“นี่ซินะคิโบว กาคุเอ็น” ชายหนุ่มผมดำยืนต่อหน้าอาคารสีขาวขนาดใหญ่
เขาก้มมองไปที่ป้ายสีดำที่เขียนว่า “คิโบว กาคุเอ็น” ด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความหวังไม่ต่างกับความหมายของชื่อโรงเรียน ท่ามกลางดอกซากุระที่ร่วงโรยลงมาจากต้นไม้ เหล่านักเรียนต่างเข้าเรียนในโรงเรียนนี้ เสียงของนักเรียนที่พูดคุยกันไปหมด ชายผมดำคนนี้สูดหายใจลึกๆก่อนจะก้าวเท้าเข้าไป เมื่อเขาเข้าไปนั้นเขาก็เดินตรงไปยังบอร์ดที่เหล่านักเรียนมุงกันอยู่ เขาเข้าไปมุงด้วย ชายผมดำคนนี้พยายามเขย่งเท้าเพื่ออยู่เหนือเหล่านักเรียนก่อนจะหาชื่อของตัวเอง ปากของเขาบ่นพึมพัมว่า “ฟูจิวาระ ทาดาโยชิ”
“ห้อง 1-B น่ะ” เสียงของผู้หญิงคนนึงดังขึ้นมา
ชายหนุ่มที่หาชื่อ “ฟูจิวาระ ทาดาโยชิ” หันไปตามเสียง ก่อนจะเห็นผู้หญิงผมยาว ผมของเธอเป็นสีส้ม ดวงตาของเธอนั้นเป็นสีน้ำตาล เมื่อฟูจิวาระหันไปเธอก็ยิ้มให้ รอยยิ้มของเธอนั้นทำให้หัวใจของฟูจิวาระนั้นเต้นไม่เป็นจังหวะ ใบหน้าของเขาแดงก่ำ ชายผมดำคนนี้ก้มด้วยความเขินอาย ใบหน้าของเขาร้อนฉ่า ชายหนุ่มคนนี้กล่าวขอบคุณเบาๆก่อนจะรีบออกห่างจากผู้หญิงคนนี้ เขารีบวิ่งไปยังห้องของตัวเอง ถึงจะมั่วก็เถอะแต่ดูเหมือนเรื่องการเดาของชายคนนี้จะทำให้เขาถึงห้อง 1-B ของเขาได้ ชายหนุ่มคนนี้เปิดประตูห้องไปก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้ที่อยู่กลางๆห้อง เขาหายใจไม่เป็นจังหวะก่อนจะเอามือวางไปอกของตัวเอง เขาสัมผัสได้ถึงหัวใจที่เต้นอย่างรวดเร็ว ใบหน้าของเธอคนนั้นลอยเข้ามาในหัวของเขา
“เมื่อกี้...นางฟ้าชัดๆ” เขาพูดเบาๆ
“ใครนางฟ้าหรอ?” เสียงผู้ชายที่นั่งข้างๆดังขึ้น
ฟูจิวาระตกใจก่อนจะหันไปตามเสียง เขาเห็นชายผมสีเหลืองนั่งยิ้มและมองเขาอยู่ ดวงตาของเขานั้น...ฟูจิวาระก็ไม่สามารถอธิบายได้ เพราะดวงตาของคนนี้จะบอกว่าเป็นสีเหลืองก็ไม่ใช่จะบอกว่าเป็นสีเขียวก็ไม่เชิง ราวกับว่าดวงตาของเขามีสองสีอะไรอย่างนั้น หากทว่านั่นไม่ใช่ประเด็นที่เขาสนใจในตอนนี้ เพราะชายผมดำรู้สึกอายเป็นที่สุด เพราะสิ่งที่เขาพูดนั้นถูกได้ยินโดยนักเรียนที่นั่งข้างๆ ในขณะที่ฟูจิวาระกำลังคิดไม่ออกว่าเขาจะพูดอะไรต่อดี ชายผมเหลืองคนนี้ก็พูดต่อขึ้นมา
“อ่อ ใช่ ชั้นแนะนำตัวก่อน ชั้นมาซาฮิโระ คิโยชิ แล้วนายล่ะ?”
“เอ่อ....ฟูจิวาระ ทาดาโยชิ” ชายผมดำตอบ
“อื้ม ยินดีที่รู้จักนะ หวังว่าเราจะเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันได้” ชายคนนี้พูดพร้อมกับรอยยิ้ม
ฟูจิวาระพยักหน้าก่อนจะยิ้มตอบแบบแห้งๆ
“แล้วจะว่าไป นางฟ้า ที่นายว่านี่ใคร?” ชายคนนี้แซวต่อ
ชายผมดำไม่อยากตอบ ชายผมสีเหลืองคนนี้หัวเราะก่อนจะตบไหล่ของฟูจิวาระพร้อมพูดว่า “ล้อเล่นน่า” “ล้อเล่น” แต่ดูแล้วเพื่อนใหม่คนนี้ก็คงอยากจะรู้ว่านางฟ้าที่ฟูจิวาระพูดถึงคือใคร เสียงเปิดประตูดังขึ้นอีกครั้ง ก่อนที่จะมีชายผมทองเดินเข้ามาใบหน้าของเขานั้นยิ้มแย้ม เขาสวมชุดสูทสีขาว ในมือของเขาถือแฟ้มสีดำอยู่ด้วย ชายคนนี้เดินตรงไปยังโพเดี่ยมก่อนจะวางแฟ้มลงบนโพเดี่ยมก่อนจะหันไปข้างหลังพร้อมกับหยิบชอล์กขึ้นมาและเขียนกระดาน เสียงของชอล์กที่ดังกระแทกกระดานดำ มันเป็นข้อความว่า “ฮานามาจิ โซเรียว” เขาหันกลับมาก่อนจะพูด
“ครูชื่อฮานามาจิ โซเรียว จากนี้จนพวกเธอจบชั้นปีที่หนึ่ง ครูจะเป็นครูประจำชั้นของพวกเธอ”
“ถ้าหากพวกเธอขาดอะไร ก็บอกครูได้เลยล่ะ” ชายคนนี้พูดด้วยรอยยิ้ม
นักเรียนขานรับเป็นเสียงเดียวกัน ชายผมทองพยักหน้าก่อนจะเปิดแฟ้มออก แฟ้มนั้นมีชื่อนักเรียนหลายคนมากมายเรียงกันอยู่ ชายผมสีทองเริ่มคานชื่อนักเรียนแต่ละคนไปเรื่อยๆ ไม่นานนักเขาก็ขานชื่อของทุกคนจนหมด ดูเหมือนวันนี้ทุกคนก็ยังอยู่ในห้องเรียนนี้ครบ อาจารย์โซเรียวปิดแฟ้มก่อนจะเงยหน้านักเรียนทุกคนพร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงและสีหน้าที่เต็มไปด้วยความจริงจัง
“จากนี้ไปเราจะต้องอยู่ด้วยกันอีกหนึ่งปี เรามาทำให้หนึ่งปีนี้เป็นหนึ่งปีแห่งความทรงจำของเราดีกว่า”
=====
หนึ่งสัปดาห์ผ่านไปอย่างรวดเร็ว วันนี้ก็เป็นอีกวันที่เหล่านักเรียนปีหนึ่งหลายๆคนต่างรอคอย...ใช่ มันคือวันที่นักเรียนทุกคนจะเลือกชมรมของตัวเอง เมื่อเวลาพักกลางวันมาถึงนั้น เด็กหนุ่มทั้งสองคนที่นั่งใกล้ๆกันก็ต่างลุกขึ้นมาพร้อมๆกันก่อนจะตรงออกไปหน้าอาคารพร้อมๆกัน เมื่อทั้งสองออกไปหน้าอาคารนั้นเขาก็เห็นผู้คนมากมายที่ต่างตะโกนเพื่อดึงดูดให้เหล่านักเรียนที่ยังไม่มีชมรมหรือนักเรียนใหม่ให้มาเข้าร่วม ดวงตาของชายหนุ่มทั้งสองเต็มไปด้วยประกายและความสนใจทั้งคู่เริ่มเดินหาชมรมที่ตัวเองสนใจ ในขณะที่ทั้งคู่เดินและกวาดสายตาไปรอบๆอยู่นั้น ชายผมดำก็หันมาพูดกับเพื่อนที่เดินข้างๆตัวเอง
“คิโยชิ นายอยากจะเข้าชมรมแบบไหนหรอ?”
“นั่นซินะ....ก็คงเป็นชมรมศิลปะการต่อสู้ล่ะมั้ง” ชายหนุ่มที่ชื่อคิโยชิพูด
“ก่อนที่ชั้นจะมาอยู่ที่นี่ ชั้นก็เคยอยู่ในชมรมยูโดน่ะ” เขาอธิบายต่อ
“แล้วนายล่ะ ฟูจิวาระ?”
“เอ๊ะ...เอ่อ ไม่รู้แฮะ ชั้นยังไม่ได้คิดเลย” ฟูจิวาระตอบ
เขาตอบพลางกวาดสายตาไปรอบๆก่อนที่เขาจะหยุดลง เพร้าเขาเห็น “นางฟ้า” ของเขา ผมสีส้มของเธอนั้นยังคงยาวสลวยเหมือนเคย ใบหน้าเธอยังคงงดงามราวกับเป็นเทพธิดา เธอพูดคุยกับคนที่สนใจในชมรมของเธอด้วยรอยยิ้ม ฟูจิวาระจ้องเธอตาไม่กระพริบ ซักพักหนึ่งผู้หญิงผมสีส้มเห็นสายตาของชายคนนี้ก็ยิ้มให้ก่อนจะโบกมือ รอยยิ้มของเธอนั้นยิ่งทำให้หัวใจของเด็กหนุ่มปีหนึ่งคนนี้เต้นไม่เป็นจังหวะ เขารู้สึกได้ว่าเขาทำอะไรไม่ถูก ชายคนนี้อยากจะคุยกับเธอใจจะขาด แต่เขาเองก็ไม่กล้า ทางด้านคิโยชิที่ยืนอยู่ข้างๆก็สังเกตอาการแปลกๆของเพื่อนตัวเอง คิโยชิมองไปทางเดียวกันกับสายตาของชายผมดำและเมื่อเขารู้ว่าฟูจิวาระกำลังจ้องมองอะไร เขาก็แสยะยิ้มออกมาก่อนจะผลักร่างของฟูจิวาระตรงไปทางนั้น ร่างของชายที่ถูกผลักไปก็เซออกไปในทิศทางที่ “นางฟ้า” นั่งอยู่ เมื่อเขาตั้งตัวได้ เขาก็ยืนอยู่หน้าผู้หญิงผมสีส้มคนนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“อ้าว...ทาดาโยชิคุงนี่นา...เป็นไงบ้างไม่ได้เจอกันตั้งนาน” ผู้หญิงผมส้มพูดด้วยรอยยิ้ม
ฟูจิวาระได้ยินเสียงอันนุ่มนวลของเธอก็ใจชื้น อีกทั้งเธอยังจำชื่อของเขาได้ มันยิ่งทำให้เขามีความสุขมากกว่าเดิมอีก ถ้าหากตัวเขาลอยขึ้นไปบนฟ้าได้ ตอนนี้เขาก็คงลอยไปแล้ว ชายผมดำพยายามจะคุมสติของตัวเอง ก่อนจะรวบรวมคำพูดที่อยู่ในลำคอของเขาเพื่อที่จะพูดกับผู้หญิงผมสีส้มที่กำลังจ้องมองตนเองอยู่
“อ่า ครับ สะ สะ สวัสดีครับ รุ่นพี่....” เมื่อเขาพูดถึงตรงนี้เขาก็นึกได้ว่าเขาไม่รู้เลยว่าเธอชื่ออะไร
“คาวากุจิ มานามิน่ะ” เด็กผู้หญิงคนนิ้แนะนำตัวขึ้นมา
“คะ ครับ แล้วชมรมนี้ชมรมอะไรหรอครับ?” ชายหนุ่มผมดำถาม
“ก็ชมรมวรรณกรรมน่ะ พวกเราจะคุยกันเรื่องนิยาย คุยเรื่องบทกลอนอะไรพวกนั้นน่ะ”
“ทาดาโยชิคุงสนใจไหมล่ะ?” รุ่นพี่มานามิถามด้วยรอยยิ้ม
“สนครับ” ทาดาโยชิตอบอย่างรวดเร็ว
เอาจริงๆแล้วเขาโกหก สำหรับเด็กผู้ชายคนนี้แล้ว จริงๆแล้วเขาก็แทบไม่ได้แตะหนังสือเลยในตลอดชีวิตของเขา แต่ด้วยความที่เขาต้องการจะใกล้ชิดกับรุ่นพี่คนนี้รวมถึงอยากจะทำให้เธอประทับใจจึงกล่าวโกหกไป เมื่อรุ่นพี่คนนี้ได้ยินคำตอบก็ยิ้มให้ก่อนที่จะยื่นกระดาษแผ่นหนึ่งให้ มันเป็นกระดาษที่เป็นใบสมัครเข้าร่วมชมรม ชายหนุ่มผมดำรับปากกาไว้ก่อนจะเริ่มเขียนลงไปบนกระดาษเมื่อเขาเขียนทุกอย่างเสร็จสิ้นเขาก็ยื่นใบสมัครแผ่นนี้ให้กับหญิงผมสีส้มที่นั่งอยู่ เธอรับไว้ก่อนจะยิ้มพร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงอันอ่อนโยน
“ยินดีต้อนรับสู่ชมรมนะ ทาดาโยชิคุง”
=====
มันก็อีกวันหนึ่งในห้องชมรมวรรณกรรม มันเป็นห้องชมรมเล็กๆที่มีตู้หนังสือมากมายรายล้อมกัน รวมถึงโต๊ะสองตัววางติดกัน รอบๆโต๊ะนั้นมีเก้าอี้วางรวมกันแล้วประมาณได้ 6 ตัว แต่ถึงจะมีเก้าอี้ แต่คนที่นั่งนั้นมีเพียงแค่สองคน ไปๆมาๆคนอื่นๆในชมรมกลับไม่สนใจในกิจกรรมของชมรมนี้เท่าไหร่ แสงจากดวงตะวันสาดส่องเข้ามาในห้องผ่านทางหน้าต่างที่ หากมองออกไปก็จะเห็นได้แล้วว่าท้องฟ้านั้นกลายเป็นสีส้มเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในห้องนั้นเงียบสงัดมีเพียงแต่เสียงเปิดหนังสือที่ดังขึ้นเป็นระยะๆ ซักพักนึงรุ่นพี่มานามิก็ปิดหนังสือของเธอก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาบนเพดานก่อนจะลดหน้าลงและมองหน้ากับฟูจิวาระที่กำลังอ่านหนังสือของตัวเองอยู่
“เป็นหนังสือที่ดีจริงๆนะเล่มนี้เนี่ย” หญิงผมสีส้มพูดขึ้นมา
ฟูจิวาระหยุดอ่านหนังสือของตัวเองก่อนจะแหงนหน้ามองเจ้าของเสียง
“ชั้นอ่านจบแล้ว ชั้นว่าเป็นหนังสือที่ดีจริงๆเลยล่ะ ทาดาโยชิคุง จะลองอ่านไหม?” มานามิเอ่ยปากถาม
“อ่าครับ” ชายผมดำที่ถูกถามตอบรับ
เธอเลื่อนหนังสือมาไว้ๆใกล้ๆกับทาดาโยชิ ชายผมดำรับไว้ ก่อนที่เธอจะคว้ากระดาษแถวๆนั้นมาก่อนจะหยิบปากกามาเขียนอะไรซักอย่าง หากทว่าเธอทำปากกาหลุดมือ ปากกานั้นกลิ้งไปก่อนที่จะตกลงพื้น เสียงของปากกาที่ตกลงพื้นนั้นดังกึกก้องไปทั่วห้องที่เงียบสงัด ฟูจิวาระที่เห็นปากกาตกลงไปบนพื้นก็ก้มลงไปเก็บ หากทว่าในจังหวะที่เขาจะหยิบปากกานั้นมือของฟูจิวาระก็สัมผัสมือของรุ่นพี่มานามิ ทั้งคู่มองหน้ากันก่อนที่จะดึงมือออก ใบหน้าของทั้งสองนั้นเต็มไปด้วยความเขินอาย เสียงหัวใจของฟูจิวาระนั้นดังขึ้นมาเรื่อยๆ ดังพอที่จะสามารถกลบเสียงของเหล่าทีมนักกีฬาที่ซ้อมอยู่ข้างนอก
“รุ่นพี่ครับ...” ฟูจิวาระพูดขึ้นมา
“ผมชอบรุ่นพี่ครับ” ชายผมดำพูดต่อโดยไม่ทันที่จะให้รุ่นพี่มานามิขานรับ
ไม่รู้วินาทีนั้นแต่รุ่นพี่ที่ถูกสารภาพรักนั้นก็ไม่ได้พูดอะไร เธอลุกขึ้นมาก่อนจะก้มเก็บปากกาที่เธอทำตกก่อนจะวางไว้บนโต๊ะ ฟูจิวาระที่สารภาพรักไปนั้นก็อยากจะชกหน้าตัวเองซักที เขารู้อยู่แล้วว่ารุ่นพี่คนนี้ไม่มีทางรับรักจากคนธรรมดาแบบเขาหรอก รุ่นพี่มานามินั้นเป็นรุ่นพี่ที่ทั้งสวย ทั้งเรียนเก่ง แถมยังเก่งกีฬาอีก เรียกได้เพอร์เฟ็คและเป็นที่หมายปองของชายหนุ่มหลายๆคน เมื่อเขารู้ตัวอีกทีรุ่นพี่คนนี้ก็จับหน้าของเขาพร้อมกับประทับริมฝีปากของเธอลงไปบนริมฝีปากของฟูจิวาระ ไม่นานนักเธอก็ดึงริมฝีปากของเธอออก ใบหน้าของฟูจิวาระนั้นแดงก่ำ เขาไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้น หัวใจของเขาเต้นไม่เป็นจังหวะและเต้นแรงมากกว่าเดิม รุ่นพี่มานามิยิ้มให้อีกครั้งก่อนจะพูดกับเขาด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความอ่อนโยน
“ชั้นก็ชอบนายเหมือนกัน...เป็นแฟนกันนะ”
“คะ...ครับ” ฟูจิวาระตอบด้วยรอยยิ้ม
นี่คือวินาทีที่เขามีความสุขที่สุดในชีวิต แต่หารู้ไหมว่าพายุแห่งความยุ่งเหยิงจะโหมกระหน่ำเข้ามาในชีวิตของเขา