี้มีผมคนเดียวซินะ?” เจเรมี่ถามต่อ
“อืม” โรเบริต์ตอบๆสั้น

เสียโทรศัพท์ดังขึ้น ชายผมน้ำตาลขาวหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาก่อนจะกดรับสาย

“ฮัลโหล? ถึงแล้วหรอ คุณจูเลียต?”
“โอเค ถ้างั้นไปเจอกันที่ห้องประชุมก็แล้วกัน”
“ดูเหมือนคุณจูเลียตจะถึงแล้ว ถ้างั้นเราไปที่ห้องประชุมกันเลยแล้วกัน”

=====

ปกติห้องประชุมที่เขานั่งนั้นมักจะมีคนมากมาย แต่หากทว่าในบริษัทแห่งนี้ไม่ใช่อย่างนั้น มันมีเพียงแค่คนสามคนเท่านั้นที่นั่งอยู่ในนี้ คนแรกนั้นคือเจเรมี่ คนที่สองคือโรเบริต์ และคนสุดท้ายคือจูเลียต ทั้งสามนั่งอยู่บนเก้าที่อยู่รายล้อมโต๊กลมที่ทำจากไม้ มันเป็นห้องประชุมที่เล็กมาก ไม่มีมีทั้งจอโปรเจ็คเตอร์ มีแต่กระดานไวท์บอร์ดเท่านั้น บนกำแพงนั้นก็คล้ายๆกับออฟฟิศของโรเบริต์ มันเต็มไปด้วยโปสเตอร์ผลงานของที่นี่ และเช่นเดียวกันเขาไม่รู้จักผลงานของที่นี่เลย เขาเริ่มสงสัยว่าจริงๆเป็นที่ตัวเขาหรือเป็นที่ผลงานที่นี่มันไม่ได้รับความนิยมกันแน่

“เอาล่ะ เข้าเรื่องเลยละกัน ตอนนี้เราต้องทำซีรีย์ใหม่มาฉายในช่วง Prime Time ช่องของเรา”
“คุณเจเรมี่ตามที่เราสัญญาไว้ เราจะให้คุณเลือกว่าคุณอยากจะทำซีรีย์เกี่ยวกับอะไร” โรเบริต์หันมาพูดกับเจเรมี่

จูเลียตมองเขาเช่นเดียวกัน ชายผมน้ำตาลจับคางของเขาก่อนจะครุ่นคิด

“ผมอยากจะทำซีรีย์เกี่ยวกับทนายครับ”
ขึ้นไปข้างบน Go down
 
Illusion : EP 3
ขึ้นไปข้างบน 
หน้า 1 จาก 1
 Similar topics
-
» Illusion : EP 1
» Illusion : EP 2
» Illusion : EP 4
» Illusion : EP 5
» Illusion : EP 6

Permissions in this forum:คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
Bloody Wrestling Online :: BWO : Special Event :: BWO Novel-
ไปที่: