" อาวหล่ะ สวัสดีนะเรียนปีหนึ่งห้องDทุกคน ครูชื่อฮานะซาวะ ซาบุโร่ เป็นอาจารย์ประจำชั้นของพวกเธอทุกคนตลอดการศึกษานี้นะ ฝากตัวด้วยหล่ะ "
ชายร่างสูงในเสื้อเชิร์ตสีขาวพับแขนเสื้อดูสมบุกสมบันผู้เป็นอาจารย์ พูดแนะนำตัวหน้าห้องให้กับนักเรียนทุกคน แต่เป็นไปตามขาด เหล่านักเรียนปีหนึ่งห้องDซึ๋งตามทำเนียมใหม่ของซูซูรัน จะจัดห้องตามคะแนนสอบเข้า โดยมีห้อง A-D สี่ห้อง ซึ่งแน่นอนว่าห้องDนี้เป็นห้องที่รวมเด็กไม่เอาถ่านในกลุ่มเด็กเกเรอีกทีของซูซูรัน เรียกว่าห้องนรกแตกก็ยังได้ และแถมยังเป็นปีหนึ่งซึ่งนักเรียนทุกคนกำลังไฟแรงกระหายการชกต่อยและการผจญภัย
แต่ชายร่างสูงผมสีทองทรงแปลกประหลาดนี้ เป็นคนที่ทางโรงเรียนให้รับหน้าที่คุมห้องนี้โดยเฉพาะในทุกๆปี
เซ้ตต้อน หรืออาจารย์ฮานาซาวะ มองไปรอบๆห้องซึ่งคุยกันเสียงดัง และมีบางกลุ่มจะยกพวกตีกันอยู่ร่อมร่อ พลางถอนหายใจเบาๆ
ชายร่างกำยำวัยยี่สิบกว่าขยับร่างกายไปมาราวกับวอร์ม ขณะที่เหล่านักเรียนชุดดำต่างไม่สนใจอาจารย์ของพวกเขา มีบางกลุ่มกำลังจะเดินออกจากห้องแล้วด้วยซ้ำ
แต่ในนาทีนั้นเอง ทุกคนก็ต้องหยุดกิจกรรมทุกอย่างทำอยู่ ห้องเงียบราวกับป่าช้า
เสียง ปัง!!!! ดังขึ้น พร้อมกับโต๊ะนักเรียนเก่าๆตัวหนึ่งที่มีบางคนงงว่าจะเอามาตั้งไว้ทำอะไร ถูกท่อนแข้นอันทรงพลังของอาจารย์ประจำชั้นพวกเขา ทุบด้วยมือลำแขนเปล่าๆ จนหักเป็นสองท่อนอย่างง่ายดาย!
เมื่อทำให้ห้องเงียบสนิท และนักเรียนทุกคนหันมาสนใจได้แล้ว เซ้ตต้อนก็กระแอ่มเบาๆ ก่อนจะดันแว่นทรงๆประหลาดๆนั่นขึ้น แล้วยิ้มโชว์ฟันขาว ให้พวกเด็กเกเรที่ตัวสั่นเป็นลูกนก
" ยินดีต้อนรับสู่ห้อง 1-D นะ เจ้าพวกบ้าทั้งหลาย "
..................................................................................................................................................................
หลังจากสั่งให้นักเรียนทุกคนนั่งทีย่างว่าง่ายโดยไม่มีใครกล้าขัดอ.ร่างใหญ่ผู้นี้ และแนะนำตัวใหม่อีกรอบ ชายหนุ่มก็ยิ้มอย่างพอใจ พลางกวาดตาไปรอบๆห้อง ราวกับคิดถึงบรรยากาศแบบนี้
."เข้าใจแล้วสินะทุกคน ใครดื้อ ใครเกเร และทำให้ครูทนไม่ได้ ก็จะสภาพเป็นแบบนั้น "
เขาชี้ไปที่โต๊ะ และโชว์รอยยิ้มที่ทำให้ทุกคนขนลุกขึ้นมาอีกครั้ง
" แล้วก็ครูไม่ชอบคนมาสายและไร้ระเบียบ "
อาจารย์พูดต่อ พลางชี้ไปนอกห้องซึ่งมีชายสองคนกำลังยืนขาเดียวกางแขนคาบไม้เมตร และมีกระดาษแปะไว้ว่า ' ผมจะไม่มาสายอีกแล้วครับ! ' อย่างน่าสมเพช
" อ้าอะอั๊ด (บ้าชะมัด )"
ชายผมเงินร่างเล็กบ่นอุบอิบกับชายผมทองในชุดซูกาจั่นสีแดงแปร๊ดซึ่งกำลังยืนขาเดียวคาบไม้เมตรในสภาพเดียวกับตนมาเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมงเต็ม
ชายผมทองไม่ตอบแววตาสงบนิ่งอย่างประหลาดจนคู่สนทนารู้สึกได้ เหมือนกำลังพยายามระงับไฟที่ปะทุอยู่ในอกอย่างยากลำบากซึ่งฉายออกมาจากแววตาสีดำคู่นั้น
" เอาหล่ะ ทั้งคู่พอได้แล้ว อย่ามาสายอีกหล่ะ "
อาจารย์ฮานะซาวะ พูดให้ทั้งคู่ได้ยิน ก่อนจะเรียกให้มานั่งสองทีในแถวหลังทีเหลือไว้ให้
ชายผมเงินหรือคาวาชิม่าถอนหายใจอย่างโล่งอก วางไม้เมตรออกจากปาก ก่อนจะปาดเหงื่อ ขอบคุณอาจารย์ แล้วเดินไปนั่งอย่างว่างาย
"เหนื่อยเป็นบ้าเลย ว่าไหมโซเรียว "
....
" โซเรียว ? "
คาวาชิม่าต้องงุนงงอีกครั้งเมื่อโซเรียวได้หายไปตั้งแต่เมื่อไหรไม่รู้ ขณะที่เซ้ตต้อนกำลังให้เด็กในห้องออกมาแนะนำตัวหน้าชั้นอย่างเพลิดเพลิน โดยที่ไม่รู้ว่าชายหนุ่มผมทองเจ้าปัญหาได้หายไปแล้ว...
....................................................................................................................................................
เปรี้ยง!!!!
เสียงประตูเหล็กบนชั้นดาดฟ้าของซูซูรันถูกถีบให้เปิดออกอย่างแรงด้วยความโมโหของชายหนุ่มผมทองในชุดซูกาจั่นสีแดง
วันนี้มันต้องเป็นวันซวยของเขาแน่ๆ เข้ามาก็โดนหาเรื่อง แถมยังไม่ได้ซัดใคร แล้วยังต้องถูกทำโทษอีก มันบ้าอะไรกันฟ่ะ
และด้วยเหตุผลหลายข้อที่ผ่านมา โซเรียวคิดว่าถ้าเขายังไม่ทำให้ตัวเองเย็นลงได้ ก็คงจะใช้ชีวิตอยู่ทั้งวันไม่ไหว เขาจึงขึ้นมาบนดาดฟ้าของโรงเรียนแห่งนี้เป็นครั้งแรก เพราะไม่ว่าที่ไหน เขาชอบที่จะอยู่ใกล้ชิดท้องฟ้าที่สุดเสมอ และมันเป็นการพักผ่อนทำให้อารมณ์เย็นลงซึ่งเขาใช้มาตั้งแต่ไหนแต่ไหนแล้ว
หลังจากที่หนีออกมาอย่างแนบเนียน ชายผมทองก็บังคับถามทางลุงพาลโรงแถวนั้นว่าไอ้ทางไปดาดฟ้าเนี่ยมันอยู่ไหน จนได้รู้ในที่สุด และหลังจากหลบหนีอาจารย์และไม่ทำให้โดนจับได้ เขาก็มาถึงดาดฟ้าแห่งนี้ด้วยอารมณ์ที่ยังคุๆอยู่ก่อนจะถีบประตูเหล็กเข้าไปเต็มแรงโดยไม่ได้สนใจว่ามีคนกลุ่มหนึ่งกำลังโดดเรียนพักผ่อนหย่อนใจอยู่บนดาดฟ้าที่เป็นสถานที่อันขลังของซูซูรัน
เจ้าคิงคองส์ร่างยักษ์โกโร่ ดีกรีผู้ชนะสงครามปีหนึ่มเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งกำลังจุดบุหรี่คุยบ่นถึงเรื่องเมื่อเช้ากับพรรคพวกของมันบนโซฟาสีน้ำตาลเก่าๆ และรอบๆมีทั้งโต๊ะเล่นไพ่ และข้าวของที่เอาไว้เล่นสนุกต่างๆนาๆวางอยู่ ซึ่งไม่น่าจะมีอยู่บนดาดฟ้านี้ได้
" เฮ้ย ใครวะ! "
เสียงเปิดประตูที่ดังขึ้นทำให้พวกของคิงคองส์ร่างยักษ์และตัวมันเองถึงกับสะดุ้ง เพราะนึกว่าเป็นอ.ฮานาซาวะ หรืออาจารย์ร่างใหญ่บ้าพลังผู้ซึ่งมีประวัติอยู่ที่ร.ร.แห่งนี้ ซึ่งฮานาซาวะหรือเซ้ตต้อน เคยบุกมาหาพวกมันแล้วทีนึง แต่โชคดีที่อ.แกไม่บังคับให้เก็บของไร้สาระพวกนี้ลงไป แต่ให้ทิ้งเครื่องดื่มมึนเมาให้หมดเท่านั้น
แต่คราวนี้กลับเป็นชายผมทองเหมือนกัน แต่มาในชุดซูกาจั่นสีแดงแจ๋ที่คุ้นหน้าคุ้นตา เหมือนเคยเจอเมื่อเช้า
และพริบตาที่โซเรียวเห็นพวกนี้ ความโกรธที่ระงับไว้ได้ระดับหนึ่ง ก็ประทุขึ้นมาจนเส้นเลือดปูด
" อ้าว นึกว่าใคร ที่แท้ก็ไอ้เด็กปีหนึ่งที่ใส่ชุดโง่ๆมาเรียนนี่เอง "
โกโร่พูดพลางยิ้มเยาะ ก่อนจะลุกขึ้นเดินมาเผชิญหน้ากับชายผมทองที่ตัวระดับคางของตน
"มีปัญหาอะไรวะ ? หรือว่าเรื่องเมื่อเช้าจะยังไม่จบ "
ชายหน้าตาอัปลักษณ์ร่างสูงพูดต่อ พลางเริ่มปล่อยรังสีอมหิตออกไปทั่ว จนเพื่อนๆของพวกมันต่างยิ้มกริ่มเพราะต่างคิดว่ากำลังจะได้กระทืบเด็กปีหนึ่งปากดีให้เละอีกสักคน
" ชั้นบอกไว้เลยนะ ที่แกรอดมาได้ก็เป็นเพราะไอ้เจ้าบ้าฮิงูจินั่น....ถ้าไม่มีมัน ป่านนี้แกก็คง..."
โกโร่พูดกระแสะโซเรียวไปเรื่อยๆ ก่อนจะพ่นควันบุหรี่ออกมาใส่เต็มหน้าโซเรียวโดยไม่ทันเห็นว่าชายหนุ่มคนนี้กำลังกำมัดแน่นสะกดอารมณ์โกรธไว้
ชายร่างยัก์ทิ้งบุหรี่ก่อนจะขยี้ทิ้งตามสูตรผู้ร้าย แล้วหันมายิ้มให้กับโซเรียว พลางเรียกพรรคพวกให้มาล้อมชายหนุ่มในชุดสีแดงไว้
"เหวอ!!"
แต่ทันใดนั้น ทั้งชายร่างยักษ์และพรรคพวกต่างสะดุ้งเฮือกเมื่อมองไปที่ชายผมทอง
เครื่องจิตรสังหารที่กดดันจนโกโร่แทบจะฉี่ราด ที่มาพร้อมกับแรงโทสะอันมหาศาลของโซเรียว ทำให้ทุกคนถึงกับตัวสั่น ถอยกันคนละก้าวสองก้าว
ชายผมทองทำเพียงแค่หัวเราะเบาๆ บิดคอดังกร๊อบแกร๊บไปมา พร้อมที่จะระเบิดแรงโทสะ และเปลี่ยนดาดฟ้าให้กลายเป็นลานเฉือด ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาสบตากับชายร่างใหญ่กว่าซึ่งกำลังอยู่ในอาการตกตะลึง รู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองกำลังจ้องมองระเบิดมหาประลัยที่กำลังจะปะทุ
และพริบตาที่ดวงตาของโซเรียวสบกับผู้ที่เคยชนะสงครามปีหนึ่งเมื่อปีก่อนก็ทำให้เขาหรือชายร่างยักษ์สำนึกได้ในทันทีว่าตนเหยียบกับระเบิดเข้าให้แล้ว
' เจ้านี่มันปีศาจชัดๆ !!! '
..................................................................................................................................................................
ซูซูรันปีหนึ่งห้องหนึ่ง
ร่างของเหล่านักเรียนปีหนึ่งจำนวนหนึ่งในสภาพสะบักสะบอม นอนกระจายอยู่ทั่วห้อง โต๊ะและเก้าอี้ล้มระเนระนาดห้องเละเทะราวกับมีพายุเคลื่อนผ่าน
ศูนย์กลางของความวินาศ ชายผมแดงผู้มีผ้าพันแผลตามใบหน้า ผู้กำลังยืนท่ามกลางร่างสะบักสะบอมที่ไร้สติจำนวนไม่น้อย
ชายผมแดงหันไปสบตากับนักเรียนห้องหนึ่งอีกกลุ่มที่ยืนดูลาดเลาอยู่ที่มุมหนึ่งของห้องด้วยสายตาเลือดเย็นเป็นการขู่ไม่ให้เข้ามาลองของ
ใช่แล้ว ร่างของเหล่านักเรียนปีหนึ่งที่นอนระเกะระกะในเวลานี้เป็นตัวอย่างของพวกที่อยากลองของกับจิ้งจอกแดงผู้นี้
ชายผู้ชนะสงครามปีหนึ่งแห่งโรงเรียนอีกา
ขณะที่สถานการระหว่างชายผมแดงผู้อัดนักเรียนเป็นสิบคนลงไปนอนไม่ได้สติกับนักเรียนที่เหลือซึ่งยืนมองอยู่ห่างๆกำลังคุกรุ่นนั่นเอง เสียงปรบมือแปะๆก็ดังขึ้นจากผู้มาใหม่ ซึ่งกำลังก้าวเท้าเข้ามาในห้อง
ชายร่างผอมส่วนสูงระดับนายแบบผมสีดำในเครื่องแบบซูซูรันเดินปรบมือเข้ามาในห้องอย่างเชื่องช้า ในปากคาบแซนวิสชิ้นใหญ่
เขาใช้สายตาที่เหมือนเหยี่ยวมองไปทั่วห้อง สร้างแรงกดดันที่เพียงพอที่จะทำให้ทุกคนอยู่นิ่ง ก่อนจะกระเดือกแซนวิสลงไปโดยไม่ต้องเคี้ยว
' พวกประหลาดอีกแล้วสินะ '
อายาเมะหรือชายผมแดงผู้มีผ้าพันแผลตามใบหน้าจากการต่อสู้อย่างสาหัสเมื่อวันก่อน แต่ไม่ใช่บาดแผลจากพวกนักเรียนผู้อยากลองของซึ่งลงไปนอนโดยทำอะไรเขาไม่ได้แม้แต่นิดเดียว ชายหนุ่มคิด พลางถอนหายใจเบาๆ แต่เขาและทุกคนที่อยู่ในห้องถึงกับสะดุ้งเมื่อรู้สึกที่อะไรบ้างอย่างที่แผ่ออกมาจากชายผู้นี้
"เป็นการต่อสู้ที่ยอดเยี่ยมมาก...คุณจิ้งจอกแดง"
ชายผมดำเอ่ยยิ้มๆ ก่อนจะเยื่องย่างเข้ามาใกล้กับชายผมแดง พลางกวาดตามองไปรอบๆห้อง
"ไม่เลวๆ"
เขายิ้มอย่างพอใจ แต่กลับปล่อยรังสีความรู้สึกคุกคามที่ทำให้ทั้งห้องอยู่ในสภาวะตึกเครียดขึ้นอีกระดับทำให้ทุกคนยืนนิ่งไม่กล้าขยับ
"ชั้นชื่อเคนตะ โทชิโร่..เรียกว่าโทชิโร่ก็ได้"
ชายผมดำเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าของอายาเมะซึ่งก็รู้สึกได้ถึงความรู้สึกคุกคามอันน่าขยะแขยงที่ออกมาจากชายร่างสูงผู้นี้ถึงกับเหงื่อตก
โทชิโร่เห็นชายผมแดงไม่มีปฏิกิริยาตอบสนอง จึงถอนหายใจเบาๆ แรงกดดันทั้งหมดที่อยู่ในห้องหายไปทั้งหมด ทุกคนกลับมาหายใจได้ทั่วท้องอีกครั้ง
ชายผมดำเงยหน้าขึ้นมายิ้มให้อายาเมะอย่างสุภาพและเป็นมิตรยื่นมือมาขอจับ ทุกคนสัมผัสไม่ได้ถึงความรู้สึกที่น่ารังเกียจเมื่อครู่แม้แต่น้อยราวกับเป็นคนละคนกัน
เมื่อชายผมแดงเมื่อตั้งสติได้และเห็นว่าอีกฝ่ายมาดี จึงเอื้อมมือจะไปจับตอบ
"ชั้นชื่ออายา..."
ปั่ก!!!!!!!
หมัดเสยปลายคางของชายผมดำภายใต้ใบหน้ายิ้มแย้มถูกปล่อยออกมาอย่างรวดเร็วจนทุกคนหรือแม้แต่อายาเมะยังไม่รู้สึกถึงมัน หมัดอันทรงพลังซัดเข้าไปที่ปลายคางของชายผมแดงจังๆและรุนแรงจนชายผมแดงกระเด็นไปชนกำแพงห้องซึ่งอยู่ห่างไปถึงสองสามเมตร
อายาเมะยันตัวลุกขึ้นมาได้ด้วยความเจ็บและแค้นท่ามกลางสายตาของคนทั้งห้อง และชายผมดำซึ่งกำลังยืนล้วงกระเป๋ายิ้มอย่างสบายใจ
และเร็วกว่าความคิดที่จะพุ่งเข้าไปแก้แค้นของชายผมแดง โทชิโร่หรือชายผมดำผู้ยืนอยู่ไม่ห่าง ก็หายไปจากทัศนวิสัยของเขาอย่างรวดเร็ว เสียงปัง! ดังขึ้นข้างๆหัวของเขา และเมื่อหันไปมองก็พบกับชายผมดำคนเดิมซึ่งใช้เท้าถีบเข้าไปที่พนังห้องที่ห่างจากศีรษะของชายผมแดงเพียงหนึ่งคืบจนยุบ
อายาเมะถึงกับตกตะลึงกับความเร็วที่เขาไม่เคยพบมาก่อน ดวงตาจ้องมองไปที่ใบหน้าของชายผมซึ่งบัดนี้ไร้ซึ่งรอยยิ้ม
โทชิโร่ค่อยๆก้มหน้าลงมากระซิบที่หูของอายาเมะซึ่งกำลังอยู่ในอาการเหงื่อตกด้วยความตกตะลึงอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
"หลังเลิกเรียน มาเจอชั้นที่หลังโรงยิม"
ชายผมดำเอ่ยเสร็จ ก็ชักเท้ากลับอย่างไม่ยี่หร่ะ กวาดตามองทุกคนที่อยู่รอบๆซึ่งกำลังอยู่ในอาการช็อคและไม่มีใครกล้าวิ่งเข้ามาทำอะไรโง่ๆอย่างแน่นอนอย่างสบายอารมณ์ พลางเดินทอดน่องออกไปจากห้อง ก่อนจะเอ่ยเบาๆแต่มันกลับแทงทะลุเข้าไปในใจของอายาเมะ
"ไว้เจอกันนะ คุณกระจอกสีแดง"
..................................................................................................................................................................