สัปดาห์แห่งการเล่าเรียนเริ่มขึ้นอีกครั้ง นี่ก็เป็นสัปดาห์ที่สองแล้วภายใต้รั้วคิโบว กาคุเอ็นของเคน ชายหนุ่มผมน้ำตาลหาวด้วยความอ่อนเพลียก่อนจะเดินมุ่งไปยังโรงเรียนของเขา เมื่อเขาเข้าใกล้อาคารเรียนของเขา เคนก็สังเกตุเห็นได้ถึงป้ายสีขาวขนาดใหญ่ที่แขวนบนชั้นบนสุดของอาคาร บนผ้าผืนนั้นมีตัวอักษรสีดำเขียนอยู่ โดยมันเขียนว่า “ขอแสดงความยินดีกับชมรมศิลปะป้องกันตัวด้วย” เคนหยุดมองชั่วครู่ก่อนจะเดินต่อไป เขาเดินเข้าไปในอาคาร เมื่อเคนเข้าไปในอาคารนั้นเขาก็ได้ยินเสียงของผู้คนพูดถึงชัยชนะของชมรมศิลปะป้องกันตัว
“รุ่นพี่มาซาฮิโระนี่เท่จังเลยน้า แค่ทัวร์นาเม้นท์แรกของปีก็ชนะแล้ว สุดยอดจริงๆ” เด็กนักเรียนสาวคนนึงพูดขึ้น
“ใช่ๆ ตอนที่รุ่นพี่มาซาฮิโระน็อคคู่แข่งในรอบชิงได้นี่เท่จริงๆ” เด็กสาวอีกคนพูดกลับ
“ถึงชั้นจะไม่ชอบเจ้ามาซาฮิโระก็เถอะ แต่ก็ต้องยอมรับว่ามันเก่งจริงๆ” นักเรียนชายอีกวงสนทนาพูดขึ้น
“ตอนปีหนึ่ง ชั้นเคยได้ยินว่า มันคนเดียวล้มนักเลงห้าสิบคนได้ด้วยน้า” เพื่อนของนักเรียนชายคนนี้พูด
“เห จริงดิ!!” ผู้เปิดบทสนทนาพูดด้วยน้ำเสียงตกใจ
ไม่ว่าจะเป็นคำพูดในแง่บวกหรือคำพูดในแง่ลบ ดูเหมือนกระแสของวันนี้จะเป็นเรื่องชัยชนะของชมรมศิลปะการต่อสู้ เคนเดินมาถึงหน้าห้องของตัวเองก่อนจะเลื่อนเปิดประตู เมื่อเขาเปิดประตูมานั้นเขาก็ยังเห็นโนดะคันจินอนฟุบอยู่บนโต๊ะ แต่เพราะด้วยเสียงประตูที่เคนเปิดจึงทำให้คันจิที่นอนฟุบอยู่ตื่นขึ้นมา ใบหน้าของเขางัวเงีย เขาขยี้ตาข้างขวาของเขาก่อนจะหันมามองต้นเสียง เคนยกมือทักทายเขา เขาเองก็ยกมือทักทายกลับ เคนลงไปนั่งบนเก้าอี้ของเขาก่อนจะมองหน้าของคันจิ
“สุดยอดไปเลยนะชมรมศิลปะการต่อสู้เนี่ย” เคนพูดขึ้นมา
“แค่นี้ ก็ไม่ต้องกลัวเรื่องโดนยุบชมแล้วซิน้า” ชายผมน้ำตาลเอามือท้าวคางของตัวเองพลางมองออกไปข้างนอก
หากทว่าเขาพูดแล้วเขาก็ไม่ได้ยินเสียงตอบรับ เคนก็หันไปก่อนจะคันจิที่ฟุบหลับไปอีกรอบ เคนเห็นก็ได้แต่หัวเราะแห้งๆ เวลาผ่านไปไม่นานนักอาจารย์ประจำชั้นก็เดินเข้ามา เสียงระฆังที่ดังกึกก้องเป็นการบ่งบอกว่าโรงเรียนเริ่มขึ้นแล้ว คันจิก็ตื่นขึ้นมาเพราะเสียงระฆัง หัวหน้าห้องตะโกนสั่งให้นักเรียนทุกคนยืนขึ้นมา ทุกคนก็ต่างลุกขึ้นมา ก่อนจะโค้งให้กับครูประจำชั้นของตัวเอง ซักพักนักเรียนก็นั่งลงไป ครูประจำชั้นโซเรียวเริ่มขานชื่อทุกคน เมื่อเขาคานถึง “โนดะ คันจิ” เขาก็ต้องตกใจเพราะเขาเห็นชายผมสีน้ำเงินนั่งอยู่ แต่เขาก็ไม่ได้พูดถึงในเรื่องนี้ เมื่อเขาขานชื่อทุกคนจบแล้ว เขาก็พูดปิดแฟ้มและพูดต่อ
“วันนี้เราจะมีเพื่อนร่วมห้องใหม่....เพื่อนร่วมห้องใหม่คนนี้ เขาพึ่งออกมาจากโรงบาลมา”
“ยังไงก็เป็นเพื่อนที่ดีกับเขาด้วยล่ะ นายน่ะเข้ามาได้” อาจารย์โซเรียวหันไปพูดกับนอกห้อง
เสียงเปิดประตูหน้าห้องดังขึ้นมา ผู้เปิดประตูนั้นเป็นชายผมสีดำ เขาเป็นชายที่ดูหน้าตาธรรมดาๆ แต่หากทว่าเมื่อเขาเข้ามานั้นทั้งห้องก็ต่างคุยซุบซิบกันเต็มไปหมด เคนกับคันจิก็ได้แต่งงว่าเกิดอะไรขึ้น เขาเดินไปยังกระดานก่อนจะหยิบชอล์กขึ้นมาก่อนจะเขียนบนกระดาษ ชื่อของเขียนและอ่านได้ว่า “ฟูจิวาระ ทาดาโยชิ” เมื่อทุกคนเห็นชื่อนี้เสียงซุบซิบก็ยิ่งดังขึ้นเหมือนเดิม จนทำให้อาจารย์โซเรียวต้องใช้มือของเขาทุบโต๊ะ เสียงทุบโต๊ะนั้นทำให้เสียงซุบซิบของนักเรียนเงียบหมด ใบหน้าของโซเรียวนั้นดูไม่ค่อยแฮปปี้เท่าไหร่กับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่นี้
“ครูรู้นะว่าคุณฟูจิวาระมีประวัติไม่ดีมาก่อน แต่ตอนนี้เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของพวกเธอแล้ว”
“ยังไงซะก็อยู่กับเขาในฐานะเพื่อน เข้าใจไหม?” อาจารย์โซเรียวตะโกน
“คร้าบ / ค่า~” นักเรียนขานรับด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยเต็มใจเท่าไหร่
คำว่าประวัตินั้นทำให้เคนยิ่งอดสงสัยไม่ได้เลยว่าเกิดอะไรขึ้น? เคนหันไปมองคันจิที่นั่งอยู่ข้างๆตน เมื่อชายผมน้ำตาลหันไปหาชายผมน้ำเงินที่นั่งอยู่ข้างๆ เขาก็ยักไหล่ให้กับเพื่อนของตน ราวกับเป็นการตอบว่า “เขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าประวัติที่ว่าคืออะไร” โซเรียวชี้ที่ว่างให้ชายคนนี้นั่ง ชายคนนี้ไปนั่งตรงที่ว่าง ตลอดทางที่เขาเดินไปยังที่นั่งของเขาที่ไม่ไกลจากโพเดี่ยมครูเท่าไหร่ แต่ถึงกระนั้นระยะทางของเขาก็ดูห่างไกล เพราะตลอดทางเขาต้องทนฟังเสียงนินทาและสายตาที่เต็มไปด้วยความเหยียดหยามตลอด ชายคนนี้นั่งลงบนเก้าอี้ของเขา ทุกสายตายังคงจับจ้องเขาตาไม่กระพริบ โซเรียวก็ได้แต่มองและถอนหายใจก่อนจะเดินออกจากห้อง ไม่นานนักครูคนอื่นก็เข้ามาสอนต่อ ตลอดการเรียนนั้น ทุกคนในห้องต่างไม่ได้จดจ่ออยู่กับบทเรียนเลยแม้แต่น้อย ทุกคนต่างจดจ้องไปยังเด็กหนุ่มที่พึ่งเป็นสมาชิกใหม่ในห้องนี้
เช่นเดียวกันกับเคนที่นั่งอยู่หลังห้อง เขาเองก็ไม่ได้มีสมาธิเลยแม้แต่น้อย ไม่ใช่เพราะว่าเขาเกลียดชายคนนี้ แต่ปัญหาคือเขาไม่รู้เลยว่าชายคนนี้คือใคร และเขาก็อยากรู้มาก แต่ถึงกระนั้นคันจิที่กำลังนอนฟุบอยู่บนโต๊ะนั้น ก็ไม่รู้เรื่องเช่นเดียวกัน ทำให้เขาไม่สามารถถามใครได้เลย เวลายังคงดำเนินต่อไปเรื่อยๆ ก่อนที่พักกลางวันจะมาเยือน ชายผมดำที่เป็นประเด็นในวันนี้รีบลุกก่อนจะเดินออกจากห้องไปคนเดียวเงียบๆ เคนก็ได้แต่มองเขาออกจากห้อง ในขณะที่สายตาของเขาจับจ้องชายที่ชื่อว่าฟูจิวาระ ทาดาโยชิ เขาก็ได้ยินเสียงผู้หญิงที่อ่อนหวานดังขึ้นมา เธอกำลังเรียกชื่อของตัวเขาอยู่ เคนหันไปก่อนจะเห็นสตรีผมสีน้ำตาลที่ผมของเธอนั้นสั้นเพียงแค่ประบ่า ในมือของเธอถือข้าวกล่องที่ถูกห่อด้วยผ้าสีเขียวอยู่ด้วย
“เอ่อ คุณทานากะ...คือรุ่นพี่อาคาเมะซากิ ชวนไปกินข้าวที่ห้องชมรมน่ะค่ะ...ไม่ทราบว่าสะดวกรึเปล่าคะ?” ซาโยมิเอ่ยปากถาม
“อ่า ครับ สะดวกซิครับ” เคนพูดก่อนจะหยิบข้าวกล่องของตัวเองขึ้นมา
ซาโยมิเดินนำก่อนที่เคนจะเดินตาม ในขณะที่เคนกำลังจะปิดประตูห้องนั้น เขาก็เห็นคันจิที่ยิ้มให้กับเขา รอยยิ้มของคันจินั้นถ้าให้หากมองและตีความหมายก็คงได้ประมาณว่า “แหน่ะ เดี๋ยวนี้มีสาวแล้ว” อะไรทำนองนั้น เคนไม่ได้โต้ตอบอะไรก่อนจะปิดประตูห้องเรียนของตัวเอง ชายหญิงคู่นี้เดินไปตามเส้นทาง และมุ่งไปยังห้องชมรมของตัวเอง ตลอดทางนั้นทั้งคู่ไม่ได้พูดอะไรเลย มีเพียงแต่เสียงฝีเท้าเท่านั้นที่ดังขึ้นเป็นระยะๆ ตอนเช้านั้นสิ่งที่ทุกคนพูดคุยเป็นเรื่องของ “ชมรมศิลปะป้องกันตัว” ตอนนี้กลับกลายเป็นเรื่องของผู้ชายที่ชื่อว่า “ฟูจิวาระ ทาดาโยชิ”
“ครืด” เสียงที่ซาโยมิใช้มือของเธอเลื่อนเปิดประตูก็ดังขึ้นมา
เมื่อประตูถูกเปิด เคนก็เห็นรุ่นพี่ผมสีน้ำตาลและรุ่นพี่ผมสีส้มนั่งอยู่บนเก้าอี้ตรงข้ามกับพวกเธอนั้นก็มีชายร่างโย่งนั่งอยู่ด้วย บนโต๊ะนั้นเต็มไปด้วยข้าวกล่องที่ยังไม่ได้ถูกเปิด
“Hey!! เคนคุง ซาโยมิจัง!! Good Afternoon!!” รุ่นพี่ซาโตนากะก็ยังคงทักทายด้วยน้ำเสียงที่เป็นเอกลักษณ์
ซาโยมิและเคนต่างก้มโค้งไปพร้อมๆกัน ทั้งคู่เดินตรงไปยังโต๊ะ ก่อนที่เคนจะแยกไปนั่งข้างๆเก็นซุยส่วนซาโยมิไปนั่งข้างๆกับรุ่นพี่ที่เป็นผู้หญิงทั้งสอง เมื่อเคนเห็นสมาชิกทุกคนมาครบแล้วก็เตรียมจะเปิดข้าวกล่องของตัวเองกิน หากทว่าไม่ทันที่เคนจะได้เปิดรุ่นพี่ยูคิโยะก็จับมือของเคน ราวกับเป็นการบอกว่าอย่าพึ่งเปิดข้าวกล่อง ชายผมน้ำตาลก็ได้แต่ทำหน้างงๆไม่นานนัก เสียงประตูก็ดังขึ้นอีกครั้ง คราวนี้เป็นชายผมสีเหลือง ซึ่งชายคนนี้เคนก็เคยเห็นหน้ามาแล้ว ถ้าหากจำไม่ผิดจะมีชื่อว่า “คิโยชิ” กระมั้ง แต่นามสกุลอะไรเคนก็ไม่ทราบ ดวงตาของเขานั้นยังคงเป็นปริศนาของเคน เพราะเขาก็ยังคงไม่รู้ว่าตาของเขาเป็นสีอะไร
“ยินดีด้วยนะคิโยชิคุง สำหรับชนะทัวร์นาเม้นท์ศิลปะการต่อสู้น่ะ”
เคนได้ยินคำว่า “ศิลปะป้องกันตัว” นั้นก็พอจะเริ่มประติประต่อเรื่องได้ ให้เดาว่าชายคนนี้ชื่อเต็มๆคือ “มาซาฮิโระ คิโยชิ” ซึ่งเป็นชายที่ทุกคนพูดถึงตลอดทั้งเช้า ชายหนุ่มที่ถูกเรียกว่าคิโยชิก็ได้แต่เกาศีรษะด้วยความเขินก่อนจะตอบด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความเขินอาย
“ขอบคุณมากครับรุ่นพี่อาคาเมะซากิ”
“และด้วยชัยชนะที่เกิดขึ้น ชั้นก็เลยทำขนมมาให้ด้วยแหละ” ยูคิโยะพูดพร้อมกับหยิบกล่องอีกกล่องนึงขึ้นมา มันเป็นกล่องที่ใหญ่กว่ากล่องข้าวกล่องทั่วๆไป ถ้าพูดก็คือต้องใช้ข้าวกล่องของเราสี่กล่องถึงจะเท่ากับขนาดกล่องคนนี้กล่องเดียว
เธอเปิดขึ้นก่อนจะเป็นเค้กก้อนใหญ่ขนาด มันเป็นเค้กวานิลลาที่มีตัวอักษรสีชมพูเขียนอยู่ เนื้อความเขียนว่า “ยินดีด้วย มาซาฮิโระ คิโยชิ กัปตันชมรมศิลปะการต่อสู้” เคนเห็นแล้วก็รู้สึกแอบดีใจที่เดาถูกถึงชื่อจริงและนามสกุลของชายคนนี้ ชายหนุ่มคิโยชิยิ้มก่อนจะหยิบเอาส้อมที่อยู่ในกล่องมาก่อนจะเริ่มตัดชิ้นส่วนเค้กและกินเขาเคี้ยวด้วยความเอร็ดอร่อย เขาก้มโค้งให้กับรุ่นพี่ผมสีส้มก่อนจะเอ่ยขอบคุณ
“ขอบคุณมากครับรุ่นพี่อาคาเมะซากิ ของขวัญชิ้นนี้ ทำให้ผมมีความสุขมากๆเลยครับ”
“ไม่เป็นไรหรอก ยังไงนายก็เป็นเพื่อนสนิทของชั้นอยู่แล้วล่ะ” ยูคิโยะพูดก่อนจะยิ้มด้วยความอ่อนหวาน
“ครับ ถ้างั้นผมขอตัวก่อนละกันครับ พอดีผมต้องซ้อมอีก”
“อื้อๆ แล้วคุยกันนะ” ยูคิโยะพูดพลางโบกมือ
พูดจบชายผมสีทองคนนี้ก็เดินออกจากห้องไป ทุกคนก็มองชายคนนี้เดินออกจากห้องไปช้าๆ เมื่อเขาเดินออกไป ชายหนุ่มที่ชื่อเคนก็พูดขึ้นมา
“สุดยอดเลยนะรุ่นพี่มาซาฮิโระ ขนาดชนะทัวร์นาเม้นท์แล้วยังฝึกต่ออีก”
“ชมรมศิลปะการต่อสู้เป็นชมรมที่เก็บถ้วยรางวัลได้ตลอดนั่นแหละ ชั้นว่ามาซาฮิโระคงรับไม่ได้หรอก ถ้ามาตรฐานตกลง” โคฮาคุพูดพลางเคี้ยวอะไรบางอย่างอยู่ ในมือของเธอนั้นถือตะเกียบอยู่ด้วย
เคนก้มมองก่อนจะเห็นฝาข้าวกล่องของตัวเองเปิดอยู่ ข้างในนั้นมีอะไรสามสี่อย่างหายไป ชัดเจนเลยว่าโคฮาคุกำลังเคี้ยวอะไรอยู่
“รุ่นพี่ครับ นั่นข้าวกลางวันผมนะ!!” เคนพูด
“ฮ่าๆ Sorryๆ...พอดีชั้นอยากลองดูว่าข้าวกลางวันนายเป็นยังไงน่ะ...ว่าแต่ใครทำล่ะ?” โคฮาคุถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น
“แม่ผมน่ะครับ” ชายหนุ่มผมน้ำตาลบอก
“เห...ทำอร่อยดีนะ ซักวันพาชั้นไปให้แม่นายสอนได้ไหม?” หญิงผมน้ำตาลถามด้วยความสนใจ
“น่าจะได้แหละครับ” เคนตอบสั้นๆ
“สัญญาแล้วนะ” รุ่นพี่โคฮารคุพูดด้วยรอยยิ้ม
เคนหยิบตะเกียบของตัวเองขึ้นมาก่อนจะเริ่มกินอาหารในข้าวกล่องที่เหลือ เช่นเดียวกันกับเพื่อนร่วมโต๊ะคนอื่นๆที่เริ่มเปิดข้าวกล่องของตัวเองและกินกันอย่างเอร็ดอร่อย ทั้งห้าคุยกันอย่างสนุกสนานและบรรยากาศที่กันเอง ทั้งห้าคุยกันอย่างสนุกสนานและเรื่องต่างๆ เสียงหัวเราะดังขึ้นเป็นระยะๆท่ามกลางวงสนทนา มีเพียงแต่เก็นซุยเท่านั้นที่ไม่ค่อยได้พูดคุยเท่าไหร่ ในขณะที่เหล่าสมาชิกชมรมวิจัยขนมหวานคุยกันนั้น เคนก็นึกออกเรื่องนึงขึ้นมา มันเป็นเรื่องที่เขาได้ยินตลอดทั้งกลางวัน ใช่ เขากำลังหมายถึง “ฟูจิวาระ ทาดาโยชิ” เขาอยากรู้เรื่องผู้ชายคนนี้ และเขาก็คิดว่ารุ่นพี่ในชมรมของเขาก็น่าจะรู้ว่าชายคนนี้เป็นใคร
“เอ่อ...พอจะเล่าให้ผมฟังได้ไหมครับว่า ฟูจิวาระ ทาดาโยชิ คือใคร?”
ทุกคนเงียบลงทันทีเมื่อได้ยินเสียงของเคน ชายหนุ่มผมน้ำตาลสามารถสัมผัสได้ทันทีว่าบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความเกลียดชัง เคนรู้สึกกับว่าเขาเผลอเอ่ยคำต้องห้ามไปแล้ว เคนรีบเปลี่ยนประเด็น เมื่อพวกเขาเริ่มพูดคุยอีกครั้ง บรรยากาศที่เต็มไปด้วยแรงกดดันก็หายไป แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ไม่ได้ทำให้เขาหายสงสัยว่าชายคนนี้เป็นใคร และเขาก็ยิ่งสนใจกว่าเดิม เวลาเดินไปเรื่อยๆ เคนก้มมองลงไปนาฬิกาของเขาและเขาก็พบว่านี่ก็ใกล้จะถึงเวลาที่จะกลับห้องแล้ว ดูเหมือนทุกคนในห้องชมรมก็รู้ถึงจุดนี้เช่นเดียวกัน พวกเขาเริ่มเก็บกล่องข้าวของตัวเองและแยกย้ายกลับไป เคนและซาโยมิเดินกลับไปในทิศทางเดียวกัน เคนหันไปมองหน้าเธอซักพัก เขาอยากจะเอ่ยปากถามเรื่องของเพื่อนร่วมห้องคนใหม่จริงๆ แต่เพราะด้วยเหตุการณ์มะกี้มันก็เลยทำให้เขาไม่กล้าที่จะเอ่ยปากถาม เคนถอนหายใจก่อนจะหันออกไปทางหน้าต่างระเบียง...และมันก็ทำให้เขาเห็นอะไรบางอย่าง