" เอ้า รีบๆกินได้แล้วจ่ะหนุ่มๆ "
เสียงเข้มๆแต่ออกหวานแบบสาวน้อยวัยแรกแย้มของ'กระเทยควาย'ร่างใหญ่อย่างยูเมะโฮชิ มาซาชิ หรือ พี่มาชิ ที่บังคับให้เด็กๆทุกคนที่มาพักอาศัยอยู่เรียกแทนชื่อมาซาชิ
ที่อพาทเม้นยูเมะโฮชิแห่งนี้ทุกคนอาศัยอยู่รวมกันอย่างครอบครัว(พี่มาชิได้กล่าวไว้) เจ้าของอพาทเม้นคือชายวัยกลางคนแฝดผู้พี่ของตระกูลยูเมะโฮชิหรือยาซูชิ ชายร่างใหญ่หน้าโหดราวกับยากูซ่า และมีน้องสาวเทียมอย่างมาซาชิเป็นผู้ดูแลทุกอย่างในบ้านตั้งแต่ทำความสะอาดภายนอกจนถึงทำกับข้าว
ที่ห้องกินข้าวเล็กๆอันแสนอบอุ่นนั้นทุกคนนั่งกันอยู่พร้อมหน้าพร้อมตาจะเบียดเสียดเว้นแต่คุณยาซูชิ ซึ่งออกไปทำงานข้างนอกและยังไม่ได้กลับมาตอนรับเหล่าเด็กปีหนึ่งผู้มาอยู่ใหม่ด้วยตนเอง จึงเป็นหน้าที่ของน้องชายอย่างมาซาชิแทน
ฝั่งหนึ่งของโต๊ะยาว โซเรียวกำลังพยายามจ้องหน้าของชายหนุ่มผมแดงผู้ซึ่งนั่งอยู่ตรงข้ามเขาอย่างไม่ลดละโดยไม่สนใจ มือก็คีบข้าวเข้าปากเรื่อยๆโดยไม่สนใจบรรยกาศภายนอกสักนิด แต่ดูเหมือนชายหนุ่มผมแดงจะไม่สนใจ ก้มหน้าก้มตากินข้าวอย่างไม่สบอารมณ์นัก
ชายหนุ่มแดงหรือคาวาชิม่าถอนหายใจพลางเลือบมองอาหารที่เขาซื้อมาจากข้างนอกที่ถูกพี่มาชิทิ้งลงถังขยะอย่างไม่ใยดี
' ทุกคนที่มาอยู่บ้านนี้ต้องกินอาหารฝีมือพี่นะจ้ะ '
คาวาชิม่าคิดถึงตอนที่อาหารที่ตนซื้อมาด้วยเงินไม่น้อยถูกทิ้งลงถังขยะโดยพี่มาชิพลางถอนหายใจ ถึงแม้ว่าอาหารที่พี่มาชิทำจะอร่อยสุดๆเลยก็เถอะ แต่ก็ยังอดเซ็งไม่ได้จริงๆ เขาถอนหายใจอีกครั้งโดยไม่สนใจหนุ่มผมทองที่นั่งตรงข้ามซึ่งพยายามจะมองหน้าตนอย่างหาเรื่องสุดฤทธิ์
"ขอเพิ่มอีกได้ไหมครับ"
หนุ่มร่างเล็กสวมแว่นทรงกลมฉายมาด 'เด็กเนิร์ด' ที่นั่งข้างๆหนุ่มผมแดงอย่างคาวาชิม่า ทำให้หนุ่มแว่นผู้นี้ดูจืดจางลงไปอีก
"ได้สิจ้ะเค็นตะคุง"
พี่มาชิยิ้มรับอย่างใจดี ก่อนจะยกจานข้าวของหนุ่มแว่นเค็นตะตักมาเพิ่มจนพูนจานก่อนจะส่งกลับคืนให้ด้วยรอยยิ้ม
เค็นตะผงกหัวขอบคุณก็จะโซยข้าวในชามต่ออย่างรวดเร็วเป็นชามที่สาม จนคาวาชิม่าที่นั่งข้างๆไม่อยากเชื่อว่าหนุ่มตัวเล็กคนนี้จะกินจุถึงขนาดนี้
"แกเองก็รีบๆกินซะสิ จ้องหน้าเขาอย่างกับปลากัด"
ชายผมทองหรือฮิงูจิซึ่งตอนนี้สวมเสื้อแขนยาวและกางเกงบ็อกเซอร์ลายสก๊อตอย่างสบายๆ กระซิบกับโซเรียวที่กินข้าวด้วยปปี๊ดที่ยิ่งกว่าหอยทากเพราะเอาแต่พยายามจ้องหน้าชายผมแดงที่เต็มไปด้วยบาดแผลตรงข้ามอย่างเอาเป็นเอาตาย
ซึ่งหลังจากที่โซเรียวรู้ว่าชายผมแดงผู้นี้คือผู้ชนะสงครามปีหนึ่งก็เอาแต่จ้องหน้าเขามาเป็นชั่วโมง ตั้งแต่รู้เรื่องในตอนแรกจนถึงตอนนี้ โดยฮิงูจิพูดห้ามเขาก็ไม่สนใจ
และครั้งนี้ก็เหมือนกัน... โซเรียวเงียบไม่สนใจสิ่งที่คนอายุมากกว่าพูดด้วย ส่งให้ฮิงูจิได้แต่ถอนหายใจ
แต่ในตอนนั้นเอง ฮิงูจิรู้สึกที่เงาเย็นยะเยือกที่ทาบลงมาจากข้างหลัง
เขากำลังจะอ้าปากเตือนรุ่นน้อง แต่ก็ไม่ทันซะแล้ว....
ป๊าบบบบบบ!!!!!!!!
มาซาชิใช้มือใหญ่ๆของตนฟาดเข้าไปที่กลางหลังของโซเรียวจนชายหนุ่มแทบกระอักเลือดข้าวพุ่งไปติดหน้าชายผมแดง และนั้นเป็นครั้งแรกที่อายาเมะเงยหน้าขึ้นมามองโซเรียวชัดๆครั้งแรก รวมถึงคนอื่นๆที่ได้ยินเสียงตบหลังอันรุนแรงก็ต้องหันมามองตามๆกันอย่างหวาดผวา
"เลิกจ้องหน้าคนอื่นได้แล้วจ้ะ โซเรียวคุง มันเสียมารยาท รีบๆกินซะ...อย่าให้พี่สาวคนสวยโมโหนะจ้ะ"
มาซาชิเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็บเฉียบพลางยิ้มอย่างอ่อนโยน
โซเรียวถึงกับหน้าซีด พยักหน้ารับอย่างว่าง่าย ก่อนจะสวาปามข้าวทั้งหมดภายในคำเดียว
"โขเอิมอีกอับ" ขอเพิ่มอีกครับ นั่นคือสิ่งที่โซเรียวพูดขณะเคี้ยวอาหารอยู่เต็มปาก
"ฮ่ะๆๆ"
เสียงหัวเราะเบาๆดังขึ้นจากด้านหนึ่งของโต๊ะ ชายร่างผอมผมสีเงินผู้ซึ่งนั่งเงียบมานาน แต่ทุกคนกับรู้สึกได้ว่าเขามีตัวตนอยู่ตลอดเวลา เรียกได้ว่าไม่จืดจางเลยถึงแม้จะไม่พูดก็ตาม
"ขำอะไรฟ่ะ"
โซเรียวพูดขึ้นอย่างหงุดหงิดเล็กๆ ขณะรับจานข้าวจากพี่มาชิ
"เปล่าซะหน่อย"
ชายผมสีเงินตอบพลางยกซุปมิโสะขึ้นซดจนเกลี้ยง
"อ่าห์ อิ่มแล้วครับพี่มาชิ อร่อยมากครับ"
"แหม่ ขอบคุณนะจ้ะ คาวาชิม่าคุง"
พี่มาชิตอบพลางเดินไปเก็บจานจากชายผมเงิน
"แต่อย่าเพิ่งกลับห้องนะจ้ะ พี่ยังมีไฮไลท์สำคัญก่อนที่ทุกคนจะกลับห้อง ฮิฮิฮิ"
กระเทยหน้าโหดพูดอย่างร่าเริง...แต่เสียงหัวเราะกับหน้าขนลุกพิกลจนทุกคนชะงักไปตามๆกัน
พี่มาชิผายมือขึ้นฟ้าก่อนจะโพสท่าที่สวยที่สุดในสายตาตัวเอง แต่คนอื่นกลับมองว่ามันทุเรศมาก จนโซเรียวถึงกับสำลักข้าว
"การแนะนำตัวกับเพื่อนใหม่ๆยังไงหล่ะจ้ะ"
............................................................................................
"ชั้นชื่อสึนาฮาระ ฮิงูจิ ซูซูรันปีสอง เป็นพี่พวกนายปีนึงได้เรียกฮิงูจิเฉยๆก็ได้นะ เป้าหมายในชีวิตคือทำงานหาเงินเลี้ยงพ่อแม่ให้ได้ แล้วก็ชั้นอยากจะบอกพวกนายทุกคน.......ชีวิตมันต้องสู้นะเว้ยเฮ้ยยยย !! "
หนุ่มผมทองหน้าหล่อหรือฮิงูจิในชุดลำลองสบายๆลุกขึ้นพูดก่อนจะแนะนำตัวตามหัวข้อที่มาชิบอกทุกอย่าง ก่อนจะเต๊ะท่าชูสองนิ้ว ทำให้โซเรียวที่นั่งอยู่ข้างๆต้องสำลักข้าวเพราะขำ โดยที่คนอื่นถึงกับนั่งเงียบกริบเล่นเอาหนุ่มผมทองหน้าหล่อเสียเซล์ฟอย่างรุนแรง
พี่มาชิยิ้มอย่างพอใจ โดยไม่สนท่าทีอันหดหู่ของฮิงูจิ ก่อนจะหันหน้าไปยิ้มกว้างขึ้นให้กับหนุ่มแว่นร่างเล็กที่นั้งตรงข้ามฮิงูจิ
"อ่ะ..เอ่อ...ผมชื่อ อิวายาชิ เคนตะ...อยู่ปีหนึ่ง เรียกเคนตะเฉยๆก็ได้....งานอดิเรกคือ....เอ่อ...อ่านหนังสือมั้งครับ เป้าหมายในชีวิตคือ....เป็นหมอหน่ะครับ.."
'ไอ้นี่มันเนิร์ดรี่หวา"
ทุกคนคิดตรงกัน และต่างสงสัยว่ามึงจะเป็นหมอ...แล้วมาเรียนซูซูรันเนี่ยนะ!?
"โอเค งั้นตาจ้ะ"
พี่มาชิกระเทยร่างยักษ์หันไปกล่าวกับชายผมยาวสีเงินประต้นคอที่นั่งหัวโต๊ะ
"ครับ ... ผมชื่อฮิเดโอะ คาวาชิม่า อยู่ซูซูรันปีหนึ่ง งานอดิเรกคือชอบดูผู้หญิงอาบน้ำ เป้าหมายในชีวิตคือเปิดฮาเร็มครับ "
เขาพูดอย่างร่าเริง เผยให้เห็นถึงความเป็นคนอารมณ์ดี และด้วยงานอดิเรกและเป้าหมายในชีวิตที่ถูกใจโซเรียวมากเหลือเกินจนชายหนุ่มต้องลุกขึ้นมาจับมือด้วยก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงหื่นๆ
"ไว้วันหลังชวนชั้นไปด้วยนะ"
"ต่อไปเธอจ้ะ"
พี่มาชิพูดกับหนุ่มผมแดงที่มีผ้าพันแผลตามใบหน้าที่นั่งเงียบอยู่สักพักแล้ว
"คุโรซาวะ อายาเมะ....ซูซูรันปีหนึ่ง งานอดิเรกอยู่นิ่งๆไม่ต้องทำอะไร....ส่วนเป้าหมาย....ผมอยากจะช่วยพี่สาวของตัวเองสักครั้งในชีวิต"
"เฮ้ย ไอ้หัวแดงแกมีพี่สาวด้วยหรอวะ มาแนะนำให้ชั้นรู้จักหน่อยสิ"
โซเรียวถึงกับลุกพรวดขึ้นมาเขย่ามือของอายาเมะจนชายหนุ่มผมแดงเองถึงกับตั้งตัวไม่ถูก
และแล้วเสียงป๊าบก็ดังขึ้นอีกครั้ง พร้อมกับโซเรียวที่กลับมานั่งสงบสเงียมอีกครั้งโดยมีพี่มาชิคุมอยู่ข้างหลังด้วยรอยยิ้ม
"ต่อไป คนสุดท้าย....ตาเธอจะโซเรียว"
พี่มาชิพูดเสียงหวาน แต่จับโซเรียวดันตัวลุกขึ้นอย่างแรงจนชายหนุ่มร้องเบาๆ
"โอเค..."
โซเรียวจัดเสื้อผ้าที่ยังใส่ชุดเดิมมาทั้งวันให้เรียบร้อย เสยผมขึ้นอย่างน่าหมั่นใส้ จนฮิงูจิที่นั่งข้างๆต้องกุมขมับอีกครั้ง
"ชั้นคือ....วากาบายาชิ โซเรียว สุดหล่อ...."
แค่ประโยคแรกก็ทำเอาทุกคนเอือมไปตามๆกัน ยกเว้นหนุ่มผมเงินซึ่งมีรอยยิ้มประดับหน้าตลอดเวลาอย่างฮิเอโอะ คาวาชิม่า ซึ่งบัดนี้กำลังกลั้นหัวเราะกับท่าทางโอเวอร์ของชายหนุ่มอย่างถูกชะตา
"งานอดิเรก....จีบสาว....อ่านหนังสือผู้ใหญ่.."
ชายหนุ่มผมทองพูดอย่างภูมิใจ ก่อนจะยืดอกขึ้น แล้วทำในสิ่งที่ทุกคนไม่คาดคิด
โซเรียวยิ้มอย่างมั่นใจ ก่อนจะชี้นิ้วไปที่ชายผมแดงตรงข้ามตัวเอง จนทำให้ชายหนุ่มถึงกับเงยหน้ามองอย่างสงสัย
"เป้าหมายในชีวิต.......มอบความพ่ายแพ้ให้แก่คุโรซาวะ อายาเมะ...."
........................................................................................................................................................
"ไม่น่าเลยนะนายเนี่ย.."
หนุ่มผมเงินหน้ายิ้มในเครื่องแบบสีดำของซูซูรัน พูดกับชายผมทองอีกคนในชุดซูกาจั่นสีแดงตัวเก่งหรือโซเรียว ส่งให้ชายผมยักไหล่อย่างไม่สนใจ
"ก็ช่วยไม่ได้หนิ...ชั้นโกหกไม่เป็นหน่ะ"
"นายนี่จริงๆเล๊ย พวกเราต้องอยู่หอพักเดียวกันจนจบเลยนะ เป็นมิตรกันหน่อยสิ"
ชายผมเงินคาวาชิม่าพูดต่อพลางถอนหายใจอย่างปลงตกขณะเดินทางไปโรงเรียนกับโซเรียวในตอนเช้าเป็นวันแรก
หนุ่มผมทองคนนี้เรียกได้ว่าทำให้เขาถึงกับต้องกุมขมับตั้งแต่เมื่อวาน หลังจากที่ไปประกาศศึกกับหนุ่มผมแดงอายาเมะตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกัน....แล้วยังชุดซูกาจั่นสีแดงแปร๊ดที่ชายหนุ่มใส่ไปเรียนแทนที่จะใส่เครื่องแบบ ซึ่งชายหนุ่มให้เหตุผลว่า ' มันไม่เท่หน่ะซิ 'คิดแล้วเขาก็ถอนหายใจอีกครั้ง ถึงแม้เขาทั้งคู่จะมีอะไรที่คล้ายๆกันและเข้ากันได้ แต่เจ้าหมอนี้ก็มีตรรกะแปลกๆเกินเยียวยาจริงๆ
แต่ก็ช่างมันเถอะ...อยู่กับคนแบบนี้ก็สนุกอีกแบบ.....
ปลงตกอยู่ไม่กี่นาที คาวาชิม่าก็กลับมายิ้มได้อีกครั้งอย่างสุดยอด ก่อนจะชวนเพื่อนใหม่ของเขาอย่างโซเรียวคุยเรื่อยเปื่อยระหว่างทางที่ไปโรงเรียน ซึ่งเขาทั้งคู่เป็นกลุ่มสุดท้ายที่ตื่น คนอื่นในหอพักไปหมดแล้ว จึงเหลือพวกเขาแค่สองคนทำให้ต้องมาพร้อมกันแบบนี้
เสียงหัวเราะของทั้งคู่ดังมาเป็นระยะ ด้วยความที่คาวาชิม่าเป็นคนเข้ากับคนง่าย และโซเรียวก็เป็นคนคล้ายๆกัน จึงสนิทกันไม่ยาก
ไม่นาน ทั้งคู่ก็มาถึงซูซูรัน โรงเรียนที่พวกเขาต้องใช้ชีวิตอยู่จนถึงปีสาม และนี่จะเป็นก้าวเล็กๆแห่งการเริ่มต้นที่แสนยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์ซูซูรัน...
และเพียงแค่ก้าวขาเข้าไปในในเขตโรงเรียน ปัญหาแรกของวันก็วิ่งมาชนทั้งคู่ทันที...
"เฮ้ย ไอ้ทัวทอง ไม่คุ้นหน้าเลยหนิหวา"
โกโร่ หรือ 'คิงคอง' ชายร่างยักษ์ความสูงเกือบสองเมตรผิวคล้ำไว้ผมโมฮ็อก เดินมาทักทายทั้งคู่พร้อมเหล่าลิ้วล้อทันทีที่ทั้งคู่ก้าวขาเข้ามาในรั่วโรงเรียนเป็นกลุ่มท้ายๆของช่วงเช้า
"นักเรียนปีหนึ่งหรอวะ พวกแกหน่ะ"
โกโร่พูดอย่างวางท่า ก่อนจะเดินวนรอบๆตัวทั้งคู่เหมือนกับนักเลงที่สำรวจผู้ที่ต่ำกว่าพลางทำหน้าดูถูก แต่ในสายตาของโซเรียว พวกนี้ก็แค่หมาสวะๆเท่านั้น
"แล้วทำไมแกไม่ใส่เครื่องแบบมาวะไอ้หัวทอง"
โกโร่ก้มหน้าลงมาประสานสายตากับโซเรียว ก่อนจะยิ้มอย่างกวนทรีน เมื่อชายผมทองหลบตาลงราวกับไม่กล้าเผชิญหน้า
' สงสัยไอ้เด็กนี่มันกลัวเรา สงสัยต้องเล่นซะหน่อยแล้ว '
คิงคองปีสองคิดอย่างเข้าข้างตัวเอง ก่อนจะหัวเราะเยาะเย้ยออกมาเบาๆ
" เป็นใบ้หรอวะแกหน่ะ "
โกโร่หัวเราะอย่างสะใจพร้อมๆกับเหล่าลิ้วล้อที่หัวเราะเป็นลูกคู่กับเจ้านายของพวกมัน
" เอ่อ ขอโทษนะครับ พวกเราขอเข้าโรงเรียนได้ไหมครับ "
ชายผมเงินคาวาชิม่ารู้สึกได้ถึงแรงกดดันที่เพิ่มสูงขึ้นจากตัวโซเรียว เป็นสัญญาณว่าเขากำลังจะโกรธและกระโจนเข้าใส่พวกโง่นี่ในไม่ช้า เขาคิดว่าโซเรียวคงจะเข้าไปโดนอัดแน่ๆ จึงรีบออกตัวกันท่าให้สถานะการณ์เบาลง ไม่งั้นคงซวยกันทั้งคู่
"บ่นอะไรวะไอ้เตี้ย"
"อั่ก!"
คาวาชิม่ายังไม่ทันตั้งตัว โกโร่ก็ใช้ขายาวๆของตนหวดเข้าไปที่ลำตัวของชายผมเงินอย่างแรงจนชายหนุ่มกลิ้งออกไปนอกรั้วอย่างไม่ปราณีท่ามกลางเสียงร้องสะใจของพรรคพวก และถึงแม้ชายผมเงินจะตั้งการ์ดทันแต่แรงเตะจากคนตัวใหญ่ระดับนี้ไม่ใช่น้อยๆเลย
"ไอ้พวกสวะ!!!!"
โซเรียวที่เก็บระงับความโกรธมานาน ตระโกนขึ้น เส้นเลือดปูดโปน ก่อนจะเหวี่ยงหมัดตรงที่รุนแรงและรวดเร็วที่สุดเท่าที่โกโร่เคยเห็นพุ่งเข้าใส่ใบหน้าของคิงคองที่กำลังกลัวจับใจ เพราะความรู้สึกของเขากำลังเตือนว่าถ้าเขาโดนเข้าไป คงน็อคอย่างแน่นอน.....เป็นหมัดที่เร็วไร้ที่ติจนทุกคนมองไม่ทัน
แต่ก่อนที่กำปั้นของชายผมทองจะกระทบกับใบหน้าของชายร่างใหญ่ เป้าหมายของเขาก็หายไปจากการมองเห็น จนเขาต้องหยุดหมัดนั้นไว้กลางอากาศ
พริบตาเดียวก่อนที่โกโร่จะสลบด้วยหมัดของโซเรียว เจ้าคิงคองก็รู้สึกว่าโลกกำลังพลิกกลับ ก่อนที่จมูกโด่งๆของตัวเองจะกระแทกเข้ากับพื้นดินเต็มๆ เลือดขมๆไหลออกมาจากจมูกและปาก เขาร้องอย่างเคียดแค้น ก่อนจะหันไปหาผู้ที่เตะเขาจนคว้ำ
ชายผมสีทองสีเดียวกับโซเรียว แต่แตกต่างกันทีชายคนนี้สวมแจ็กเก็ทหนังสีดำที่เป็นเอกลํกษณ์ รวมถึงใบหน้าที่เรียกได้ว่าเท่กระชากใจสาวมากกว่าโซเรียว
และเป็นใบหน้าที่คุ้นเคย...ในฐานะเพื่อนร่วมชั้นปีสองของโกโร่
"แก...ไอ้เวรฮิงูจิ!!"
คิงคองร่างใหญ่สบท ก่อนจะยันตัวลุกขึ้นมาอย่างลำบาก แล้ววิ่งพุ่งเข้าหาฮิงูจิอย่างบ้าเลือด
ชายผมทองในชุดหนังสีดำ หลบหมัดของโกโร่อย่างง่ายดาย ก่อนจะอาศัยจังหวะที่แขนของโกโร่พุ่งผ่านหน้าตน บิดแขนและจับชายร่างสูงเกือบสองเมตรทุ่มอัดลงพื้นได้ราวกับเหวี่ยงของเล่น ทำเอาเหล่าลูกกระจ็อกถึงกับเงิบกันหมดที่บอสโดนคว้ำง่ายๆอย่างงี้ แต่ก็ไม่แปลกใจเท่าไหร เพราะทุกคนรู้พิษสงของ "อัศวินดำ" ฮิงูจิดี และเจ้าโกโร่ก็เคยแพ้ฮิงูจิอย่างหมดรูปมาแล้ว
"ไสหัวไปซะ ก่อนที่ชั้นจะต้องอัดพวกแกต่อ "
พูดไม่ทันจบ เหล่าลูกกระจ๊อกก็วิ่งหนีไป พลางช่วยแบกร่างไร้สติของหัวหน้าไปด้วย
"ไง ไม่เป็นไรใช่ไหมพวกนาย "
ฮิงูจิจุดบุหรี่ขึ้นสูบอย่างสบายๆ ก่อนจะยืนอันนึงให้คาวาชิม่า ซึ่งชายหนุ่มผมเงินลุกขึ้นมาได้แล้วหลังจากโดนเตะอย่างหนักหน่วง และทันเห็นการต่อสู้ที่น่าตื่นตะลึงและจบลงอย่างรวดเร็ว
"มะ ไม่เป็นไรครับ "
คาวาชิม่าตอบอย่างประหม่า หลังจากเห็นตัวตนอีกด้านของฮิงูจิ พลางปฏิเสธบุหรี่ที่ชายผมหนุ่มยื่นให้
" แก...แก.. แกทำบ้าอะไรฟ่ะ!"
โซเรียวพุ่งเข้าไปกระชากขอเสื้อของชายผมทองสีเดียวกับตนอย่างเหลืออดหลังจากที่โดนแย่งผลงานไป
"เฮ้ย เป็นบ้าอะไรเนี่ย ก็ช่วยแกไงเจ้างั่ง"
"ใครขอให้ช่วยฟ่ะ ชั้นกำลังจะอัดไอ้หน้าลิงนั่นสลบ แกมาเผือกอะไรวะ!"
"อ้าว ก็ใครจะไปรู้วะ เห็นพวกแกโดนรุมด้วยไอ้พวกโง่นี้เลยอุสาห์มาช่วย ไม่ขอบคุณกันหน่อยหรอ"
"แย่งผลงานกันแบบนี้ จะให้ขอบคุณอีกหรอ ไอ้หัวทอง!!"
"แกก็หัวทองใม่ใช่หรอ ไอ้ฟายเอ๊ย"
"อะไร ใครหัวทอง ต่อยกับกูไหม!!! "
"หยุด!!!!!"
เสียงตระโกนห้ามของคาวาชิม่าดังขึ้นอย่างหมดความอดทนจนทั้งคู่ที่กำลังจะต่อยกันอยู่ลอมล่อต้องหันมามอง
"คือผมว่าพอก่อนดีกว่านะ....คนอื่นเขาหันมาสนใจกันใหญ่แล้ว"
คาวาชิม่าลดเสียงลงอธิบายให้ทั้งคู่ฝั่ง ซึ่ฮิงูจิก็เห็นด้วย ก่อนจะสงบสติอารมณ์ เพราะตอนนี้รอบๆมีเหล่านักเรียนซูซูรันจำนวนไม่น้อยที่ชื่นชอบการต่อยตีออกมาสุ่มดูตามทีต่างๆ
แต่แน่นอนชายผมทองในชุดซูกาจั่นสีแดงที่อารมณ์กำลังขึ้นย่อมไม่ยอมแน่นอน
"เออ ไหนใครอยากต่อยกับกูก็เข้ามาสิวะ!"
คาวาชิม่าต้องรีบกระโดดไปปิดปากชายผมทองเพราะสิ่งที่เขาตระโกนออกมาอาจจะทำให้ซวยกันเป็นหมู่คณะได้
"อ่อยอูอ้ะอาอาอิอ่า"
"นักเรียนมามุงดูอะไรกันครับ"
เสียงตระโกนของอาจารย์ร่างใหญ่ในแว่นตาประหลาดและทรงผมที่เป็นเอกลักษณ์ดังขึ้นทำให้เหล่านักเรียนที่มุงดูอยู๋ตามระเบียงเริ่มทยอยเข้าห้องไปอย่างช่วยไม่ได้
"แล้วพวกเธอมายืนทำอะไรกันอยู่หน้าโรงเรียนเนี่ย ทำไมไม่รีบเข้าห้องเรียนไปซะที"
เสียงเข้มๆของอาจารย์ที่เดินมาหาทั้งสามนั้น ทำให้คนอย่างฮิงูจิถึงกับสดุ้งเฮือก
"ชิบหายล้ะ"
ฮิงูจิถึงกับสถทออกมาอย่างลนลานหาที่หลบแต่ก็ไม่ทันแล้วเมื่ออาจารย์เดินเข้ามาใกล้เรื่อยๆ ท่ามกลางความสงสัยของทั้งโซเรียวและคาวาชิม่า
"ไม่ต้องคิดจะหนีหรอกฮิงูจิคุง พวกเธอทั้งคู่ก็ด้วย"
เมื่อเดินเข้ามาใกล้ ทั้งสามก็เห็นใบหน้าอันเข้มงวดของอาจารย์ร่างสูงในเสื้อเชิร์ตแบบสุภาพ แต่ที่ขัดตาคือทรงผมอันแปลกประหลาดของอ.และแว่นตาที่ประหลาดพอกัน
"เอ่ออาจารย์เซ้ดต้อนครับ...พวกผมกำลังจะเข้าห้องเรียนพอดีหน่ะครับ"
"ถึงอย่างนั้นก็เถอะ...นี่มันเลทไปหนึ่งนาที พวกเธอต้องโดนลงโทษ"
อ.คนนี้ไม่สนใจคำแก้ตัวของฮิงูจิ ก่อนจะแผ่รังสีบางอย่างที่ถึงกับทำให้โซเรียวถึงกับขนลุกออกมาได้
' เซ้ตต้อนงั้นหรอ...'
คาวาชิม่ารู้สึกประหลาดๆกับชื่อนั้น...ราวกับคุ้นอยู่ในความทรงจำที่มีคนเคยเล่าถึงเหล่าผู้ที่เกือบจะสามารถไปเหยียบถึงจุดสูงสุดของซูซูรัน และผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในแต่ละยุค ที่เคยได้ยินมาจากรุ่นพี่แถวบ้านของเขา
"แล้วก็ฮิงูจิคุง ช่วยเรียกครูว่าอาจารย์ฮานะซาวะด้วย "
' ฮานะซาวะ.....'
บางอย่างในความทรงจำของคาวาชิม่าได้หวนกลับมา....ตำนานของเหล่าอีกา...
ชายผู้มีทรงผมแปลกประหลาดและแว่นตาที่ไม่เหมือนใคร....ไม่ผิดแน่.....
ฮานะซาวะ ซาบุโร่!!!!!!
..........................................................................................................................................................
End Credit
ณ โรงเรียนโฮเซ็น
" ทำไมตอนนี้ไม่มีบทเราฟ่ะ "
ชายผมดำหน้าตากวนตีนพูดกับชายผมสีเดียวกันที่กำลังนั่งเก้าอี้ชายหาดดื่มน้ำมะพร้าวชมวิวตอนกลางวันแสกๆ จากชั้นดาดฟ้าของโรงเรียนโฮเซ็น
"I love Coconut"
ชายผมดำตอบ
The End