“นายน่ะ น่าจะตายไปได้แล้ว ไม่น่ารอดมาเลย” ผู้หญิงคนนึงพูดขึ้นมา
กลุ่มเด็กนักเรียนหญิงทั้งสามคนยืนล้อมชายผมดำ พวกเธอทั้งสามมองใบหน้าของชายผมดำที่พึ่งกลับมาเรียนด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยเกลียดชังและความอาฆาต นักเรียนที่พึ่งกลับมาใหม่หรือฟูจิวาระนั้น เขายืนหลังพิงกับกำแพงสีขาว เขาพยายามจะพูดอะไรบางอย่าง หากทว่าไม่ว่าเขาอยากจะพูดอะไร เขาก็รู้ถึงแรงกดดันจากนักเรียนหญิงพวกนี้ รอบๆนั้นไม่มีคนอยู่เลย เพราะว่าจุดๆนี้นั้นเป็นจุดที่คนไม่ค่อยเดินผ่านไปมาเสียเท่าไหร่ แผนของฟูจิวาระที่พยายามจะปลีกวิเวกมาเพื่อไม่ให้ต้องเจอสถานการณ์แบบนี้ดูเหมือนจะไม่ได้ผล
“พูดอะไรบ้างซิ ไอ้เวร...” ผู้หญิงอีกคนพูดพร้อมกับเอามือผลักเข้าไปยังศีรษะของฟูจิวาระ
แน่นอนว่าแค่ผู้หญิงสามคนฟูจิวาระสามารถแหวกได้สบายๆอยู่แล้ว แต่ถึงกระนั้นเขาก็ไม่อยากทำเช่นนั้น เหล่านักเรียนหญิงทั้งสามยังคงต่อว่าชายคนนี้ด้วยถ้อยคำที่รุนแรง พร้อมกับผลักร่างของชายคนนี้ ราวกับผู้ชายคนนี้ไม่มีชีวิต แต่ชายผมดำคนนี้ก็ยังคงนิ่งและยอมรับสภาพ เขาหลับตาลงและภาวนาว่า “พวกเธอ” จะเบื่อและหยุดไปเอง ไม่ก็ภาวนาให้เสียงระฆังดังขึ้นเพื่อให้พวกเธอแยกย้ายกลับไปยังห้องเรียนของตัวเอง
“พอได้แล้ว!!” เสียงของผู้ชายคนนึงดังขึ้นมา
ทุกคนหันไปตามเสียงนี้ทั้งหมดก่อนจะเห็นชายผมน้ำตาลร่างเล็กยืนอยู่ ข้างหลังของเขามีหญิงผมน้ำตาลผมสั้นอยู่ด้วย ทั้งสี่ต่างตกใจที่เห็นร่างของชายคนนี้ด้วยเหตุผลที่ต่างกันไป
“นายเป็นใคร แล้วยุ่งอะไรด้วย?” ผู้หญิงคนหนึ่งในกลุ่มชี้หน้าถามเคน
“ไม่สำคัญหรอกครับว่าผมเป็นใคร แต่ผมว่าเลิกรังแกเขาได้แล้วนะครับ” เคนพูด
“ให้หยุดรังแก ไอ้ชาติชั่วนี่นะ? ฝันไปเถอะ คนอย่างมันสมควรตายด้วยซ้ำ” ผู้หญิงอีกคนในกลุ่มพูด
อยากรู้จริงๆว่าทำไมถึงคนเกลียดผู้ชายคนนี้ขนาดนี้ มันก็ทำให้เคนอดสงสัยไม่ได้เลยว่าเขาไปทำอะไรมา แต่ถึงกระนั้นเขาก็คงยอมรับกับการรังแกไม่ได้อยู่ดี ชายคนนี้รู้ดีว่าความรู้สึกนั้นเป็นเช่นไร เพราะเขาก็เผชิญกับเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน เหล่าผู้หญิงทั้งสามยังคงมองชายผมน้ำตาลด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยเปลวเพลงแห่งความเกลียดชัง แต่แล้วเสียงระฆังก็ดังขึ้น เสียงนี้ทำให้เหล่าสตรีทั้งสามเดินผ่านหน้าของเคนไปพร้อมกับจ้องหน้าของเคนราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ เช่นเดียวกันกับฟูจิวาระที่เดินผ่านหน้าของเขาไปโดยไม่ได้พูดอะไร เคนหันกลับไปก่อนจะเห็นซาโยมิไม่ได้พูดอะไรเช่นกัน เธอเดินกลับไปที่ห้องเรียนของตัวเอง ซึ่งก็คือห้องเรียนที่เคนกับฟูจิวาระเรียนอยู่นั่นแหละ ราวกับว่าคนเหล่านี้ไม่พอใจในสิ่งที่พวกเขาทำอะไรอย่างนั้น เขายืนนิ่งอยู่พักนึงก่อนจะเริ่มคิดว่าสิ่งที่เขาทำถูกต้องรึเปล่า เขาจำได้ว่าครั้งที่แล้วที่เขาต้องมีปัญหากับพวกนักเลงก็เพราะเรื่องแบบนี้ แต่เขาก็คิดว่ามันคงไม่มีปัญหาหรอกมั้ง
=====
เสียงระฆังดังขึ้นอีกครั้ง คราวนี้เป็นสัญญาณว่าการเรียนการสอนในวันนี้จบแล้ว เคนหยิบของในลิ้นชักของเขาก่อนจะเก็บเข้าไปในกระเป๋า วันนี้ไม่มีชมรม ดังนั้นเขาก็คงจะมุ่งตรงกลับบ้านเลย วันนี้เขาเดินกลับบ้านคนเดียว ไร้ซึ่งมิตรสหาย หรือ ไร้ซึ่งผู้คนที่คอยเดินคุยกับเขา เสียงของเหล่าอีกาที่ร้องกึกก้องบนผืนนภาสีส้มดังขึ้นเป็นจังหวะๆ ชายผมน้ำตาลเดินไปตามท้องถนนที่เขาเริ่มคุ้นเคย นี่ก็ผ่านไปได้ซักพักแล้วที่เขาอยู่ในพื้นที่แห่งนี้ เขาเริ่มจำได้แล้วว่าร้านค้าอะไรต่างๆอยู่ตรงไหน เขาเริ่มจำได้แล้วว่าหากเขาเดินถนนเส้นนี้จะเดินผ่านอะไร ไม่นานนักเขาก็มาถึงบ้านของเขา เคนเดินตรงไปยังประตูก่อนจะเปิดประตู เมื่อเขาเปิดประตูมาก็ตะโกนเข้าไปว่า “กลับมาแล้วครับ” เช่นเคยกับทุกๆวัน แม่ของเขาก็ตอบกลับมาด้วยประโยคเดิมๆที่เขาได้ยินทุกวัน เคนถอดรองเท้าของเขาก่อนจะวางไว้ในชั้นรองเท้า
เคนเดินขึ้นไปบนบ้านก่อนจะกลับเข้าห้องของเขา ชายผมน้ำตาลวางกระเป๋าลงกับพื้น ก่อนจะเปลี่ยนชุดมาใส่ชุดลำลอง เขาเดินตรงไปยังคอมพิวเตอร์สีขาวของเขาก่อนจะนั่งลงไปบนเก้าอี้ เด็กหนุ่มคนนี้ใช้มือของเขากดไปยังปุ่มเปิด คอมพิวเตอร์เปิดขึ้นอย่างช้าๆและเมื่อการเปิดเสร็จสมบูรณ์นั้น เขาก็ใช้มือจับเม้าท์ของเขาเพื่อขยับเคอร์เซอร์ไปยังรูปไอค่อนอินเตอร์เน็ต เด็กหนุ่มคนนี้ดับเบิ้ลคลิก เมื่อเขาคลิกบนเม้าส์ซ้ายสองครั้ง หน้าต่างสีขาวๆก็ปรากฏขึ้นมา เขาเริ่มเขียนคำว่า “นักเรียนโรงเรียนดังโดนแทง” ลงก่อนจะใช้นิ้วชี้ของเขากดปุ่มเอ็นเตอร์ เมื่อเขากดแล้วก็ปรากฏเป็นข้อมูลจำนวนมาก เขาเริ่มคลิกและอ่านข้อมูลเหล่านั้น
“วันที่ 21 มีนาคม 2014
เกิดเหตุน่าสลดขึ้นเมื่อพบร่างของนักเรียกโรงเรียนชื่อดังถูกแทงอยู่ที่โรงแรมแห่งหนึ่ง เคราะห์ดีรอดมาได้ เหยื่อรับมีปัญหาชู้สาว”
นั่นคือบรรทัดแรกที่นักข่าวเขียน ชายผมน้ำตาลนั่งอ่าน ก่อนที่เขาจะได้ข้อสรุปว่า “ฟูจิวาระ ทาดาโยชิ” โดนแทงโดยแฟนสาวของเขา ดูเหมือนอาจจะเพราะปัญหานอกใจ ถึงกระนั้นเขาก็ไม่ได้บอกตรงๆว่าเป็นฟูจิวาระหรือไม่มีทั้งใบหน้าของชายคนนี้ หากทว่าทุกๆที่เขาอ่านเขียนหมดว่านักเรียนโรงเรียนชื่อดังและตามด้วยย่านของคิโบว กาคุเอ็น ดังนั้นเขาก็รู้แหละว่ามันคือฟูจิวาระ ชายหนุ่มผมน้ำตาลอ่านแล้วเขาก็เข้าใจว่าทำไมคนถึงไม่ชอบเขา โดยเฉพาะผู้หญิง ชายหนุ่มร่างบางเริ่มคิดว่าซาโยมิอาจจะไม่พอใจที่เขาช่วยศัตรูของผู้หญิง มันทำให้ชายผมน้ำตาลคว้ามือถือขึ้นมาก่อนจะเริ่มเขียนข้อความไปหาซาโยมิ อย่างที่กล่าวไว้ทุกคนในชมรมวิจัยขนมหวานมีอีเมลล์ของซึ่งกันและกันจนหมด
”ขอโทษนะครับคุณโอคาเบะ ผมพึ่งรู้เรื่องของคุณฟูจิวาระ ยังไงผมก็ต้องขอโทษด้วยที่ผมช่วยคนที่คุณโอคาเบะไม่ชอบ คือผมรู้สึกทนไม่ได้จริงๆที่ผมเห็นคนโดนรังแก”
เคนอ่านข้อความของเขาอีกรอบก่อนจะกดส่ง เมื่อเขากดส่งไปก็วางมือถือลงบนโต๊ะ ก่อนที่เคนจะนั่งดูนู่นดูนี่ต่อบนเว็ป ซักพักหนึ่ง มือถือของเขาก็สั่น เคนหยิบมือถือมาดู บนหน้าจอนั้นมีข้อความว่า “คุณมีหนึ่งข้อความ” เคนกดเข้าไปดูข้อความนั้นก่อนจะเห็นซาโยมิตอบกลับมา
”อื้อๆ ชั้นไม่ได้โกรธคุณทานากะเลยนะ ชั้นว่าคุณทานากะในตอนนั้นเท่ด้วยซ้ำไป”
เคนเห็นข้อความแล้วก็อดที่จะตอบกลับไม่ได้
”เห ขอบคุณมากครับ”
ไม่ทันที่เคนจะวางมือถือข้อความก็ถูกส่งมายังมือถือของเคนอีกครั้ง
”ถ้างั้นเจอกันพรุ่งนี้นะ”
พูดจบเคนก็วางมือถือของเขาลงบนโต๊ะ
=====
เช้าวันต่อมามาถึง ชายหนุ่มผมน้ำตาลก็ยังคงมุ่งไปยังโรงเรียนเช่นเคย แต่ต่างจากเดินนิดหน่อยว่าวันนี้เขาตื่นสายกว่าปกติ เขาก็ยังคงเดินต่อไป เขาพยายามก้าวเท้าด้วยความรวดเร็วเพื่อที่เขาจะได้ไม่ไปโรงเรียนสาย ไม่นานเขาก็ถึงหน้าทางเข้าของอาคารเรียน บนพื้นนั้นก็ยังคงเต็มไปด้วยกลีบซากุระที่สวยงาม เขาเดินไปก่อนจะเตรียมเข้าไปในอาคาร หากทว่าในวินาทีนั้นก็สัมผัสได้ถึงน้ำเย็นที่สาดลงไปบนร่างของเขา มันทำให้ชายหนุ่มผมน้ำตาลเงยหน้าขึ้นไป ก่อนที่เขาจะเห็นผู้หญิงคนหนึ่งถือถังน้ำอยู่ ข้างๆเธอก็มีผู้หญิงสองคนยืนอยู่ด้วย ชายหนุ่มผมน้ำตาลเห็นหน้าสตรีทั้งสามก็จำได้ทันทีว่าพวกเธอเป็นใคร...ใช่ พวกเธอสามคนคือที่รังแกฟูจิวาระเมื่อวาน
“อ๊ะ แย่จัง ไม่รู้เลยว่ามีคนยืนอยู่ตรงนั้นด้วย” ผู้หญิงคนที่ถือถังพูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเสแสร้ง
เคนไม่ได้พูดอะไรได้แต่ยิ้มตอบกลับ เขาเข้าไปในตัวอาคารในสภาพเปียกแฉะ เสียงน้ำหยดลงบนพื้นเป็นระยะๆ มันดึงดูดสายตาของผู้คนที่อยู่รอบๆเขา คนรอบเริ่มพูดคุยพร้อมกับซุบซิบนินทา มันเป็นความรู้สึกที่แทบจะไม่ต่างจากเมื่อวานเลยแม้แต่น้อย แต่ต่างกันที่ว่าประเด็นที่ทุกคนพูดถึงไม่ใช่คนอื่นแต่กลับเป็นตัวเขาเอง เสียงน้ำนั้นยังคงหยดลงบนพื้นคอนกรีตดังตลอดทาง เขาเดินมาถึงยังหน้าห้องเรียนของเขา ชายหนุ่มผมน้ำตาลใช้มืออันเรียวบางของเขาเปิดประตูห้อง ทุกคนหันมายังเขาเมื่อได้ยินเสียงของเขาเปิดประตู เช่นเดียวกันกับคันจิทื่ตื่นขึ้นมา เมื่อชายผมน้ำเงิน เห็นสภาพของเคนแล้วก็ลืมได่ด้วยความตกใจก่อนจะพูด
“นายไปโดนอะไรมา สภาพนายหยั่งกะลูกหมาตกน้ำเลยนะ” คันจิถาม
“ไม่มีไรหรอก แค่โชคร้ายนิดๆหน่อยๆน่ะ” เคนพูดจบก็วางกระเป๋าลงบนที่นั่งของตัวเอง
ไม่ทันที่เขาจะได้ออกจากห้อง เสียงระฆังก็ดังขึ้นมา ดูเหมือนเขาจะมาทัน ไม่นานนักอาจารย์ประจำชั้นหรืออาจารย์โซเรียวก็เดินเข้ามา หัวหน้าห้องตะโกนบอกให้นักเรียนทุกคนยืนขึ้นก่อนที่จะบอกให้ก้มโค้ง เมื่อนักเรียนทุกคนก้มโค้งแล้ว พวกเขาก็นั่งลงไปบนเก้าอี้ ไม่ทันที่อาจารย์โซเรียวจะได้ทำอะไร เขาก็หยุดเพราะเขาได้ยินเสียงหยดน้ำ ที่หยดลงพื้นเป็นระยะ เขาหันไปตามเสียงก่อนจะเห็นเคนนั่งอยู่ เขาเห็นนักเรียนของตัวเองที่นั่งเปียกปอนอยู่ ชายผมสีทองรีบพูดทันที
“เคนคุง ทำไมตัวเปียกแบบนั้นล่ะ?” อาจารย์โซเรียวถาม
“พอดีเกิดอุบัติเหตุนิดหน่อยน่ะครับ” เคนโกหกพร้อมกับรอยยิ้ม
โซเรียวมองก่อนจะพูดต่อ
“งั้นหรือ...ครูว่านายไปเปลี่ยนเสื้อเหอะ เดี๋ยวแบบนี้จะเป็นหวัดเอา”
“ครูมีห้องของครูอยู่ข้างบน นายเอากุญแจห้องชั้นไปแล้วยืมเสื้อของชั้นไปใส่ก่อนก็แล้วกัน” อาจารย์ประจำชั้นพูด
เคนพยักหน้าก่อนจะลุกขึ้นมาก่อนจะตรงไปยังครูประจำชั้นตัวเอง เขารับกุญแจจากอาจารย์โซเรียวและเตรียมออกจากห้อง แต่ไม่ทันที่เคนจะก้าวออกจากห้องเขาก็เห็นเด็กผู้หญิงคนนึงยกมือขึ้นมา เธอเป็นผู้หญิงผมน้ำตาลและผมของเธอสั้นเพียงแค่ประบ่าเท่านั้น เธอเป็นเพื่อนร่วมชมรมของเคนนั่นเอง
“หนูขออาสาไปเป็นเพื่อนค่ะ” ซาโยมิพูดขึ้น
“อืม ถ้างั้นก็ได้” โซเรียวพูดกับหญิงผมสีไม้
ทั้งคู่เดินออกจากห้องไปก่อนจะมุ่งไปยังดาดฟ้าของอาคาร แม้เขาจะไม่เคยขึ้นไปบนดาดฟ้าของโรงเรียนมาก่อนเลย แต่เขาก็พอรู้ว่ามันอยู่ตรงไหน เคนกับซาโยมิมาถึงบนดาดฟ้า ลมอ่อนๆนั้นพัดผ่านทั้งสอง รอบๆนั้นมีรั้วกั้นอยู่ แต่ถึงกระนั้นรั้วก็ไม่ได้สูงมาก เคนกวาดสายตารอบๆก่อนจะหาห้องของอาจารย์โซเรียว ในที่สุดเคนก็เห็นห้องเล็กๆตั้งอยู่ ชายหนุ่มผมน้ำตาลเดินไปก่อนจะใช้กุญแจที่เขาได้มาลองไขดู ก่อนที่เขาจะพบว่าเขาสามารถไขกุญแจห้องนี้ได้ เคนเปิดประตูห้อง ก่อนจะหันมาบอกซาโยมิ
“รอตรงนี้แปปนึงนะ”
เคนเข้าไปในห้อง เมื่อเขาเข้าไปในห้องนั้นเขาก็เอื้อมมือไปเปิดไฟ เมื่อเขาเปิดไฟนั้นเขาก็เห็นภาพลามกอะไรต่างๆแปะอยู่เต็มผนังไปหมด บนพื้นนั้นเต็มไปด้วยดีวีดีหนังผู้ใหญ่เต็มไปหมด เรียกได้ว่าในห้องนี้มีแต่ของลามกจนทำให้เคนเขินไม่น้อย บนเตียงนั้นก็มีโน้ตบุ๊คอยู่ด้วย ข้างๆโน๊ตบุ๊คนั้นมีกระดาษทิชชู่อยู่ด้วย เคนไม่อยากจะคิดเลยว่ากระดาษทิชชู่นี้มีไว้ทำไม เคนกวาดสายไปรอบๆก่อนจะเห็นชุดนักเรียนแขวนอยู่ เคนคว้ามาก่อนจะถอดชุดของตัวเองออกและสวมชุดนี้เข้าไปแทน แม้มันจะใหญ่กว่าตัวเขามาก แต่ก็ดีกว่าใส่เสื้อเปียกๆแบบนี้ทั้งวัน เขาหยิบกางเกงที่แขวนอยู่ด้วยก่อนจะสวมใส่ไป มันหลวมกว่าตัวเขานิดหน่อย แต่ก็ไม่แย่เท่าไหร่ เมื่อเขาแต่งตัวเสร็จแล้วเขาก็เดินออกจากห้องของอาจารย์ ชายร่างบางออกมานั้นก็เห็นซาโยมิยืนรออยู่
“ถ้างั้นเรากลับห้องเรียนของเราเถอะ” เคนพูดกับเธอ
เธอพยักหน้าก่อนที่เคนจะเดินนำเธอไป แต่ไม่ทันที่เคนจะเดินลงจากดาดฟ้า เสียงอันอ่อนหวานของซาโยมิก็ดังขึ้นมา
“คุณทานากะ...”
เคนหยุดก่อนจะหันไปทางเธอ
“ชั้นว่าคุณทานากะเลิกทำตัวเป็นฮีโร่จะดีกว่าคะ...”