“พะพะพะ พี่อากาเนะ!!!”
คันซากิ อากาเนะ พี่สาวของอาสึนะตัวจริงเสียงจริงอยู่ตรงหน้า
ลูกสาวคนโตของครอบครัวคันซากิ
ผู้เล่น Checkmate ในตำแหน่งไนท์ อดีตประธานนักเรียนแห่งโรงเรียนมิไรเคียว
ก่อนอื่นคงต้องย้อนความกลับไปเสียหน่อย
อย่างที่ทราบกันดีว่า คันซากิ อาสึนะ ถูกคุณพ่อและคุณแม่บังคับให้เข้าเรียนหลักสูตร Checkmate ในโรงเรียนมิไรเคียว
เพราะทั้งอากาเนะ หรือแม้กระทั่งพี่ชายคนกลางของอาสึนะอย่างอากิโตะเอง ก็เรียนจบหลักสูตรดังกล่าวเช่นกัน ซึ่งทั้งคู่ก็ต่างก็ได้เรียนมหาวิทยาลัยดีๆและมีอนาคต
คุณพ่อและคุณแม่ของอาสึนะ จึงจัดการซื้อบ้านหลังเล็กๆให้หลังหนึ่ง ซึ่งอยู่ใกล้ๆกับโรงเรียนมิไรเคียวให้เขาอาศัยอยู่ พร้อมซื้ออุปกรณ์และเกม Checkmate ครบชุดให้อย่างเสร็จสรรพ โดยไม่ถามอะไรเขาสักคำ
อาสึนะมารู้เรื่องนี้ ก็ในอีกไม่กี่วันก่อนจะถึงวันสอบเข้า
ในเมื่อเตรียมพร้อมทุกอย่างให้เขาซะหมดแบบนี้ ก็ไม่ต่างอะไรกับการบีบบังคับกลายๆ เขาจึงปฏิเสธไม่ลง
และคนที่คัดค้านหัวชนฝา ก็คือพี่สาวคนโตของเขาอย่างอากาเนะนั่นเอง
หากแต่ว่า... เรื่องที่อากาเนะคัดค้าน กลับไม่ใช่เรื่องที่อาสึนะถูกบังคับให้เข้าเรียนหลักสูตร Checkmate แต่อย่างใด
แต่เป็นเรื่องที่อาสึนะ ต้องเก็บข้าวของย้ายออกจากบ้านไปอยู่คนเดียวต่างหาก
เพราะอากาเนะ เป็นคนที่รักและติดน้องชายของตัวเองยิ่งกว่าสิ่งใด รักซะจนดูเหมือนมากกว่าพี่น้องกันธรรมดาๆทั่วไป
ถ้าให้สรุปง่ายๆ... ก็บราค่อนตัวแม่
กว่าจะเกลี้ยกล่อมและตกลงกันได้ก็ใช้เวลาอยู่นานพอสมควร
ทั้งๆที่เป็นเช่นนั้น แล้วทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่ได้?
“ทะ ทำไมพี่ถึง- อุ๊บ!!”
“อาสึนะจัง! คิดถึงจุงเบยยยย~♡!!”
ยังไม่ทันที่จะได้เอ่ยปากถามในสิ่งที่สงสัย อากาเนะก็พุ่งตัวเข้ามากอดเขาไว้
แถมยังกดหน้าของอาสึนะซุกลงไปบนเนินเขาลูกโตของตัวเอง ไม่รู้ว่าจงใจทำหรือดีใจที่ได้เจอเขาจนลืมตัวก็ไม่ทราบ
การได้ซุกไซ้หน้าอกของสาวสวย อาจฟังดูเป็นเรื่องน่าอิจฉาสำหรับผู้ชายหลายคน
แต่สำหรับอาสึนะนั้นไม่ใช่ เพราะเขาหายใจไม่ออก
อีกอย่าง คนตรงหน้าก็เป็นพี่สาวแท้ๆของตัวเองอีกด้วย
“อ้าวอาสึนะจัง? เจอพี่อีกครั้งไม่รู้สึกดีใจบ้างหรอ พูดอะไรบ้างสิ ว้ายตายแล้ว! อาสึนะจังทำใจดีๆไว้!”
กว่าอากาเนะจะรู้ตัวว่ากำลังจะฆาตกรรมน้องชายด้วยนมของตัวเอง อาสึนะก็แทบจะได้ตายคาหน้าอกจริงๆแล้ว
“แฮ่ก... เฮ้อ... นี่พี่เข้ามาได้ยังไงเนี่ย?”
หลังจากที่อากาเนะปล่อยอาสึนะ เขาก็พักหายใจอยู่สักพัก ก่อนที่จะถามขึ้น
“หือ? ก็เปิดประตูเข้ามาน่ะสิ”
อากาเนะตอบ ทำให้อาสึนะเพิ่งจะมานึกออก
ว่าสิ่งที่อาสึนะตกลงกับอากาเนะ คือการยื่นข้อเสนอให้เธอมาหาเขาเมื่อไหร่ก็ได้ โดยการให้กุญแจบ้านสำรองเอาไว้ เธอถึงสามารถเข้ามาในนี้ได้นั่นเอง
แต่อาสึนะก็ไม่คิดว่า พี่สาวของเขาจะอยากมาหาตั้งแต่วันเปิดเรียนวันที่สองของเขา
“แล้วนี่เอาอีกแล้วนะพี่ ผมบอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่านอนอ่านการ์ตูนทั้งๆที่อยู่ในสภาพแบบนี้น่ะ”
อาสึนะเกือบลืมไปเลยว่าตอนนี้อากาเนะอยู่ในสภาพพันผ้าเช็ดตัวผืนเดียว
“ก็มันร้อนนี่นา”
“ร้อนบ้านพี่สิครับ! นี่มันยังฤดูใบไม้ผลิอยู่เลยนะ!”
“ทำไมหรอจ๊ะ? เห็นเรือนร่างของพี่สาวแล้วเกิดอารมณ์หรือไง?”
จู่ๆอากาเนะก็จับชายผ้าเช็ดตัวที่ถูกมัดไว้เป็นปมแล้วทำท่าเหมือนจะคลายออก จนอาสึนะหน้าแดงแล้วรีบปิดตาพร้อมเบือนหน้าหนี
“ทำอะไรน่ะพี่!? ถึงเราจะเป็นพี่น้องกันแต่พี่ก็เป็นผู้หญิงนะ!”
“คิกๆ ตอนเธออายนี่น่ารักจัง♪”
ในระหว่างนั้น อาสึนะรู้สึกได้ว่าอากาเนะกำลังเคลื่อนตัวเข้ามาใกล้ ก่อนที่จะรู้สึกถึงไออุ่นของร่างกาย ลมหายใจอันร้อนผ่าว สัมผัสนุ่มนิ่มบริเวณหน้าอก และความรู้สึกเปียกชื้นที่ซึมเข้ามา
บ่งบอกว่าอากาเนะได้ทำการสกินชิพกับเขาเป็นที่เรียบร้อย
“ถ้าอาสึนะจังหน้ามืดจนจับกดพี่จริงๆล่ะก็... พี่พร้อมที่จะมอบประสบการณ์ครั้งแรกให้กับเธอนะ”
อากาเนะพูดด้วยน้ำเสียงยั่วยวน
ระหว่างนั้นร่างกายบางส่วนของอาสึนะเริ่มมีการเปลี่ยนแปลง
ถึงจะเป็นพี่สาวแท้ๆของตัวเอง แต่อาสึนะก็เป็นผู้ชายคนหนึ่ง แน่นอนว่าเขาย่อมมีปฏิกิริยาเป็นธรรมดา
ระหว่างนั้นเขาก็เริ่มรู้สึกว่า ผ้าเช็ดตัวที่เคยอยู่บนร่างกายของอากาเนะได้หล่นลงไปบนพื้นเสียแล้ว
“ลืมตาสิ พี่กำลังโป๊อยู่นะ♡”
คำพูดนั้นช่างเย้ายวนใจเสียเหลือเกิน ถ้าขึ้นชื่อว่าเป็นผู้ชายคงปฏิเสธได้ยากจริงๆ ถึงกระนั้นอาสึนะก็พยายามใจแข็งอย่างเต็มที่ เขาไม่กล้าทำเรื่องผิดศีลธรรมแบบนี้แน่นอน
แต่ตอนที่เห็นประธานยูกิที่ห้องพยาบาลนั่นถือว่าเป็นอุบัติเหตุดังนั้นจึงไม่นับ
แต่ว่าสัญชาตญาณของผู้ชายมันแรงกล้ายิ่งนัก อาสึนะไม่สามารถต่อต้านได้ จนในที่สุดเขาก็เปิดตาแล้วหันกลับไป
“ซะเมื่อไหร่!”
ปรากฏว่าสิ่งที่เห็นกลับไม่ใช่เรือนร่างเปลือยเปล่าของพี่สาวตนอย่างที่เธอกล่าวไว้แต่อย่างใด
ข้างในผ้าเช็ดตัวนั้น อากาเนะใส่ชุดว่ายน้ำเอาไว้ ซึ่งท่อนบนนั้นมีลักษณะเป็นเกาะอกจึงไม่มีสายรั้งชุด ทำให้ตอนที่เธอพันผ้าขนหนูไว้ อาสึนะจึงไม่รู้ว่าเธอใส่มันไว้ข้างใน
คงไม่มีคนบ้าที่ไหนใส่ชุดว่ายน้ำหลังอาบน้ำเสร็จแน่นอน ดังนั้นเธอคงจงใจทำเพื่อแกล้งเขาโดยเฉพาะอย่างไม่ต้องสงสัย
“คิกๆๆ แกล้งอาสึนะจังมันสนุกจริงๆนั่นแหละ”
อากาเนะหัวเราะคิกคักอย่างอารมณ์ดี จริงๆแล้วเธอชอบแกล้งอาสึนะในลักษณะนี้บ่อยๆมานานแล้ว แต่ดูท่าทางรอบนี้จะแกล้งแรงกว่าทุกที อาสึนะจึงก้มหน้าสีแดงก่ำที่รวมไว้ซึ่งอารมณ์ทั้งอายและโกรธ ก่อนที่จะเงยหน้าแล้วพูดขึ้นเสียงดังลั่นห้องนอน
“ตลกมากใช่ไหมเนี่ยพี่! ตลกมากไหม!”
“อะ เอ๋? นี่โกรธจริงหรอ?”
“เห็นผมเป็นเด็กๆหรือไง! อย่าคิดว่าแกล้งผมได้ฝ่ายเดียวนะ!”
“เดี๋ยวก่อนสิ! นี่เธอจะทำอะ-”
“เหวอ!!”
“ว้าย!!”
อาสึนะพุ่งตัวเข้าไปล็อคแขนทั้งสองข้างของอากาเนะแล้วพยายามดันเธอไปติดกำแพง ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาตั้งใจจะทำอะไร แต่ที่แน่ๆหลังจากที่ทำแบบนั้น ทั้งสองก็ต่างเสียหลักล้มลงไปทั้งคู่ โชคดีที่บริเวณที่ล้มลงไปเป็นเตียงนอน จึงไม่มีใครบาดเจ็บแต่อย่างใด
แต่สภาพของทั้งสองหลังจากนั้นก็ดูไม่งามสักเท่าไหร่ เมื่ออากาเนะที่นอนอยู่บนเตียงกำลังถูกอาสึนะคร่อมตัวไว้พร้อมจับแขนทั้งสองข้างของเธอกดไว้บนเตียง
สะดุดล้มแล้วนอนทับกัน สถานการณ์แบบนี้ พล็อตละครน้ำเน่าชัดๆ
“พะ พี่?”
“อะ อาสึนะจัง?”
ทั้งสองค้างอยู่ท่าแบบนั้นโดยที่ต่างคนก็ต่างพูดไม่ออกและทำอะไรไม่ถูก
ก็อกๆ
“ขอเข้าไปนะ”
จนกระทั่งมีเสียงเคาะประตูห้องพร้อมเสียงพูดของบุคคลที่สามดังขึ้น สองพี่น้องที่นอนทับกันอยู่บนเตียงจึงต่างหันไปทางประตู
ตุบ เสียงถุงที่ใส่ของอะไรบางอย่างตกลงจากมือของผู้มาเยือนเพราะช็อกกับภาพที่เห็น
แต่คนที่ช็อกยิ่งกว่าจนหน้าเปลี่ยนสีกลับเป็นอาสึนะ
เพราะผู้มาเยือนคนดังกล่าว คือเพื่อนสมัยเด็กของเขา มิอุระ ทามิโกะ นั่นเอง
“นะนะนะ นี่นาย....”
“เดี๋ยวก่อน! ฉันอธิบายได้-”
“อะอะอะ ไอ้คนลามกกกกกกก!!!”
ป้าบ!
----------------------------------------------------
อาสึนะ อากาเนะ และทามิโกะ นั่งอยู่เงียบๆภายในห้องนอนหลังสถานการณ์สงบลงแล้ว
อากาเนะเปลี่ยนจากชุดว่ายน้ำเป็นชุดมิดชิดตามปกติ ส่วนทางอาสึนะมีรอยแดงเป็นรูปมืออยู่ที่แก้ม ในแบบที่อากาเนะเผลอไปมองเมื่อไหร่ก็แทบจะกลั้นหัวเราะเอาไว้ไม่อยู่
เจ้าของผลงานนั้นก็ไม่ใช่ใครที่ไหน นอกจากทามิโกะที่กำลังนั่งซึมอย่างสำนึกผิดนั่นเอง
“ฉันขอโทษ”
นั่นเป็นการพูดขอโทษครั้งที่สองของเธอ
ครั้งแรกนั้นพูดตอนคนที่เธอเพิ่งเห็นว่าเป็นอากาเนะมาห้ามและช่วยพูดแก้ต่างให้ หลังจากที่ตบหน้าอาสึนะไปเต็มแรงหนึ่งครั้งและกำลังจะมีครั้งที่สอง
แน่นอนว่า ทามิโกะเองก็รู้จักกับอากาเนะเป็นอย่างดีอยู่แล้วเพราะเป็นเพื่อนกับอาสึนะมาตั้งแต่เด็กๆ เธอจึงเชื่อคำพูดแก้ต่างนั้นอย่างว่าง่ายโดยไม่เคลือบแคลงสงสัย
“ไม่ต้องขอโทษหรอก แต่คราวหลังจะมาก็บอกกันหน่อยก็ดี”
“ฉันส่งข้อความไปบอกนายแล้วนะ นายไม่เห็นหรอ?”
สงสัยคงเพราะกำลังวุ่นวายกับเรื่องของอากาเนะอยู่แน่ๆ อาสึนะจึงไม่มีโอกาสได้เปิดดูโทรศัพท์มือถือ
“อีกอย่างนึง ขอโทษเรื่องที่จู่ๆถือวิสาสะเข้ามาด้วยล่ะ พอดีฉันเคาะประตูหลายทีแล้วไม่มีใครขานตอบ พอดีเห็นประตูมันไม่ได้ล็อคก็เลยเข้ามา”
แถมอาสึนะยังลืมล็อคประตูบ้านอีกต่างหาก
“อ่า... เรื่องนั้นช่างมันเถอะ แล้วเธอมาหาฉันถึงนี่มีธุระอะไรงั้นหรอ?”
“อ๊ะ จริงด้วย”
ทามิโกะทำท่าเหมือนเพิ่งนึกอะไรบางอย่างออก พลางยกถุงที่เธอเอามาด้วยตอนแรกขึ้นมา ดูคร่าวๆแล้ว ข้างในนั้นเหมือนจะมีวัตถุดิบสำหรับทำอาหารอยู่
“เอ่อ... คือแบบว่า... ฉันคิดว่า เมื่อตอนเย็นฉันใจร้อนไปนิดก็เลยทำให้นายต้องมาเดือดร้อนไปด้วย แล้วนายก็ยังไม่ได้กินข้าวเย็นใช่ไหมล่ะ? เลยอยากจะมาทำข้าวเย็นให้เป็นการไถ่โทษน่ะ”
“เอ๋? นี่เธอทำกับข้าวเป็นด้วยหรอ?”
“สะ เสียมารยาทน่า! เรื่องแค่นี้ฉันทำเป็นย่ะ! ขอยืมใช้ครัวหน่อยแล้วกัน... พี่อากาเนะก็มาทานด้วยกันนะคะ”
“แน่นอนจ้า!”
“กินได้แน่หร-”
ปั่ก! ทามิโกะสับคาราเต้เข้าที่คอของอาสึนะ ถ้านับตั้งแต่ตอนเจอกันที่โรงเรียนวันแรก ครั้งนี้คงเป็นครั้งที่สอง
“หุบปากแล้วรออยู่นี่ละ!”
ว่าแล้วทามิโกะก็เดินออกจากห้องนอนพร้อมถุงใส่วัตถุดิบในมือ อาสึนะที่กำลังสำลักเพราะโดนสับคอไม่คิดเลยว่าผู้หญิงห้าวๆดูไม่เป็นกุลสตรีแบบเธอจะทำกับข้าวเป็น
“อุตส่าห์มีสาวมาทำกับข้าวให้กิน พูดจาให้มันดีๆหน่อยสิ”
“แค่กๆ ช่างผมเถอะน่า ว่าแต่นี่ก็ค่ำแล้วจริงๆพี่น่าจะกลับบ้านได้แล้วนะ”
“หืม? ก็นี่ไงบ้านพี่”
“เอ๊ะ? หมายความว่ายังไง?”
“ตั้งแต่คืนนี้เป็นต้นไป พี่จะมาอยู่กับอาสึนะจังที่นี่ไงละ!”
“หา!!”
อาสึนะทำตาโต ก่อนที่จะเพิ่งเห็นว่าอากาเนะนั้นเอากระเป๋าเสื้อผ้าใบใหญ่มาด้วย
“ไม่ต้องห่วงหรอกจ้า พี่บอกพ่อแม่แล้ว แต่โกหกว่าไปพักที่หอพักของมหาลัยน่ะ จริงๆแล้วจะมาอยู่ที่นี่”
“นั่นมันน่าห่วงสุดๆเลยไม่ใช่หรอนั่น!”
“ไม่เป็นไรหรอก พี่ก็แค่อยากมาอยู่กับน้องชายสุดที่รักก็เท่านั้นเอง ไม่ได้ไปอยู่กับคนอื่นสักหน่อย”
“แต่อย่างน้อยจะทำอะไรก็ปรึกษาผมหน่อยสิครับ!”
ยิ่งอาสึนะมีท่าทีแบบนี้อากาเนะยิ่งหัวเราะชอบอกชอบใจ เธอคงจะชอบแกล้งเขาจริงๆนั่นแหละ
จากนั้นจู่ๆอากาเนะก็หยุดหัวเราะ
บรรยากาศรอบตัวอากาเนะเริ่มเปลี่ยนไป
“...อาสึนะจัง พี่ภูมิใจในตัวเธอมากเลยรู้ไหม?”
“เอ๋?”
“พี่เห็นแล้วนะ การดวลระหว่างเธอกับยูกิจังน่ะ ทำได้ดีมาก”
คำชมที่สุดแสนธรรมดา
และเป็นคำชมที่มาจากคนที่ทำเรื่องชวนปวดหัวให้กับอาสึนะหลายต่อหลายอย่าง
แต่ทำไมเขาถึงรู้สึกดีใจกันนะ
“พี่รู้... ถึงเธอจะไม่เคยบอก เธอไม่ได้อยากจะเรียนหลักสูตรนี้ แต่ถึงอย่างนั้น พี่ก็เชื่อว่าเธอต้องทำได้ เพราะเธอเป็นน้องชายสุดที่รักของพี่ พี่ถึงได้เชื่อใจ”
“พะ พี่อากาเนะ...”
“พี่คิดไม่ผิดจริงๆ ที่ส่งมอบอาวุธที่แสนภาคภูมิใจของพี่อย่าง
คุโรเท็ตสึให้กับเธอ”
อากาเนะลูบศีรษะของอาสึนะอย่างเอ็นดู พร้อมผุดรอยยิ้มแสนอ่อนโยน ที่ไม่ใช่รอยยิ้มขี้เล่นยามที่เธอแกล้งเขาได้สำเร็จแบบทุกครั้ง
นี่เป็นครั้งแรกที่อากาเนะมีรัศมีของความเป็นพี่สาวแผ่กระจายออกมาอย่างเต็มเปี่ยม
อาสึนะพอจะเข้าใจแล้วว่าทำไมเขาถึงได้ดีใจ
ก่อนทีเธอจะลุกขึ้นแล้วเดินตรงไปยังประตูห้องนอน
“เอาล่ะ พี่ไปช่วยทามิโกะจังดีกว่า เสร็จเมื่อไหร่พี่จะมาเรียกนะ อาสึนะจัง”
เสียงประตูห้องนอนปิดลง พร้อมกับตัวของอากาเนะที่เดินออกไป
ท่าทางของอากาเนะเมื่อสักครู่ยังคงติดตรึงอยู่ในใจของอาสึนะ
ถึงจะเป็นพี่สาวที่ชอบแกล้งและทำอะไรก็ไม่เคยจะปรึกษาเขาเลยสักครั้ง
แต่อาสึนะก็โกรธพี่สาวบ้าๆคนนี้ไม่ลงจริงๆนั่นแหละ...
“สรุปแล้ว ฉันต้องอยู่กับพี่อากาเนะจริงๆสินะ เฮ้อ...”
นั่นคงเป็นเรื่องที่เลี่ยงไม่ได้ แต่ก็ช่างมัน
ตั้งแต่คืนนี้เป็นต้นไป ที่บ้านของอาสึนะคงจะครึกครื้นมากกว่าทุกครั้ง
----------------------------------------------------
ช่วงเวลาหนึ่ง ณ สถานที่ใดสักแห่ง
เด็กหนุ่มร่างบางคนหนึ่งค่อยๆถอดอุปกรณ์ VR ออกจากศีรษะของตนอย่างไม่รีบร้อน ตรงข้ามของเขามีเด็กหนุ่มอีกคนนั่งอยู่และสวมอุปกรณ์ VR เช่นกัน ทั้งสองต่างสวมชุดนักเรียนของโรงเรียนมิไรเคียว
หากดูจากหน้าจอบนโต๊ะจะทำให้รู้ว่าการต่อสู้ในเกมของทั้งสองนั้นได้จบลงไปแล้ว แต่ผู้เล่นอีกฝั่งกลับยังคงนั่งนิ่งอยู่แบบนั้น
ดูเผินๆอาจเหมือนเป็นเรื่องปกติ เพราะหากผู้เล่นกำลังอยู่ในเกมร่างกายในโลกความจริงก็จะไม่ขยับไปไหนอยู่แล้ว แต่หากสังเกตดูดีๆจะพบว่าอุปกรณ์ VR ไม่ได้ทำงานอยู่ และลักษณะท่านั่งของเด็กหนุ่มคนนี้ก็ดูไม่ปกติ
เหมือนเขาหมดสติไปเสียมากกว่า
แต่ถึงกระนั่นเด็กหนุ่มร่างบางอีกคนกลับไม่รู้สึกแปลกใจใดๆกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับผู้เล่นอีกฝ่าย เขามองอีกฝ่ายด้วยสายตาเย็นชาพร้อมมีรอยยิ้มมุมปากนิดๆ ราวกับว่านี่เป็นสิ่งที่เขาต้องการให้เป็นอยู่แล้ว
เด็กหนุ่มร่างบางเดินเข้าไปใกล้ร่างที่หมดสติของอีกฝ่าย เขาจับเข็มกลัดที่เป็นสัญลักษณ์ของ ‘คิง’ ที่อยู่บนหน้าอกของอีกฝ่าย แล้วใช้นิ้วโป้งลูบมันไปมาเหมือนขัดเงา
“คิง ตำแหน่งที่อยู่สูงที่สุดในสนามรบ”
เด็กหนุ่มร่างบางพึมพำเบาๆเหมือนกำลังพร่ำบ่น
“แต่คนระดับนาย มันไม่เหมาะกับตำแหน่งนี้เลยแม้แต่น้อย”
จากนั้นเขาก็กระชากเข็มกลัดนั้นออกมา
“เมื่อเป็นเช่นนั้น ฉันก็จะขอรับสิ่งนี้ไปแทนก็แล้วกัน”