“ก็บอกว่าขอยืมตังค์หน่อยไม่ได้หรือไง” อากิยาม่าและผองเพื่อนของเขากำลังยืมล้อมเด็กผู้ชายสกรีนเฮ้ดคนหนึ่ง
รอบๆนั้นไร้ซึ่งผู้คน เพราะนี่เป็นหลังโรงยิมที่ผู้คนไม่ค่อยได้เดินผ่านไปมาเสียเท่าไหร่ เด็กผู้ชายที่ถูกล้อมนั้นร่างของเขาสั่นไปหมด เหล่าอันธพาลทั้งสามคนยืนจ้องเขา อากิยาม่าเริ่มออกหมัดต่อยเข้าไปที่กลางหน้าท้อง ชายสกรีนเฮ้ดที่อยู่ในชุดทีมเบสบอลของชมรมก็ทรุดลงไป เขากุมหน้าท้องของเขา หน้าผากของเขานั้นแตะลงบนพื้นดิน อากิยาม่าก้มมองก่อนจะเอ่ยปากถามอีกครั้งด้วยคำถามเดิม หากทว่าเด็กคนนี้ก็ยังคงปฏิเสธที่จะให้ในสิ่งที่อากิยาม่าต้องการ เหล่านักเลงทั้งสามคนมองหน้ากันก่อนจะเริ่มกระทืบไปบนแผ่นหลังของเด็กคนนี้พร้อมกับหัวเราะด้วยความสนุก
“พวกเธอทำอะไรกันน่ะ” เสียงของผู้ชายคนนึงดังขึ้นมา
พวกอากิยาม่ารีบหยุดก่อนจะหันไปตามเสียง ทั้งสามเห็นชายวัยกลางคนที่เป็นครูในโรงเรียนนี้กับชายผมน้ำตาลที่ยืนอยู่ข้างๆ
“นี่พวกเธอรังแกเด็กคนนี้ใช่ไหม?” ผู้เป็นครูตะโกนด้วยสีหน้าโกรธเกรี้ยว
อันธพาลทั้งสามเงียบสนิท ผู้เป็นครูเดินไปพยุงเด็กชายในเครื่องแบบทีมเบสบอลประจำโรงเรียน
“พวกเธอสามคนไปคุยกับชั้นที่ห้องพักครู เดี๋ยวนี้” ผู้เป็นครูพูดกับอันธพาลทั้งสามคน
อันธพาลไม่ได้พูดอะไรก่อนจะเดินตามครูคนนี้ไป หากทว่าในจังหวะที่เขามองผ่านเด็กชายผมน้ำตาลที่ชื่อว่าเคนนั้น พวกเขาทั้งสามก็จ้องมองด้วยสายตาอาฆาต เคนก็ได้แต่มองกลับ ในวินาทีนั้นเคนนึกว่าเรื่องทั้งหมดได้จบลงแล้ว เขาได้ทำสิ่งที่ถูกต้อง เขาได้ช่วยเด็กคนหนึ่งให้รอดพ้นจากการรังแก หากทว่าจริงๆแล้ว มันไม่ใช่เช่นนั้น เพราะทุกๆอย่างกำลังจะดำเนินไปในทางที่เลวร้ายที่สุดเท่าที่เคนจะพอจินตนาการได้
=====
เคนตื่นขึ้นมา เขาหันไปมองรอบๆห้องเช่นเคย ในวันนี้ไม่มีกล่องวางไว้แล้ว เพราะเขาได้นำของในกล่องไปจัดให้เข้าที่เข้าทางเป็นที่เรียบร้อยตั้งแต่เมื่อวานแล้ว ชายผมน้ำตาลมองไปยังนาฬิกาที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ ดูเหมือนเขาจะตื่นก่อนเวลาที่นาฬิกาปลุกจะดังเสียงอีก เคนไม่อยากจะลุกขึ้นจากเตียงของเขาเลย แม้นี่จะเป็นเพียงแค่วันที่สามภายในรั้วโรงเรียนก็ตาม ความรู้สึกกลัวเริ่มคืบคลานเข้ามาในร่างของเขาช้าๆ เขาไม่อยากจะคิดเลยว่าวันนี้เขาจะต้องเจออะไรบ้าง แต่ถึงแม้เขาจะกลัวขนาดไหน แต่เขาก็ตัดสินใจลุกออกจากเตียง เขาไม่อยากให้ที่บ้านรู้ว่าตอนนี้เขากำลังเผชิญกับปัญหาอะไรอยู่ เขาทำทุกอย่างเหมือนปกติก่อนจะเดินออกจากบ้านไป เขายังคงเห็นเพื่อนนักเรียนคนอื่นๆมุ่งไปยังทางเดิม เคนก็ยังคงเดินไปทางเดียวกันกับพวกเขา ไม่นานนักเขาก็มาถึงโรงเรียนของเขา
“เฮ้ เคนคุง!! Good Morning!!” เสียงของผู้หญิงสำเนียงแปลกๆดังขึ้นมา
“อ๊ะ อรุณสวัสดิ์ครับ รุ่นพี่ซาโตนากะ” เคนกล่าวทักทายผู้หญิงที่ทักทายตน
“เมื่อวาน ผมต้องขอบคุณรุ่นพี่อีกรอบจริงๆนะครับ ถ้าผมไม่ได้รุ่นพี่ ผมคงแย่” เคนกล่าวขอบคุณอีกครั้ง
“ก็บอกแล้วว่าไม่ต้อง Worry ยังไง ชั้นไม่ชอบพวกนักเลงอยู่แล้ว” รุ่นพี่ซาโตนากะพูดคำเดิม
“จะว่าไป จะเสียมารยาทไหมครับ ถ้าผมจะถามรุ่นพี่ว่า ทำไมถึงรุ่นพี่มีสำเนียงไม่ค่อยเหมือนคนญี่ปุ่นเลยครับ?” เคนถามต่อ
“อ่อ พ่อของชั้นเป็นคนอังกฤษน่ะ ส่วนแม่ของชั้นเป็นคนญี่ปุ่น และชั้นก็โตมาในประเทศอังกฤษน่ะ ชั้นก็เลยชินกับสำเนียงแบบนี้” รุ่นพี่เล่าให้ฟัง
เคนพยักหน้าทั้งคู่เดินตรงไปยังตู้รองเท้าก่อนที่เคนจะถอดรองเท้าของตัวเองออกและหยิบอูวาบากิมาใส่เหมือนเดิม ทั้งคู่เดินไปก่อนจะแยกกัน เคนเดินเลี้ยวไปทางซ้ายส่วน โคฮาคุไปทางขวา ตอนที่โคฮาคุแยกไปนั้น เธอก็เห็นผู้หญิงผมสีน้ำเงินยืนรอเธออยู่ ผมของเธอนั้นสั้นเพียงแค่ประบ่าเท่านั้น ดวงตาของเธอเป็นสีแดง ใต้ตาซ้ายของเธอนั้นมีไฝอยู่ด้วยและใบหน้าของเธอนั้นดูดุร้ายและเต็มไปด้วยความเย็นชา โคฮาคุกล่าวทักทายก่อนจะเดินไปพร้อมๆกับผู้หญิงคนนั้น ดูเหมือนคนนั้นจะเป็นเพื่อนของรุ่นพี่ซาโตนากะ ส่วนเคนนั้นก็หันไปก่อนจะเดินไปทางของตัวเอง เขามาถึงหน้าห้องเรียนของตัวเอง เขาใช้มือของเขาเลื่อนประตู เมื่อเขาเปิดประตู เขาก็ตรงไปยังที่นั่งของเขา เคนวางกระเป๋าของตัวเองลงกับพื้นก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้ ที่นั่งข้างๆของเขายังว่าง ดูเหมือนชายผมน้ำเงินที่ชอบนอนเวลาเรียนจะยังไม่มา
“หืม?”
เคนพูดขึ้นเมื่อเห็นจดหมายอะไรบางอย่างถูกทิ้งไว้ในลิ้นชักของตัวเอง ชายผมสีน้ำตาลเอื้อมมือไปหยิบจดหมายฉบับนี้ หน้าวองนั้นไม่ได้จ่าหัวถึงใครทั้งนั้น เคนเปิดซองจดหมายออกก่อนจะเห็นกระดาษอยู่หนึ่งแผ่น เคนหยิบกระดาษแผ่นนั้นออกมาดูก่อนที่จะเปิดกระดาษออกมาอ่าน เมื่อเคนเห็นเนื้อความที่อยู่จดหมาย ดวงตาทั้งสองข้างของเขาก็เบิกโพลนขึ้นมา มือที่เขาถือจดหมายนั้นสั่นไปด้วยความกลัว เพราะในกระดาษนั้นถูกเขียนด้วยตัวอักษรสีดำที่มีขนาดใหญ่ว่า
“เจอกันตอนเที่ยงที่หลังโรงยิม
ลงชื่อ : อากิยาม่า”
เคนรีบพับจดหมายเก็บก่อนที่จะใส่ไว้ในซองเหมือนเดิม ในหัวของเขาตอนนี้วุ่นวายไปหมด เขารู้ว่าอากิยาม่าจะต้องทำทำร้ายเขาแน่ๆ ถ้าเขาไปเจอหน้ากับชายคนนี้ในตอนเที่ยง หากทว่าถ้าเคนหนี เขาก็คงเจอบทลงโทษที่หนักกว่า เคนอยากจะบอกใครซักคน หากทว่าเขาเองก็ไม่อยากจะลากคนอื่นเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ด้วย ในขณะที่เคนกำลังนึกอยู่นั้นเขาก็ได้ยินเสียงฝีเท้าของใครบางคนเดินเข้ามาในห้อง เคนหันไปตามเสียงก่อนจะเห็นชายผมน้ำเงินที่ชื่อว่าคันจิเดินเข้ามาในห้อง เขาเลื่อนเก้าอี้ของเขาก่อนจะลงไปนั่งบนเก้าอี้ คันจิหันมาทางเคนก่อนจะพูดขึ้นมา
“สีหน้านายไม่ต่างจากเมื่อวานเลยนะ? มีอะไรรึเปล่า? คุยกับชั้นได้นะ” คันจิพูด
“ไม่มีอะไรๆ ช่วงนี้แค่นอนน้อยไปหน่อยน่ะ” เคนโกหก
“อ้อ อืม” เมื่อผู้ถามได้คำตอบก็ฟุบลงไปกับโต๊ะ
คันจิฟุบไปกับโต๊ะราวเป็นการบอกเคนนัยๆว่า “ถ้าง่วงก็นอนซิ” แต่ปัญหาคือเคนนั้นไม่ได้ง่วงแต่อย่างใด เคนอยากให้ตัวเองง่วงด้วยซ้ำไป เพราะถ้าง่วงแค่ฟุบหลับลงไปชั่วครู่ก็จะแก้ปัญหาได้ แต่ปัญหาที่เขากำลังเผชิญอยู่นั้นต่างออกไป มันไม่สามารถแก้ปัญหาด้วยการแค่หลับตาและลืมตาทุกอย่างก็จะหายไป ไม่นานนักครูประจำชั้นของพวกเขาก็เข้ามาในห้อง เขาก็คงยิ้มแย้มเหมือนเดิม เขายืนประจำที่โพเดี่ยมของตัวเอง หัวหน้าห้องตะโกนสั่งให้นักเรียนทุกคนทำความเคารพเขา เคนปลุกคันจิที่พึ่งหลับได้ไม่นานขึ้นมา ก่อนที่ทุกคนในห้องจะยืนพร้อมๆกันและก้มโค้งให้ก่อนจะนั่งลงไปพร้อมๆกัน เมื่อคันจิลงไปนั่ง เขาก็ฟุบหลับอย่างรวดเร็ว อาจารย์โซเรียวเริ่มเช็คชื่อและเมื่อเขาถึงชื่อ “โนดะ คันจิ” เขาก็จะเหลือบไปมองที่ชายผมน้ำเงินที่หลับอยู่และติ๊กชื่อว่าเขามาเรียน แม้นี่จะแค่สามวันแต่อาจารย์โซเรียวสามารถจำชื่อนักเรียนทุกคนในห้องได้แล้ว ช่างเป็นอาจารย์ที่ยอดเยี่ยมจริงๆ เมื่อเขาขานชื่อทุกคนเสร็จ เขาก็ปิดแฟ้มของเขาก่อนจะพูด
“ในช่วงสัปดาห์หน้า จะมีเปิดรับสมัครชมรม”
“แน่นอนว่าที่นี่มีชมรมมากมายตามความสนใจของนักเรียน ซึ่งครูเชื่อว่าคงจะมีซักสองสามชมรมแหละที่นักเรียนสนใจ”
“แต่ถ้าหากนักเรียนไม่สนใจชมรมไหนเป็นพิเศษก็ไม่ต้องลงก็ได้ เพราะทางโรงเรียนเรา ไม่บังคับอยู่แล้ว”
เด็กๆขานรับ โซเรียวพยักหน้าก่อนจะเดินออกจากห้องเพื่อไปเตรียมสอนห้องอื่น ไม่นานนักครูอีกคนก็เดินเข้ามาก่อนจะเริ่มสอน คาบแรกเป็นคาบวรรณกรรม คงจะบอกได้ว่านี่คงเป็นวิชาที่เคนเก่งสุด แต่ถึงกระนั้นสมาธิของเขานั้นไม่ได้อยู่กับตำราเรียนเลยแม้แต่น้อย เคนมองนาฬิกาที่ถูกแขวนอยู่เหนือกระดานดำ เข็มวินาทีที่ยังคงหมุนบนหน้าปัดเวลาอยู่เรื่อยๆ เช่นเดียวกันกับจังหวะหัวใจของเคนที่เต้นไปด้วยความตื่นกลัว มันเป็นช่วงเวลาที่ช้าที่สุดในชีวิตของเขา และในที่สุดเข็มยาวและเข็มสั้นก็ชี้ตรงที่ 12 นาฬิกา เคนลุกจากเก้าอี้ช้าๆก่อนจะเดินตรงไปยังสถานนัดหมาย แม้จะแค่ช่วงเวลาสั้นๆที่เขาอยู่ในรั้วคิโบว กาคุเอ็น แต่เขาก็เคยไปโรงยิมแล้ว ดังนั้นก็ไม่ยากอะไรที่เขาจะยังจุดนัดหมาย
เคนเดินไปยังหลังโรงยิม เขาเห็นอากิยาม่ายืนรออยู่แล้ว ชายผมดำคนนี้ยืนสูบบุหรี่ เมื่อเขาเห็นร่างของเคน เขาก็ปล่อยบุหรี่ลงไปบนพื้นดินก่อนที่เขาจะใช้เท้าขยี้เพื่อดับไฟจากยาสูบ เมื่อเขาขยี้บุหรี่ของเขาเสร็จ เขาก็ใช้มือของเขากระชากคอเสื้อของเคนก่อนที่จะผลักเขาเข้ากับกรงเหล็กสีเขียวที่เป็นรั้วกั้นแบ่งเขตแดนในโรงเรียนและนอกโรงเรียน แรงกระแทกนั้นทำให้ชายผมน้ำตาลรู้สึกถึงความเจ็บปวดไม่น้อย อากิยาม่ามองเข้ามาในดวงตาด้วยสายตาที่เป็นด้วยการข่มขู่และแรงอาฆาต
“นายยังจำได้ไหมว่านายต้องมาเจอเรื่องแบบนี้เพราะอะไร? เงินไงล่ะ”
“และชั้นก็อยากจะย้อนความทรงจำที่ดีให้กับนาย...ส่งเงินมาให้ชั้น”อากิยาม่าบอกเจตจำนงของตัวเอง
แน่นอนเคนอยากจะส่งเงินให้ ถ้าหากเงินนั้นสามารถหยุดเรื่องทั้งหมดนี้ได้ แต่ถึงกระนั้นเขาก็รู้ว่าไม่มีทางที่จะหยุดเรื่องนี้ได้ และในขณะเดียวกันแม่ของเขาก็คงสงสัยเหมือนกันว่าเงินของเขาหายไปไหนขนาดนี้ และอาจจะสร้างปัญหาต่อๆไปได้ในอนาคต เคนเงียบ เขาไม่ได้พูดอะไรเลยแม้แต่น้อย อากิยาม่าเห็นการตอบรับแบบนี้เขาก็รู้ทันทีว่าเคนไม่คิดจะให้เงินเขา อากิยาม่าออกแรงก่อนจะเหวี่ยงเคนลงไปกับพื้น ร่างอันบอบบางของเคนกระแทกลงไปกับพื้น อากิยาม่าใช้เท้าเหยียบลงไปบนหน้าท้องของเคน ชายผมน้ำตาลพยายามดิ้นเพื่อลุกขึ้นมาแต่ด้วยน้ำหนักของอากิยาม่าและแรงกดจึงทำให้เคนไม่สามารถลุกขึ้นมาได้
“ชั้นจะให้แกตอบอีกครั้ง ถ้าแกตอบโง่ๆละก็ แกเตรียมกินกำปั้นของชั้นได้เลย” อากิยาม่าพูดพลางกำหมัดแน่น
เคนยังคงนิ่งเงียบ เขาพยายามจะดิ้นให้หลุดออกจากการกดขี่ของอากิยาม่า ทางนักเลงเห็นก็กำหมัดก่อนจะเตรียมชกเข้าไปที่ใบหน้าของเคน ชายผมน้ำตาลได้แต่ป้องมือเพื่อจะป้องกันหมัดของอากิยาม่าพร้อมกับหลับตาเตรียมจะรับชะตากรรม หากทว่าอากิยาม่าก็หยุดหมัดของเขา เพราะพวกเขาได้ยินเสียงฝีเท้าของใครดังขึ้นมา อากิยาม่าหันไปก่อนจะเห็นชายผมน้ำเงินยืนอยู่ ในมือของเขาถือมือถืออยู่ด้วย มันเป็นมือถือเก่าๆและโทรมๆ ราวกับว่าหลุดมาประมาณ 7-8 ปีที่แล้ว แทบไม่อยากจะเชื่อเลยว่ายังมีคนใช้มือถือรุ่นนี้ด้วยซ้ำ แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นหลักของเรื่องนี้
“นายมาทำอะไร? อยากเจ็บตัวรึไง?” อากิยาม่าพูดขู่
“ดีครับดี พูดเข้ากล้องเลย...ชั้นอยากเห็นจังเลยนะ ว่า ผอ. จะว่ายังไงหลังเห็นคลิปตัวนี้ลงบนโซเชี่ยล” คันจิพูดในขณะที่ถือมือถืออยู่
“แก...” อากิยาม่ารีบยกเท้าของตัวเองออกจากร่างของเคน ก่อนจะพุ่งตรงไปทางคันจิพร้อมกับกำปั้น
“อ๊ะ...เผลอกดส่งไปแล้ว แย่จัง แต่เอ๊ะ ชั้นยังไม่ได้ส่งนี่หว่า” ชายผมน้ำเงินเริ่มปั่นประสาท
“แกต้องการอะไร?” อากิยาม่าเริ่มตะโกนด้วยความหวาดกลัว
“เลิกยุ่งกับเคนซะ...แล้วจะไปใช้ชีวิตที่ไหนของนายก็ไป” คันจิพูด
อากิยาม่าก็ได้กำปั้น เขากัดริมฝีปากของตัวเอง เพราะถ้าหากคลิปนี้หลุดไปถึงผู้อำนวยการแล้วละก็ มีหวังเป็นอันโดนไล่ออกแน่นอน อากิยาม่าไม่ได้ให้คำตอบอะไร ก่อนจะได้แต่เดินออกไปเงียบๆ เคนลุกขึ้นมาก่อนจะใช้มือของเขาปัดฝุ่นที่อยู่บนเสื้อสีดำของเขา คันจิมองอากิยาม่าที่กำลังเดินหายไปจากสายตาของคันจิ เมื่อชายผมดำหายไปแล้ว คันจิก็เก็บมือถือของเขาเข้าไปในกระเป๋ากางเกง
“โชคดีนะ ที่มันไม่รู้ว่ากล้องมือถือของชั้นเสียไปนานแล้ว” คันจิพูดขึ้น
“เอ่อ ขอบคุณมากครับ คุณโนดะ” เคนพูด
“เรียกชั้นว่าคันจิก็ได้ ยังไง ชั้นก็เป็นเพื่อนนายนี่” คันจิพูดด้วยรอยยิ้ม
เคนได้ยินแล้วก็หัวเราะเบาๆ ก่อนจะถามคันจิที่ยืนอยู่ใกล้ๆกับตน เสียงกลิ่งดังขึ้นเป็นสัญญาณบอกว่าการเรียนจะเริ่มขึ้นอีกครั้ง เคนเดินกลับไปที่ห้องเรียนไปพร้อมกับ “เพื่อนใหม่” ของเขา แม้ว่าเขาจะรู้ว่านี่จะไม่ชอบตอนจบของปัญหาของเขา แต่เขาก็เชื่อว่าทุกอย่างจะดีขึ้นหากเขามีเพื่อนอยู่ข้างๆ