“ เบื่อเป็นบ้าเลยโว้ยยยยยย “
เสียงตะโกนของชายหนุ่มร่างสูงดังขึ้นใจกลางย่านร้านอาหารชื่อดังของจังหวัดโทโรชิ ในช่วงเที่ยงที่ชุกชุมไปด้วยผู้คนที่มาเดินเล่น และมารับประทานข้าวเที่ยง
“เฮ้ย ไอ้บ้า! เงียบหน่อย คนเขาหันมามองกันหมดแล้ว”
เสียงชายหนุ่มรางผอมอีกคนพูดขึ้นเพื่อเตือนเพื่อน ก่อนที่คนแถวๆนั้นจะหันมามอง แต่เสียงของเขาดังกว่าชายหนุ่มคนแรกที่พูดซะอีก
“แกนั่นแหละบ้า”
สิ้นเสียงของชายหนุ่มอีกคนที่หน้าสวยซะหยั่งกะผู้หญิง ร่างของชายร่างผอมก็ทรุดลงไปกุมท้องที่เพิ่งโดนศอกคมๆของชายหน้าสวยซัดเข้าให้เมื่อไม่กี่วินาทีที่แล้ว
ชายหน้าสวยเหลือบมองเพื่อนชายร่างบางหน้าตากวนตีนที่กุมท้องด้วยอาการจุกแต่ก็ยังไม่วายชูนิ้วกลางด่าเข้าให้
เขาหัวเราะหึเบาๆ ก่อนจะหันไปพูดกับชายร่างสูงที่ตะโกนขึ้นในตอนแรก
“แล้วนี้ชั้นต้องซัดนายอีกคนไหม”
“ไม่เป็นไร ขอบใจ”
ชายร่างสูงตอบโดยไม่ต้องคิดพลางดันแว่นตากันแดดเรย์แบรนด์ของเก๊ของเขาอย่างมีมาด แล้วดูดน้ำมะพร้าวสดจากลูกมะพร้าวที่ถืออยู่ในมือ
“มีอะไรกันหรอครับ ผมไม่อยู่แปบเดียว โหวกเหวกโวยวายกันเชียว”
น้ำเสียงที่นุ่มทุ้มของผู้มาใหม่ดังขึ้น เรียกสายตาของทั้งสามคนให้หันไปมอง
ชายหนุ่มรูปร่างกำยำสูงพอๆกับชายในแว่นดำ ซึ่งในขณะนี้สวมเสื้อแขนยาวกางเกงยีนส์ขาสั้นสบายๆ และแว่นตาหนาเตอะที่เป็นเอกลักษณ์ ทั้งสองมือเต็มไปด้วยกล่อง”พายมะพร้าว”ซึ่งเพิ่งไปต่อแถวซื้อมาเมื่อครู่
ชายหนุ่มสวมแว่นดำไม่ตอบ ก่อนจะหยิบพายกล่องนึงมานั่งกินอย่างเอร็ดอร่อย
“ช่างหมอนั่นเถอะโก”
ชายหน้าสวยพูดขึ้น ก่อนจะหยิบพายมะพร้าวอีกกล่องไปนั่งกินข้างๆชายแว่นดำ
ชายหนุ่มร่างกำยำที่ถูกเรียกว่าโกถอนหายใจเบาๆ ยิ้มออกมาอย่างอ่อนใจเล็กน้อย ก่อนจะหันไปพบเพื่อนของตนอีกคนที่ยังทรุดกุมท้องอยู่ที่พื้น
“เป็นอะไรอาริ เมนส์ไม่มา?”
“กรูโดนไอ้บ้านั่นศอก”
อาริพูดโดยไม่เงยหน้าขึ้นมา แต่ชี้ไปที่ชายหน้าหวานที่กำลังกินพายอย่างเอร็ดอร่อย
“…”
โกไม่ได้พูดอะไรต่อ พลางพยักหน้าอย่างเข้าใจ แล้วหันไปพูดกับชายหนุ่มในแว่นตาสีดำที่กำลังกินพายเป็นกล่องที่สอง
“เซ็นโซ แล้วนี่ที่ให้โดดเรียนมาคือจะมากินพายแค่นี้จริงๆอ่ะนะ พวกนายยิ่งเรียนไม่ทันอยู่ จะทำข้อสอบได้หรอ”
“เอียวอั้นอ้อกอายอ่ออ้ายอิ(เดียวชั้นลอกนายก็ได้หนิ)” เซ็นโซหรือชายสวมแว่นตาดำตอบ แต่จดจ่อกับการกินผลิตภัทณ์จากมะพร้าวอย่างเอร็ดอร่อย
“ให้ตายสิ นายก็ด้วยคาซูมะ เดี๋ยวนี้ทิ้งความรับผิดชอบแล้วหรอ”
โกหันไปเอ็ดชายหนุ่มหน้าหวานคาซูมะอย่างอดไม่ได้ แต่ชายหนุ่มหน้าหวานแกล้งทำเป็นไม่ได้ยิน
ชายหนุ่มแว่นหน้าเตอะถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะลงมานั่งที่นั่งที่เพื่อนจองไว้ให้ แล้วเอาพายมะพร้าวของตนมาร่วมกินกับเพื่อนๆทั้งสอง….กับอีกหนึ่งที่กุมท้องอยู่ที่พื้น
“เฮ้ย แล้วกรูนั่งไหนวะ”
อาริที่นั่งทรุดอยู่พูดขึ้น ซึ่งน้ำเสียงของเขาเร็วจนฟังไม่รู้เรื่อง แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาของเพื่อนๆของเขา
และในพริบตานั้น พริบตาเดียวจริงๆที่คะซูมะเหลือบตามามองเขา แล้วโยนกล่องพายกล่องสุดท้ายลงไปที่พื้นข้างหน้าของอาริโดยไม่สนใจสายตาที่หน้าเวทนาของเพื่อนชายร่างบางที่ทรุดเพราะพลังศอกของตน
ชายหนุ่มหน้าหวานกระตุกรอยยิ้มเชิดขึ้นนิดๆอย่างสะใจ ก่อนจะพูดขึ้น
“ตรงนั้นแหละเจ้าหมาน้อย”
………………………………………………………………………………..
เสียงของป้าแก่ๆอาจารย์ประจำวิชาสังคมที่กำลังสอนอยู่ในขณะนี้ทำให้นักเรียนทุกคนในห้องหลับ โดยที่วิธีสอนของป้าแกไม่ได้เรียกว่าสอนด้วยซ้ำ เพียงแค่อ่านหนังสือให้ฟังด้วยน้ำเสียงยานคางเหมือนหุ่นยนต์โดยไม่สนว่าใครจะฟังไม่ฟังเหมือนตั้งโปรแกรมไว้ ซึ่งนั้นทำให้นักเรียนปีหนึ่งห้องAเหล่านี้ค่อยหลับลงทีละคนสองคน
มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ยังตั้งใจเรียนอยู่ รวมถึงชายหนุ่มผมแดง “คุโรซาวะ อายาเมะ
แต่เหตุผลที่จิ้งจอกแดงตนนี้ไม่ได้หลับเหมือนคนอื่นๆ เพราะกำลังจัดจ่อกับเข็มนาฬิกาที่กำลังจะชี้ไปถึงเวลาที่จะเลิกเรียน
ในหัวของเขามีแต่ชายคนนั้น ผู้ซึ่งทำให้เขาเสียวสันหลังวาบเมื่อตอนกลางวัน แผลเก่าที่ได้จากการสงครามปีหนึ่งนั่นยังเจ็บอยู่ทั่วตัว แต่ความเจ็บในใจหลังจากโดนเหยียดหยามนั้นมากกว่า
อายาเมะบีบมือแน่นอย่างไม่รู้ตัวเมื่อนึกถึงหน้าของชายหนุ่มผมดำที่สร้างความกลัวให้กับเขาได้ และได้ท้าให้ไปเจอที่โรงยิมหลังเลิกเรียน
ไฟในกายของเขาลุกโชนขึ้น และพร้อมที่จะเอาคืนแล้ว
5
4
3
2
1
..
อ๊อดดดดดดดดดดดดดด
เมื่อเสียงออดหมดเวลาดังขึ้น ยังไม่ทันที่จะได้ทำความเคารพอาจารย์หลังเลิกเรียน อายาเมะเดินออกจากห้องไปทันทีโดยไม่สนใจอะไรทั้งนั้น ก่อนจะมุ่งไปที่โรงยิมสถานที่ที่ชายผมดำนัดไว้
‘เคนตะ โทริโร่….ชั้นจะล้มแกเอง’
“เฮ้ย นายนี่น่า ไอ้หัวแดง”
เสียงที่คุ้นหูของอายาเมะดังขึ้นเรียกชายหนุ่ม เบรกให้เขาหยุดลงก่อนจะหัดไปมองต้นเสียง
“เป็นอะไรทำหน้าตาน่ากลัวเชียว คนอื่นเขาไม่กล้าเขาใกล้เลยเห็นไหม”
ชายผมทองในชุดซูกาจั่นสีแดงแปร๊ดที่เพิ่งเดินออกจากห้องที่ติดป้ายไว้ข้างบนว่า”ห้องพักครู”เอ่ยขึ้น พลางชี้ไปรอบๆตัวของชายผมแดง ซึ่งมีนักเรียนหลายๆคนหันมามอง
เพราะแรงกดดันที่อายาเมะสร้างขึ้นมารอบตัวของตนเองโดยไม่รู้ตัว
“ไม่ใช่เรื่องของนาย”
ชายผมแดงตอบอย่างไร้เยื่อใยก่อนจะเดินไปข้างหน้าต่ออย่างไม่สนใจชายผมทอง
“เอ้า ไอ้นี่ อะไรของมันฟ่ะ”
แต่ยังไม่ทันได้บ่นอะไรมาก ประตูห้องพักครูก็ถูกเลื่อนเปิดออก พร้อมกับมือหนาๆของอาจารย์ฮานะซาวะ หรือเซ้ตต้อน ซึ่งกำลังบิดหูเขาอย่างแรง
“โอ๊ยยย เจ็บๆๆๆๆๆเจ็บนะจารย์ ปล่อยผมมมม”
“เพิ่งจบเรื่องเก่าไป ยังจะไปหาเรื่องเขาอีกนะไอ้หนู”
ฮานาซาวะเค้นยิ้มก่อนจะพูดด้วยเสียงแข็ง เมื่อทำให้เด็กหนุ่มในชุดซูกาจั่นสีแดงเจ็บจนพอใจแล้ว
“นี่ดีนะที่ชั้นออกตัวไว้ให้ ไม่งั้นนายโดนส่งสถานีตำรวจไปแล้ว”
อาจารย์ผู้มีทรงผมที่แปลกตาดุ
“แหม่ ทำเป็นเรื่องใหญ่ไปได้ ทีนี่ก็ชกต่อยกันเป็นเรื่องปกติไม่ใช่หรอจารย์ โอ้ยยยยย”
พูดไม่ทันจบโซเรียวก็โดนฮานาซาวะตบเข้าให้อย่างเจ็บแสบ
“เจ้าเด็กบ้า นั่นเรียกว่าชกต่อยที่ไหน แกเกือบจะฆ่าคิงคองนั่นแล้วด้วยซ้ำ”
ก็จริงอยู่ที่หลังจากโซเรียวฟิวส์ขาด เขาก็ไล่อัดเจ้าพวกของคิงคองปีสองซะเละเทะ โดยเฉพาะตัวคิงคองที่โดนอัดจนแทบจะปางตายโดยฝีมือของเด็กปีหนึ่งผมทองที่ยืนอยู่ตรงหน้าฮานาซาวะ
คิดแล้วก็อดเสียวสันหลังวาบไม่ได้ ฮานาซาวะมองไปที่เด็กหนุ่มคนนี้ซึ่งภายนอกดูเหมือนจะไม่มีอะไร เหมือนเด็กวัยรุ่นบ้าๆคนหนึ่ง แต่แฝงฝีมือที่ยากจะหยั่งถึงได้ มันทำให้ชายที่ถูกเรียกว่า ‘เซตต้อน’อดคิดถึงเรื่องเก่าๆไม่ได้
“งั้นผมกลับแล้วนะจารย์ ไอ้เจ้าคาวาชิม่าคงรออยู่”
โซเรียวอาศัยจังหวะที่ฮานาซาวะกำลังคิดอะไรเพลินๆอยู่ย่องหนีเนียนๆ
“เฮ้ย เดี๋ยวก่อน”
ฮานาซาวะพูดขัดขึ้นเสียงดัง
“อะไรอีกจารย์”
โซเรียวหันกลับมาสบตาฮานาซาวะ ซึ่งทำให้เขาเห็นแววตาที่ชั่วร้ายและรอยยิ้มที่เชิดขึ้นอย่างเจ้าเล่ห์
“ชั้นยังมีบทลงโทษให้นาย…”
“ห้ะ? แค่โดนคุณสวดทั้งวันจนไม่ได้เรียนแถมโดนคุยซัดไปตั้งหมัดนึงยังไม่พออีกหรอ”
โซเรียวเอ่ยขึ้นแหยงๆพลางลูบแก้มที่ปูดขึ้นมาเล็กน้อย
ฮานาซาวะไม่ตอบ แสยะยิ้มเย็นเฉียบ ก่อนจะยื่นอุปกรณ์ทำความสะอาดให้
“จัดการซะ ห้องน้ำทุกห้องของโรงเรียน ชั้นจะตรวจพรุ่งนี้เช้า ถ้ามีห้องไหนไม่สะอาด แกตายแน่ไอ้หนู”
............................................................................................................................................
“นายมาช้า”
น้ำเสียงเย็นชาของอายาเมะเอ่ยขึ้นที่หลังโรงยิมแห่งโรงเรียนซูซูรันหลังเลิกเรียนไม่กี่สิบนาที ก่อนจะหันมาเผชิญหน้ากับชายหนุ่มผมดำที่อัดเข้าไปเมื่อตอนกลางวัน “เคนตะ โทชิโร่”
โทชิโร่ผู้มีใบหน้าเปื้อนยิ้มที่ดูเจ้าเล่ห์อยู่ตลอดเวลาหัวเราะเบาๆ ก่อนจะสบตาที่เต็มไปด้วยเปลวเพลิงแห่งความมุ่งมั่นของอายาเมะอย่างไม่เกรงกลัว
“โทษที พอดีห้องชั้นอยู่ไกลหน่ะ”
เขาตอบด้วยน้ำเสียงยียวน
และในพริบตานั้นเอง อายาเมะพุ่งเข้ามาด้วยความเร็วสูงสุด และหมัดของเขาที่แหวกอากาศพุ่งเข้าซัดใบหน้าอันจองหองของโทชิโร่อย่างไม่ลังเล การไม่เปิดโอกาสให้ชายผมดำโจมตีก่อนเป็นกลยุทธของอายาเมะ เพราะจากที่ประเมิน โทชิโร่มีสไตล์การต่อสู้ที่อาศัยความเร็วเป็นหลักทำให้เขาต้องชิงลงมือก่อน
แต่แววตาที่หยิ่งผยองของโทชิโร่กลับมองการเคลื่อนไหวนั้นได้อย่างง่ายดาย ก่อนจะก้าวเท้าหลบหมัดของอายาเมะอย่างง่ายดาย
“ไม่เลวเลยนี่”
โทชิโร่เอ่ยชม แต่สีหน้าและแววตากลับเยาะเย้ยอายาเมะอย่างน่าหมั่นไส้
“แก!...”
อายาเมะกัดฟันกรอด ก่อนจะพุ่งเข้าไปซัดชายผมดำที่ยืนล้วงกระเป๋าอย่างไม่ทุกข์ร้อน
และพริบตานั้น อายาเมะรู้สึกถึงแรงกระแทกที่มาจากด้านหลัง สายตาของเขาสบกับสายตาสมเพชชองโทชิโร่ที่ยังยืนอยู่ที่เดิม ก่อนที่ชายผมแดงจะลงไปนองกับพื้นด้วยความเจ็บปวด
กลุ่มชายในเครื่องแบบซูซูรันจำนวนหนึ่งเผยตัวขึ้น และหนึ่งในนั้นคือคนที่เอาท่อเหล็กฟาดเข้าไปทีหลังของชายผมแดง
เขาเป็นชายร่างหน้า กล้ามเป็นมัดๆ ตัดผมสั้นอันเดอร์คัต และใบหน้าที่หน้าเกรงขามไม่เกรงกลัวตัวสิ่งใดๆ หรือที่รู้จักกันในฉายา รถถังแห่งซูซูรันปีสอง โอนิชิม่า ยามะ
อายาเมะอาศัยจังหวะที่ชายร่างใหญ่เผลอ เขาแกล้งทำเป็นเจ็บปวด ก่อนจะอาศัยจังหวะนั้นพุ่งขึ้นไปซัดหมัดอัปเปอร์คัตไม้ตายของจิ้งจอกสีแดงใส่รุ่นพี่ปีสอง แต่ยังไม่ทันจะได้ลุกขึ้น หมัดหนักๆของยามะก็ซัดเข้าที่ใบหน้าของเขาอย่างจังจนกระเด็นถูกพื้นไป
“เจ้านี่ไม่เห็นจะเท่าไหรเลยหนิครับ คุณโทชิโร่”
ยามะพูดกับโทชิโร่ด้วยความเคารพถึงแม้ว่าอีกฝ่ายจะเป็นรุ่งน้อง แต่น้ำเสียงของยามะกลับเย็นชา ดูไม่เหมือนรถถังผู้บ้าคลั่งที่ใครๆรู้จัก
“ ก็ตามนั้นแหละ”
โทชิโร่ตอบโดยไม่มองหน้าชายร่างใหญ่ ก่อนจะค่อยๆเดินทอดน่องมาหาอายาเมะก่อนจะเชิดหน้าของชายผมแดงขึ้นและพูดด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ย
“ขอโทษด้วยนะ แต่ชั้นไม่คิดจะสู้กับแกตั้งแต่แรกแล้ว”
อายาเมะไม่ตอบก่อนจะถุยน้ำลายปนเลือดของตัวเองใส่หน้าของโทชิโระ
และการกระทำนั้นรอยยิ้มของชายผมดำหายไป เส้นเลือดที่ขมับถึงกับกระตุก
โทชิโระออกมาเบาๆ กำหมัดแน่น ดวงตาที่ดูเจ้าเล่ห์ชายแววความโกรธแค้น ก่อนจะหันไปสั่งยามะที่ยืนดูอยู่ และลูกน้องเขาเขา
“อัดมันให้เละ!!!!”
…………………………………………………………………………………
เวลา 17:00 น.
แก๊ง HAVA แห่งโฮเซ็นในชุดไปรเวทกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะตัวเดิมในร้านขายพายในยามเย็นมา เสียงนกแว่วมาตามสายลมเย็นๆ บรรยกาศสบายๆเหมาะกับการหลับนอน
บนโต๊ะมีกล่องเปล่าของพายมะพร้าวจำนวนมาก และน้ำมะพร้าวที่ดื่มหมดเป็นสิบกล่อง และร่างของชายทั้งสี่คน
หนึ่งคือ เซ็นโซ สายหนุ่มสวมแว่นตากันแดดสีดำซึ่งนั่งหลับอยู่อย่างหมดท่า
สอง คาซูมะ ชายหนุ่มหน้าสวยผู้กำลังอ่านนิตยสารการฟิตเนสอย่างจดจอระหว่างดูดน้ำมะพร้าวในมืออย่างเพลิดเพลิน
คนที่สาม โก ชายหนุ่มร่างกำยำแว่นหนาที่กำลังดูรายการทีวีตลกย้อนหลังผ่านทางโทรศัพท์มือถือ
และสี่ อาริ ชายร่างบางผมลีบสีดำใบหน้ากวนบาทาอันเป็นเอกลักษณ์ซึ่งกำลังนั่งหดหู่อยู่ที่พื้น
เสียงเครื่องยนต์ของมอเตอร์ไซส์สีดำคันใหญ่หลายคันวิ่งเข้ามาจอดข้างๆร้านขายพายที่ทั้งสี่นั่งอยู่ และเรียกความสนใจของชายหนุ่มหน้าหวานคาซูมะให้ละสายตาจากหนังสือฟิตเนส
ชายหนุ่มหน้าหวานไม่ตื่นตระหนกแต่อย่างใด สะกิดโกให้เงยหน้าขึ้นมาจากรายการตลก ตามด้วยเซ็นโซที่กำลังหลับอยู่ ซึ่งรายหลังเขาสะกิดด้วยบาทาของเขาอย่างไม่เกรงใจ และเอื้อมเท้าไปเขี่ยอาริที่นั่งซึมอยู่
ชายในชุดหนังสีดำราวๆสิบคนซึ่งทุกคนสวมหมวกกันน๊อคเหมือนๆกัน ลงจากมอเตอร์ไซส์และ ไล่พนักงานในร้านทุกคนออก ซึ่งชายชุดดำพวกนี้ บางคนกระถืออาวุธจำพวกท่อเหล็กมาด้วย
“บุโซเซ็นเซ็น”
โกรำพึงขึ้นเบาๆ เก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋าหลังจากเห็นตราหัวกระโหลกและตัวย่อ T.F.O.A ที่เสื้อคลุมหนังของชายพวกนี้
เซ็นโซที่ตื่นเต็มที่ ลุกขึ้นยืน ก่อนจะเดินไปเผชิญหน้ากับชายสวมหมวกกันน๊อคคนหนึ่งที่เหมือนเป็นหัวหน้า พร้อมๆกับที่คาซูมะและโกลุกขึ้นมายืนขนาบข้างเขา รวมถึงอาริที่เข้าสู่โหมดจริงจัง
เซ็นโซในแว่นตากันแดดยืนจ้องหน้ากับชายในหมวกกันน๊อคที่ตัวสูงพอๆกัน แรงกดดันมหาศาลที่ทำคู่แผ่ออกมา ทำให้หลายๆคนหายใจไม่ออก
และในตอนนั้นเอง ชายหมวกกันน๊อคที่เป็นหัวหน้าก็จัดการทอดหมวกของเขาออกมาถือไว้
เผยให้เห็นใบหน้าขาวซีดที่แสนเย็นชาเหมือนซากศพ ทรงผมสีดำถูกหวี่เรียบไปด้านหนังอย่างสุภาพ
ชายคนนี้กระตุกปากขึ้นนิดๆเหมือนจะเป็นรอยยิ้ม ก่อนจะสลายแรงกดดันทั้งหมดออก แล้วพูดด้วยน้ำเสียงสุภาพ แววตาดูสดชื่นขึ้นราวกับเป็นคนละคน
“สวัสดีครับ ผมอิรุมิ เน็น จากบุโซเซ็นเซ็นครับ คุณคือทาคาดะ เซ็นโซสินะครับ พวกเรามาเพื่อเจรจาครับ”
เขาพูดขึ้นอย่างยิ้มแย้ม ก่อนจะยกมือขึ้นเพื่อขอจับมือกับเซ็นโซท่ามกลางสายตาที่ไม่ไว้วางใจของโก หัวสมองของกลุ่มมะพร้าว
‘เจรจาหรอ?....แต่เจ้านี่มันมือสังหารจากบุโซเซ็นเซ็น อันตราย!’
โกอดเหงื่อตกไม่ได้ ชื่อเสียงของอิรุมิ เน็นนั้น ถือว่าไม่ธรรมดาเลยสักนิด
สัญชาติญาณของโกบอกให้เขาออกไปขว้างไม่ให้ทั้งคู่จับมือกัน แต่ทันใดนั้น ชายสวมหมวกกันน๊อคคนหนึ่งซึ่งยืนอยู่ข้างๆเน็นได้ออกมาขว้างเขาไว้ก่อนด้วยท่าทางที่จะเอาเรื่อง และนั้นทำให้ชายหนุ่มหน้าสวยคาซูมะ เดินออกมากันเพื่อนพร้อมกับแรงกดดันมหาศาล แต่ชายในหมวกกันน๊อคก็ไม่ได้กลัวแต่อย่างใด
“ถอยออกมาก่อนโอสึกิคุง”
เน็นสั่งด้วยน้ำเสียงเฉียบขาด และทำให้ชายหมวกกันน๊อคที่ถูกเรียกว่าโอสึกิต้องถอยออกมาอย่างเสียไม่ได้
“ขอโทษแทนโอสึกิคุงด้วยนะครับ เด็กมันไฟแรง”
ชายหน้าขาวพูดต่อพลางหัวเราะแก้เขินอย่างไม่มีพิษมีภัย แต่มันไม่ทำให้พวกHAVAลดความระแวงลงได้เลย โดยเฉพาะเซ็นโซที่เตรียมจะซัดได้ทุกเมื่อ
‘หมอนี่ โอสึกิ!? หุ่นไล่กางั้นหรอ’
เป็นอีกครั้งที่ชายหนุ่มผู้เต็มไปด้วยข้อมูลในหัวอย่างโกถึงกับเหงื่อตก
“พวกแกต้องการอะไร”’
อาริพูดขึ้นเป็นครั้งแรกอย่างเชื่องชาไม่เหมือนปกติ ก่อนจะจ้องหน้าชายหน้าขาว
“ก็อย่างที่ผมบอก เจรจาไงหล่ะครับ”
“มีอะไรก็พูดมา อย่าอ้อมค้อม ก่อนที่ความอดทนของชั้นจะหมดลง”
เซ็นโซพูดสวนขึ้นก่อนจะใช้สายตาใต้แว่นกันแดดจ้องเขม็งไปที่ชายหน้าขาว และสร้างแรงกดดันเพื่อกดดันอีกฝ่าย
แต่เน็นกลับไม่สะทกสะท้านอะไร แววตาอันโหดเหี้ยมฉายขึ้นแวบหนึ่งก่อนจะหายไป
“ก็ง่ายๆครับ….”
เน็นพูดต่ออย่างเนิบนาบและกำลังจะทำให้ความอดทนของเซ็นโซหมดลง แต่ทันใดนั้นบรรยกาศทุกอย่างก็เปลี่ยนไป
ความรู้สึกที่เหมือนกับมัจุราชที่มาเอาชีวิตที่แผ่ออกมาจากชายร่างผอมบางนามว่าเน็นที่ทำให้ทุกคนแม้แต่เซ็นโซถึงกับเย็นวาบ
“พวกคุณ….จงมาเข้าร่วมบุโซเซ็นเซ็นซะ”
………………………………………………………………