Bloody Wrestling Online
Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.

Bloody Wrestling Online

The Number One Cyber Wrestling Online
 
บ้านPortalLatest imagesสมัครสมาชิก(Register)เข้าสู่ระบบ(Log in)

 

 Ghost Hunter : Chapter 8 "Unexpected Encounter"

Go down 
ผู้ตั้งข้อความ
ฟ้ามืด
Superstar Grade B
Superstar Grade B
ฟ้ามืด


จำนวนข้อความ : 504
Join date : 30/04/2013
Age : 31
ที่อยู่ : μ's

Ghost Hunter : Chapter 8 "Unexpected Encounter" Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Ghost Hunter : Chapter 8 "Unexpected Encounter"   Ghost Hunter : Chapter 8 "Unexpected Encounter" EmptyTue Nov 18, 2014 1:15 am



----------------------------------------------------

“ทุกคนคะ นี่โซระเองนะ” เสียงใสๆของบุคคลที่ชั้นรู้จักดีดังขึ้นในอุปกรณ์สื่อสารขนาดเล็กจิ๋วที่ใบหูของชั้น เจ้าหน้าที่คนอื่นๆที่มาด้วยกันก็คงจะได้ยินเสียงนั้นเหมือนๆกันหมด

“ตรอกแห่งนี้คือสถานที่ที่เกิดเหตุการณ์หญิงสาวหายตัวไปแบบลึกลับหลายราย ส่วนใหญ่เป็นหญิงสาวหน้าตาดี แฟนหนุ่มของหนึ่งในหญิงสาวผู้เคราะห์ร้ายให้การกับตำรวจว่า เขาเดินมากับแฟนสาวตามปกติ ระหว่างที่เดินผ่านตรอกแห่งนี้ เขาได้เดินคุยโทรศัพท์ไปด้วย เมื่อเขาคุยโทรศัพท์เสร็จปรากฏว่าแฟนสาวของเขาหายไปแล้วอย่างไร้ร่องรอย คดีนี้สร้างความปวดหัวให้กับตำรวจมาก เพราะไร้ซึ่งร่องรอยใดๆที่สามารถจะสืบสวนได้เลย คดีนี้จึงกลายเป็นคดีที่ยังคงหาคำตอบไม่ได้”

ชั้นฟังทั้งข้อมูลจากโซระแบบผ่านๆโดยไม่ได้สนใจรายละเอียดนักเท่าไหร่ แต่พอจับใจความได้ว่าที่นี่มีผู้หญิงหายตัวไปหลายคน

หลังจากเหตุการณ์ไม่คาดฝันในรีสอร์ท ชั้นก็ได้ถูกเลื่อนระดับให้เป็นเจ้าหน้าที่เต็มตัวในสังกัดหน่วยอัลฟ่า เนื่องจากสามารถสร้างผลงานได้อย่างโดดเด่น (เค้าว่ามางั้น) โดยการเป็นผู้คลี่คลายเหตุการณ์ทั้งหมดได้สำเร็จ ซึ่งมิสะเคยบอกไว้ว่าหน่วยอัลฟ่าเป็นหน่วยที่เต็มไปด้วยเจ้าหน้าที่มีฝีมือระดับหัวกะทิทั้งนั้น

แต่ชั้นว่าคงไม่ใช่ชั้นแล้วล่ะคนนึง...

เมื่อชั้นได้เป็นเจ้าหน้าที่เต็มตัวแล้ว ตอนนี้ชั้นได้ใส่ชุดปฏิบัติการเป็นชุดรัดรูปที่แสนอึดอัด เป็นชุดรัดรูปที่ปิดตั้งแต่ต้นคอจนถึงข้อเท้า เวลาใส่ก็ต้องสวมมันไปทั้งตัวแล้วรูดซิป รองเท้าก็เป็นรองเท้าบู๊ทคับๆที่อึดอัดพอกัน ชุดที่ชั้นใส่เหมือนกับชุดที่ชั้นเคยเห็นเจ้าหน้าที่ธรรมดาๆคนอื่นๆเขาใส่กัน ชุดมันรัดจนเห็นสัดส่วนอย่างชัดเจน แต่สำหรับชั้นมันก็ไม่ได้ต่างอะไรกับชุดธรรมดาๆที่ชั้นใส่นักหรอก เพราะใส่ชุดไหนๆหน้าอกชั้นมันก็ดูเล็กเหมือนเดิม

หลังจากนั้นชั้นก็ได้อาวุธประจำตัวชิ้นใหม่มาใช้ มิสะบอกว่ามันคือปืนพกเฮชเควีพีเซเวนตี้ มันเป็นปืนที่ดูเล็กกะทัดรัด และมีอุปกรณ์เสริมที่เอาไว้ติดตรงท้ายของปืนมาด้วย มิสะบอกว่าติดไว้จะทำให้ปืนกระบอกนี้ยิงได้สามนัด แต่ชั้นเห็นว่ามันเกะกะเลยไม่ใช้ อีกอย่างชั้นไม่ค่อยถนัดมือกับปืนกระบอกนี้เท่าไหร่เพราะตอนซ้อมก็ใช้แต่ปืนกล็อก

เมื่อชั้นถูกเลื่อนระดับมาแล้วมิสะก็จับชั้นมาทำภารกิจนี้ทันทีเป็นภารกิจแรก ก่อนจะมาปฏิบัติภารกิจยัยมิโอะก็ให้กำลังใจและแสดงความเป็นห่วงเพราะแน่นอนว่าภารกิจแต่ละอย่างที่ชั้นต้องทำมันอันตรายแน่นอน รอบตัวชั้นตอนนี้มีแต่เจ้าหน้าที่ที่ชั้นคุ้นหน้ามาร่วมภารกิจด้วยหลายคน ทั้งมาโมรุสาวแปลกที่ชอบใส่แต่ชุดว่ายน้ำ มิคาโดะเจ้าหน้าที่ไร้มารยาท ลุงเชนที่เคยหยอกล้อชั้นตอนเที่ยวรีสอร์ท สองสาวเวอร์ดี้และมิโนริ เกล เรียว และโนบุฮิเดะ สามหนุ่มสามมุมที่ชั้นไม่ค่อยได้สนใจพวกเขาเท่าไหร่นัก

และยังมีหนึ่งสาวกับอีกหนึ่งหนุ่มที่ชั้นไม่คุ้นหน้า

เริ่มจากหนึ่งสาวหน้าตานิ่งทุกงาน ทำชั้นแปลกใจเพราะโกสท์อายส์ไม่สามารถอ่านข้อมูลอะไรของเธอได้เลยเหมือนเธอไม่มีตัวตน ตอนแรกชั้นคิดว่าโกสท์อายส์ของชั้นเสียซะอีก แต่มองคนอื่นมันก็ยังขึ้นข้อมูลนี่หว่า มิสะเลยต้องมาบอกว่าเธอเป็นหุ่นยนต์เหมือนมนุษย์ที่ถูกสร้างขึ้นมาชื่อว่า เซต้า

เซต้าทำให้ชั้นอิจฉาเพราะเธอเป็นหุ่นยนต์แท้ๆแต่มีหน้าอกใหญ่กว่าชั้นเสียอีก มิสะบอกว่าตอนแรกหน้าอกเซต้าไม่ได้ใหญ่แบบนี้ แต่หลังจากถูกซ่อมแซมครั้งล่าสุดหน้าอกของเธอก็ใหญ่ขึ้นมาซะอย่างนั้น

จริงๆพอเดาออกอยู่นะว่าใครเป็นคนเสริมหน้าอกให้...

และหนุ่มคนสุดท้ายที่ชั้นไม่ค่อยถูกชะตานักเท่าไหร่ทั้งๆที่ชั้นเพิ่งเจอเขาครั้งแรก โกสท์อายส์อ่านชื่อเขาได้ว่า “คริสโตเฟอร์ เอ็นสึเกะ” ลูกครึ่งญี่ปุ่นอเมริกัน เขามีผมยุ่งๆสีออกขาวๆ เขาดูท่าทางไม่ค่อยเข้าพวก แถมสวมแว่นดำทำไมไม่รู้นี่มันตอนกลางคืนแท้ๆ

ไม่รู้ทำไมชั้นถึงไม่อยากจะรู้อะไรเกี่ยวกับเขานัก ชั้นเลยไม่ได้ถามอะไรมิสะ

“ทุกคนได้ยินตามนั้นแล้วนะ” เสียงของมิสะดึงให้ชั้นกลับมาสู่ปัจจุบันหลังจากคิดอะไรเรื่อยเปื่อย ดูเหมือนระหว่างที่ชั้นเหม่อลอยเหล่าเจ้าหน้าที่จะพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน

“เคสนี้ขอให้เจ้าหน้าที่หญิงทุกคนระวังตัวไว้ ดังนั้นการออกไปสำรวจคนเดียวมันอันตราย ชั้นจะให้ทุกคนจับคู่แยกย้ายกันไปสำรวจ” มิสะสั่งการ เจ้าหน้าที่แต่ละคนต่างจับคู่กันเพื่อออกสำรวจบริเวณรอบๆ ถ้างั้นชั้นจะจับคู่กับ...

“ส่วนโนโดกะมากับชั้น” รู้สึกชั้นจะเป็นคนเดียวที่ไม่สามารถเลือกคู่หูได้สินะ...

“จุดนัดพบคือตรงนี้ เกิดอะไรขึ้นให้กลับมาที่นี่” มิสะออกสั่งคำสั่งสุดท้าย ทำให้แต่ละคู่แยกย้ายกันไปสำรวจกันหมด เหลือเพียงชั้นกับมิสะที่ยืนอยู่ตรงจุดที่ถูกกำหนดให้เป็นจุดนัดพบ

“ปกติแล้วมาโมรุจะเป็นคู่หูของชั้น” มิสะพูด

“แต่นี่เป็นภารกิจแรกของเธอ ยังไงๆเธอก็ต้องอยู่ในความดูแลของชั้น โอเคนะ?”

“ค่ะ” ชั้นตอบ เพราะคงตอบแบบอื่นไม่ได้หรอก ขืนปฏิเสธคงโดนเขกหัวเอาแน่ๆ

ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือเปล่า แต่จากคำพูดของเธอลึกๆเธอคงจะเป็นห่วงชั้นอยู่นิดๆ... ละมั้ง

หลังจากที่ชั้นกับมิสะเดินสำรวจอยู่ได้ไม่นาน ชั้นรู้สึกว่าบรรยากาศรอบๆมันเปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิม รู้สึกประมาณเหมือนมีใครเอาน้ำแข็งมาถูหลังจนเสียววาบอะไรแบบนั้น

“หลุดเข้ามาในมิติวิญญาณแล้วงั้นรึ” มิสะพูด ชั้นแอบไม่เข้าใจนิดหน่อย

“มิสะ!!” มาโมรุเรียกชื่อมิสะมาแต่ไกล พร้อมวิ่งเข้ามาหา หน้าอกภายใต้ชุดว่ายน้ำของเธอนี่กระเพื่อมไปมาเลยทีเดียว เอ่อ... ชั้นว่านี่ไม่ใช่เวลามาเป็นตาลุงหื่นกามนะ (ก็รู้ตัวนิ)

“เกิดอะไรขึ้น?” มิสะถาม เพราะคงฟังออกว่าน้ำเสียงของมาโมรุแสดงออกว่ามีอะไรผิดปกติ

“มิคาโดะหายตัวไป หายไปต่อหน้าต่อตา”

“ว่าไงนะ?” มิสะพูดแบบไม่เชื่อหูตัวเอง ชั้นเองก็ตกใจเหมือนกัน หายไปต่อหน้าต่อตาเลยเนี่ยนะ...

ทันใดนั้นเวอร์ดี้กับมิโนริก็ตามมารวมกลุ่ม สีหน้าของเธอดูตื่นตระหนกพอกันทั้งคู่

“เรียวหายไปค่ะ ส่วนทางมิโนริเกลก็หายตัวไป” เวอร์ดี้รายงานอย่างร้อนรน

“นี่ก็หมายความว่าพวกเรากลายเป็นเหยื่อของคดีนั้นแล้วสินะ” มิสะพูด

“ถ้างั้นก็แสดงว่าพวกเราสวย เพราะโซระบอกว่าคนที่หายไปมีแต่ผู้หญิงหน้าตาดี” ชั้นพูดติดตลก คนอื่นๆหันมาจ้องชั้นกันหมด ดูเหมือนไม่มีใครขำด้วย... ขอโทษค่ะ...

หลังจากนั้นเซต้าก็เข้ามารวมกลุ่มด้วยอีกคน สีหน้าของเธอก็ยังคงนิ่งเฉยไร้ความรู้สึก

“แม้กระทั่งเซต้าก็ด้วย?” มิสะพูดเมื่อเห็นเซต้า

“ไม่สนใจว่าจะเป็นอะไร ขอให้รูปลักษณ์เหมือนผู้หญิงก็พอสินะ?”

“ถ้างั้นผู้ชายแต่งหญิงก็โดนด้วยสินะคะ” ชั้นพูดขึ้น ปฏิกิริยาของทุกคนเหมือนเดิม ไม่ขำ... ค่ะ เข็ดแล้วค่ะ จะไม่พูดแล้วค่ะ..

“เป็นวิญญาณประเภทไหนกันแน่นะ ที่เจาะจงเฉพาะผู้หญิง” มิสะพูด ชั้นอยากจะออกความเห็นว่าสงสัยเป็นวิญญาณตาลุงหัวล้านลงพุงที่ชอบลวนลามสาวเอ๊าะๆ แต่ไม่พูดดีกว่าเนอะ...

ทันใดนั้นทุกคนก็ต่างอยู่ในท่าถืออาวุธเตรียมพร้อมเมื่อปรากฏวิญญาณหญิงสาวมากมายลอยไปมาบนอากาศ พร้อมหัวเราะเสียงแหลมเล็กดังกังวานไปทั่ว ดูท่าทางไม่น่ามาดีเป็นแน่ และก็เป็นอย่างที่คิดเมื่อหนึ่งในพวกมันพุ่งเข้ามาหา

มิสะตวัดมีดสั้นที่ซ่อนในแขนเสื้ออย่างรวดเร็ว วิญญาณหญิงสาวสลายไปทันที จากนั้นเจ้าหน้าที่คนอื่นๆก็ต่างใช้อาวุธในมือจู่โจมใส่พวกมัน ชั้นเห็นคนอื่นๆสู้ชั้นก็เอาบ้าง ยกปืนในมือขึ้นมายิงผีสาวที่ลอยอยู่บนอากาศ แม้ชั้นจะฝึกยิงปืนจนแม่นยำแล้วแต่เป้าหมายเคลื่อนที่แบบที่ไม่ตายตัวแบบนี้มันก็ทำให้ชั้นลำบากใจเล็กน้อยเหมือนกัน

“เวนเดททร้าพวกนี้คือเหยื่อที่หายตัวไปหรือเปล่า?” มาโมรุตั้งข้อสันนิษฐานในขณะที่ใช้ปืนคู่ในมือยิงใส่วิญญาณ

“ก็เป็นไปได้ แต่ทำไมพวกเธอโจมตีเราล่ะ?” มิสะตั้งข้อสงสัยกลับ

ส่วนชั้นไม่ได้สงสัยอะไรทั้งนั้นยิงใส่พวกมันอย่างเดียว ดูเหมือนพวกมันจะมีเพิ่มมาเรื่อยๆ วิญญาณตนหนึ่งพุ่งเข้ามาหาชั้นอย่างรวดเร็ว ชั้นยิงสวนใส่มันจนกระเด็นและสลายไป ชั้นทำท่ายืดอกอย่างสง่าผ่าเผยในจินตนาการ

ก่อนที่ชั้นจะถูกมิสะฉุดออกจากพื้นที่ตรงนั้นเพราะดูเหมือนวิญญาณร้ายมันจะออกมามากขึ้นเรื่อยๆ สงสัยมิสะคงเรียกชั้นแล้วแต่ชั้นมัวแต่ภาคภูมิใจกับตัวเองเกินเหตุเลยไม่ทันได้ยิน...

ทุกคนต่างวิ่งหนีเหล่าวิญญาณจำนวนมากที่ลอยตามมาติดๆ มีแต่เซต้าที่คอยยิงสกัดด้วยปืนในมือทั้งสองกระบอก เพราะเธอเป็นหุ่นยนต์เลยเดินถอยหลังไปด้วยยิงปืนไปด้วยอย่างไม่มีสะดุด (ถ้าเป็นชั้นล่ะก็คงหงายหลังตั้งแต่ถอยก้าวแรก) แต่ดูเหมือนแค่เซต้าคนเดียวจะต้านทานไม่ไหว เวอร์ดี้ซึ่งเป็นคนเดียวที่ถือปืนกลเลยใช้ปืนในมือช่วยยิงกราดสนับสนุนให้เป็นระยะๆ ก่อนที่มาโมรุจะช่วยสนับสนุนอีกแรง

แต่มันไม่มีประโยชน์เลยซักนิด พวกวิญญาณเหมือนจะยิ่งมีมากขึ้นเรื่อยๆอีกต่างหาก จนตอนนี้ทุกคนกลายเป็นหยุดวิ่งแล้วใช้อาวุธในมือโจมตีใส่พวกมัน

“ถ้าพวกผู้ชายอยู่ด้วยคงจะรับมือง่ายกว่านี้” มาโมรุพูด ซึ่งชั้นก็เห็นด้วย

อยากเจอหน้าวิญญาณที่เป็นตัวการจริงๆ เลือกเหยื่อเฉพาะผู้หญิง ไอ้หื่นเอ้ย!!

เหมือนด่าตัวเองยังไงก็ไม่รู้สิ...

วิญญาณตัวหนึ่งพุ่งเข้ามาชั้นอีกครั้ง แต่คราวนี้มันโดนกระสุนของคนอื่นจนกระเด็นไปไกล ชั้นหันไปดูเห็นมิโนริใช้ปืนยาวติดลำกล้องจัดการกับวิญญาณตัวเมื่อซักครู่อย่างคล่องแคล่ว ปืนกระบอกนั้นคงจะหนักน่าดู และชั้นว่ามันน่าจะเป็นพวกปืนที่เอาซุ่มยิงจากตึกสูงๆแบบที่ชั้นเห็นในหนังมากกว่า แต่มิโนริเอามาใช้ยิงแบบซึ่งๆหน้าได้อย่างสบายๆแถมดูจะแม่นยำซะด้วย ชั้นผงกหัวขอบคุณให้เธอ เธอยิ้มกลับ

ตอนนี้ชั้นจะเริ่มหวั่นๆซะแล้ว เพราะดูท่าทางจัดการับวิญญาณพวกนั้นเท่าไหร่ก็ไม่หมด ชั้นจำได้ว่าเปลี่ยนกระสุนไปประมาณสี่ครั้ง

“ถอยก่อน สู้ไปก็ไม่มีประโยชน์” มิสะตะโกน ทุกคนกลับหลังหันเตรียมวิ่งหนี รวมทั้งชั้นด้วย แต่ชั้นรู้สึกถึงแรงกระชากอันหนักหน่วงที่ขาขวา มันทำให้ชั้นล้มลงทันที ใช้ใช้มือทั้งสองข้างยันพื้นเอาไว้ เพราะไม่งั้นหน้าชั้นคงไปจูบกับพื้นถนนแน่ๆ

เมื่อชั้นหันไปมองที่ขาขวา ก็พบกับวิญญาณสาวตนหนึ่งจับขาชั้นไว้พร้อมแสยะยิ้ม ชั้นยิ้มแหยๆกลับพร้อมฝากลูกกระสุนไปให้หนึ่งนัด

“ลุกเร็วเข้า!!” มิสะตะโกนพร้อมฉุดชั้นขึ้นมา วิญญาณอีกจำนวนหนึ่งยังคงตามมาพร้อมกับชั้นและเจ้าหน้าที่คนอื่นๆที่วิ่งหนีอย่างไม่คิดชีวิต

----------------------------------------------------

ในอีกด้านหนึ่งของมิติ ซึ่งก็คือมิติของโลกมนุษย์ เจ้าหน้าชายทั้งหลายรวมกลุ่มกันเมื่อแต่ละคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าคู่หูที่เป็นเจ้าหน้าที่หญิงของตนเองนั้นหายไป มิคาโดะยืนพิงกำแพงสูบบุหรี่อย่างสบายใจดูไม่เป็นกังวลกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมากนัก หรืออาจจะกังวลแต่กำลังเก็บอาการไว้ก็ไม่อาจคาดเดาได้ ในขณะที่เจ้าหน้าที่คนอื่นๆกำลังปรึกษาหารือว่าจะทำอย่างไรกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในตอนนี้

“จะเอายังไงต่อไปดีล่ะ?” เรียวถามขึ้นมาด้วยคำถามง่ายๆ ที่ไม่มีใครให้คำตอบได้

“ลุงเชน ลุงประสบการณ์เยอะสุดละ” เกลโบ้ยไปให้เชน ซึ่งเป็นคนที่อาวุโสที่สุดในกลุ่ม

“อย่าทรมานสมองคนแก่เลยนะพ่อหนุ่ม” เชนพูด

“นั่นสิ เดี๋ยวลุงแกก็หัวหงอกเพิ่มหรอก” โนบุฮิดะพูดเสียงดังอันเป็นเอกลักษณ์ มิคาโดะที่สูบบุหรี่อยู่ขมวดคิ้วเป็นปมเมื่อได้ยินเสียงของเขา เชนเองที่โดนพาดพิงก็หันขวับแต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร

“แกจะโวยวายทำซากอะไรน่ะโนบุฮิเดะ” มิคาโดะต่อว่าโนบุฮิดะ พร้อมพ่นควันผ่านทางปากและจมูกดูน่าหมั่นไส้ แต่โนบุฮิเดะก็ไม่ต่อล้อต่อเถียงอะไร

“ชั้นว่าสาวๆคงเอาตัวรอดได้ มีทั้งมิสะ มาโมรุ ไหนจะเซต้า” เรียวออกความเห็น

“ถ้าอยากให้งานจบเร็วๆ ต้องลองหาทางทะลุเข้าไปมิติวิญญาณให้ได้” คำแนะนำนั้นออกมาจากปากของเอ็นสึเกะ เจ้าหน้าที่หนุ่มที่ดูไม่เข้าพวก แถมเจ้าหน้าที่คนอื่นๆก็ดูเหมือนจะมองไม่เห็นหัวเขาเลยแม้แต่นิดทั้งๆที่เขาก็ยืนอยู่ตรงนี้ตั้งนานแล้ว เมื่อเขาพูดจบ เรียวเหลือบมองเขา ด้วยใบหน้าที่ถูกปกปิดไว้ครึ่งหนึ่งด้วยหน้ากากทำให้ดูไม่ออกว่าเรียวในตอนนี้มองเอ็นสึเกะด้วยสีหน้าแบบไหน เอ็นสึเกะมองหน้าเรียวเมื่อรู้สึกว่าโดนจ้องมองอยู่ แล้วก็หันกลับไปแบบไม่สนใจ

“ชั้นอ่านพวกตำราอะไรมาเยอะ น่าจะมีคาถาอะไรบางอย่างที่พอช่วยในสถานการณ์นี้ได้” เอ็นสึเกะพูดต่อ

“นี่นายยังเชื่อเรื่องปาหี่แบบนั้นอีกหรอ?? ไร้สาระ...” เมื่อเรียวพูดจบ เอ็นซึเกะหันควับไปทางเรียวทันทีด้วยความไม่พอใจ แม้เขาจะสวมแว่นดำแต่แววตานั้นก็ยังคงมองเห็นได้อย่างชัดเจนว่าอยู่ในอารมณ์ไหน

“เอ้าๆ จะกัดกันหรือไง” มิคาโดะพูดพร้อมทิ้งก้นบุหรี่ลงพื้นแล้วใช้เท้าขยี้

“ทะเลาะกันเองมันไม่ได้ช่วยอะไรหรอก ต้องให้ชั้นสอนเรื่องความสามัคคีให้ไหม?” มิคาโดะพูดเหมือนจะหวังดี แต่น้ำเสียงกลับฟังดูน่าโมโหแปลกๆ อย่างไรก็ตามเรียวกับเอ็นสึเกะก็ดูเหมือนจะสงบศึกกันได้

หลังจากนั้นเชนดึงแขนเรียวมาใกล้ๆ แล้วพยายามหันหลังให้กับเอ็นสึเกะเหมือนกับพยายามไม่ให้เอ็นสึเกะรู้ว่าเขาจะพูดอะไรกับเรียว

“เห็นหลายครั้งแล้วนะที่นายชอบไปแขวะเจ้าเอ็นสึเกะน่ะ มีอะไรหรือเปล่า?” เชนถามตรงๆ เรียวพยายามหลบสายตา

“เปล่า” เรียวตอบ

“แล้วหลบตาทำไม? มีอะไรก็บอกผมตรงๆได้ เผื่อคนแก่ๆคนนี้จะช่วยอะไรได้” เชนกล่าวอย่างหวังดี ทำให้เรียวนิ่งไปซักพัก

“ก็ได้... ผมไม่ไว้ใจหมอนั่นเลย” เรียวพูดตรงๆ

“หมอนั่นมันดูแปลกๆ...”

“ยังไง?” เชนถามต่อ

“ผมไม่รู้” เรียวตอบอย่างบริสุทธิ์ใจ

“แล้วทำไมนายถึงไม่ชอบเขาทั้งๆที่นายก็ยังไม่รู้ว่าทำไม?” เชนถามอีกครั้ง

“ผมบอกไม่ถูก มันเป็นความรู้สึก ถ้าลุงมาเป็นผมลุงจะรู้สึกได้” เรียวกล่าว

“ลุงเชนน่าจะรู้ว่าอดีตหมอนั่นเป็นยังไง”

“อืม...” เชนพยักหน้าเหมือนเริ่มจะเข้าใจความรู้สึกของเรียว เชนหันไปมองเอ็นสึเกะเล็กน้อย เขายืนอ่านสมุดบันทึกเล็กๆบนมือแบบไม่สนโลก

“เวลาจะตัดสินทุกอย่าง...” เชนพูดเป็นปรัชญาแล้วตบบ่าเรียวเบาๆ เมื่อเชนเดินจากไป ชายภายใต้ผ้าปิดปากก็หันไปจ้องเอ็นสึเกะตาเขม็ง

“ชั้นจะเฝ้ามองดูแกทุกฝีก้าว เจ้าฆาตกร...”

----------------------------------------------------

วิญญาณจอมตื้อยังคงตามมาไม่หยุด ชั้นวิ่งจนขาจะเป็นตะคริวอยู่แล้ว ให้พูดตรงๆคือชั้นยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะวิ่งไปไหน จุดหมายคือที่ใด ชั้นรู้สึกเหมือนกำลังวิ่งอยู่บนลู่วิ่งออกกำลังกายที่วิ่งเท่าไหร่ก็ไม่จบซักที ตอนนี้เหงื่อไหลย้อยเต็มใบหน้าและร่างกายของชั้นที่อยู่ภายใต้ชุดอันแสนอึดอัด สภาพของชั้นเหมือนเพิ่งออกกำลังกายในฟิตเนสมายังไงยังงั้น

ทันใดนั้นทุกคนก็ต่างหยุดวิ่ง เมื่อตรงหน้าเป็นซอยตันไม่มีทางเดินให้ไปต่อ เพราะทุกคนต่างวิ่งแบบไม่มีแบบแผนจึงมาจนมุมที่ตรงนี้ น่าแปลกจริงๆซอยมีตั้งเยอะกลับวิ่งมาเจอซอยตันซะได้ อยากสบถออกมาดังๆเหลือเกินว่า...

“เวรเอ้ย...” มิสะสบถ ตามนี้แหละ...

วิญญาณที่ตามมาหยุดอยู่ตรงหน้าเหมือนรู้ดีว่าพวกเราไร้ทางหนี ชั้นเห็นมิสะหันซ้ายหันขวาเหมือนพยายามจะหาทางหนีทีไล่ แต่ดูเหมือนความหวังจะริบหรี่เพราะทางเดียวที่จะไปได้มันก็มีแต่ต้องบุกตะลุยดงวิญญาณพวกนี้ไปเท่านั้น

“ชั้นนึกอะไรออกล่ะ...” มิสะกล่าวทำให้ชั้นตาลุกวาวอย่างมีความหวัง

“สิบเอ็ดนาฬิกา... ตรงนั้นมีบ้านหลังเล็กๆอยู่ เราจะไปหลบที่นั่นกันก่อน...”

“แต่ต้องฝ่าพวกเวนเดททร้าไปนิดหน่อย ขอให้ทุกคนช่วยกัน...” มิสะพูดแผนการ

“มาโมรุ สไมล์ เวอร์ดี้ จัดการพวกเวนเดททร้าทางกราบซ้าย” มิสะสั่งการ ผู้ที่ถูกเอ่ยถึงพยักหน้าเป็นอันเข้าใจ

“โนโดกะอยู่ข้างๆชั้นไว้ และตามชั้นมา” มิสะหันมาสั่งชั้นบ้าง ชั้นพยักหน้า

“เซต้า คอยระวังหลัง”

“รับทราบ...” นั่นเป็นครั้งแรกที่ชั้นได้ยินเสียงของเซต้า

“ทุกคนเริ่มแผนเมื่อชั้นเริ่มวิ่ง...” มิสะทำท่าเหมือนจะออกตัววิ่ง ชั้นเองก็ต้องเตรียมพร้อมเพราะชั้นก็ต้องวิ่งไปกับเธอด้วย

ทันใดนั้นมิสะก็วิ่งฝ่าดงวิญญาณไปทันที เช่นเดียวกับที่มาโมรุ สไมล์ และเวอร์ดี้ ใช้อาวุธปืนในมือยิงวิญญาณทางด้านซ้าย ซึ่งเป็นจุดที่มิสะวิ่งไป ชั้นพยายามวิ่งให้อยู่ใกล้มิสะมากที่สุด วิญญาณแต่ละตัวโดนกระสุนจนสลายไปต่อหน้าต่อตาในระหว่างที่ชั้นวิ่ง มีบางตัวที่ยังขวางทางอยู่ก็ถูกมิสะใช้มีดสั้นตวัดฟาดฟันจนร่างของมันกระจุย ชั้นเองก็ไม่น้อยหน้าใช้ปืนในมือช่วยยิงด้วย ชั้นไม่ทันระวังว่ามีวิญญาณตัวหนึ่งมาทางด้านหลัง แต่เมื่อชั้นหันไปก็พบว่ามันโดนกระสุนจากเซต้าจนสลายไป ชั้นยิ้มให้เซต้าแต่เธอยังคงหน้าไร้อารมณ์ตามประสาหุ่นยนต์เช่นเคย จนกระทั่งชั้นและมิสะมาอยู่ที่หน้าบ้านหลังเล็กๆหลังหนึ่ง ซึ่งเป็นจุดหมายที่มิสะได้วางแผนไว้ตั้งแต่แรก

“เซต้า เคลียร์ทาง” มิสะสั่งการอีกครั้ง

“รับทราบ...” เซต้าพูดคำเดิมแล้ววิ่งตะลุยผ่านเหล่าวิญญาณอย่างดื้อๆ พบว่าวิญญาณที่ขวางทางต่างร่างกระจุยไปหมดสิ้น เมือชั้นมองดีๆก็พบว่าเครื่องประดับที่ติดที่ผมของเซต้าเป็นใบมีดขนาดใหญ่ที่ตวัดฟาดฟันในระหว่างที่เธอวิ่งมา เป็นเหตุทำให้วิญญาณที่บังอาจเข้ามาใกล้ต่างถูกคมมีดฟาดฟันจนไม่เหลือแม้แต่ซาก

เซต้าได้เคลียร์ทางจนเกิดช่องว่างขึ้นในกลุ่มวิญญาณ มาโมรุ สไมล์ และเวอร์ดี้ก็รู้งานวิ่งผ่านช่องว่างที่วิญญาณไม่ได้ขวางอยู่มาทางชั้นและมิสะ ทุกๆคนอยู่หน้าบ้านที่เป็นจุดหมายแล้วมิสะก็หมุนตัวเตะจนประตูบ้านเปิดออก ทุกๆคนต่างวิ่งข้าไปในบ้านโดยที่มาโมรุและเซต้ายืนยิงสกัดเหล่าวิญญาณให้ เมื่อทุกคนอยู่ในบ้านอย่างปลอดภัยรวมทั้งตัวชั้น มาโมรุกับเซต้าก็ทยอยเข้ามาในบ้านแล้วปิดประตูอย่างรวดเร็ว พร้อมเลื่อนตู้เก็บของที่อยู่ใกล้ๆมาขวางไว้

ทุกๆคนต่างอยู่ในสถานะปลอดภัยแต่ก็คงแค่ตอนนี้เท่านั้น ชั้นเองก็ได้พักเหนื่อยเสียทีหลังจากที่บุกป่าฝ่าดงมานาน แต่ชั้นยังไม่ทันได้หย่อนก้นลงไปนั่งเพื่อพักเหนื่อย มิสะก็ตะโกนขึ้นมาทำให้ชั้นสะดุ้งเฮือก

“พวกบ้าเอ้ย!!” ชั้นหันไปมองก็พบว่าวิญญาณอีกสองตนเป็นผู้ชายกับผู้หญิง มิสะพุ่งตัวเข้าไปพร้อมมีดสั้นในมือเพื่อเตรียมใช้มันตัดร่างของวิญญาณตรงหน้า เหล่าวิญญาณไม่ได้ดูเหมือนจะพร้อมสู้แถมยังดูหวาดกลัวเมื่อเขาและเธอทั้งสองยกแขนขึ้นมาป้องกันพร้อมหลับตาปี๋ด้วยความตื่นตระหนก ชั้นรู้สึกได้ว่าวิญญาณสองตนนี้ดูไม่ใช่พวกวิญญาณเลวร้ายอะไร แต่เพราะความว่องไวของมิสะทำให้ชั้นคงห้ามเธอไม่ทันเสียแล้ว

แต่การกระทำของมิสะก็ต้องหยุดลงเมื่อมีผู้ที่ไวกว่าเธอ มิสะถูกบุคคลปริศนาจับแขนเอาไว้ ใบมีดของอาวุธมิสะใกล้จะตัดผ่านร่างของวิญญาณตรงหน้าอยู่รอมร่อ เพียงแค่เสี้ยววินาทีวิญญาณทั้งสองคงไม่ได้ยืนอยู่ตรงนี้แน่ ชั้นหันไปมองบุคคลปริศนาผู้หยุดการกระทำของมิสะได้อย่างเหลือเชื่อราวปาฏิหาริย์

ทันใดนั้นชั้นก็รู้สึกเหมือนถูกตรึงด้วยแรงมหาศาลชั่วขณะเมื่อได้เห็นใบหน้าของบุคคลปริศนาแบบชัดๆ ชั้นเหมือนถูกนาฬิกาหยุดเวลาไว้ ความรู้สึกของชั้นในตอนนี้มันบอกไม่ถูก ไม่สามารถบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้ ชั้นไม่สามารถเคลื่อนไหวร่างกายตามที่ใจสั่งได้ราวกับถูกสะกดด้วยเวทย์มนต์ ปากของชั้นขยับเพื่อพยายามจะพูดอะไรบางอย่างแต่ก็พูดไม่ออก

โกสท์อายส์ของชั้นอ่านชื่อบุคคลปริศนาตรงหน้าได้ว่า “โฮชิมุระ โนโซมิ”

ชื่อคนบุคคลที่ชั้นคิดมาเสมอว่าเธอ... จากไปแล้ว...

จากนั้นชั้นก็เริ่มบังคับตนเองให้เปล่งเสียงออกมาจนได้...

“หม่าม้า!!??”

----------------------------------------------------


----------------------------------------------------

Ghost Hunter Archives

Weapon Data #7 Heckler & Koch VP70
เฮคแลร์แอนด์คอค วีพีเซเวนตี้ เรียกสั้นๆว่าเฮชเควีพีเซเวนตี้ หรือวีพีเซเวนตี้เฉยๆ ปืนพกกระบอกนี้จะมีพานท้ายปืนเป็นอุปกรณ์เสริม ซึ่งจะทำให้สามารถยิงได้ 3 นัดติดต่อกัน เป็นปืนที่มีรูปลักษณ์ค่อนข้างกะทัดรัด จึงใช้งานง่าย แต่มีแรงสะท้อนค่อนข้างสูง (ถ้าไม่ติดพานท้ายปืน) เป็นปืนพกที่เจ้าหน้าที่หน่วยโกสท์ฮันเตอร์นิยมใช้ และเป็นอาวุธประจำตัวของโนโดกะในช่วงแรกๆ
ขึ้นไปข้างบน Go down
 
Ghost Hunter : Chapter 8 "Unexpected Encounter"
ขึ้นไปข้างบน 
หน้า 1 จาก 1
 Similar topics
-
» Ghost Hunter : Chapter 2 "Operation Ghost Hunter"
» Ghost Hunter : Chapter 5 "In Trouble"
» Ghost Hunter : Chapter 3 "Epic Battle"
» Ghost Hunter : Chapter 4 "Weird Trip"
» Ghost Hunter : Chapter 6 "Relaxing Crisis"

Permissions in this forum:คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
Bloody Wrestling Online :: BWO : Special Event :: BWO Novel-
ไปที่: